ทุ่งรวงทอง (农园似锦)-ตอนที่  64  แยกบ้าน (2)

โดย  Novel Room

ทุ่งรวงทอง (农园似锦)

ตอนที่  64  แยกบ้าน (2)

ตอนที่ 44


สถานที่จัดงานสำหรับเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ถูกตกแต่งด้วยดอกไม้นานาพรรณ กลิ่นหอมอบอวนไปทั่วทั้งงาน บรรดาแขกเหรื่อต่างเดินเข้างานกันอย่างมากมาย ซุ้มทางเข้าถูกตกแต่งอย่างทันสมัย และใหญ่โต เสียงเพลงคลอเบาๆ ฟังแล้วรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก อาหารมากมายถูกตั้งไว้อย่างเป็นสัดส่วน บริกรถือเครื่องดื่มบริการแขกอย่างรู้งาน รถซูเปอร์คาร์จำนวนสิบสองคัน สิบสองสี จอดเรียงรายอยู่ภายในห้องโถงขนาดกว้าง ผู้คนต่างจับจ้องด้วยความตื่นตา บริษัทของมอร์แกนขึ้นชื่อเรื่องการส่งออกรถเป็นอันดับหนึ่ง เมื่อมีสินค้าใหม่ๆออกมา ก็ไม่แปลกที่จะได้รับผลตอบรับดีเช่นนี้
ชายหนุ่มเดินกล่าวทักทายแขกในงานด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าพร้อมกับทันเพื่อนร่วมโปรเจ็คใหญ่ครั้งนี้
“คุณไม่เคยทำให้ผมผิดหวังเลยนะครับ” หนึ่งในบรรดาแขกกล่าวขึ้น พร้อมจับมือทักทายกับชายหนุ่ม
“ขอบคุณที่ให้เกียรติมางานนี้นะครับ”
“งานใหญ่ขนาดนี้ ไม่มาคงไม่ได้หรอกนะครับ”
“เชิญดูได้ตามสบายเลยนะครับ ขาดเหลืออะไรบอกผมได้เลย” ชายหนุ่มปลีกตัวออกมาหน้างาน ตอนนี้แขกมากันท่วมท้น มากกว่าที่เขาคิดไว้เสียอีก แต่แล้วร่างของใครคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น เธอกำลังมองมาทางเขาเช่นเดียวกัน
“พารันก็มางานนี้ด้วยหรอคะ” เสียงของมิรันตาดังขึ้นข้างเขา ชายหนุ่มไม่ได้หันไปมองเธอเลยสักนิด
“...”
“ดูไปแล้วเธอก็เหมาะกับไททันดีนะคะ” มิรันตาพูดขณะที่ไททันและพารันเดินมาหาชายหนุ่ม
“สวัสดีไททัน สวัสดีจ้ะ..พารัน” พารันก้มหน้าเล็กน้อย เธอมาที่นี่ก็เพราะคำขู่ของมิรันตา ไม่ได้อยากจะมาเพื่อสร้างปัญหาใดๆทั้งนั้น
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะพารัน สบายดีใช่ไหม” มิรันตาพูดต่อด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
“ค่ะ” พารันตอบออกมาสั้น
“ถ้าไม่มีอะไร ผมขอตัวนะ” มอร์แกนหันมาบอกมิรันตาก่อนจะเดินออกไป ไททันและพารันต่างมองตามร่างสูงที่เดินออกไปก่อนจะหันมามองหน้ากัน
“นี่ใช่ไหมที่เธอต้องการ” ไททันพูดขึ้นพร้อมมองหน้ามิรันตาด้วยสายตาเรียบเฉย
“ยังหรอก นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการ” มิรันตาพูดขึ้น ริมฝีปากของเธอแสยะยิ้มออกมาก่อนจะเดินออกไป ไททันได้แต่ส่ายหัวไปมพลางมองไปยังร่างเล้กข้างๆ สีหน้าเธอดูเป็นกังวล จนเขาเองก็อดเป็นห่วงไม่ได้

“สวัสดีแขกผู้มีเกียรติทุกท่านครับ ก่อนอื่นทางเราต้องขอขอบคุณสำหรับการตอบรับในการมาร่วมงานในครั้งนี้” เสียงพิธีกรดังขึ้น มอร์แกนยืนมองดูด้วยความตื่นเต้น ถึงจะเคยจัดงานแบบนี้มาหลายครั้งแล้วก็ตาม เหตุการณ์เมื่อครู่นี้ทำเอาเขาอารมณ์เสียไปไม่น้อย การปรากฏตัวของพารันคงต้องมีอะไรอยู่เบื้องหลังแน่ สายตาของเขามองกลับไปยังร่างของหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างอดีตเพื่อนสนิทอย่างไททัน
“เธอไม่เปลี่ยนไปเลยนะ...พารัน”
“ทุกท่านคงได้ยลโฉมรถซุปเปอร์คาร์รุ่นใหม่กันบ้างแล้ว เรามาฟังความแปลกใหม่ที่ท่านจะได้พบในรถรุ่นนี้ดีกว่าครับ” เสียงพิธีกรดังขึ้นอีกครั้ง ปลุกเขาให้ตื่นจากอดีต พิธีกรเริ่มบรรยายถึงฟังก์ชั่นต่างๆในตัวรถ ชายหนุ่มจึงเดินเข้าดูความเรียบร้อยหลังเวที ร่างเล็กของอันนากำลังเติมแต่งหน้าโดยบรรดาช่างแต่งหน้าอันดับหนึ่ง
“ทางนี้เรียบร้อยดีค่ะคุณมอร์แกน” ออแกไนซ์เดินปรี่เข้ามาหาเขาทันทีก่อนจะรายงานสถานการณ์
“ครับ”
“ให้ตามคุณอันนามาพบไหมคะ”
“ไม่ต้องหรอกครับ ผมแค่แวะมาดูความเรียบร้อยเฉยๆ” เขากล่าวเพียงแค่นั้นก่อนจะเดินออกไป
หญิงสาวที่นั่งอยู่หน้ากระจกกำลังมองตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา พอได้แต่งหน้าโดยช่างที่เก่งที่สุดแล้ว เธอดูสวยขึ้นมาจนแทบจะจำตัวเองไม่ได้
“สวยมากเลยค่ะ เป็นนางแบบใหม่หรอคะ” ช่างแต่งหน้าถามขณะทำผมให้เธอ
“เอ่อ...ป่าวหรอกค่ะ”
“สวยๆแบบนี้ ไว้พี่ติดต่อไปเดินแบบบ้างได้ไหมคะ”
“ฉันเดินแบบไม่เก่งหรอกค่ะ กลัวจะเสียงานป่าวๆ”
“นางแบบทุกคนเตรียมตัวนะคะ” เสียงของออแกไนซ์ทำทุกคนเริ่มตื่นตัว นางแบบต่างเริ่มยืนเข้าประจำที่รวมทั้งเธอด้วย ตอนนี้หัวใจของเธอแทบหลุดออกมา ตอนซ้อมว่าตื่นเต้นแล้ว แต่ตอนนี้เธอตื่นเต้นมากกว่าตอนนั้นเสียอีก
“และสีสุดท้ายคือสีขาวครับ” เมื่อประจำที่อยู่หลังเวที ก็ทำให้ได้ยินเสียงพิธีกรชัดเจนขึ้น
“ฟังก์ชั่นก็เหมือนกับอีกสิบเอ็ดสีก่อนหน้านี้ แต่ที่พิเศษคือรถคันนี้จะมีเจ้าของเพียงคนเดียวในโลกเท่านั้น” เสียงฮือฮาดังขึ้น อะไรที่มีชิ้นเดียวในโลกแบบนี้ ไม่แปลกที่ใครๆก็อยากเป็นเจ้าของ
“สีของตัวรถเป็นสีขาวมุก ที่ผสมโดยผู้เชี่ยวชาญ สีนี้มีแค่บริษัทเราเท่านั้นที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ นั่นหมายความว่า สีขาวมุกนี้ไม่มีที่ไหนอีกแล้วในโลกนี้” เสียงปรบมือดังขึ้นเกรียวกราว เธอเองสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะค่อยๆปล่อยลมหายใจออกมา
“เมื่อทุกท่านพร้อมแล้ว ขอเชิญพบกับความงามของนางแบบที่บ่งบอกถึงตัวตนของรถแต่ละคันเลยครับ” เมื่อสิ้นเสียงพิธีกร เสียงเพลงก็ดังขึ้น นางแบบค่อยๆเดินออกไปทีละคน ทีละคน ไม่นานนักก็ถึงคิวของเธอ เท้าบางบนรองเท้าส้นสูงก้าวเดินออกไป กล้องทุกตัว สายตาทุกสายตาต่างจับจ้องมายังเธอ หญิงสาวเชิดหน้าอย่างสง่างามก่อนจะเดินไปที่ตัวรถราวกับนางแบบมืออาชีพ มือบางค่อยๆลูบไล้ไปบนตัวรถอย่างแผ่วเบา ใบหน้าเรียวเล็กในชุดสีขาวลูกไม้สร้างความตกตะลึงแก่แขกจำนวนมาก ท่าทางสง่างามของเธอทำให้บรรดาแขกต่างตกอยู่ในภวังค์ราวกับต้องมนต์สะกด
“ต่อไปนี้เป็นการประมูลรถซุปเปอร์คาร์สีขาวมุกรุ่นลิมิเต็ดที่มีเพียงสีเดียวและคันเดียวในโลก” ประโยคดังกล่าวดังขึ้นพร้อมแสงไฟที่สาดส่องมายังเธอ ภาพเก่าๆต่างผุดขึ้นในหัวเธออย่างช่วยไม่ได้
“เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาของแขกทุกท่าน ทุกคนคงได้เห็นแล้วว่ารถคันนี้ไร้ที่ติขนาดไหน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเป็นเจ้าของในสิ่งที่คนอื่นไม่มี และไม่มีทางได้มี เราขอเปิดประมูลรถคันนี้ที่ ยี่สิบล้านครับ” ร่างเล็กหลับตาลงพร้อมไล่ภาพในหัวออกไป ตอนนี้เธอหายใจไม่ทั่วท้องเอาเสียเลย เหตุการณ์นี้ช่างคล้ายคลึงกับคราวที่เธอถูกประมูลใน Spear Club ไม่มีผิด
“ไม่เอาน่าอันนา” เธอพูดกับตัวเองเบาๆ พยายามตั้งสติเอาไว้
“สามสิบล้านครับ”
“ห้าสิบล้านครับ”
“หนึ่งร้อยล้านครับ” ภาพตรงหน้าช่างเหมือนกับตอนนั้นไม่มีผิดเสียจริงๆ ชายหนุ่มมองมายังเธอก่อนจะส่งสัญญาณไปยังออแกไนซ์ หญิงสาวมองไปยังเขาก่อนจะพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เธอจะทำพลาดในงานนี้ไม่ได้ เธอฉีกยิ้มออกไปก่อนจะค่อยเดินไปรอบๆตัวรถ
“เธอทำได้อันนา เธอทำได้” มือบางเผยมือไปที่รถอย่างเชิญชวน ราคาประมูลรถสูงขึ้นเรื่อยๆจนมีมูลค่ามากมายเหลือเกิน
“ห้าร้อยล้าน” เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกครั้ง ทุกสายตาต่างจับจ้องไปยังต้นเสียง ร่างของชายหนุ่มคนหนึ่งปรากฏขึ้น เขาอยู่ในชุดสูทสีขาวทั้งตัว ใบหน้าของเขาดูดีไม่แพ้ดาราดัง
“เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับคุณชิม่อน” ชิม่อนหรือที่ทุกคนรู้จักกันดีในนามของนักค้าอัญมณีชื่อดังในต่างประเทศ เขาเป็นคนที่หาตัวจับได้ยากมาก
“ห้าร้อยล้านครั้งที่หนึ่ง...ห้าร้อยล้านครั้งที่สอง...ห้าร้อยล้านครั้งที่สาม เคาะครับ ราคาขายรถคันนี้อยู่ที่ห้าร้อยล้านบาทครับ” เสียงปรบมือดังขึ้นพร้อมเสียงพูดคุย มอร์แกนเดินเข้ามาหาผู้ประมูลก่อนจะตบบ่าเขาอย่างคุ้นเคย
“ไม่คิดว่าจะมานะ” เขาเอ่ยทักอย่างเป็นกันเอง
“ฉันบอกแล้วไงว่างานนี้ฉันไม่พลาด” ชิม่อนเอ่ยพร้อมยักคิ้ว
“ไม่เจอกันนาน อยู่ดื่มด้วยกันก่อนสิ”
“เสร็จนี่ฉันต้องไปที่อื่นอีก ไว้คราวหลังละกัน”
“งานรัดตัวเชียวนะ ไม่เจอกันเกือบตั้งสิบปีได้แล้วมั้ง” มอร์แกนแซว ชิม่อนเป็นเพื่อนเขาตั้งแต่เด็ก แต่ครอบครัวเขาต้องเดินทางไปทั่วโลก ทำให้ไม่เจอกันนานมากนัก
“ไททันล่ะ สบายดีใช่ไหม” มอร์แกนพยักหน้าให้ก่อนจะตอบออกไป
“อือ”
“ฉันมีเวลาอีกไม่มาก ยังไงก็ช่วยจัดการเรื่องรถให้ที” ชายหนุ่มเรียกอานันมาพบก่อนจะให้นำพาชิม่อนไปจัดการส่วนที่เหลือ เขามองไปยังร่างเล็กที่กำลังถูกรุมถ่ายรูปราวกับดาราดัง เห็นแบบนั้นแล้วอดห่วงไม่ได้ เพราะสีหน้าของเธอเมื่อครู่ดูไม่ดีมากนัก เขาคงต้องเขาไปหาเธอเสียหน่อย
“คุณมอร์แกนเชิญทางนี้หน่อยครับ” เขาหันมามองยังลูกน้องที่เดินมาหาเขา ก่อนจะเดินตามไปอย่างช่วยไม่ได้
ร่างเล็กพยามยามโพสท่าให้เหมือนกับที่นางแบบคนอื่นๆทำ ตอนนี้ความตื่นเต้นลดน้อยลงแล้ว และเธอก็เริ่มรู้สึกสนุกกับมันแล้วด้วย
“สวยมากครับ” เสียงช่างภาพดังขึ้นระงม พร้อมเสียงกดชัดเตอร์รัวๆ
“ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย เป็นนางแบบใหม่ใช่ไหมคะ” หญิงสาวพยักหน้าให้ช้าๆ แทนคำตอบ
“อันนาลูกแม่” เสียงแหลมเล็กดังขึ้น ก่อนจะปรากฏร่างแม่ของเธอที่แหวกช่างภาพเข้ามา
“แม่”
“เหนื่อยไหมลูก ลูกแม่สวยที่สุดเลย” ไอยราพูดพร้อมใช้ทิชชู่ซับเหงื่อเธอไปด้วย
“นี่ใช่คุณไอยรารึป่าวครับ”
“ค่ะ ดิฉันไอยราเองค่ะ” ไอยราพูดพร้อมเอามือทาบอกอย่างภูมิใจ นักข่าวที่อยู่บริเวณนั้นต่างพากันเข้ามาหาเธออย่างช่วยไม่ได้
“งั้นแสดงว่าผู้หญิงคนนี้คือคุณอันนา ลูกสาวคุณโรมันหรอคะ” นักข่าวต่างถามออกมาพร้อมกับช่างภาพที่รัวกล้องไปด้วย
“ใช่ค่ะ นี่คืออันนาลูกสาวของคุณโรมัน อดีตเจ้าของ RM Group ค่ะ”
“หายไปนานแบบนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึป่าวคะ แล้วการปรากฏตัวครั้งนี้ หมายความว่าจะหวนคืนวงการธุรกิจอีกรึป่าวคะ”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ตอนนี้ทางเราเองก็ลำบาก ตอนแรกเราสองแม่ลูกจะปฏิเสธการมาร่วมงานครั้งนี้ แต่มอร์แกนก็ใช่คนอื่นคนไกล จะไม่มาก็กลัวคนจะมองไม่ดี” ไอยราพูดพลางทำหน้าเศร้า
“แม่คิดจะทำอะไร” อันนาหันถามแม่เสียงเบา
“ฉันก็แค่อยากเปิดตัว ว่าฉันยังมีตัวตนอยู่น่ะสิ” ไอยราหันมากระซิบกระซาบก่อนจะยิ้มให้นักข่าว
“แล้วการมาปรากฏตัวครั้งนี้ ไม่กลัวว่าจะถูกตามเก็บเหมือนกับคุณโรมันหรอคะ ผ่านมาตั้งสิบห้าปีแล้ว ยังตามจับตัวคนร้ายไม่ได้เลย” สิ้นเสียงนักข่าวไอยราก็บีบน้ำตาร้องไห้ออกมาอย่างหน้าไม่อาย
“กลัวสิคะ เราสองแม่ลูกนอนไม่เคยหลับได้เต็มตาเลย ต้องขอบคุณคุณมอร์แกนนะคะ ที่เอ็นดูอันนา”
“หมายความว่าคุณอันนาอยู่กับคุณมอร์แกนหรอคะ”
“ใช่ค่ะ อยู่มาตลอด ดิฉันต้องขอบคุณคุณมอร์แกนมากๆ ที่ใจดีกับอันนา” ไอยรายิ้มปลื้มปริ่ม ก่อนจะลูบหัวอันนาด้วยท่าทางเอ็นดู
“อันนา” เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นก่อนที่เขาจะเดินมาหาเธอด้วยสีหน้าที่โกรธแค้นเต็มทน
“คุณมอร์แกนหล่อแล้วยังใจดีอีกนะคะเนี่ย” นักข่าวเอ่ยแซวเมื่อชายหนุ่มเดินเข้ามาหาร่างเล็ก
“ขอตัวนะครับ” เขาจับมือเธอเอาไว้ก่อนจะพาเธอไปยังห้องพัก
“เป็นอะไรรึป่าว” หญิงสาวส่ายหัวไปมา
“ไม่ค่ะ ฉันไม่รู้ว่าทำไมแม่ถึงทำแบบนั้น”
ก๊อกๆ ๆ ร่างชายวัยกลางคนเปิดประตูเข้ามาโดยที่เขาเองก็ไม่ทันได้ขออนุญาต
“ฮ็อบส์”
“ฉันได้ยินแม่เธอให้สัมภาษณ์เมื่อกี้แล้ว เลยเป็นห่วง ฉันเลยเดินตามมา”
“คุณไม่มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้หรอครับ” ฮ็อบส์ยิ้มก่อนจะหัวเราะออกมา
“มองฉันในแง่ร้ายจังเลยนะ”
“คุณทำแบบนั้น เพราะต้องการให้คนอื่นๆรู้ว่าอันนาอยู่กับผม” มอร์แกนเอ่ยพลางสะกดอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ ไม่อย่างนั้นคงได้ขย้ำคนตรงหน้าให้แหลกไปแล้ว
“แล้วยังไงล่ะ”
“จะได้กำจัดผมและอันนา โดยที่คุณไม่ต้องลงมือเลยสินะ”
“วงการธุรกิจ มันก็เป็นแบบนี้แหละนะ มีคนรักก็ต้องมีคนเกลียด ตอนนี้อันนาอยู่กับแก ก็คงไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้วล่ะ”
“...”
“คนรักแกก็มี แต่คนที่อยากฆ่าแกก็มีมากเหมือนกัน”
“ต้องการอะไรกันแน่”
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ ว่าแกกับเพื่อนของแก กำลังจะทำอะไร”
“...”
“หยุดทุกสิ่งทุกอย่างที่แกและเพื่อนของแกกำลังคิดจะทำ ไม่อย่างนั้นคนที่ซวยไม่ใช่แค่พวกแกแน่ แค่ฉันเอ่ยปาก ทุกคนก็พร้อมที่จะเล็งกระบอกปืนไปทางแกแล้ว”
“...”
“ไม่สิ ต้องพูดว่า ทุกคนพร้อมที่จะเล็งกระบอกปืนไปทางหนูอันนาต่างหาก”
“อย่าคิดจะทำอะไรเธอเด็ดขาด” มอร์แกนพูดเสียงแข็ง
“ตัดสินใจตอนนี้ยังทันนะอันนา ถ้าเธออยากให้ฉันช่วย ฉันก็พร้อมที่จะช่วย และพร้อมที่จะบอกเรื่องที่เธอสงสัยทุกอย่าง” ฮ็อบส์ส่งยิ้มให้อย่างเยือกเย็นก่อนจะเดินออกไป ชายหนุ่มกัดริมฝีปากตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อระงับความโกรธ ฮ็อบส์ฉลาดกว่าที่เขาคิด ฮ็อบส์กำลังใช้หญิงสาวเป็นเครื่องมือในการหยุดเขา
“นี่มันอะไรกันคะ”
“เธอไปเปลี่ยนชุดเถอะนะ”
“คุณบอกฉันได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น” หญิงสาวถามย้ำ ตอนนี้เธอไม่สบายใจ และยังกลัวมากๆอีกด้วย
“ไว้จบงานนี้ ฉันจะเล่าให้ฟังนะ ตอนนี้เธอไปเปลี่ยนชุด แล้วฉันจะให้คนไปส่งที่บ้านนะ ฉันต้องกลับเข้าไปในงานก่อน” หญิงสาวพยักหน้ารับ ตอนนี้มอร์แกนคงเป็นกังวลมาก เธอไม่อยากทำให้เขาหนักใจมากขึ้นไปอีก ชายหนุ่มเดินกลับเข้ามาในงาน แขกในงานต่างสนใจรถของเขาอย่างท่วมท้น ชายหนุ่มปรับสีหน้าก่อนจะเข้าไปคุยกับแขกในงาน ตอนนี้ยอดการสั่งจองรถท่วมท้นเกินกว่าที่เขาคิดเอาไว้เสียอีก ไว้ให้งานนี้ผ่านไปก่อนเถอะ เขาจะคิดบัญชีกับฮ็อบส์ให้สาสมเลย
อันนากลับเข้ามาในห้องก่อนจะเปลี่ยนชุด ที่แม่เธอทำเมื่อกี้ช่างน่าสมเพชสิ้นดี ตอนนี้แม่เธอคงมีฮ็อบส์คอยอยู่เบื้องหลัง ถึงได้กล้าทำอะไรแบบนี้ เมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จเธอเดินออกมาก็เจอกับลูกน้องของมอร์แกนยืนรออยู่
“ผมต้องไปเอาของให้คุณมอร์แกนสักครู่ คุณอันนาช่วยไปรอที่ลานน้ำพุนะครับ” เมื่อพูดจบเขาก็เดินออกไปเลย หญิงสาวงงเล็กน้อย ทำไมต้องให้ไปรอที่ลายน้ำพุแบบนั้นกัน เธอไม่ได้คิดอะไรมากนัก ตอนนี้ทุกคนก็วุ่นวายกันหมด ร่างเล็กเดินไปที่ลานน้ำพุตามคำบอกของคนขับรถ แต่กลับมีร่างของใครคนหนึ่งยืนอยู่ที่นั่นเหมือนกัน เธอจำหญิงสาวคนนั้นได้ดี และสายตาของเธอคนนั้นกำลังมองมายังเธอเช่นเดียวกัน หญิงสาวคนนั้นส่งยิ้มเล็กๆมาให้เธอ หญิงสาวก็ส่งยิ้มกลับเช่นเดียวกัน
“มารอ...มอร์แกนหรอคะ” พารันถามขึ้นพลางเดินมาคุยกับเธออย่างเป็นมิตร
“เอ่อ..ป่าวหรอกค่ะ คุณพารันล่ะคะ” หญิงสาวตอบกลับ ตอนนี้เธอวางตัวไม่ถูกเอาเสียเลย
“ฉันมารอไททันน่ะค่ะ” พารันรีบออกตัว อันนาพยักหน้ารับรู้ หรือว่านี่จะเป็นโอกาสดีที่เธอจะถามเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างพารันกับมอร์แกน เธอควรจะถามออกไปดีไหมนะ ดูจะเป็นการละลาบละล้วงเกินไปรึป่าว
“คุณพารัน...คุณ...”
“อันนา” เสียงทุ้มของชายหนุ่มดังขึ้น มอร์แกนวิ่งมาหาเธอหน้าตาตื่นพร้อมกับไททันที่วิ่งตามมาด้านหลัง สีหน้าของทั้งสองหนุ่มแปรเปลี่ยนเป็นประหลาดใจเมื่อเห็นว่า อันนาและพารันกำลังยืนคุยกันอยู่ มอร์แกนมองไปยังพารันที่กำลังยืนก้มหน้าอยู่ โดยมีไททันเดินเข้าไปยืนข้างๆ ไททันเอื้อมมือไปจับมือของพารันเอาไว้ก่อนจะมองมายังเขา มอร์แกนเองก็ส่งสายตาที่ยากจะคาดเดาอารมณ์ได้ไปยังไททันเช่นกัน อันนามองชายหนุ่มข้างกาย ก่อนจะมองไปยังหนุ่มสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้า ตอนนี้ทุกคนเหมือนพร้อมที่จะลงดาบใส่กันและกัน อันนาเอื้อมมือไปจับมือชายหนุ่มข้างกายเอาไว้ เธอกลัวเหลือเกิน กลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ลางสังหรณ์ของเธอไม่เคยผิดเลยจริงๆ

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว