ผมมีระบบเจ้าเมือง-บทที่ 11  ได้เวลาทำอะไรแล้ว

โดย  NNewnovel

ผมมีระบบเจ้าเมือง

บทที่ 11  ได้เวลาทำอะไรแล้ว

บทที่ 30

ความอ่อนแอจำกัดจินตนาการ


คราวนี้ อาเฉียง และ ชุ่ยฮัว เป็นคนนำทาง พวกเขาไม่ได้หันหลังกลับไปทางเดิม ความคิดของ หลี่มู่ฟาน ค่อยๆชัดเจนขึ้น


เขายืนอยู่ใต้แผ่นหินมองไปที่ตัวอักษรสีแดงเข้มที่แกะสลักอยู่ ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าเขาติดอยู่ที่ไหน


“พัก ,เกิด, เจ็บ,ไม้,มอง,ตาย,ตกใจ,เปิด! นี่คือค่ายกลหิน 8 ทิศโบราณ!”


หลี่มู่ฟาน มั่นใจว่าพวกเขาได้พบกับค่ายกล 8 ทิศในตำนาน!


หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง หลี่มู่ฟาน ก็กล่าวว่า “พวกเจ้ายังจำตำแหน่งของแผ่นหินแต่ละแผ่นได้หรือไม่?”

อาเฉียง และ ชุ่ยฮัว มองหน้ากัน ชุ่ยฮัว จึงกล่าวว่า “นายท่าน อาจจะยังพอจำได้แต่ไม่สามารถรับประกันว่าถูกต้อง 100% หรือไม่”


“แค่นั้นก็พอแล้ว ฟังให้ดี ตอนนี้พวกเจ้าพาข้าไปยังหินก้อนแรกที่สลักคำว่า “ตาย”เอาไว้”


“รับทราบ”


ทั้งสองรับคำและจูงมือ หลี่มู่ฟาน จากซ้ายไปขวาก่อนจะเดินอย่างรวดเร็วผ่านหมอกควัน


“กร๊อบ!”


เสียงแปลกๆดังมาจากใต้เท้าของพวกเขา ทั้ง 3 ตกตะลึงเล็กน้อย หลี่มู่ฟาน ก้มหน้าลงและเห็นโครงกระดูกสีเหลืองที่ไม่รู้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิตประเภทใดถูกเหยียบจนแหลกละเอียด


“นายน้อย ดูนั่นสิ! มีอาวุธอยู่ตรงนั้น!”


เมื่อมองผ่านหมอกที่อยู่ข้างๆ หลี่มู่ฟาน ก็มองเห็นอาวุธที่มีรูปร่างเหมือนกับง้าวสวรรค์


ง้าวยาวประมาณ 1 จั้ง ใบดาบของมันเปล่งแสงเย็นเยียบ ต้องเป็นอาวุธมีระดับอย่างแน่นอน


เขาก้มตัวลงและพยายามหยิบง้าวขึ้นมา แต่กลับไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย!


“ อาเฉียง เจ้ามาลองดูซิ!”


อาเฉียงได้ยินดังนั้น ก็คว้าง้าวด้วยมือเดียว ง้าวสั่นเล็กน้อย!


“นายท่านอาวุธนี้หนักอย่างน้อย 1,000จิน”


“1,000 จิน?”


หลี่มู่ฟาน ตกใจ อาวุธเพียง 1 เล่มสามารถมีน้ำหนักได้ถึง 1,000 จินงั้นหรอ?

ความอ่อนแอจำกัดจินตนาการของเขา


“ของดี!”


เขาถอนหายใจและกล่าวว่า “ อาเฉียง เจ้าแบกมันไปก่อน ชุ่ยฮัว เจ้าเป็นคนนำทาง”


“หา..?”


หลังจากนั้นไม่นานทั้งสามคนก็มาถึงก้อนหินก้อนใหญ่ที่สลักคำว่า “ตาย”เอาไว้


หลี่มู่ฟานถามขึ้น “ ชุ่ยฮัว พวกเราใช้เวลานานแค่ไหนในการเดินจากแผ่นป้ายเมื่อครู่นี้?”


ชุ่ยฮัว ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “ นายท่าน บวกลบเวลาในการยกง้าวออกไป พวกเราใช้เวลาประมาณ 15 นาที”


"เอาล่ะ ตอนนี้กลับไปทางเดิม เดิน 7 นาที 30 วินาที พวกเจ้าจงจําไว้ในใจให้ได้"

“รับทราบ”


ดังนั้น หลี่มู่ฟานจึงสั่งให้ทั้งสองเดินไปทางทิศตะวันออกในหมอกและเดินไปทางทิศตะวันตกเล็กน้อย เมื่อเขาหยุดก็พบแผ่นหิน เขาจึงสรุปอะไรในใจได้บางอย่าง


"เป็นอย่างที่คิด แผ่นศิลาทั้งแปดแผ่นนี้ถูกจัดวางเป็นวงกลม!"


"ตอนนี้เราต้องเดินตามเส้นทางวงกลมจากด้านหลังของแผ่นหินไปยังป้าย "เกิด" เจ้าทั้งสองมั่นใจหรือไม่? ”


ชุ่ยฮัวพยักหน้า "นายท่านวางใจได้" ”


ทั้งสามคนเดินต่อไป พวกเขาเดินไปประมาณครึ่งชั่วโมง หลังจากผ่านแผ่นหินสี่แผ่นแล้ว พวกเขาก็หยุดอยู่ใต้แผ่นหิน “เกิด” อาเฉียงที่ตาคมพบหอกยาวอีกเล่มหนึ่ง


คุณภาพของหอกยาวก็ดูสูงไม่แพ้กัน แต่แตกต่างจากง้าวมันมีน้ำหนักไม่มากนัก และมีน้ำหนักเพียง 100 จินเท่านั้น

"ไม่เสียเปล่า ชุ่ยฮัว เจ้าแบกไว้..."


หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสามคนก็มายืนอยู่หน้าป้ายหินเขาถอนหายใจเบาๆและกล่าวว่า "ตรงไป และเดินหน้าต่อไป! ออกไป! ”


ไม่รู้ว่าเขาเดินไปได้ไกลแค่ไหน ทันใดนั้น หลี่มู่ฟานก็รู้สึกว่าสติของเขากําลังมึนงงและปรากฏตัวขึ้นบนเส้นทางบนภูเขา!


แสงจันทร์จางๆ สาดส่องลงบนร่างของทั้งสามคน สายลมยามเย็นพัดผ่านราวกับฝ่ามือที่อ่อนโยนของความเห็นอกเห็นใจ ทําให้ผู้คนรู้สึกมีความสุขทั้งกายและใจ


ชาติที่แล้วเขาชอบอ่านหนังสือเบ็ดเตล็ดและเคยเห็นความรู้เกี่ยวกับค่ายกลปากว้า (เป็นวงกลมเหมือนปาก-เรียก 8ทิศดีกว่าเนอะ)บนแผงลอยสีเหลือง แต่ไม่คาดคิดว่ามันจะมีประโยชน์!


ในที่สุดพวกเขาก็ออกจากหมอกพร้อมชีวิตที่เหลือของพวกเขา!

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว