โทษที ! พี่มากับระบบ x100-ตอนที่ 102 

โดย  จาตุรนต์ ตาแว่นฟ้า โพธิ์ศรี

โทษที ! พี่มากับระบบ x100

ตอนที่ 102 

กรุ๋งกริ๋ง กรุ๋งกริ๋ง

เสียงกระดิ่งที่ดังลอยมาตามลมพร้อมกับเสียงฝีเท้าม้าผ่านหน้าตำหนักหงหวั่นของถานเสียนเฟย สร้างความปวดร้าวและคลั่งแค้นใจสุดประมาณให้กับผู้ที่ได้ยิน ถึงกับกัดริมฝีปากจนห้อเลือด เล็บทั้งสิบจิกฝังเข้าไปในเนื้อฝ่ามือ

“สนมคนใดไปรับใช้ฝ่าบาท?” ถานจิ่วจิ่วถามนางกำนัลรับใช้ที่เจี๋ยเฟยส่งมาร่วมดูแลนางกับฉู่ฉู่

“คืนนี้เป็นตี๋เสียนเฟยเพคะ” เฉียวเฉียวตอบด้วยน้ำเสียงเจ็บใจไม่แพ้ผู้เป็นนาย เมื่อได้ยินเสียงรถหงส์เหินวสันต์แล่นผ่านหน้าตำหนักไป

เพราะนายสาวมิเคยได้เข้าไปถวายตัวในตำหนักเฉียนคุนสักครั้งเดียวตั้งแต่ได้ดำรงตำแหน่งเสียนเฟย!!!

นับตั้งแต่จิ่งหนานขึ้นครองราชย์ เขาได้แต่งตั้งถานจิ่วจิ่วเป็นเสียนเฟย และยกสตรีอีกสี่นางเป็นสนมตำแหน่งเสียนเฟยเช่นเดียวกัน

หนึ่งในนั้นคือ ตี๋ตี๋ รวมถึงนางกำนัลจากตำหนักเย่ว์เล่อที่เคยถูกถานจิ่วจิ่วเอาน้ำชาร้อนๆสาดหน้าจนใบหน้ามีรอยแผลเป็นบางส่วนก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นเสียนเฟย

แต่จิ่งหนานไม่เคยรับบุตรีขุนนางคนใดเป็นสนมแม้แต่คนเดียว เสียนเฟยทั้งสี่ล้วนเป็นอดีตนางกำนัลรับใช้ในตำหนักเย่ว์เล่อทั้งสิ้น

และเพราะมีตำแหน่งเสียนเฟยเท่าเทียมกับถานจิ่วจิ่ว ถานจิ่วจิ่วจึงไม่สามารถหาทางข่มเหงรังแกพวกนางได้ดั่งใจ

เช่นเดียวกับเจี๋ยเฟยที่พระโอรสไม่ยินยอมแต่งตั้งเป็นไทเฮา โดยอ้างกฎมณเฑียรบาลที่เขาตราขึ้นใหม่ว่า สตรีที่สามารถดำรงตำแหน่งไทเฮาได้จะต้องเคยดำรงตำแหน่งฮองเฮามาก่อนเท่านั้น ด้วยเหตุนี้...เจี๋ยเฟยจึงเป็นได้เพียง...ไท่เฟย สร้างความขุ่นเคืองใจให้กับพระนางมากเกินประมาณ


ตำหนักเฉียนคุน

ภายในโถงรับรอง

ตี๋ตี๋หรือตี๋เสียนเฟยนั่งกินขนมกับดื่มชาอย่างเอร็ดอร่อยอย่างไม่สงวนท่าทีแม้แต่น้อย นางไม่สนใจเหลียวมองจิ่งหนานที่กำลังนั่งตรวจฎีกาอยู่ที่โต๊ะทรงงานซึ่งมีฉากไม้หนาหนักกั้นกลาง ทั้งที่เขาสมควรไปนั่งตรวจฎีกาในห้องทรงพระอักษรมากกว่า แต่เพื่อให้เป็นไปตามแผนการเอาคืนถานจิ่วจิ่ว จิ่งหนานจึงแสร้งมีรับสั่งเรียกตัวตี๋เสียนเฟยมา ‘รับใช้’

เจียนห่าวที่ถูกตามตัวกลับมาจากบ้านนอกเพื่อมาเป็นมหาขันทีรับใช้จิ่งหนานมองตี๋ตี๋แล้วก็ส่ายหน้าเอ็นดู

“ขนมเลอะปากไปหมดแล้ว ตี๋ตี๋” เจียนห่าวเรียกชื่อจริงของนาง เพราะรู้ดีว่าเสียนเฟยทั้งสี่คน แท้จริงเป็นตำแหน่งหลอกๆที่ตั้งขึ้นมาเพื่อตบตาถานจิ่วจิ่วกับเจี๋ยไท่เฟย

ตี๋ตี๋รีบใช้หลังแขนเช็ดคราบขนมก่อนจะยิ้มแฉ่ง พลางถามว่า “คืนนี้ข้าน้อยต้องนอนห้องไหนเจ้าคะ เจียนกงกง?”

“เดี๋ยวเราให้เจ้าไปพักห้องข้าง” เสียงทรงอำนาจของจิ่งหนานดังลอดออกมาจากฉากกั้นไม้

ตี๋ตี๋พยักหน้า ก่อนถามกลับไปว่า “แล้วฝ่าบาทได้ข่าวคราวของฮองเฮาหรือยังเพคะ?”

แม้ถานซงลี่ยังตามหาตัวไม่พบและยังไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นฮองเฮา แต่เสียนเฟยจอมปลอมทั้งสี่ต่างเรียกนางอย่างให้เกียรติว่า ฮองเฮา

พวกนางเฝ้าคอยที่จะได้รับใช้ถานซงลี่กันอย่างใจจดใจจ่อ

“เราตามหาจนสุดหล้าแล้วก็ยังไม่พบนาง” เสียงตอบของจิ่งหนานแฝงไว้ด้วยความโศกเศร้าถึงร้อยส่วน

ตี๋ตี๋พลันเจ็บปวดยอกแสยงใจมิแพ้กัน ก่อนนางจะพูดไปตามประสาว่า

“หม่อมฉันเรียนมาน้อยก็จริง แต่ก็เคยได้ยินคำพังเพยที่ว่าที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด หรือบางที...ฮองเฮาอาจจะอยู่ใต้พระนาสิกฝ่าบาทก็ได้นะเพคะ?”

บังเกิดความเงียบงันขึ้นมาชั่วครู่หนึ่ง ก่อนเสียงทุ้มห้าวจะเปรยออกมาอย่างมีความหวังหลายสิบส่วนว่า

“ตี๋ตี๋...เจ้าฉลาดจริงๆ หากเจ้าไม่พูดเราก็ลืมนึกถึงข้อนี้ไปเลย!”

ตี๋ตี๋ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ยิ่งเอ่ยสนับสนุนอีกว่า

“เช่นนั้นพรุ่งนี้ฝ่าบาทลองออกจากวัง ไปเดินเล่นในตลาดหรือขี่ม้าออกนอกเมืองในระยะห้าสิบลี้ดีหรือไม่เพคะ บางทีฮองเฮาอาจจะซ่อนตัวอยู่ในป่าที่ไม่ใช่ที่ตั้งของหมู่บ้าน แต่เป็นป่าทึบที่มีเพียงบ้านหลังเดียวซุกซ่อนตัวอยู่ก็เป็นได้”

“ดี เช่นนั้นเราจะออกไปตรวจหาเบาะแสของฮองเฮาในเมืองก่อน หากไม่พบเบาะแสใดๆภายในหนึ่งชั่วยาม เราจะขี่ม้าออกนอกเมืองค้นหานางตามลำพัง”

“ดีเพคะ”


รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว