จำเลยท่านอ๋องเย็นชา
จำเลยท่านอ๋องเย็นชา
รักโรแมนติก
pusshunkayan
heartฝากนิยายเรื่องใหม่ด้วยนะคะheart ในอดีต...นางตัดวาสนารักกับเขาเพราะเขานอกใจนาง นึกไม่ถึง...ห้าปีผ่านไป อดีตชายคนรักซึ่งเป็นพวกกางเกงแพร จะกลับกลายมาเป็นต้าเจียงจวินผู้เกรียงไกรของแคว้น ยามนี้นางตกอับต้องกลายมาเป็นทาสรับใช้ในจวนของเขา หากมิใช่ว่านางอยากสืบเรื่องการก่อกบฏของบิดา นางคงยอมเชือดคอตายดีกว่า ต้องปล่อยให้ตัวเองถูกอดีตคนรักหนุ่มข่มเหงน้ำใจไม่เว้นแต่ละวัน!!! ป.ลิง เรื่องนี้เขียนไม่เกินสี่เล่มจบค่ะ เล่ม 1 กำลังจะวางขายเร็วๆนี้แล้ว จัดทำโปรโมชั่นสามวันค่ะ แล้วจะมาแจ้งอย่างเร่งด่วนนะคะ ทันทีที่อีบุ๊ควางขายและเพื่อนๆสนใจอยากซื้ออ่านเก็บไว้นะคะ
  • 25 ตอน
  • 607
นิยายโดย
  • 38 เรื่อง
  • |
  • 30 คนติดตาม
  • Tag
  • #
บทนำ

ใครๆในเมืองหลวงต่างรู้กันทั่วว่าบุตรชายคนเดียวของหลู่กั๋วกง ผู้เป็นถึงพระสัสสุระของฮ่องเต้และยังเป็นนักรบผู้ยิ่งใหญ่ของแคว้นจิน เป็นบุรุษเสเพล แต่กับได้หมั้นหมายกับเจินอี้ลั่ว บุตรสาวของแม่ทัพใหญ่แดนบูรพาตั้งแต่วัยเยาว์ ซึ่งเมื่อเจินอี้ลั่วเติบโตขึ้น นางก็กลายเป็นสาวงามที่สุดในใต้หล้ายิ่งกว่าหลู่หวงกุ้ยเฟย...พี่สาวของหลู่ชิงซาน

แต่ทว่า...หลู่ชิงซานเกียจคร้านในการงาน ชอบเข้าบ่อนเป็นอาจินต์ หมกมุ่นอยู่กับการดื่มสุราและใช้เงินราวกับเบี้ยไปกับสิ่งของหรูหราฟุ่มเฟือย ย่ามใจว่าถึงอย่างไรตนก็จะได้ครอบครองเจินอี้ลั่วสาวหยกแห่งต้าจินอยู่แล้ว เขาจึงทำสิ่งใดไม่เคยให้เกียรติคนสกุลเจินหรือไว้หน้าเจินอี้ลั่ว โดยเฉพาะการไปเสพสุขกับนางคณิกา โดยอ้างกับบิดาว่าเพื่อเรียนรู้การร่วมค่ำคืนวสันต์ของชายหญิง

แต่กระนั้น...พฤติกรรมของเขาทำให้ฮ่องเต้ทรงกริ้วอย่างหนัก ถึงขั้นหมางเมินหลู่หวงกุ้ยเฟยนางในดวงใจอยู่ชั่วระยะหนึ่งเพราะหลู่หวงกุ้ยเฟยพยายามพูดจาปกป้องน้องชายตนแต่ถ่ายเดียว แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าหลู่ชิงซานนำแต่ความเสื่อมเสียมาให้คนตระกูลหลู่

จวบจนกระทั่ง...หลู่หวงกุ้ยเฟยถูกสั่งกักขังในตำหนักเป็นระยะเวลาหกเดือน หลู่ชิงซานจึงคิดได้ กลับตัวกลับใจใหม่

เริ่มให้ความเอาใจใส่เจินอี้ลั่ว เลิกเล่นการพนัน เลิกมัวเมาสุราเคล้านารี แต่ทว่า...เจินอี้ลั่วและคนสกุลเจินก็มิได้อยากเกี่ยวดองกับคนตระกูลหลู่อีกต่อไปแล้ว เพราะพวกเขาต้องทนรับความอับอายมามากเกินพอ

ดังนั้น...คืนวันหนึ่งที่หิมะตกลงมาเป็นฝอย หลู่ชิงซานก็มาดักรอเจินอี้ลั่วที่ออกไปเดินเที่ยวเล่นกับสาวใช้ในตลาด เพื่อจะนำจี้หยกแมวมามอบให้นางเป็นของแทนใจ หลังรับรู้ว่าเจินอี้ลั่วกำลังเปิดใจให้กับบุรุษผู้หนึ่ง ซึ่งเป็นทหารยศจงหลางเจี้ยน[1]ในสังกัดของทัพบูรพาของแม่ทัพใหญ่เจินอี้เฉียน

อีกทั้งหลู่กั๋วกงยังได้ยินวงในเล่าลือกันว่าฮ่องเต้จะพระราชทานราชโองการสมรสแก่เจินอี้ลั่วกับแม่ทัพจงหลางผู้นี้อีกด้วย

ทำให้หลู่ชิงซานอดรนทนไม่ไหว ต้องมาก่อร่างสร้างความสัมพันธ์และขอโทษเจินอี้ลั่วด้วยใจจริง เพราะเขารู้ดีว่าเจินอี้ลั่วเคยให้อภัยเขามาหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขาไม่เอาถ่าน เรื่องที่เขาชอบเข้าบ่อนพนันหรือชอบดื่มสุราอย่างหนัก

แต่เรื่องเดียวที่เจินอี้ลั่วโกรธจนไม่ยอมพบหน้าเขาอีกคือการที่นางรู้ว่าเขาใช้บริการหญิงคณิกา ซึ่งหญิงคณิกานางนี้พอพบเจอหน้าเจินอี้ลั่วก็จะแกล้งพูดจาเหน็บแหนมเจินอี้ลั่วว่าเป็นถึงสาวหยกแต่กับมัดใจคู่หมั้นหนุ่มเอาไว้มิได้จนเขาต้องมาขอใช้บริการนาง

หลู่ชิงซานทำการขับไล่นางคณิกาคนนั้นออกจากหอนางโลมโดยอาศัยอำนาจของบิดา และการที่ตนจะได้สืบทอดตำแหน่งกั๋วกงในอนาคต ซึ่งถ้าหอคณิกาแห่งนั้นกล้าเป็นศัตรูกับคนสกุลหลู่ ย่อมไม่มีวันทำการค้าเจริญก้าวหน้า คณิกานางนั้นจึงถูกจับโยนออกจากเมืองหลวงในสภาพสิ้นไร้ไม้ตอก

แต่ไม่มีใครรู้ความจริงที่ว่า...หลู่ชิงซานใช้บริการคณิกานางนั้นเพียงเพื่อให้นางนำหนังสือปักษาวสันต์มาให้เขาอ่านดูและพิจารณาวิธีการร่วมหอของชายหญิง เขาไม่เคยแตะต้องคณิกานางนั้นแม้แต่ปลายเล็บ!

แต่พูดไปคงไม่มีใครเชื่อน้ำคำของเขาแม้แต่เจินอี้ลั่วในเมื่อเขาเป็นบุรุษเสเพลตัวพ่อแห่งต้าจิน!


“นางจะรับหยกแมวของข้าไหมหนอ จะยอมรับไหมหนอ???” หลู่ชิงซานพูดพร่ำราวกับคนสติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว พลางเดินไปมาอยู่หน้าประตูจวนบานใหญ่ของสกุลเจินที่ปิดสนิทในช่วงเวลาโพล้เพล้เหมือนหนูติดจั่น เขาเดินวนไปวนมาไม่สนใจหิมะที่ตกลงมาเป็นละอองฝอย อีกทั้งตนยังมิได้สวมเสื้อคลุมกันหนาวอีกด้วยเพราะมิได้คิดล่วงหน้าว่าหิมะจะตกลงมา เขาหันมองไปทางโน่นทีทางนี้ทีโดยเฉพาะทางฝั่งตลาดตะวันตก หมายจะเห็นร่างอ้อนแอ้นของเจินอี้ลั่วเดินกลับมาพร้อมกับจูลิ่ง...สาวใช้คนสนิท

พลัน...

มีสามร่างเดินตรงมาอย่างไม่เร่งไม่ร้อน หนึ่งในนั้นเป็นบุรุษรูปร่างสูงใหญ่กำยำสวมชุดเกราะเดินด้วยท่าทีทระนงองอาจ หน้าตาหล่อเหลาหมดจดงดงาม

ภายในใจของหลู่ชิงซานพลันเต็มไปด้วยความหึงหวงเหมือนไหน้ำส้มพันไหถูกตีแตก เพราะบุรุษผู้นั้นกำลังเดินเคียงข้างเจินอี้ลั่วและพูดจาหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างน่าเอ็นดู แต่ในสายตาของหลู่ชิงซาน...เขาเห็นเป็นภาพที่บาดตาบาดใจยิ่งนัก

“คุณหนู...หลู่ซื่อจื่อเจ้าค่ะ”

หลู่ชิงซานได้ยินเสียงจูลิ่งพูด นางชี้นิ้วมาที่เขา เขาจึงไม่รอช้ารีบเดินลิ่วๆตรงไปหาคนทั้งสามที่หยุดเดินแล้วมองจ้องเขาเดินตรงมาด้วยสีหน้าเรียบสนิท

ก่อนหลู่ชิงซานจะเดินไปถึงตัวพวกเขา บุรุษในชุดเกราะก็หมุนตัวมาประสานมือคำนับเจินอี้ลั่วพลางกล่าวว่า

“คุณหนูเจิน ข้ากลับก่อน”

“ใต้เท้าหวัง...เชิญ” เจินอี้ลั่วบอกพร้อมกับยิ้มน้อยๆ

หวังฉิงเหอเหลือบมองมาทางหลู่ชิงซานแวบหนึ่งก็เดินจากไปทางด้านหลัง เพราะเขาตั้งใจมาส่งนางในดวงใจที่จวน เมื่อพบว่าคู่หมั้นของนางในดวงใจมายืนรอ ก็รู้ว่าเป็นการไม่สมควรที่จะอยู่ประจันหน้ากัน จะสร้างความลำบากใจให้กับเจินอี้ลั่วเปล่าๆ ซ้ำชาวบ้านจะมองนางในแง่ไม่ดีเอาได้

“ลั่วเอ๋อร์...” หลู่ชิงซานทำใจดีสู้เสือเดินเข้าไปหาคู่หมั้นสาวที่ตนรักแต่กลับทอดทิ้งละเลยเพราะความหยิ่งจองหองของตัวเอง ชูจี้หยกแมวสีเขียวมีริ้วลายสีม่วงแซมในเนื้อหยกซึ่งบ่งบอกว่าเป็นหยกหายากชั้นดีมีราคาแพงลิบ พลางยิ้มกว้างอย่างไร้เดียงสา ในขณะที่อีกฝ่ายมองเขาด้วยสายตาเย็นยะเยียบยิ่งกว่าน้ำแข็งหรือปุยหิมะที่กำลังทยอยตกลงมาเป็นหิมะขนห่านในไม่ช้านี้

“ข้านำหยกแมวของเสด็จพี่หญิงมามอบให้เจ้า หยกแมวชิ้นนี้มีสองชิ้น ชิ้นหนึ่งเสด็จพี่หญิงเก็บไว้เป็นของแทนใจของฝ่าบาท อีกชิ้นเสด็จพี่หญิงมอบให้ข้านำมามอบให้เจ้าเป็นของแทนใจ และเพื่อขอขมาเจ้าด้วยที่ตลอดเวลาหลายปีข้าทำไม่ดีต่อเจ้า ละเลยเจ้าและสร้างความเสื่อมเสียให้กับคนสกุลเจินมานาน”

“ท่านเพิ่งรู้หรือ...หลู่ซื่อจื่อ!?” คำเรียกขานของเจินอี้ลั่วทำให้หลู่ชิงซานถึงกับผวา ตัวเย็นเฉียบด้วยความตื่นกลัวว่าสิ่งที่เขาคิดเอาไว้จะเกิดขึ้นจริงๆ

เพราะทุกครั้งที่เขาแวะมาเยี่ยมเยียนเจินอี้ลั่วที่จวน นางจะเรียกเขาว่า ‘อาซาน’เสมอ ด้วยรู้จักมักคุ้นกันตั้งแต่เด็กก่อนหมั้นหมายกันเสียอีก

และเป็นเขานี่แหละที่ตื้อบิดาขอให้ตนได้หมั้นหมายกับเจินอี้ลั่ว บุตรสาวของสหายสนิทบิดา

“ข้า...ข้า...” หลู่ชิงซานพูดไม่ออก ได้แต่กลืนน้ำลายลงคออึกแล้วอึกเล่า พอเห็นจูลิ่งเดินไปเคาะบานประตู และประตูค่อยๆเปิดออกทีละน้อย

หลู่ชิงซานก็สะอึกกายเข้าไปหาเจินอี้ลั่ว ถือวิสาสะคว้ามือของนางแล้วหย่อนจี้หยกแมวลงใจกลางฝ่ามือ เจินอี้ลั่วจำเป็นต้องยอมรับจี้หยกแมวพระราชทานของหวงกุ้ยเฟย นางจึงเก็บไว้ ก่อนจะ

เผียะ!!!

“ต่อให้ท่านเป็นถึงคู่หมั้นของข้าก็ไม่มีสิทธิ์มาแตะเนื้อต้องตัวข้า” เจินอี้ลั่วตวาดเสียงกราดเกรี้ยว นางไม่สนใจมองใบหน้าคร้ามคมหล่อเหลาเป็นเอกแห่งต้าจินที่ก้มลงมองพื้น เห็นรอยปื้นแดงของนิ้วทั้งห้าอย่างชัดเจน

“คู่หมั้นของท่านได้ตายไปแล้ว ตายไปตั้งแต่วันที่ท่านเสพสมกับนางคณิกาผู้นั้นแล้ว หลู่ซื่อจื่อ...ท่านคงจำคำสัญญาวัยเยาว์มิได้ว่าท่านจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสตรีใด หากท่านข้องเกี่ยวกับพวกนาง ข้ามีสิทธิ์ขอตัดความสัมพันธ์จากท่านได้ทันที

ดังนั้น...วันนี้...เราสองคนคงไม่มีโอกาสได้แต่งงานกันอีก!!!”

แล้วจูลิ่งก็วิ่งลงบันไดห้าขั้นดังตึกๆเพื่อประคองเจินอี้ลั่วเดินเข้าไปข้างในจวน

หลู่ชิงซานหมายจะตามเข้าไปปรับความเข้าใจกับนาง แต่จูลิ่งกับร้องบอกว่า

“อย่าให้คนผู้นั้นเข้ามาในจวนได้ คุณหนูกำลังไม่สบาย ต้องการการพักผ่อน”

ด้วยเหตุนี้...หลู่ชิงซานจึงถูกบ่าวเฝ้าประตูสองคนกับบ่าวเฝ้าข้างในประตูอีกสองคนยื้อยุดฉุดกระชากเอาไว้ เขาได้แต่ส่งเสียงร้องตะโกนอย่างสิ้นหวังว่า

“ลั่วเอ๋อร์...เจ้าเข้าใจข้าผิดแล้ว ข้าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสตรีใด ข้าไม่เคย...!”

แล้วประตูจวนก็ถูกหับปิดสนิทพร้อมลงกลอนจากด้านในหลังบ่าวสี่คนเข้าไปในจวน ทิ้งให้หลู่ชิงซานนั่งคุกเข่าตากหิมะที่ตกลงมาอย่างหนักจนใกล้จะเป็นหิมะขนห่าน ความหนาวเย็นเสียดกระดูกทำให้หลู่ชิงซานหมดแรง จนล้มลงนอนพังพาบไปกับพื้น หลู่ชิงซานรู้สึกตนกำลังตกอยู่ในขุมนรกทั้งเป็นก็มิปาน

รู้สึกตัวอีกที เขาก็พบว่าตนนอนอยู่ในห้องพักของตัวเอง มีกลิ่นยาลอยตลบอบอวลไปทั่ว แต่ไม่มีใครอยู่ในห้องสักคนเดียวนอกจากเขา

กระนั้นเขาก็ได้ยินเสียงพูดคุยสนทนาเบาๆที่หน้าประตูเรือนพักว่า

“ศึกนี้เป็นศึกใหญ่...ท่านกั๋วกงก็อายุมากแล้ว จะต่อสู้กับแม่ทัพหนุ่มของแคว้นชิงได้หรือไม่ก็สุดรู้ รู้แต่ว่าเพราะซื่อจื่อก่อเหตุไว้มากมาย หวงกุ้ยเฟยจึงขอขันอาสานำทัพสู้ศึกกับแคว้นชิงพร้อมนายท่าน เพื่อสกุลหลู่จะได้ไม่ต้องมัวหมองอยู่ทุกวันนี้ เฮ้อ...ซื่อจื่อหนอซื่อจื่อ ทำตัวสำมะเลเทเมายังไม่พอ ยังคิดไปลวนลามคุณหนูเจินที่หน้าจวนของนางอีก

อย่างงี้...ฝ่าบาทจะไม่ทรงกริ้วหนักได้อย่างไร ฮองเฮาจึงกลับมาเป็นที่โปรดปรานอีกครั้งแล้ว!!!”

ข้าน่ะหรือลวนลามลั่วเอ๋อร์...ฮึก ข้าถูกใส่ความแล้ว

เสด็จพี่หญิง ท่านพ่อ น้องชายและลูกอกตัญญูคนนี้ทำให้พวกท่านต้องลำบากแล้ว แต่อย่าห่วงเลย ข้ากลับใจแล้ว ข้าจะไปออกรบพร้อมพวกท่านด้วย!!!



[1] รองแม่ทัพ

เกี่ยวกับนักเขียน
38 เรื่อง 30 คนติดตาม
นิยายเรื่องอื่นของpusshunkayan