“วันพรุ่งนี้ ท่านพี่จะกลับมาจากแนวรบแล้ว...” เฉิงเสี่ยวเม่ยพูดกับอาป๋อ สาวใช้คนสนิทวัยเดียวกันด้วยสีหน้าที่แต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มเบิกบานสดใส ก่อนจะค่อยๆสอดกระดาษจดหมายเข้าไปในซองอีกครั้ง
“ดีจังเลยนะเจ้าคะ คุณหนู ต่อไปก็ไม่มีใครกล้ารังแกคุณหนูอีกแล้ว” อาป๋อยิ้มแป้น ช่วยทุบไหล่บอบบางให้อย่างดีอกดีใจ
“พอคุณชายใหญ่กลับมา คุณหนูใหญ่ก็จะไม่กล้าแตะต้องคุณหนูอีก”
เฉิงเสี่ยวเม่ยยิ้ม แต่ในใจกลับคิดว่า
ไม่กล้าแตะต้องเหรอ...นางจะทำร้ายข้าในวันนี้ต่างหาก แล้วข้าก็ต้องระเห็จไปอยู่บ้านนอกกับอาป๋อตามลำพังสองคนนายบ่าวก่อนพี่ชายจะกลับมาถึงจวน ส่วนพี่ชายใหญ่ก็จะชิงชังคนสกุลเฉิงไปชั่วชีวิต เพราะหลังจากนั้นข้าก็ล้มป่วยตายด้วยโรคหวัดกับการขาดสารอาหาร เพราะฮูหยินรองไม่ยอมส่งข้าวส่งน้ำมาให้ข้ากับอาป๋อกินตามคำสั่งของบิดาผู้ใจจืดใจดำ เข้าข้างแต่ลูกสาวคนโตตะพึดตะพือ เพียงเพราะนางเป็นลูกสาวของสตรีที่ตนรักอีกทั้งยังเก่งกาจศาสตร์ทั้งสี่
ส่วนนางวันๆเอาแต่เที่ยวเล่น ไม่ได้รับการสอนสั่งเรื่องใดๆทั้งสิ้น อย่าว่าแต่อ่านหนังสือสักตัวเลย นางอ่านได้แค่ไม่กี่ตัวอักษรด้วยซ้ำ หากไม่ใช่เพราะฮูหยินใหญ่...มารดาของนางล้มป่วยเจ็บออดๆแอดๆ ได้แต่นอนติดเตียงดื่มยาวันละสามมื้อ จนเนื้อตัวเต็มไปด้วยกลิ่นยาสมุนไพรจนฉุนจมูก เพราะตรอมใจที่บิดารับคนรักในวัยเยาว์เข้ามาเป็นฮูหยินรอง ทันทีที่ท่านย่าลาลับจากโลกนี้ไปเพียงเจ็ดวัน
ที่ข้ารู้เหตุการณ์ล่วงหน้าเช่นนี้...เพราะข้าเป็นอดีตสหายในวัยเยาว์ของเฉิงเสี่ยวเม่ย ข้าเองนั้นก็ได้ลาลับจากโลกนี้ไปเพราะตระกูลของข้าถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏตายก่อนเฉิงเสี่ยวเม่ยไปได้หกเดือน
ข้า...ผู้เป็นแม่ทัพหญิงน้อยเพิ่งพ้นวัยปักปิ่นเพียงสองปีต้องอำลาจากโลกนี้ไปด้วยโทษประหาร พกพาความคับแค้นใจไปยังปรโลก คิดไม่ถึงยมบาลจะเมตตาให้วิญญาณของข้าได้เดินทางย้อนเวลากลับมาสิงอยู่ในร่างของเฉิงเสี่ยวเม่ยที่ยมบาลนำพาวิญญาณทุกข์ระทมของนางไปยังแดนสวรรค์ล่วงหน้าโดยที่คนในจวนสกุลเฉิงไม่มีใครสักคนรู้ว่าเฉิงเสี่ยวเม่ยนอนตายอย่างสงบเพราะโรคลมหนาวที่นางล้มป่วยมาตั้งแต่เล็ก
เฉิงเสี่ยวเม่ยหรือหลี่ไป๋ลู่หยิบเซาม่าย[1]ปล่อยให้อาป๋อบีบนวดหลังไหล่
ดวงตาของนางวาววับเมื่อคิดถึงเรื่องที่จะเกิดกับเฉิงเสี่ยวเม่ยตัวจริงที่ยมบาลปล่อยเวลาให้นางมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกหนึ่งเดือน หากมิใช่เพราะคำร้องเรียนของนางที่อยากทวงความเป็นธรรมให้กับคนสกุลหลี่ เฉิงเสี่ยวเม่ยคงยังต้องทนทุกข์ทรมานต่อไปอย่างโดดเดี่ยวและตายอย่างทรมาน ถือได้ว่าการแทรกแซงของสวรรค์ในครั้งนี้ นับเป็นพรแก่วิญญาณเฉิงเสี่ยวเม่ยที่ได้เป็นเทพธิดาในแดนเซียนไปนานแล้ว
ดังนั้น ในเมื่อข้ารู้เหตุการณ์ล่วงหน้าที่จะเกิดขึ้นเกี่ยวกับบั้นปลายชีวิตของเฉิงเสี่ยวเม่ย เช่นนั้น...เรื่องอะไรข้าจะยอมระเห็จไปอยู่บ้านนอกเพื่อต้องตายซ้ำสองเล่า!
สำหรับข้า...ใครดีมาข้าดีตอบ ใครร้ายมาข้าร้ายตอบ
ส่วนข้าจะยอมความหรือไม่...ขึ้นอยู่กับว่าเอาเงินมากองตรงหน้าข้ามากเพียงพอหรือไม่!
“ฮ่าๆๆๆๆ” เพียงคิด เฉิงเสี่ยวเม่ยก็หัวเราะอย่างครึ้มอกครึ้มใจ จนอาป๋อที่กำลังบีบนวดไหล่นึกว่าคุณหนูดีใจเรื่องพี่ชาย จึงผสมโรงร่วมหัวเราะตามไปด้วย
เฉิงเสี่ยวเม่ยแหงนคอมองอาป๋อหลังจากกลืนเสียงหัวเราะลงท้อง ถามงงๆว่า
“เจ้าหัวเราะทำไม?”
อาป๋องุนงง ยกมือเกาหัวแกรกๆ “อ่า...ก็หัวเราะตามคุณหนูไงล่ะเจ้าคะ คุณหนูมีความสุขข้าก็มีความสุขตามไปด้วย”
“อ้อ นั่นสินะ” เฉิงเสี่ยวเม่ยตบหลังมือของอาป๋อที่บีบนวดไหล่ให้นางต่อไป
ความจริงที่นางหัวเราะออกมานั้น เพราะรู้ว่า...แท้จริง พี่ชายใหญ่จะกลับมาถึงจวนในวันนี้ตอนยามเว่ย (13.00-15.00 น.) ซึ่งนางวางแผนเอาไว้แล้วว่าจะจัดการกับคุณหนูใหญ่เฉิงอี้หลวนอย่างไร!!!
[1] ขนมจีบ