อสูรข้ามฟ้า-ตอนที่ 462 ผู้เสียสละ

โดย  JPTstory

อสูรข้ามฟ้า

ตอนที่ 462 ผู้เสียสละ

อีบุ๊กมาแล้วนะคะ ราคาโปรโมชันลดพิเศษจาก 119 บาทเหลือเพียง 78 บาทนิด ๆ เท่านั้น ราคานี้ตั้งแต่เที่ยงคืนนี้ไปจนถึงวันที่ 7 ตุลาคมเท่านั้นค่ะ https://www.hongsamut.com/ebook/view?id=6232

ตอนที่ 6

ของขวัญวันเกิดที่ไม่ต้องการ


“มาออดอ้อนออเซาะขออะไรจากพ่อของฉันอีก บอกเอาไว้ก่อนเลยนะฉันไม่ต้องการแม่เลี้ยง โดยเฉพาะแม่เลี้ยงที่ใจแตกตั้งแต่นมยังไม่ขึ้นแบบเธอ”

เสียงเข้มค่อนไปทางโกรธจัดของจิณณพัตดังขึ้นทำลายความเงียบจนคนที่ตกอยู่ในภวังค์คิดเรื่องราวในอดีตที่เพิ่งเกิดขึ้นเพียงไม่นานลืมตาขึ้นมา ธาราทิพย์เองที่ตั้งใจนวดฝ่าเท้าให้คนบนเตียงอยู่เงียบ ๆ ก็ตกใจตื่นจากภวังค์ความเศร้าไม่ต่างกันกับคนที่ถูกนวดเท้า

“เจ้าจิณณ์ เมื่อไหร่จะเลิกค่อนแคะน้องเสียที แล้วแกคิดอะไรอยู่พูดจาน่าเกลียดจิตใจสกปรก คิดแต่เรื่องอกุศลแม้แต่กับพ่อตัวเองก็ไม่เว้น”

นายจินตรัยที่ดวงตาแดงก่ำจากการเก็บกดความเสียใจจากการนึกถึงอดีตก่อนหน้านี้ตะคอกกลับจิณณพัตเป็นครั้งแรกอย่างเหลืออด ชายหนุ่มถึงกับชะงักเมื่อเห็นว่าบิดาของเขาร้องไห้แต่ก็ปากหนักไม่คิดขอโทษ เขาเข้ามานานหลายนาทีแล้วแต่ทั้งบิดาของเขาและธาราทิพย์ก็ไม่รับรู้การมาของเขา ต่างคนต่างจมจ่อมอยู่กับความเศร้าและความคิดของตัวเองจนเขาต้องเรียกร้องความสนใจด้วยคำพูดอกุศลพวกนั้น เขาคิดแบบนั้นจริง ๆ จะให้มาอ้อมค้อมไปเพื่ออะไร ไม่มีประโยชน์

“ผมไม่มีน้อง และจะเลิกพูดก็ต่อเมื่อผู้หญิงหน้าซื่อแต่คิดไม่ซื่อที่กำลังพะเน้าพะนอประจบสอพลอพ่ออยู่ตอนนี้ออกไปจากบ้านหลังนี้และออกไปจากชีวิตของพวกเราแล้วเท่านั้น”

จิณณพัตตะคอกกลับเสียงดังใส่จินตรัย รู้สึกเสียใจน้อยใจที่บิดาผู้บังเกิดเกล้าตะคอกต่อหน้าต่อตาคนอื่นแบบไม่ไว้หน้าเขาเลย ตั้งแต่มีผู้หญิงคนนี้กับมารดาของเธอเข้ามาอยู่ร่วมชายคาบ้านเขาเหมือนถูกแย่งความรักจากผู้เป็นบิดาไป จะขยับตัวอะไรนิด ๆ หน่อย ๆ ก็โดนดุ โดนว่า

‘จิณณพัตพูดดี ๆ กับน้อง’

‘จิณณ์อย่าแกล้งน้อง’

‘เอาขนมไปแบ่งน้องด้วยกินคนเดียวเดี๋ยวก็ปวดท้องเอาหรอก’

‘ดูแลน้องให้ดีอย่าให้มีรอยขีดข่วนแม้แต่ปลายเล็บ ไม่งั้นแกจะโดนฟาดสามเท่า’

แล้วเขาก็โดนฟาดด้วยหวายสามทีครั้งหนึ่งเพราะเขาทิ้งธาราทิพย์ไว้ที่โรงเรียนถูกเด็กผู้ชายที่โรงเรียนรังแกจนได้รับบาดแผลและครูที่โรงเรียนก็โทรมาตามจินตรัยให้ไปรับเพราะเหลือธาราทิพย์ที่โรงเรียนเป็นคนสุดท้ายแล้ว นับแต่นั้นมาเขาก็ได้แต่เก็บซ่อนความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจเหล่านั้นเอาไว้มานานจนต้องหาทางระบายออกมาด้วยคำพูดจาร้าย ๆ ใส่ธาราทิพย์ทุกครั้งที่เจอหน้าให้หายเจ็บแค้นใจ

“แกจะไม่มีวันได้สมหวังในสิ่งที่แกคิดและพูดออกมา เพราะว่าอาทิตย์หน้าวันเกิดครบรอบยี่สิบสองปีของหนูสายน้ำและของขวัญวันเกิดที่ฉันจะให้หนูสายน้ำก็คือแกจะต้องแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับหนูสายน้ำ”

นายจินตรัยประกาศกร้าวด้วยความโมโห คราแรกเขาตั้งใจจะบอกข่าวนี้กับทั้งสองคนในวันเกิดของธาราทิพย์และจะให้หมั้นหมายกันเอาไว้ก่อนสักปี รอให้ธาราทิพย์เข้ามาทำงานกับบริษัทเต็มตัวแล้วค่อยจัดงานแต่งงานให้ เขาคิดเรื่องนี้มานานหลายเดือนและเห็นว่าคนที่คู่ควรเหมาะสมที่จะช่วยดูแลบุตรชายคนเดียวของตระกูลจิตรศิลป์ของเขายามที่เขาจากโลกนี้ไปไม่มีใครดีเท่าธาราทิพย์อีกแล้ว

การเลี้ยงดูธาราทิพย์มาตั้งแต่เด็ก จึงรู้จักนิสัยใจคอเป็นอย่างดี และที่สำคัญเขารู้ว่าธาราทิพย์รู้สึกยังไงกับบุตรชาย ทั้งสงสารและเห็นใจเจือความเป็นห่วงธาราทิพย์ไม่น้อยที่ได้แต่แอบมองบุตรชายของเขาอย่างเจียมเนื้อเจียมตัวไม่เคยเรียกร้อง ไม่เคยทำกิริยาท่าทางให้ท่าหรือเข้าหาบุตรชายของเขาสักครั้ง รักเพราะรักด้วยหัวใจบริสุทธิ์ แอบทำอาหารทำขนมเอาไว้ให้ด้วยความตั้งอกตั้งใจ ดูแลเอาใจใส่เรื่องเสื้อผ้าห้องหับให้จิณณพัตโดยไม่เคยบ่นว่าเหนื่อยแม้แต่คำเดียว

แม้เขาจะบอกกับสายธารและลูกว่าเขาจ้างแม่บ้านมาช่วยงานบ้านทำความสะอาดในบ้านได้เมื่อพาสองแม่ลูกเข้ามาอยู่ด้วยช่วงแรก ๆ แต่สายธารบอกว่าถ้าเขาจ้างคนมาทำก็ทำให้สายธารกับลูกไม่มีงานทำคงต้องออกไปอยู่ข้างนอกเพราะไร้ประโยชน์ต่อบ้านจิตรศิลป์ ไม่อยากให้ใครมาว่าเอาได้ว่ามาเกาะครอบครัวจิตรศิลป์กิน เขาไม่ได้รับเลี้ยงสองแม่ลูกเพื่อเอามาเป็นคนรับใช้แต่แรกแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่อยากให้ทั้งสองออกไปอยู่กันตามลำพัง หนี้ชีวิตที่สามีของสายธารช่วยเหลือเขาครั้งนั้นเขาอยากตอบแทนให้ทั้งสองสุขสบายจริง ๆ แต่ก็ทำอย่างที่ใจต้องการไม่ได้จึงต้องทนเห็นสายธารกับธาราทิพย์ทำงานบ้านสารพัด งานหนักงานเบาพวกเธอก็ไม่เคยบ่นและยิ่งเสียใจที่สุดเมื่อรับบรู้ว่าจิณณพัตคิดไม่ดีกับสองแม่ลูกมาตลอด

“ผมไม่แต่งและจะไม่มีวันจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงหิวเงินพวกนี้เป็นอันขาด คนแม่ตายไปแล้วผมคิดว่าพ่อจะคิดได้ พ่อใจร้ายที่สุดเลยรู้ตัวบ้างไหม!”

จิณณพัตปฏิเสธหน้าดำคร่ำเครียดทั้งโกรธทั้งเกลียดและคิดว่าธาราทิพย์พูดเป่าหูผู้เป็นบิดาจนต้องเอ่ยปากบังคับให้เขาแต่งงานด้วย มันจะไม่มีวันนั้น

“ถ้าแกไม่แต่งก็ไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าอีกไปตลอดชีวิต จะไปอยู่ที่ไหนก็เชิญแต่แกต้องไปแค่ตัวเปล่า ห้ามเอาอะไรติดตัวไปแม้แต่เงินสักสตางค์เดียวแกก็ไม่มีสิทธิ์เพราะฉันจะยกทั้งหมดที่เป็นของครอบครัวของฉันให้หนูสายน้ำเพียงคนเดียวเท่านั้น แกจะไปอยู่กินกับคนรักของแกที่ไหนก็ออกไปได้เลย”

นายจินตรัยพูดไปก็กุมหน้าอกไปแต่ก็ฝืนพูดในสิ่งที่ตั้งใจและจะไม่มีวันเปลี่ยนใจอะไรทั้งสิ้นจนจบประโยคก็ตัวงอทรุดลงมาด้านหน้าบนพื้นทันที

“คุณท่าน คุณท่านอย่าเป็นอะไรไปนะคะ ฮือ ๆ คุณท่าน”

ธาราทิพย์ที่นั่งร้องไห้จนตัวโยนฟังสองพ่อลูกถกเถียงกันเรื่องของขวัญวันเกิดที่เธอไม่ต้องการ รีบลุกขึ้นมารับร่างที่กำลังจะร่วงจากเตียงลงพื้นได้อย่างหวุดหวิดและทุลักทุเลเพราะรับน้ำหนักร่างที่แน่นิ่งของจินตรัยไม่ไหวก่อนจะขยับกายของอีกฝ่ายให้นอนหงายแล้วแนบแก้มลงไปฟังเสียงลมหายใจที่ปลายจมูกของคนหมดสติ จิณณพัตเห็นภาพนั้นก็คิดไม่ดีจึงปรี่เข้าไปกระชากธาราทิพย์ตัวปลิวไปติดผนังห้องก่อนจะต่อว่าหญิงสาวพลางเขย่าเรียกบิดาเสียงดัง

“เธอจะทำอะไร! หน้าด้านที่สุดคนแก่เป็นลมหมดสติยังจะมีแก่ใจกอดจูบได้อีก! พ่อ พ่อเป็นยังไงบ้าง!”

จิณณพัตทรุดกายลงข้าง ๆ ร่างที่แน่นิ่งไม่ไหวติง พลางเขย่าเรียกผู้เป็นบิดาด้วยความเสียใจ ไม่ได้อยากให้เรื่องลงเอยแบบนี้ เขาไม่ได้อยากเห็นความเจ็บปวดของบิดาที่แสดงออกมาเมื่อครู่

“พ~พ่อ...”

“คุณจิณณพัตคิดอะไรทุเรศสิ้นดี ฉันแค่จะเช็กดูว่าคุณท่านยังมีลมหายใจอยู่ไหม ถ้าเรื่องแค่นี้คิดไม่ได้ก็อย่ามาพาล รีบโทรเรียกรถพยาบาลก่อนที่พ่อของคุณจะไม่มีลมหายใจไปตลอดชีวิต”

ธาราทิพย์ทั้งเจ็บและจุกจากแรงกระแทกผนังและคำพูดจาว่าร้ายฝืนตัวเองให้ลุกขึ้นมาผลักไหล่กว้างของจิณณพัตออกไปด้านข้างก่อนจะลงมือทำซีพีอาร์นวดหัวใจให้จินตรัยตามที่เคยไปเรียนมา เมื่อกี้ตอนแนบแก้มเช็กดูนายจินตรัยหยุดหายใจไปแล้ว หญิงสาวไม่รู้หรอกว่าจะต้องนำสิ่งที่เรียนมาไปใช้กับใครบ้างแต่ที่เธอไปเรียนเพราะหากเกิดอะไรขึ้นกับมารดาเธอจะได้ช่วยเหลือได้ทันเวลาดีกว่าปล่อยให้เวลาสูญเปล่ารอให้ถึงมือหมอหรือพยาบาล แต่โชคร้ายเหลือเกินที่เธอไม่มีโอกาสได้ช่วยเหลือมารดาแม้แต่คำบอกลาก็ยังไม่ทันได้พูด

จิณณพัตโกรธเคืองธาราทิพย์ไม่น้อยที่ถูกอีกฝ่ายผลักออกจากบิดาของตัวเองแต่ก็ยอมรับว่าเขาทำการปั๊มหัวใจไม่เป็น จึงขยับเบี่ยงตัวหลบแล้วล้วงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงโทรเรียกรถพยาบาลด้วยมือสั่นเทา หัวใจสั่นสะท้านหวาดกลัว มารดาตายจากเขาไปแล้วคนหนึ่งเหลือเพียงบิดาแม้ว่าจะไม่กินเส้นหรือลงรอยกันแต่เขาก็ไม่อยากให้อีกฝ่ายจากไปและทิ้งเขาไว้คนเดียว

โชคดีที่รถพยาบาลกำลังวิ่งผ่านหน้าบ้านไปพอดีจึงกลับรถเข้ามาช่วยเหลือเจ้าของคฤหาสน์จิตรศิลป์ด้วยเครื่องช็อกไฟฟ้าหัวใจอัตโนมัติหรือเออีดีแทนการปั๊มหัวใจที่ธาราทิพย์กำลังกดปั๊มหน้าอกนับเลขตามจังหวะอยู่ทำให้หัวใจของนายจินตรัยกลับมาเต้นอีกครั้งท่ามกลางความดีใจของทุกคนไม่เว้นแม้แต่จิณณพัต ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลที่ใกล้เคียงในเวลาอันรวดเร็วโดยมีธาราทิพย์ขึ้นมานั่งในรถข้างนางพยาบาลด้วยความเป็นห่วง

จิณณพัตมองตามแสงไฟท้ายรถพยาบาลไปด้วยดวงตาแดงก่ำ เขาหมดแรงจนก้าวขาแทบไม่ออก ปล่อยให้ธาราทิพย์กระโดดขึ้นรถฉุกเฉินไปแทนที่จะเป็นตัวเขาเองที่เป็นลูกแท้ ๆ จนกระทั่งเสียงหวอรถพยาบาลห่างไกลออกไปทุกทีจึงได้สติรีบไปหยิบกุญแจรถและกระเป๋าสตางค์แล้วขับรถตามไปยังโรงพยาบาลทันที


รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว