เสียงหลงเฟยคำรามดังก้องฟ้า! คล้ายกับพุ่งเข้าไปกระทบใจของทุก ๆ คนที่อยู่ในลานประลอง
เสียงดั่งเทพพิโรธนี้ ทำเอาพวกที่เคยเหยียดหยามหลงเฟยสั่นสะท้านเป็นอย่างยิ่ง!
เดิมทีคนเหล่านั้นที่หัวเราะเยาะหลงเฟยก็เหมือนกับกลืนก้างปลาเข้าไป ทำให้จะกลืนก็ไม่เข้าจะคายก็ไม่ออก ช่างลำบากยากเข็ญนักเมื่อก้างยังติดคออยู่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าคนของสามตระกูลใหญ่และราชสำนัก พวกเขาตอนนี้เหมือนกำลังถูกหลงเฟยปล่อยหมัดเสยเข้าปลายคางอย่างจัง
ปวดร้าวยิ่งนัก!
สายตาหลงเฟยมองตรง ตวาดไม่เลือกหน้าอย่างบ้าคลั่งว่า
“อัตราสายเลือดมังกรเป็นศูนย์แล้วยังไง? ชีพจรถูกทำลายแล้วไง? เลือดไหลเวียนไม่ปกติแล้วไง?”
“เยาะเย้ยว่าข้าเป็นพวกไร้ประโยชน์? แล้วพวกแกดีนักเหรอ?! ห๊าา!!!”
หลงเฟยร้องตะโกนด้วยความโกรธอีกครั้ง ความแค้นภายในใจยังคงถูกระบายออกมาไม่หยุด
ตอนที่เข้าตรวจอัตราการมีอยู่ของสายเลือดมังกรของหลงเฟยนั้นทำให้เขาไม่พอใจอยู่แล้ว ในใจเหมือนมีขอนไม้สุมไฟแค้นให้ลุกโชน
การเยาะเย้ยของสามตระกูลใหญ่และราชสำนักต่อหน้าเขา มองเห็นความผิดหวังของคนตระกูลหลงต่อหน้าต่อตา ในใจของเขาก็ยิ่งไม่พอใจมากขึ้น
แต่ในเวลานั้นเขาต้องอดทน ก็เพื่อที่บอกกับศิษย์ตระกูลหลงว่า
อัตราการมีอยู่ของสายเลือดมังกรไม่สามารถใช้แก้ปัญหาทุก ๆ สิ่งได้
ชีพจรไม่สามารถแทนทุก ๆ สิ่งได้ การไหลเวียนของเลือดก็ไม่สามารถแทนได้เช่นกัน!
สิ่งที่เขาต้องการจะบอกกับคนทั้งหลายคือ ไม่ว่าจะประสบกับความยากลำบากแค่ไหน คนตระกูลหลงจะต้องไม่ยอมแพ้อย่างเด็ดขาด!
ทั่วทั้งลานประลองเงียบกริบ ไม่มีใครพูดอะไรออกมา ทุก ๆ คนต่างมองหลงเฟยที่ยืนอยู่บนเวที
ในเวลานี้ตระกูลหลงต้องร่วมแรงกัน รวมพลังกันขึ้นมาใหม่อีกครั้ง และควรยึดหลงเฟยเป็นหลัก
ตอนนี้คนส่วนใหญ่ในตระกูลหลงล้วนยอมรับว่าหลงเฟยเป็นนายน้อยอย่างแท้จริง และคนอีกจำนวนมากต่างก็ยอมรับในตัวเขามากขึ้น
เพราะว่าเขาได้ทำเรื่องที่เหนือความคาดหมาย!
เพราะว่าเขาคือหลงเฟย เป็นนายน้อยตระกูลหลง!
ทันใดนั้นหลงจ้านอู่พูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า
“หลงเฟย แกอย่าพึ่งได้ใจไป!”
หลงจ้านอู่ชี้นิ้วสั่งเฉียบขาด “หลงฝู จัดการฆ่ามันให้ได้!!”
รวดเร็วสายฟ้าฟาด คนผู้หนึ่งพุ่งออกมาจากฝูงชนด้วยความเร็วราวปีศาจ วิชาจุยอินกงที่อยู่ในมือทั้งสองก็ถูกปลดปล่อย
แต่ในชั่วพริบตาเดียวกันนี้เอง หลงเฟยก็ยิ้มอย่างมีเลศนัยขึ้นมา
“ข้ารอแกมานานแล้ว ในที่สุดก็มาซะที!”
เขาจับตาดูหลงฝูมาตั้งแต่แรกแล้ว
ตอนที่เขาเข้ารับการตรวจ หลงเฟยก็แอบตรวจดู จึงรู้ว่าเขาเป็นนักฆ่าที่แฝงตัวมาในฐานะศิษย์ตระกูลหลง
หลังจากที่สังหารศิษย์ตระกูลหลงทั้งสิบสี่คนไปแล้ว เขาก็ยิ่งมั่นใจมากขึ้น
ในเวลาเดียวกัน เขาเองก็เชื่อในคำพูดของนักฆ่าสาวคนนั้น
แน่นอนว่านางไม่ได้โกหกเขา
เจ้าเงาดำนั่นรู้สึกกลัว จริงอยู่ว่าเป็นเขาที่กำลังลอบโจมตีหลงเฟย แต่ทว่า...ในใจของเขากลับสังหรณ์ไม่ดีนัก
เหมือนกับว่าเป็นตัวเขาเองที่กำลังติดกับหลงเฟยอยู่
การเป็นนักฆ่า ประสาทการรับรู้จะต้องฉับไวมาก ๆ
จากประสบการณ์การที่เป็นนักฆ่ามาหลายปีทำให้เขาเข้าใจกฎข้อหนึ่ง...
ต้องรักษาชีวิตไว้ให้ได้จึงจะถือว่าภารกิจสำเร็จ!
ตัดความคิดเรื่องอื่น ๆ ออกไป หลงฝูก็หันกลับมา แล้วพุ่งใส่หลงเฟยทันที
ทว่า....หลงเฟยแสยะยิ้ม “สายไปแล้ว!!”
คมดาบกระดูกที่สะสมไว้เจ็ดกระบวนท่าก็เคลื่อนไหวทันที
เขาเริ่มเก็บสะสมพลังตั้งแต่ชักดาบออกมาตั้งแต่แรก เป้าหมายก็เพื่อที่จะปะทะกับหลงฝู!
“สังหารมังกรคลุ้มคลั่ง!!!”
“ติ๊ง!”
“ปลดปล่อยสถานะความโชคดีของแหวนมิติ เพิ่มพลังความเสียหายของท่าสังหารมังกรคลุ้มคลั่ง 100%”
“เห?”
“วันนี้แกช่างโชคร้ายซะจริง” หลงเฟยตกใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าจะปลดปล่อยสถานะความโชคดีได้ด้วย เขากัดฟันจนเสียงคำรามดังออกมา
“สะบั้นหนึ่งร้อยห้าสิบครั้ง!!!”
“โครม!”
หลงเฟยใช้มือทั้งสองจับดาบกระดูกมั่น พลังลมปราณเต็มเปี่ยมที่มีอยู่ปลดปล่อยออกมา คำรามเสียงดังว่า
“คว่ำไปซะ!!!”
พลังดาบครั้งที่หนึ่งถูกปลดปล่อย ยกหลงฝูลอยขึ้นไปกลางอากาศ แล้วใช้คมดาบอีกหนึ่งร้อยสี่สิบเก้าครั้ง ฟาดฟันร่างนั้นลงมาได้ ภายในชั่วพริบตาเดียว
“สวบ สวบ สวบ!”
แรงดันของคมดาบกระดูกที่ดูธรรมดา ตัดร่างของหลงฝูอย่างบ้าคลั่ง
ในชั่วพริบตาเดียวร่างกายของเขาก็แหลกละเอียดเป็นชิ้น ๆ เลือดสด ๆ ก็หยดลงที่พื้นราวกับสายฝน
คนทั้งลานประลองต่างก็มองขึ้นไปบนฟ้ารับรู้ได้ถึงความร้ายกาจของเพลงดาบนี้!
พวกเขาต่างเหมือนถูกแรงดันดาบกดดันให้หยุดนิ่งอยู่กับที่
-โปรดติดตามตอนต่อไป-
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว