อสูรข้ามฟ้า-ตอนที่ 26 การต่อสู้ในเส้นทางทิศใต้

โดย  JPTstory

อสูรข้ามฟ้า

ตอนที่ 26 การต่อสู้ในเส้นทางทิศใต้

เส้นทางทิศใต้...

ซุน เพิ่งจะเข้าใจความหมายในคำพูดของ เฒ่าชีเปลือย เมื่อได้มาถึง… เส้นทางแห่งนี้มีมือปราบจำนวนหนึ่งเฝ้าระวังอยู่ ทั้งยังมีการตรวจสอบทุกคนที่จะผ่านเข้าออก แม้แต่เกวียนสัมภาระยังมีการรื้อค้นจนข้าวของเสียหาย...

“พวกมันหาอะไรกัน?!” ซุน ขมวดคิ้วเล็กน้อย ยังไม่กล้าแสดงตัว

“จะใครเสียอีกเล่า พวกมันก็กำลังตามหาฆาตกรที่สังหารหมู่ จวนผู้ว่า อย่างไร?!” เฒ่าชีเปลือย กล่าวพลางแสดงท่าทีขบขัน

“!!!!!!!!!!!” ซุน เบิกตากว้างทันที
“หมายความว่ายังไง!! ก็ไหนเจ้าว่าไม่มีผู้ใดในจวนเหลือรอดแล้วมิใช่หรือ แล้วเหตุใดจึงรู้ว่าเป็นฝีมือพวกเรา?!”

“คนในจวนถูกสังหารหมดสิ้นจริง ๆ หากแต่คนที่เฝ้าระวังอยู่รอบ ๆ มิได้ถูกสังหารไปด้วยนี่?!” น้ำเสียง เฒ่าชีเปลือย แสดงถึงความถูกใจยิ่ง

“อะไรนะ!! วันนั้นยังมีคนเฝ้าอยู่ด้านนอกงั้นหรือ... แล้วเหตุใดเจ้าจึงปล่อยพวกมันไว้เล่า?!”

“หุบปากน่า... ข้าไม่ได้มีหน้าที่คอยเช็ดก้นให้เจ้าทุกเรื่องนี่ อีกอย่างที่ข้าไม่ได้กำจัดพวกมันในวันนั้น ก็เพื่อตัวเจ้าเอง... กลุ่มที่เฝ้าอยู่ด้านนอกจวน เป็นคนละกลุ่มกับเหล่ามือปราบ คิดว่ามันน่าจะเป็น ลูกน้องของชายแซ่เกา ที่เจ้าพบเห็นในความทรงจำของ ผู้ว่าจินหง...”

ซุน ได้ยินเช่นนั้นก็ เผยโทสะผ่านดวงตาออกมาทันที...
“กลุ่มที่จับตัว เหล่าซือ งั้นสินะ!!”

“ถูกต้อง... แต่เจ้าอย่าเพิ่งคิดที่จะเผชิญหน้าพวกมันโดยเด็ดขาด เพราะกลุ่มคนเหล่านั้น เป็นกลุ่มยอดฝีมือ แข็งแกร่งเกินกว่าระดับที่เจ้าจะไปเปรียบวัด ไม่ได้กระจอกจอกง่อยเฉกเช่น มือปราบบ้านนอกพวกนั้น...”

ซุน กำหมัดแนบแน่นขึ้น รู้สึกถึงความอ่อนแอของตน...
สายตาจดจ้องไปยังกลุ่มมือปราบที่เฝ้าเส้นทาง...

“เจ้าพวกนี้ เป็นมือปราบของทางการแท้ ๆ แต่กลับยอมทำตามคำสั่งกลุ่มโจร... เดรัจฉาน!!” เด็กหนุ่ม เค้นเสียงเยือกเย็น ก่อนจะตัดสินใจออกจากที่ซ่อน สืบเท้าแน่นหนักตรงไปยังเส้นทาง ดวงตาคมกริบประหนึ่งจดจ้องเหยื่อ...

กลุ่มมือปราบมีอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น 5 คน ประจำการเฝ้าระวังในจุดทิศใต้แห่งนี้... ทั้งหมดล้วนเป็นผู้ใช้ลมปราณ ชนชั้นลมปราณสีน้ำเงินทั้งสิ้น สีหน้าของแต่ละคนเต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย เพราะมันต้องเฝ้าเส้นทางอยู่เช่นนี้ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่มีจุดหนาย...

จวบจนกระทั่งมองเห็นเงาร่างของเด็กหนุ่มที่หนึ่งตรงเข้ามา... หนึ่งในมือปราบ เบิกตากว้างทันที สามารถจดจำใบหน้าของ ซุน ได้แต่แรกเห็น...
“เจอแล้ว!! เจ้าเด็กคนนั้น... เจ้าเด็กคนนั้น!!”

เหล่ามือปราบทั้ง 5 ชักกระบี่ขึ้นพร้อมเพรียง ถลึงตาเกลียดชังมายังเด็กหนุ่ม หากมิใช่เพราะ ซุน มีหรือที่พวกมันจะลำบากเช่นนี้...

เฒ่าชีเปลือย ที่กำลังเฝ้ามอง เผยรอยยิ้มเจือจาง...
“ข้าไม่ช่วยนะ... การสิงร่างเจ้าเมื่อคราวก่อน ทำเอาข้าสูญเสียพลังวิญญาณไปไม่น้อยเลย...”

ซุน พยักหน้าเบา ๆ แทนคำตอบ แผ่ล้นจิตสังหารออกมาอย่างรุนแรง พลางยกเต้าสุราขึ้นกระดก 3 คำติด... ทันทีที่ลดมือลงฤทธิ์สุราก็ปรากฏทันที ขาสองข้างของเด็กหนุ่มประหนึ่งพัวพัน เดินโซซัดโซเซมิตรงทาง หากแต่ดวงตากลับแข็งขัน จิตใจนิ่งสงบ เปี่ยมสมาธิด้วยวิถีฝึกฝน...

“วิถีเซียนเมรัย... กายเมามาย จิตมิเมามาย”

ห้ามือปราบใบหน้าฉงนขึ้น กลิ่นสุราคละคลุ้งแต่ไกล ใครเห็นก็ปักใจว่าเด็กหนุ่มสมควรมีสภาพเมามายก้าวเดินยังมิเที่ยงตรง... คำสั่งที่ได้รับคือจับเป็นเท่านั้น ไหนเลยที่พวกมันจะกล้าลงมือหนักพร้อมกัน...

สองในห้ามือปราบสืบเท้าขึ้นหน้า ยกมือเป็นสัญญาณบอกกล่าวขอทำหน้าที่... สามคนที่เหลือจึงยอมลดกระบี่ เชื่อมั่นเต็มอกว่าเด็กหนุ่มผู้หนึ่ง ไม่มีทางขัดขืนสองมือปราบร่างใหญ่ได้แน่นอน...
“เด็กน้อย... ยอมให้จับแต่โดยดี กระบี่พวกข้านั้นมิใช่ท่อนไม้ ทิ่มแทงเบา ๆ เจ้าก็สมควรเจ็บหนัก ฉะนั้นเจ้าอย่าพยายามดื้อดึงจะดีกว่า... เจ้าเป็นเพียงชนชั้นลมปราณสีคราม ทั้งยังมีสภาพเมามายเช่นนี้ ไม่มีโอกาสให้เจ้าหลบหนีอีกแล้ว” หนึ่งในสองมือปราบที่เป็นแนวหน้า กล่าวพลางยิ้มเยาะ

ส่วนอีกคนก็หัวเราะขบขัน กลับกลายเป็นเรื่องตลกสำหรับทั้งสอง...

แต่ทว่า... นอกจาก ซุน จะไม่หยุดนิ่งแล้ว ยังวิ่งตรงเข้ามาในสภาพที่โซซัดโซเซเช่นนั้น ประหลาดก็ตรงที่ท่าร่างที่พิสดารนี้ มันกลับมีความเร็วที่ไม่ด้อยไปกว่าวิชาตัวเบาระดับสูง อีกทั้งยังก่อเกิดร่างกายโยกคลอนที่ทับซ้อนเป็นเงา ไม่อาจคาดเดาการเคลื่อนไหว...

กระบี่ในมือเด็กหนุ่มถูกชักออกมา ก่อนจะโยนฝักกระบี่ขึ้นสู่ท้องฟ้า กวัดแกว่งคมกระบี่มิต่างฟาดฟันมั่วซั่ว เนื่องด้วยไร้พื้นฐาน... แน่นอนว่ามันยิ่งสร้างเสียงหัวเราะให้กับสองมือปราบที่ก้าวออกมา...

“ดูท่าเด็กนั่นจะคออ่อน แต่เพราะความเมามายจึงหาญกล้า... ให้ข้าจัดการเอง!!” มือปราบร่างใหญ่ ระเบิดฝีเท้าตนเองพุ่งเข้าไป เสือกแทงกระบี่ไปด้านหน้า ไม่ได้มุ่งเน้นการสังหาร แต่มุ่งเน้นหยุดการเคลื่อนไหว...

“เพลงกระบี่มือปราบ... สกัดกั้นกองโจร!!”

เมื่อเงากระบี่เข้ามาใกล้ ซุน ดวงตาเจิดจรัสขึ้น เร่งก้าวย่างสะเปะสะปะ... เงากระบี่ทั้งหมดทิ่มแทงได้แต่เพียงความว่างเปล่า!! สร้างความตกตะลึงให้กับ มือปราบร่างใหญ่อย่างมาก รู้ตัวอีกครั้งเด็กหนุ่มก็เข้าประชิดตัว หายใจรดใบหน้าเสียแล้ว

และด้วยระยะเท่านี้ ต่อให้ใช้กระบี่ไม่ชำนาญ ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะฟาดฟัน!!

ฉัวะ!

โลหิตสาดกระจายเป็นวงกว้าง พร้อมร่างกายช่วงล่างและช่วงบนที่ขาดสะบั้นออกมาจากกัน!!
“ปะ...เป็นไปไม่ได้” เสียงสุดท้ายที่อ่อนแรงดังขึ้น ก่อนจะสิ้นลมในสภาพที่อนาถ...

สีหน้าของเด็กหนุ่มในการสังหารครั้งนี้ มิได้เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย... ภาพแห่งความตายนับร้อยศพก่อนหน้านี้ ถูกสลักลงในจิตใจของ ซุน จนมันด้านชาไปเสียแล้ว สิ่งที่เด็กหนุ่มกระทำคือการยกเต้าสุรากระดกเบา ๆ คราหนึ่ง ความรู้สึกผิดบาปทั้งหมดพลันเลือนหายไปกับสุราที่ไหลลงคอ...

“!!!!!!!!!!” มือปราบคนที่เหลือเบิกตากว้างในทันที

“บัดซบ!!” มือปราบร่างใหญ่อีกคนพุ่งตรงเข้ามาด้วยโทสะ เนื่องด้วยมือปราบคนแรกที่ตายนั้น คือน้องชายตนเอง เพลงกระบี่ในครั้งนี้ จึงเต็มไปด้วยไอสังหารอันรุนแรง

ทว่ามันก็มิได้ทำให้สติและสมาธิของ เด็กหนุ่ม เปลี่ยนแปลง... เริ่มโยกคลอนร่างกายอีกครั้งมิต่างเมามาย หลบเลี่ยงเพลงกระบี่สังหาร ให้ไหลผ่านร่างอย่างน่าอัศจรรย์!! ฟาดฟันกระบี่โบราณนี้อีกครั้ง เข้าหาศัตรู

แต่ครั้งนี้ มือปราบ คนที่สองไร้ซึ่งความประมาท... ไหนเลยที่จะเสียท่าเด็กหนุ่มที่ใช้กระบี่อ่อนหัด ยกฝักกระบี่ของตนเองขึ้นป้องกันได้ทันท่วงที พร้อมตระเตรียมกระบวนท่าจะสวนกลับ...

ทันใดนั้นเอง บังเกิดเหตุการณ์เหนือความคาดหมายอีกครั้ง!! กระบี่โบราณที่ดูคร่ำครึ กลับฟาดฟันฝักกระบี่ที่ถูกยกตั้งรับ ให้ขาดสะบั้นมิต่างหยวกกล้วย!! ซึ่งเมื่อไม่อาจป้องกันกระบี่นี้ได้ ร่างกายที่อยู่ด้านหลังการป้องกัน ย่อมขาดสะบั้นไปพร้อมกัน

อีกครั้งที่ โลหิต สาดกระจายบนร่างของเด็กหนุ่ม...
สองมือปราบ ตกตายภายใต้การวาดกระบี่สองครั้ง!!

และครั้งนี้ มิใช่เพียงแค่เหล่ามือปราบเท่านั้นที่ตกตะลึง... กระทั่งตัวของ ซุน เองยังงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น กระบี่โบราณเล่มนี้คมกริบจนน่าตกใจ สามารถฟันร่างของมนุษย์ได้มิต่างฟันชิ้นเนื้อ ตัดผ่ากระดูกมิต่างกิ่งไม้ ขอเพียง ซุน ออกแรงมากเพียงพอ กระบี่โบราณสามารถผ่าแยกได้กระทั่งโลหะ!!

ซุน อาจจะมีท่าร่างประหลาดที่ยากรับมือ
แต่สิ่งที่รับมือได้ยากยิ่งกว่าคือกระบี่เล่มนี้!!

สองศพที่กองอยู่แทบเท้า มิได้ทำให้จิตใจของเด็กหนุ่มสั่นไหวแม้สักนิด บ่งบอกถึงการเตรียมใจที่แน่นหนัก แตกต่างจากเมื่อ 2 เดือนก่อนอย่างสิ้นเชิง หากคิดลงมือก็จะไม่มีการละเว้นต่อศัตรู ซุน กำลังก้าวเข้าสู่เส้นทางอาบโลหิตอย่างสมบูรณ์...

สามมือปราบ ที่เฝ้ามองดู อดไม่ได้ที่จะขนลุกชูชันขึ้น!! ต่อให้เป็นพวกมันเอง ก็ยังไม่อาจสังหารสองมือปราบที่ฝีมือทัดเทียมกันลงได้ในชั่วพริบตาเช่นนี้... สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือกระบี่โบราณในมือของเด็กหนุ่ม ที่หากกวัดแกว่งออกมาแล้วล่ะก็ ทางเดียวที่จะรอดพ้นคือต้องเลี่ยงหลบให้ได้เท่านั้น มิอาจปะทะหรือป้องกัน...

“นั่นมันกระบี่อะไรกัน?!”

จังหวะที่ทุกคนกำลังสับสนอยู่นั้น ฝักกระบี่ที่ ซุน โยนขึ้นฟ้าไปในคราแรก ก็ปักลงตรงหน้าของเหล่ามือปราบทั้งสาม... แน่นอนว่าฝักกระบี่นี้ ดูเก่าแก่โบราณมิต่างตัวกระบี่ แต่สิ่งหนึ่งซึ่งเป็นตราสัญลักษณ์ที่สลัก ทำให้สามมือปราบเบิกตากว้าง จิตใจหล่นร่วง...

“ตราราชวงศ์เสวียนอู่!!”

ซุน ได้ยินเช่นนั้น ก็ขมวดคิ้วแนบแน่น... ราชวงศ์เสวียนอู่ คือราชวงศ์ที่ปกครองทวีปเต่าทมิฬ มีอำนาจยิ่งใหญ่มิได้แตกต่างไปจาก ราชวงศ์ไป๋หู่ ที่ปกครองทวีปพยัคฆ์ขาว เท่าใดนัก... ถือเป็น 1 ใน 3 ราชวงศ์ที่ปกครองทวีป มายาวนานนับหมื่นปี...

ด้วยความที่ทวีปแห่งนี้คือ ทวีปพยัคฆ์ขาว ดังนั้นตราราชวงศ์เสวียนอู่ จึงไม่เป็นที่รู้จักในหมู่ชาวบ้าน แม้แต่ในตำราก็ไม่มีการแพร่หลาย เพราะส่วนมากจะเป็นเนื้อหาความรู้เกี่ยวกับ ราชวงศ์ไป๋หู่ เสียมากกว่า จึงไม่แปลกที่ ซุน จะไม่รู้จักตราราชวงศ์นี้

แต่สำหรับเหล่ามือปราบ ที่ขึ้นตรงต่อทางการ
ไม่มีทางที่พวกมันจะจดจำผิดพลาดไป!!

ซุน ใบหน้าบิดงอเล็กน้อย หลงนึกว่านี่เป็นเพียงกระบี่โบราณสามัญ พกพาได้โดยไม่เป็นที่สะดุดตา แต่ไม่คิดว่าแท้จริงแล้ว จะเป็นศาสตราที่ถูกสร้างขึ้นโดยราชวงศ์อันยิ่งใหญ่... นับเป็นโชคดีที่ล่วงรู้ตั้งแต่เนิ่น ๆ หาไม่แล้ว คงเกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นอีกมาก หาก ซุน นำกระบี่ติดตัวเข้าเมืองหลวง...

“ไม่ได้การแล้ว คงต้องรีบจบศึก” ซุน บริกรรมคาถา ปลุกจิตวิญญาณแห่งพญาวานร ให้ปรากฏออกมาจากรอยสัก ทำการทรงร่างเพิ่มพูนความสามารถให้ยกระดับขึ้น!!

กระบี่ในมือมุ่งเน้นความว่องไวเป็นหลัก การทรงร่างสมิงขาวที่ดุดัน คงไม่เหมาะสมเท่ากับพญาวานรที่ว่องไวกว่า... ซุน อาศัยช่วงเวลาที่เหล่ามือปราบทั้งสามกำลังสับสนในตราราชวงศ์ ทะยานร่างตรงเข้าไปหมายจบศึก และรีบหลบหนีตามแผนเดิม

แต่จังหวะนั้น ซุน กลับได้ยินเสียงบางอย่างที่แหวกอากาศฟังดูน่ากลัว... ฝีเท้าของ ซุน ชะงักไปเล็กน้อย ศรเกาทัณฑ์ก็พุ่งปักลงที่พื้นเบื้องหน้า ห่างจากระยะของ ซุน เพียงครึ่งก้าว!! หากจังหวะเมื่อครู่ ซุน มิได้ชะงักท่าร่างแล้วล่ะก็ เชื่อว่าศรเกาทัณฑ์คงเสียบปักลงที่ขาข้างหนึ่งเป็นแน่แท้ บ่งบอกถึงฝีมือของผู้ที่ยิงศรนี้ ว่าน่ากลัวเพียงใด...

ซุน ตวัดสายตามองไปยังทิศทางที่ ศรเกาทัณฑ์ พุ่งมาในทันที... พบเจอบุรุษผู้หนึ่งถือเกาทัณฑ์ควบอาชาด้วยความเร็วสูงมุ่งหน้ามา ใบหน้าของบุรุษผู้นั้นดุดันน่ากลัว ไม่มีทางที่ ซุน จะหลงลืมใบหน้าของชายผู้นี้ไปได้... หัวหน้ามือปราบแห่งจวนผู้ว่า ที่เคยจับกุมและยัดเยียดความผิดให้กับ ซุน ก่อนหน้านี้...

“มือปราบเฉิน!!”

มือปราบเฉิน ลาดตระเวนมา ณ เส้นทางทิศใต้เพื่อสำรวจความเรียบร้อย ไม่คิดว่าจะพบเจอ ซุน ด้วยความบังเอิญ ยิ่งเมื่อได้เห็นซากศพของลูกน้องตนที่ถูกฟันจนร่างแยก... มือปราบอันดับ 1 ในเขตชุมชนเล็ก ๆ แห่งนี้ ยิ่งเปี่ยมไปด้วยโทสะ ควบอาชาตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะโดดลงตรงหน้าของเด็กหนุ่ม

สายตาที่จดจ้องมายัง ซุน เต็มไปด้วยความเคียดแค้น...

“หากมิใช่เพราะเจ้า... เขตชุมชนที่สงบสุขแห่งนี้ก็คงไม่เกิดความวุ่นวาย!! บ่อเงินบ่อทองของข้า อย่างผู้ว่าจินหง ก็คงไม่ถูกสังหาร!! และข้าก็คงไม่ต้องวิ่งเต้นเป็นสุนัขรับใช้ ให้กับชายแซ่เกาผู้นั้น!!” มือปราบเฉิน เค้นเสียงผ่านร่องฟัน

“โทษข้างั้นหรือ?! มิใช่เพราะเจ้ารับสินบนโจรชั่ว พยายามยัดเยียดข้อหาให้กับตัวข้า จึงทำให้เกิดเรื่องราวทั้งหมดขึ้นหรอกหรือ!!” ซุน เองก็เกลียดชัง มือปราบเฉิน ได้ด้อยไปกว่านั้น...


………………………………

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว