กรุ๊งกริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง
ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าวิ่งอย่างรวดเร็วผสานกับเสียงกระดิ่งดังเป็นจังหวะชวนฉงนฉงายยิ่งนักคล้ายเสียงนี้ดังมาจากฟ้าสวรรค์
“คุณชาย เข้าไปหลบซ่อนตรงนั้นเร็วเข้า!” เสียงหวานใสของเด็กหญิงวัยไม่เกินสิบสองหนาวบอกเด็กชายหน้ามนที่สวมอาภรณ์ขาวสะอาดแต่ยามนี้สกปรกมอมแมมเลอะเทอะไปด้วยคราบน้ำโคลนจากการวิ่งหลบหนีมือสังหารอย่างล้มลุกคลุกคลานตามลำพังมาตลอดทาง
เด็กหญิงวัยไม่เกินสิบสองหนาวพบเห็นเขาเข้าระหว่างหลบหนี นางถึงกับถลันวิ่งไปคว้าข้อมือเขาแล้วพาหลบหนีมือสังหารมาด้วยกัน ก่อนจะพากันกระโดดเข้าไปในพงหญ้าข้างทางที่สูงจนท่วมมิดหัว
แต่ทว่า...แทนที่เด็กหญิงจะซ่อนตัวพร้อมกับเขา นางกลับบอกว่า
“ข้าจะออกไปหลอกล่อพวกมันไปทางอื่น คุณชายจงซ่อนตัวอยู่ที่นี่อย่าไปไหน รอจนข้ากลับมา ข้าจะพาท่านไปร้องทุกข์ต่อเจ้าเมืองเรื่องที่มีคนไล่ล่าสังหารท่าน ข้าจะเป็นพยานช่วยท่านอีกแรง”
แล้วเด็กหญิงตัวน้อยก็เดินออกจากพงหญ้า ไม่ฟังเสียงร้องปรามของเขาแม้แต่น้อย
“ไม่...ไม่...เจ้าอย่าออกไป พวกมันจะฆ่าเจ้า!”
แต่ทว่า...สิ่งที่เด็กหญิงผู้นั้นทำคือการหันกลับมายิ้มอ่อนหวานให้เขาอย่างมั่นอกมั่นใจ
แต่ทว่า...หลังจากนั้น...เขาก็ไม่มีโอกาสได้เจอนางอีกเลย!!!
นอกเหนือจากรอยยิ้มหวานล้ำของนางแล้ว มีอีกสิ่งหนึ่งที่เขาจดจำได้ขึ้นใจคือเสียงกระดิ่งที่ดังกรุ๊งกริ๊งขณะนางวิ่งออกไปหลอกล่อมือสังหารนับสิบนาย!!!