บทที่ 690 การแต่งตั้งข้าราชบริพาร
“คะ… เคล็ดมหาเทพ?”
หลี่มู่ฟานค่อนข้างประหลาดใจ แม้จะเป็นภาพฉากที่วาดผ่านจิตใจเพียงครู่ ทว่าเขาสัมผัสถึงมันอย่างชัดเจนว่าตนได้รับวิธีการฝึกฝนของสามสิบวิถีอันยิ่งใหญ่แล้ว
เพียงแต่ละวิถีต้องใช้เวลานานกว่าจะผ่านการฝึกอย่างสมบูรณ์ แค่การฝึกเคล็ดมหาเทพหลอมหมื่นมังกร เขาก็ไม่รู้แล้วว่าต้องใช้เวลากี่เดือนกี่ปี
ว่านชิงซานมองผ่านความคิดอีกฝ่าย เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ยิ่งเกิดการผสมผสานของวิถีมากเท่าไหร่ พลังของเคล็ดมหาเทพก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น”
“หนทางสู่ความเป็นเทพเซียนนั้นยาวไกล เจ้ายังต้องฝึกสมาธิและค่อย ๆ รับรู้ถึงการมีอยู่ของมันอย่างเชื่องช้า”
“ข้าคงต้องขอตัวกลับก่อน หากพบกับอาจารย์ของเจ้าแล้ว บอกกล่าวนางให้มาหาข้า!”
แม้เสียงยังคงก้องกังวาน ทว่าร่างของเขากลับอันตรธานหายไปแล้ว
หลี่มู่ฟานตกตะลึงครู่หนึ่ง ก่อนเดินออกจากห้องโถงและเงยหน้ามองท้องฟ้าสีครามราวกับตกอยู่ในภวังค์…
สามวันต่อมา คณะผู้แทนจักรวรรดิหยุนฉินมาถึงซึ่งนำโดยฉินจี้ หลี่มู่ฟานพูดคุยกับเขาอยู่ครู่หนึ่ง จึงได้รับรู้ว่าจักรวรรดิกำลังทำสงครามกับเผ่าพันธุ์อื่นทางตะวันตกและได้รับดินแดนมามากมาย
ทว่าสำหรับหวังเมิ่งอวี่และหลี่ฮ่าวเทียน ไม่มีใครรู้เลยว่าทั้งสองอยู่ที่ใดและเป็นตายร้ายดีอย่างไร
เผ่าจิ้งจอกสวรรค์ส่งคนมาแสดงความยินดี น่าเสียดายที่กลับไม่ใช่ซูฉิน แต่เป็นคนอื่น
หลี่มู่ฟานพูดคุยกับนางเกี่ยวกับการรับมือเผ่าจิ้งจอกมารและได้รับรู้ถึงสถานการณ์ปัจจุบันของซูฉิน
ตั้งแต่ซูเสี่ยวเม่ยหายตัวไป นางก็กระวนกระวายออกตามหาบุตรสาว กระทั่งเดินทางออกนอกจักรวรรดิเมื่อไม่กี่วันก่อนเพื่อออกตามหา
เช้าตรู่ในวันนี้ ณ ห้องโถงของตำหนักมีเหล่าขุนนางและนายพลมารวมตัวกันมากมาย หลี่มู่ฟานบนบัลลังก์สวมชุดราชาแห่งเมืองสุริยันจันทราพร้อมสวมมงกุฎและถือคทาด้วยท่าทางองอาจ
เมื่อเห็นทุกคนรวมตัวกันที่นี่ เขากล่าวขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “ที่มารวมกันในวันนี้ ข้าขอขอบคุณทุกคน”
“แม้พวกท่านจะเคยดำรงตำแหน่งสำคัญมาก่อน แต่ไร้ซึ่งตำแหน่งที่แต่งตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการ อันเป็นเหตุให้ตัวข้าไม่สบายใจอย่างยิ่ง”
“วันนี้ข้าจะมอบรางวัลแก่ทุกคน ซึ่งหวังว่าท่านจะยังคงพยายามอย่างไม่ลดละเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของจักรวรรดิและความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน”
เมื่อรับฟังถ้อยคำ ทุกคนคุกเข่าลงกล่าวพร้อมเพรียง “ข้าราชบริพารจะปฏิบัติตามพระประสงค์ของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ/เพคะ”
หลี่มู่ฟานพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม “ทุกคนลุกขึ้นเถิด”
“ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ/เพคะ”
ดวงตาของเขากวาดมองไปทั่วฝูงชน กระทั่งหยุดลงที่ร่างของฝานชิงเยว่
เพียงกล่าวด้วยรอยยิ้มบาง “ฝานชิงเยว่รับคำสั่ง”
ฝานชิงเยว่คุกเข่าลงในทันใดพร้อมตอบรับว่า “เพคะฝ่าบาท!”
“ข้าขอมอบตำแหน่งเสนาบดีสำนักราชเลขาธิการประจำเขตปกครองจงชูและขอให้ท่านรับผิดชอบงานของราชสำนักทั้งหมด!”
ร่างกายฝานชิงเยว่สั่นสะท้านเล็กน้อยก่อนตอบรับเสียงดัง “หม่อมฉันน้อมรับพระบัญชาเพคะ!”
“ซุนหยู ข้าต้องการให้ท่านเป็นอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายและคอยช่วยเหลือท่านฝานดูแลเขตปกครองจงชู!”
ซุนหยูโค้งคำนับและตอบรับว่า “กระหม่อมน้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”
หลี่มู่ฟานมองไปยังเว่ยยางและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เว่ยยาง ท่านจะเป็นอัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวาและรับผิดชอบเกี่ยวกับการปฏิรูปทั้งหมด!”
เว่ยยางเผยท่าทีปีติและตอบรับเสียงดัง “กระหม่อมน้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!”
หลี่มู่ฟานพยักหน้าและกล่าวว่า “ในบรรดาหกกระทรวง ชุ่ยฮัวทำหน้าที่เป็นเจ้ากระทรวงการคลัง อาโชวทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยรองฝ่ายซ้าย”
“อาเฉียงเป็นเจ้ากระทรวงโยธาธิการ และอาฉุ่ยเป็นผู้ช่วยรองฝ่ายซ้าย”
“หลิวหลงเป็นเจ้ากระทรวงกลาโหม เจี่ยซูเป็นผู้ช่วยรองฝ่ายซ้าย และหลิวเป่ยเป็นผู้ช่วยรองฝ่ายขวา”
“โค่วจวินเป็นเจ้ากระทรวงยุติธรรม และเฉินหยางเป็นผู้ช่วงรองฝ่ายซ้าย”
“ตำแหน่งเจ้ากระทรวงขุนนางให้อัครมหาเสนาบดีทั้งสามดูแลเป็นการชั่วคราว”
“เจ้ากระทรวงพิธีการขอละเว้นไว้เป็นการชั่วคราว”
“นอกจากนี้ซือหม่าเชียนจะทำหน้าที่เป็นผู้บันทึกประวัติศาสตร์”
หลายคนที่ได้รับการอ่านชื่อพลันคุกเข่ากล่าวตอบรับ “กระหม่อมน้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”
หลี่มู่ฟานยิ้มเล็กน้อยและกล่าวต่อ “หลังจากได้หารือกับท่านขุนนางบางส่วนแล้ว ข้าตัดสินใจยกเลิกระบบนครรัฐและใช้ระบบเขตปกครอง”
“หลูเซี่ยงจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งให้เป็นผู้ว่าเขตปกครองกล้วยไม้เมฆา ซึ่งให้ประจำการอยู่ในเมืองกล้วยไม้เมฆาเพื่อดูแลที่ราบร่วมกับฮวาชิงหวู่”
หลูเซี่ยงได้ยินดังนั้นก็รู้สึกปีติอย่างยิ่งพร้อมตอบรับเสียงดัง “ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะฝ่าบาท!”
หลี่มู่ฟานพยักหน้าและกล่าวต่อ “ฟ่านจ้งอ่านจะทำหน้าที่เป็นผู้ว่าเขตปกครองสุริยันจันทรา ซึ่งประจำการอยู่ในเมืองสุริยันจันทรา!”
บัณฑิตหนุ่มฟ่านจ้งอ่านดีใจอย่างยิ่งเมื่อได้รับฟัง ก่อนก้มศีรษะลงเพื่อขอบคุณ
“จงเจ๋อจะดำรงตำแหน่งผู้ว่าเขตปกครองศิลามรกตและประจำการอยู่ในเมืองศิลามรกต”
“จางชูเย่เป็นผู้ว่าเขตปกครองประกายพรึกและประจำการอยู่ในเมืองประกายพรึก”
ทั้งสองตอบรับพร้อมกัน “กระหม่อมน้อมรับพระบัญชาพ่ะย่ะค่ะ”
ท้ายที่สุดสายตาของหลี่มู่ฟานจับจ้องอยู่ที่หลิวหลงและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หลิวหลง ท่านคงต้องทำงานหนักขึ้นโดยการดำรงตำแหน่งผู้ว่าเขตปกครองเมืองหมิง”
หลิวหลงชะงักงันในทันใด ตัวตนเช่นเขาจะปกครองสถานที่ใหญ่โตแห่งนั้นได้อย่างไร
แต่เนื่องจากหลี่มู่ฟานได้กล่าวถ้อยคำออกมาแล้ว เขาทำได้เพียงก้มศีรษะลงเพื่อขอบคุณ
หลี่มู่ฟานพยักหน้ารับอย่างพึงพอใจและกล่าวว่า “เจ้าหน้าที่ดั้งเดิมของจักรวรรดิสุริยันจันทราจะได้รับการแต่งตั้งใหม่จากกระทรวงขุนนาง ข้าหวังว่าทุกท่านจะทำงานร่วมกันเพื่อทำให้จักรวรรดิแข็งแกร่งและเพื่อประชาชนได้มีชีวิตที่ดีขึ้น”
เหล่าข้าราชบริพารกล่าวตอบพร้อมกัน “กระหม่อมและทุกคนจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ/เพคะ”
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว