วิญญาณของไป๋ซูลี่ยืนมองดูภาพตรงหน้าด้วยความเศร้ารันทดหดหู่และเคียดแค้นชิงชังสุดประมาณ ขณะเห็นบุตรชายวัยห้าหนาวของนางกำลังวิ่งร้องเรียกบิดาผู้เป็นแม่ทัพใหญ่ขี่ม้าออกจากประตูกำแพงเมืองไปชนิดไม่เหลียวหลัง
“ท่านป้อ ท่านป้อรอลูกกับท่านแป้ล่วย...!!!”
ไป๋ซูลี่รู้ว่าคราวิญญาณนั้นร้องไห้ย่อมไร้น้ำตา แต่นางรู้สึกถึงหัวใจที่บีบรัดหดเกร็งจนน้ำตาหลั่งรินในอกดุจกองโลหิตย่อมใหญ่ที่ทั่งท้นในช่องอก เมื่อเห็นทหารฝ่ายศัตรูเสือกดาบแทงทะลุอกของเฮยเจียงซู...บุตรชายคนเดียวของนางกับเฮยเจียงหลง แม่ทัพใหญ่แห่งทัพอุดร
“อั๊ก!!!” เฮยเจียงซูล้มคะมำหน้าคว่ำกับพื้น ตายในทันที ขณะที่ร่างบอบบางผ่ายผอมอันมีเนื้อหนังของนางวิ่งตามหลังบุตรชายมาติดๆ ต้องทรุดเข่าลงฮวบกรีดร้องโหยหวน ดึงให้ทหารข้าศึกหันมามอง ก่อนพวกมันจะพากันกระตุกยิ้มมุมปากและเลียริมฝีปากด้วยท่วงท่าชั่วร้ายและน่าสะอิดสะเอียน
นางได้ยินเสียงพวกมันพูดกันว่า “สตรีผู้นั้นงามยิ่งนัก เราผลัดกันชื่นชมนางเถิด ฮาฮาฮา”
แล้วไป๋ซูลี่ก็มองร่างของตนถูกทหารกลัดมันนับสิบนายรุมโทรมข่มขืนกลางถนนที่เต็มไปด้วยซากศพของชาวเมืองเว่ยโจว เมืองตอนเหนือของแคว้นเว่ย เพราะนางหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ไม่คิดจะขัดขืนต่อสู้อีกต่อไป
วิญญาณของไป๋ซูลี่ยังจดจำคำพูดของเจียเป่า...ขุนศึกคนสนิทของเฮยเจียงหลงที่สั่งให้นางกับลูกซ่อนตัวอยู่ในตู้เสื้อผ้าภายในเรือนท้ายจวนของจวนสกุลเฮยได้ขึ้นใจ
เจียเป่าบอกว่าหากนายท่านเข่นฆ่าผลักดันข้าศึกออกจากเมืองไปได้แล้วจะย้อนกลับมารับพวกนางไปซ่อนตัวอยู่ที่เมืองเล็กๆ ที่ไม่มีใครรู้จักเพราะเป็นที่ตั้งขุมกำลังหลักของทัพอุดร
แต่ผ่านไปหลายชั่วยาม จนนางกับลูกน้อยไม่ได้ยินเสียงฆ่าฟันจึงค่อยๆ พากันคลานออกจากตู้ พอเปิดประตูออกมาก็พบว่าฟ้ามืดสนิทแล้ว
พวกนางสองแม่ลูกพากันจูงมือกันเดินออกจากจวนสกุลเฮยที่บัดนี้กลายเป็นจวนร้างไปแล้วเพราะบ่าวไพร่พากันหลบหนีไปหมด
พวกนางสองแม่ลูกพากันเดินลิ่วๆ เข้าไปในตัวตลาด จึงเห็นว่ายังมีการสู้รบฆ่าฟันกันอยู่ จึงพากันหลบซ่อนตัวอยู่ด้านหลังรถเข็นกระสอบข้าวสาร
ตอนนั้นเองที่เฮยเจียงซูมองเห็นบิดาสังหารทหารม้าของทัพโจวตายตกไปคนหนึ่งแล้วหันหัวม้าควบทะยานออกจากประตูกำแพงเมืองทิศเหนือ เฮยเจียงซูตื่นตระหนกตกใจคิดว่าบิดาจะละทิ้งตนกับมารดา จึงรีบวิ่งพรวดออกไปร้องเรียกเสียงดังที่สุดเท่าที่เสียงของเด็กวัยห้าหนาวจะดังได้
แต่ทว่า...เฮยเจียงหลงก็ไม่หันกลับมามองพวกนางสองแม่ลูกแม้แต่น้อย จนทำให้นางสังหรณ์ใจว่าหลายเดือนมานี้เฮยเจียงหลงเย็นชากับนางกับลูกยิ่งนัก ตั้งแต่มารดาของเขาจะให้เขาแต่งฮูหยินรอง ซึ่งเป็นรองแม่ทัพในกองกำลังอุดรและเป็นถึงสาวงามผู้หนึ่งของเมืองเว่ยโจว เขาจึงไม่สนใจว่าลูกเมียของเขาจะอยู่หรือตายใช่หรือไม่
ด้วยเหตุนี้...ไป๋ซูลี่จึงสลัดความคิดน้อยเนื้อต่ำใจสุดฤทธิ์ ตัดสินใจวิ่งพรวดออกไปหมายจะคว้าตัวลูกน้อยแล้วพากันหลบหนีออกจากเมืองเว่ยโจวใช้ชีวิตกันตามลำพังสองคนแม่ลูก
แต่นึกไม่ถึงว่า...ฟ้าสวรรค์จะไม่เมตตาพวกนาง ปล่อยให้พวกนางสองแม่ลูกต้องตายอนาจอย่างไร้เกียรติราวกับสุนัขกลางตลาดตัวหนึ่ง
วิญญาณของไป๋ซูลี่กรีดร้องโหยหวนดังลั่นปฐพีเมื่อมองภาพอันน่าเวทนาของพวกตน นางสัญญากับตัวเองว่า...หากเมื่อไหร่ที่เฮยเจียงหลงสิ้นชีวิต นางจะเป็นวิญญาณผูกอาฆาตพยาบาทเขาในปรโลกไปชั่วนิรันดร์!!!