ผมมีระบบเจ้าเมือง-บทที่ 60  พี่ชายและน้องสาวลึกลับ

โดย  NNewnovel

ผมมีระบบเจ้าเมือง

บทที่ 60  พี่ชายและน้องสาวลึกลับ

บทที่ 940 หนุ่มรูปงาม


“จิตวิญญาณตะวัน!”

หลี่มู่ฟานชะงักเมื่อได้ยินเช่นนั้น มันเป็นสมบัติพลังบริสุทธิ์หายาก หากได้รับการขัดเกลาจะสามารถแปรเปลี่ยนร่างเป็นร่างพลังบริสุทธิ์ในทันที


ร่างพลังบริสุทธิ์นี้เป็นที่เลื่องลือพอ ๆ กันร่างอสนีบาตของเขา เรียกได้ว่าเป็นความสามารถระดับสูงของโลก

เขาเคยได้ยินข่าวลือมาในตอนที่ตามสืบข้อมูลก่อนหน้านี้เช่นกัน มีจิตวิญญาณตะวัน 3 ชิ้นอยู่ในจักรวรรดินารี ทางราชสำนักจะจัดขบวนแห่รอบเมืองในแต่ละปี


หลังจากเหล่าบุรุษรับพลังหยางจากจิตวิญญาณตะวัน พวกเขาจะสามารถสมดุลระหว่างหยินและหยางได้เป็นการชั่วคราว เพื่อเลี่ยงโรคภัยหรือแม้แต่ความตายจากการที่มีพลังหยินมากเกินไป

นึกไม่ถึงว่าจิตวิญญาณตะวันจะมีการจัดแห่รอบเมืองโบตั๋นในวันนี้ ทำให้หลี่มู่ฟานครุ่นคิดอย่างหนัก


แม้เขาจะมีร่างอสนีบาตแล้ว แต่เขายังสามารถขัดเกลาจิตวิญญาณตะวันได้ เมื่อสำเร็จเขาสามารถยกระดับร่างอสนีบาตเป็นร่างพลังบริสุทธิ์ซึ่งเหนือกว่ามากได้ เกรงว่าฝีมือของเขาจะไม่ด้อยไปกว่าศิษย์พี่หญิงหลิวชิงหาน!

สิ้นเสียงตะโกนของเจ้าของร้าน คนส่วนใหญ่ในโรงเตี๊ยมกลับออกไปในทันที

พลันชายหญิง 8 คนก้าวเข้ามาภายในโรงเตี๊ยม พวกเขาสวมเสื้อผ้าราคาแพง ดูท่าจะเป็นคนตระกูลมั่งคั่ง


ผู้นำคือชายหนุ่มรูปงามผู้หนึ่ง อายุราว 17 ย่าง 18 ปีได้ ดวงตาเป็นประกายและฟันขาว ผิวพรรณขาวราวหิมะ หน้าตางดงามผิดสามัญ เขางามยิ่งกว่าสาวงามคนใด

เขามองไปยังชายหนุ่ม 5 คนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ก่อนเสมองมาทางหลี่มู่ฟาน

แววคลางแคลงใจฉายขึ้นในดวงตางดงามนั้น


หลี่มู่ฟานนิ่วหน้า เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นหญิงหรือชาย แม้จะจงใจปิดบังวรยุทธ์ของตนเองเอาไว้ หลี่มู่ฟานยังคงเป็นที่จับจ้องด้วยปราณที่ผิดธรรมดา

วรยุทธ์ของหนุ่มรูปงามผู้นี้ลึกล้ำราวมหาสมุทรยากที่จะคาดเดาได้ หากแต่เขาเป็นปรมาจารย์แก่นแท้ จึงสามารถมองออกได้ในแวบเดียว!

หนุ่มรูปงานก้าวมาหาหลี่มู่ฟานอย่างสงบนิ่ง ก่อนยิ้มบอก “คุณชาย หากท่านไม่ถือสา ขอข้านั่งร่วมโต๊ะได้หรือไม่?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หญิงสาวด้านหลังเขาต่างดูแปลกใจ ขณะที่บรรดาบุรุษแสดงท่าทีไม่เป็นมิตรต่อหลี่มู่ฟาน

หลี่มู่ฟานตอบกลับเสียงเรียบ “ข้าไม่เคยชินกับการร่วมโต๊ะกับผู้อื่น ท่านไปหาที่อื่นนั่งเถิด”


“สามหาว!”

หญิงชายในอาภรณ์สีเหลืองด้านหลังอีกฝ่ายตะโกนกร้าวขึ้น “คิดว่าตนเองเป็นใครกัน กล้าดีอย่างไรมากล่าววาจากับนายน้อยเช่นนั้น?”

หลี่มู่ฟานเหลือบมองอย่างเย็นชา จิตใจของอีกฝ่ายเต้นแรง ร่างกายอ่อนแรงลงก่อนทรุดลง


หลี่มู่ฟานเอ่ยเย้ยหยัน “ข้ามักพูดตรงไปตรงมา หากไม่พอใจก็เข้ามา”

ชายหนุ่มรูปงามอ่อนโยนปากสั่น ราวกับกำลังเผชิญหน้ากับอสูรร้าย เขากล้าดีนักที่ตอกกลับมาเช่นนี้

ทุกคนต่างตกตะลึง ผู้ชายในจักรวรรดินารีมักเจียมเนื้อเจียมตน หากแต่ชายคนนี้กลับเย่อหยิ่ง ช่างผิดปกตินัก


หนุ่มรูปงามยกยิ้มก่อนกล่าว “ในเมื่อคุณชายไม่ยินดี เช่นนั้นข้าไม่ฝืนใจ”

เขาเหลือบมองชายหนุ่มอีกโต๊ะ และพูดขึ้นอย่างไม่แยแส “อีกไม่นานจะมีขบวนแห่จิตวิญญาณตะวัน บรรยากาศคงจะวุ่นวาย หวังว่าท่านจะทำตามกฎหมายและไม่ก่อเรื่องเดือดร้อนให้กับทางการ”


หลี่มู่ฟานตอบ “มันก็ขึ้นอยู่กับว่าทางการมีปัญญาควบคุมสถานการณ์หรือไม่ต่างหาก”

อีกฝ่ายส่งยิ้มและไม่โต้ตอบ ก่อนเดินนำกลุ่มคนไปอีกด้านหนึ่ง

หลังจากได้ที่นั่ง หญิงสาวผู้หนึ่งในชุดสีกรมท่าเอ่ยกระซิบ “นายท่าน คนผู้นี้ดูไร้วรยุทธ์ เหตุใดท่านไม่...”

เขาส่ายหน้าพร้อมยกยิ้มและเอ่ยเสียงนุ่ม “อย่าพูดมากนัก คนผู้นี้เป็นมิตรหรือศัตรู อีกไม่นานคงได้รู้กัน”


ผ่านไปไม่นาน เกิดเสียงอึกทึกด้านนอกโรงเตี๊ยม หญิงสาวผู้หนึ่งตะโกนบอก “จิตวิญญาณตะวันมากถึงแล้ว รีบมาคุกเข่าสักการะเร็วเข้า ขอบพระทัยในความเมตตาของฝ่าบาท!”

หญิงสาวผู้หนึ่งในชุดราชพิธีนั่งอยู่บนแท่นเรือบิน ลูกทรงกลมที่ลอยเหนือมือของนางส่องแสงเรืองรอง โดยมีพลังบริสุทธิ์แผ่ซ่านออกมา


รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว