โทษที ! พี่มากับระบบ x100-ตอนที่ 20

โดย  จาตุรนต์ ตาแว่นฟ้า โพธิ์ศรี

โทษที ! พี่มากับระบบ x100

ตอนที่ 20

ทันทีที่เห็นใบหน้าทาสสาวตัวน้อย

ในห้วงภวังค์ความทรงจำ บุรุษหนุ่มคล้ายได้ยินเสียงกราดเกรี้ยวจากดินแดนแสนไกล

‘ข้ารักเจ้า ซิงเยว่! เพียงเจ้าเท่านั้นที่ข้าไท่หยางต้องการเคียงคู่ร่วมผูกผมเป็นภรรยา’

‘แต่ข้ามิได้รักท่าน เอาสินสอดกลับไป ไม่อย่างนั้นข้าจะฆ่าคนของท่านให้สิ้น’

แน่นอนว่านั่นมิใช่แค่คำขู่ เพราะนางสังหารโหด กลุ่มคนหามหีบหมั้นของเขาตายจนเกลื่อน

“ไสหัวไปซะ! ก่อนที่ข้าจะฆ่าท่านอีกคน!” เนตรงามมองกร้าว บ่งบอกว่าทำได้จริง

แค่นางหยามเกียรติโดยการปฏิเสธอย่างไม่ไว้หน้า แค่นั้นก็ร้ายกาจพอแล้ว แต่นางยังฆ่าคนของเขาเช่นผักปลา

ทั้งยื่นปลายดาบพาดบนลำคอเขาจนเลือดซึม!

หากมิได้รักแล้วเหตุใดบุปผารัตติกาลเช่นเจ้าถึงยอมให้เพียงข้าได้ยลโฉมภายใต้หน้ากากเงิน เหตุใดถึงมอบความหวังจนข้ามั่นใจในสัมพันธ์

การกระทำแน่ชัดว่ารัก แต่กลับสะบั้นสิ้นเยื่อขาดใย

เช่นนี้จะมิให้ข้าแค้นได้อย่างไร...

แววตาบุรุษวูบไหว เผยอารมณ์ซับซ้อน ทั้งโกรธกรุ่นชิงชังทั้งปักใจมิเสื่อมคลาย ฝ่ามือแกร่งคว้าใบหน้างามอย่างหยาบคาย เผลอบีบคางนางแน่นเมื่อใดมิอาจทราบ

สาวน้อยซิงเยว่นิ่วหน้าน้ำตาซึมแต่มิกล้าส่งเสียงเล็ดลอดจากริมฝีปากแห้งผาก

“นายน้อย...”

เสียงทุ้มของจิ้นสิงดึงสติของหลิวไท่หยางให้กลับคืน เรียวนิ้วแกร่งจึงค่อยๆ คลายออกแต่มิได้ผละจาก

เมื่อครู่เขาแค่เห็นไกลๆ มองแล้วให้รู้สึกคลับคล้ายคลับคลา จึงสั่งคนให้เรียกตัวมา ทว่าเมื่อเห็นใกล้ๆ

เหมือนมาก...

ชายหนุ่มหรี่ตาเดินกำลังภายในจับกระแสลมปราณของอีกฝ่าย

ไม่มี...

นางผู้นี้ไร้ซึ่งวรยุทธ์...

หลิวไท่หยางเพ่งพิศรูปโฉมของทาสสาวตรงหน้าที่เหมือนกับสตรีร้ายกาจในความทรงจำทุกส่วนอย่างไม่น่าจะเป็นไปได้ เนตรคมกริบดุจมีดดาบจ้องมองหญิงสาวในห้วงคะนึงไม่วางตา เขาจ้องมองอยู่อย่างนั้นโดยไม่พูดไม่จาสักคำ สร้างแรงกดดันอันมหาศาลแผ่กำจายออกมาอย่างเข้มขลัง

“เจ้ามีนามว่าอะไร?”

นายน้อยแห่งคฤหาสน์หลิวถามเสียงราบเรียบ ซิงเยว่ไม่กล้าบอกนามชมชอบที่เพียรคิดโดยพลการเมื่อครู่ จึงเอ่ยตามชื่อที่ถูกผู้คนมอบให้

“หนี่เอ๋อร์เจ้าค่ะ”

หญิงสาวสูดลมหายใจลึกยาวหมายข่มแรงกดดันจากชายตรงหน้า “ทุกคนเรียกบ่าวเช่นนั้นเจ้าค่ะ”

“เจ้าจำตัวเองมิได้หรือ?” นิ้วเรียวยาวปล่อยคางมน ไต่ถามอย่างเฉยชา ทว่าแววตาคล้ายจับผิดครามครัน

“เกิดสิ่งใดกับเจ้า?”

ซิงเยว่โขกศีรษะตอบ “นายหน้าค้าทาสเล่าให้บ่าวฟังว่าบ้านเดิมของบ่าวถูกโจรร้ายปล้นชิงก่อนจุดไฟเผาจนวอดวาย พ่อแม่พี่น้องล้มตาย วันรุ่งบ่าวกลับจากเดินทางไปค้าขาย ได้เห็นเศษซากครอบครัวจึงกรีดร้องจนสิ้นสติ ฟื้นขึ้นมาอีกทีก็จำอะไรไม่ได้แล้ว คาดว่าได้รับความกระทบกระเทือนจิตใจขั้นรุนแรงเจ้าค่ะ”

“อย่างนั้นหรือ?” มุมปากได้รูปหยักยกขึ้นเป็นรอยยิ้มหยัน หลิวไท่หยางเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

ใต้หล้าจะมีคนใบหน้าเหมือนกันถึงเพียงนี้เชียวหรือ?

แม้ไร้ซึ่งลมปราณ กิริยาแตกต่าง ทว่าน้ำเสียงเล่า?

ชายหนุ่มยืดกายขึ้น พาร่างสูงสง่ากลับไปนั่งลงบนเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน เปี่ยมเสน่ห์ชวนสะท้านทั่วห้องโถง สาวใช้จิ้มลิ้มเบิกตามองอย่างหลงใหล รีบโบกพัดเอาใจ

“ซิงเยว่...” เขาเอ่ยเสียงเนิบนาบ “ต่อไปเปลี่ยนเป็นชื่อนี้แล้วมารับใช้ข้าอย่างใกล้ชิด”

ทาสสาวเจ้าของนามใหม่ได้ยินพลันเบิกตา

สาวใช้พริ้มเพราทั้งสองที่ขนาบข้างขมวดคิ้วลอบมองไท่หยางอย่างไม่เชื่อสายตา

อะไรนะ?

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว