Pieces of the Star: The Moon in the Dark (ตำนานมณีผลึกดารา)-บทที่ 14 : ปัสกาล

โดย  Luluca

Pieces of the Star: The Moon in the Dark (ตำนานมณีผลึกดารา)

บทที่ 14 : ปัสกาล



โคลนสาดกระจาย เศษดินถูกขุดปลิวว่อนด้วยเกือกโลหะ อาชาศึกห้อตะบึงเข้ากระแทกร่างอัศวินหลายคนบิดหมุน ล้มกลิ้งไม่เป็นขบวน เสียงร้องระงมเคล้าเสียงอาวุธดังกึกก้องทั่วทั้งป่า อัศวินคนหนึ่งถูกม้ากระแทกล้มก่อนเหยียบซ้ำ อีกคนถูกหอกแทงทะลุลำคอ กลิ้งไถลไปบนผืนโคลนเฉอะแฉะท่ามกลางเสียงหัวเราะเย้ยหยัน

ฝีเท้าหลายสิบคู่พันตูกลางลมหนาว มือธนูเคลื่อนไหวอย่างเงียบเชียบใต้เงากำแพง น้าวสายปล่อยศรอย่างรวดเร็ว ดอกหนึ่งพุ่งเสียบต้นขาของอัศวินที่กำลังประดาบ เปิดโอกาสให้นักรบนิรนามปักขวานศึกเข้าหน้าท้อง จมลึกทะลุเสื้อเกราะ ลูกตุ้มของนักรบบนหลังม้าฟาดซ้ำจนร่างนั้นบิดหมุน อัศวินอีกคนถูกถีบข้อพับขาจนเสียหลัก ศัตรูฉวยโอกาสกระแทกจนล้มและขึ้นคร่อมทับ เสียบกริชเข้ายังซอกคอ ย้ำแทงอีกหลายครั้งจนร่างนั้นแน่นิ่ง

ลึกเข้าไปด้านใน สาวใช้คนสนิทใบหน้าซีดเผือดก้าวขาไม่ออก สายตาบ่ายมองรอบ ๆ อย่างตื่นกลัว เช่นเดียวกับสาวใช้อีกคนที่ทำตัวไม่ถูก ได้เพียงเหลียวซ้ายแลขวาอย่างสับสน ทาสหนุ่มพยายามขวางทางศัตรู แต่เพราะขาสั่นจึงทำดาบหลุดมือ ก่อนตกเป็นเหยื่อคมอาวุธของโจรเถื่อน ศีรษะของเขาปลิวหลุดจากร่างอย่างน่าสยดสยองด้วยดาบเล่มโต

“ตั้งแถวทั้งสองฝั่ง! อย่าปล่อยให้พวกมันตีกระหนาบ!!” รองหัวหน้าอัศวินตะโกนลั่น

โยชัวร์สังเกตเห็นประกายแสงสีแดง พลันเร่งถลันไปกดไหล่อัศวินคนหนึ่งลงกับพื้น หลบรอดกระสุนเพชฌฆาตได้หวุดหวิด

“ระวังปืนอาคม! หมอบต่ำไว้!!”

“รีบตั้งแถว!! จัดกระบวนตั้งรับ!!”

ปัสกาลชักดาบฟันศรธนูหัก ยกโล่รับศรหน้าไม้ โรมรันฟาดฟันศัตรูเบื้องหน้าอย่างไม่กลัวเกรง พลางตะโกนเรียกอัศวินหน้าใหม่ที่พยายามเข้าต่อสู้

“ถอยไปซะมิเกล!! ตามไปช่วยฟลอร่าคุ้มกันคุณหนู!!”



“ไป รีบพาคุณหนูไปที่ม้า!!”

อัศวินหญิงถอยกลับมาหาคุณหนูของตน ซึ่งรายล้อมด้วยสาวใช้และทาสหญิง บ่ายหน้าบอกทิศทางให้ทุกคนเร่งถอยหนี ส่วนตนเองหันไปยังกองม้าของศัตรูที่ดาหน้าเข้ามา มือซ้ายกุมโล่ มือขวาจับดาบมั่น อ้อนวอนต่อพระเป็นเจ้าหวังให้พระองค์มอบพลังและความกล้าให้กับตน

พลันธนูอาคมพุ่งฉิวปักหัวไหล่และสีข้างของนางจนล้มลง กระสุนเพลิงพุ่งทะลุร่างสาวใช้เคราะห์ร้ายทรุดลงนั่งคู้ตัวนิ่งอยู่ข้าง ๆ

“ฟลอร่า!!” โยชัวร์สังหารโจรโฉดที่ขวางหน้า เข้าประคองนางที่ยังฝืนลุกขึ้นได้

“ไม่ต้องห่วงข้า เจ้าต้องรีบพาคุณหนูหนีจากที่นี่!” ฟลอร่ากัดฟัน พยายามทรงตัว แม้หัวไหล่และสีข้างจะปวดร้าวจากลูกธนูอาคม แต่นางยังมีเรี่ยวแรงกำดาบแน่น “พวกมันเชี่ยวชาญ มีกลยุทธ์ ไม่ใช่แค่โจรธรรมดาแน่”

โยชัวร์หรี่ตามองความอลหม่านเบื้องหน้า

พวกเขาถูกลอบโจมตีอย่างไม่ทันคาดคิด ไม่มีทั้งเวลาเตรียมตัวหรือตั้งรับ แม้พยายามยืนหยัดต่อสู้อย่างกล้าหาญ แต่ดูเหมือนโชคชะตากลับทอดทิ้งพวกเขาในยามที่พวกเขาต้องการมันที่สุด

“เจ้าหนีไปซะฟลอร่า” อัศวินร่างท้วมสั่ง

หากคำพูดของเขาไม่ได้เข้าหูของอัศวินหญิงที่ยังยืนนิ่ง นางยิ้มน้อย ๆ ทิ้งสายตาไปยังสมรภูมิอันสับสนแล้วก้าวไปข้างหน้า

“ข้าภูมิใจที่ได้ต่อสู้เคียงข้างพวกเจ้า”



อัศวินคนหนึ่งใบหน้าเปื้อนเลือด ล่าถอยมาเบียดไหล่กับสหาย ก่อนตกเป็นเหยื่อธนูอาคมทั้งคู่

“เวรเอ๊ย ไอ้พวกหมารับใช้!!?”

อัศวินร่างใหญ่ถูกฟาดกระเด็นล้มก่อนผุดลุกขึ้นอีก คำรามกร้าวอย่างโกรธแค้น รวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดฟาดฟันศัตรูด้วยขวานศึกคู่ใจ และนี่คงเป็นวีรกรรมบทสุดท้ายของเขา อึดใจถัดมากระสุนอาคมได้พุ่งทะลุเกราะส่วนไหล่จนเขาเสียหลักยึด ศรหน้าไม้ยิงเสียบข้อพับขา ตามด้วยนักรบบนหลังม้าที่ควบรี่เข้าหา ลงดาบเข้าใส่ร่างไร้การต่อต้านนั้น

ท่ามกลางความอลหม่านและเสียงร้องระงม อัศวินหลายคนต่างทิ้งร่างลงบนผืนโคลนเกรอะกรัง เหล่าโจรเถื่อนมีจำนวนมากกว่าหลายเท่ากำลังห้อมล้อมทุกคน ประหนึ่งหมาป่าไล่ต้อนฝูงแกะ ทั้งส่งเสียงโห่ร้องอย่างสะใจ ราวกับปีศาจร้ายกำลังฉีกทึ้งเหยื่อ

ปัสกาลมึนงงอยู่ชั่วขณะหลังถูกม้าชาร์จล้มกลิ้ง เขารีบผุดลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล มองสมรภูมิเบื้องหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา ตัดสินใจทิ้งโล่ คว้าหอกที่ตกอยู่ ตั้งมั่นแทงศัตรูลอยตกจากหลังม้าคนหนึ่ง กระทุ้งใส่คนที่สองตกลงพื้นในอึดใจถัดมา แล้ววิ่งต่ำเข้าประคองร่างของสหายเข้าที่กำบัง

“โยชัวร์! โยชัวร์!!”

อัศวินหนุ่มทรุดตัวลง ร้องเรียกนามของอีกฝ่าย เขย่าร่างนั้นแม้รู้ดีว่ามันไร้ประโยชน์ ไม่มีใครดึงเอาชีวิตของคนตายให้กลับคืนมาได้

ร่างเปื้อนโคลนอีกคนกระตุกชายผ้าคลุม ดวงตาถูกมีดเสียบคา ไม่มีทาง เขาไม่รอดแล้ว ปัสกาลได้เพียงขบกรามแน่น มือหนึ่งรับกำไลผ่านถ้อยคำฝากฝังอย่างเจ็บปวด

สายตาเหลือบเห็นอีกร่างนอนคว่ำจมโคลน จำได้แม่นว่านั่นคือมิเกลเล่ มันยิ่งทำให้หัวใจของเขาเต้นแรง ดวงตาของอัศวินหนุ่มเบิกกว้าง หัวใจราวกับถูกบีบรัด ความรู้สึกหลากหลายประดังประเดเข้ามา ทั้งความเสียใจ ความโกรธ และความสิ้นหวัง ไม่อยากเชื่อว่าวันนี้จะมาถึงอย่างไม่ทันตั้งตัว

“พระเจ้า ท่านกำลังทดสอบข้าอยู่หรือไงกัน” อัศวินหนุ่มร้องถามฟ้า รำพันผ่านน้ำเสียงเจ็บปวดให้กับเหตุการณ์ซึ่งไม่อาจยอมรับได้

หมวกเกราะถูกถอดทิ้ง เผยให้เห็นเรือนผมสีแดงเพลิงโอบล้อมใบหน้าคมคาย ดวงตาคู่งามสีมรกตที่เคยสดใสเปล่งประกาย บัดนี้กลับแดงก่ำด้วยความโกรธแค้น ราวเปลวไฟที่กำลังลุกโชน รอยยิ้มซึ่งเคยประดับบนใบหน้าอันหล่อเหลาปานเทพบุตร ถูกแทนที่ด้วยริ้วรอยของความอาฆาต ริมฝีปากบิดเบี้ยวด้วยความเคียดแค้น ชิงชัง พร้อมจะเผาผลาญทุกสิ่งให้มอดไหม้


รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว