ชาติที่แล้วหลงเฟยเป็นแค่เด็กเนิร์ด อย่างดีก็แค่ดูหนัง AV หรือ PORNHUB แล้วช่วยตัวเอง ไม่เคยมีความรัก แม้แต่เรื่องอย่างว่าก็ไม่เคยมีประสบการณ์แม้แต่น้อย เขาก็เลยไม่ค่อยเข้าใจ
แต่ถึงยังไม่เข้าใจ ก็ไม่สามารถห้ามสัญชาตญาณความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ได้
แย่ไปกว่านั้น สายตาของหลิวลั่วซีที่มองมายังเขาก็ช่างหยดย้อย พวงแก้มทั้งสองแดงระเรื่อ ร่างกายร้อนรุ่ม จนหลงเฟยก็แทบจะทนไม่ได้เหมือนกัน
สัญชาตญาณความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ช่างรุนแรงจริง ๆ
“โฮก!”
ทันใดนั้นก็มีเสียงคำรามของสัตว์วิเศษดังขึ้นทำลายความเงียบทั้งมวล
หลิวลั่วซีตกใจ สีหน้าเปลี่ยนในทันที รีบผลักหลงเฟยออกในทันที จัดการผมเผ้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อย แก้มทั้งสองข้างยังมีสีออกแดงคล้ายลูกตำลึง นางรู้สึกอายจนแทบอยากแทรกแผ่นดินหนี
หลงเฟยเองก็ยังรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง กระแอมไอสักครู่แล้วค่อยพูดว่า
“ฝีมือเจ้าก็ไม่เลวนะ หากใช้เวลาฝึกอีกพักใหญ่ ๆ ก็น่าจะทำผ้ายันต์ออกมาได้”
หลิวลั่วซีส่งเสียง “อือ” เบา ๆ
หลังจากนั้นทั้ง 2 คนก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกระยะหนึ่ง ในความเงียบขนาดนี้แต่มีความเคอะเขินทำตัวไม่ถูก
หลงเฟยคิดหาวิธีทำลายความเงียบ จึงพูดขึ้นมาว่า
“พระจันทร์วันนี้สวยจังนะ”
หลิวลั่วซีก้มหน้าอยู่ ก็พยักหน้าเบา ๆ พูดว่า
“อือ สวยจริง ๆ ด้วย”
เสี่ยวป๋ายฟังแล้วไม่ค่อยเข้าใจ จึงพูดกับหลงเฟยว่า
“เจ้านาย ท้องฟ้าวันนี้มันดําปิ๊ดปี๋ขนาดนี้ แล้วท่านจะเห็นพระจันทร์ได้อย่างไรล่ะ?”
“หา?”
“ฮิฮิ....”
ทั้งสองคนก็เงยหน้าขึ้นไปมองบนฟ้าสีดำ หลังจากนั้นก็หัวเราะออกมาพร้อมกัน
หลงเฟยหัวเราะเปลี่ยนเรื่องพูดว่า “เวลาเจ้าหัวเราะนี่ก็น่ารักดีนะ ข้าเคยเห็นหญิงสาวที่มีความงามเฉพาะตัว เวลาเจ้าที่เจ้างามที่สุด ก็คงจะเป็นยามที่เจ้าหัวเราะ”
หลิวลั่วซีแสร้งพูดว่า “ต่อให้ข้าหัวเราะจนงามแค่ไหนก็ยังไม่เท่ากับองค์หญิงหนานกงเยียนคู่หมั้นของเจ้า นางเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งของอาณาจักรหั่วหลีเลยนะ เวลาหัวเราะงดงามกว่าข้ามากนัก”
“เอ๋?”
หลงเฟยตกใจนิด ๆ แล้วยิ้มตอบว่า “เจ้าหึงข้าเหรอ?”
นานมากแล้วที่เขาไม่ได้เห็นคู่หมั้นพระราชทานคนนี้
อีกทั้งในความทรงจำ ก่อนที่เขาจะถูกขับออกจากตระกูล องค์หญิงหนานกงเยียนมักจะมาหาเขาบ่อย ๆ
แต่หลังจากที่เขาถูกทำลายชีพจร หนานกงเยียนก็ไม่เคยมาอีกเลย แม้แต่ในราชสำนักหนานกงเองก็ยังไม่เคยพูดถึงสมรสพระราชทานนี้อีก
หลงเฟยรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก
หลิวลั่วซีพูดว่า “ข้าหึงอะไรหรอ ข้าไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะหึงหวงได้ แล้วข้าก็ไม่ได้เป็นอะไรกับเจ้าด้วย”
ดูออกชัดเจนเลยว่าหลิวลั่วซีกำลังอยู่ในอาการหึงหวงแน่นอน
หลงเฟยหัวเราะเล็กน้อย แล้วก็หากระดาษใบหนึ่งรีบเขียนบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็นำศิลาปีศาจธาตุลมที่ได้มาจากการต่อสู้กับวานรวัชระมาห่อไว้ข้างใน แล้วพูดว่า
“เอ้า ข้ามอบให้เป็นของขวัญสำหรับอาการคนหึงหวง”
“อะไร?”
หลิวลั่วซีดึงขึ้นมาดู ก็เห็นเป็นศิลาปีศาจพูดว่า “นี่คือศิลาปีศาจของวานรวัชระนี่?”
หลงเฟยพูดว่า “นี่คือศิลาปีศาจธาตุลม เจ้าไม่คิดที่จะเอามันไปทำออกมาเป็นผ้ายันต์ชั้นสูงเหรอ?
เมื่อนำศิลานี้ไปผสมรวมกัน เจ้าก็จะเข้าใจลักษณะความสามารถของธาตุลมมากยิ่งขึ้น เอาไปประยุกต์ไว้ใช้เวลาที่ทำผ้ายันต์ขึ้นมา มันจะได้มีอานุภาพมากยิ่งขึ้น”
“ของล้ำค่ามากขนาดนี้ ข้ารับไว้ไม่ได้หรอก” หลืวลั่วซีตกใจ ในนิกายเฉาเทียนถือว่าศิลาปีศาจเป็นหินล้ำค่ามาก
หลงเฟยพูดว่า “เจ้ารับไปเถอะ อีกอย่างตอนนี้ข้าก็ผสมศิลาธาตุลมไว้แล้ว ถึงคืนให้ข้าก็ไม่มีประโยชน์ คิดซะว่าเป็นค่าจ้างที่ช่วยเก็บความลับให้ข้าก็แล้วกัน”
ในใจของหลิวลั่วซีรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่ง นางหยิบศิลาปีศาจขึ้นมาดู มองไปที่ห่อผ้านั้นอีกครั้ง
รอยยิ้มของเด็กสาวคนหนึ่งช่างสวยสดงดงามอย่างหาที่ใดเปรียบได้ ในนั้นมีตัวอักษรตัวเล็ก ๆ เขียนว่า
“หัวเราะทุก ๆ วัน เจ้าก็จะเห็นว่าในโลกใบนี้ยังมีความงดงามรออยู่ ถึงจะโดนมองว่าเพี้ยน ก็ต้องหัวเราะเยอะ ๆ เข้าไว้”
ในขณะที่อ่านข้อความนั้น หลิวลั่วซีก็รู้สึกประทับใจมาก จนกลั้นน้ำตาไว้ไม่ได้ ร้องไห้ออกมา นางมองไปที่หลงเฟยแล้วพูดว่า
“เจ้าคนบ้า เจ้าคนสติไม่ดี เจ้าคนเพี้ยน.....”
เมื่อเห็นน้ำตาของหลิวลั่วซี หลงเฟยก็รู้สึกปวดใจ คิดที่จะเข้าไปโอบกอดเพื่อปลอบใจ
ยังไม่ทันที่เขาจะก้าวเข้าไป ก็มีเสียงตะโกนดังมาแต่ไกล
“นายน้อย! นายน้อยขอรับ!!”
“ศิษย์พี่ ศิษย์พี่....”
.......
หลงเฟยและหลิวลั่วซีสบตากันแล้ว หลิวลั่วซีจึงพูดขึ้นมาว่า
“พวกเรารีบออกไปจากที่นี่ก่อนดีกว่า”
ทั้งสองจึงรีบวิ่งออกจากที่นั่นในทันที
-โปรดติดตามตอนต่อไป-
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว