ร่างสถิตเทพ (God Spirit)-ตอนที่ 43 เจ็บมากไหม..!?

โดย  MR.FAT

ร่างสถิตเทพ (God Spirit)

ตอนที่ 43 เจ็บมากไหม..!?

บทที่ยี่สิบห้า

วันที่ 5 เดือน 11 เป็นวันเกิดครบรอบแปดปีของซินเอ๋อร์ น้องคนเล็กของบ้าน พวกเราร่วมฉลองวันเกิดของซินเอ๋อร์ในเวลาอาหารมื้อเย็น ทุกคนในบ้านต่างมีของขวัญให้กับน้องเล็ก แม้กระทั่งน้องสี่ที่ออมเงินค่าขนมของตัวเองเพื่อซื้อของขวัญให้น้อง น้องเล็กดีใจมากที่ได้ของขวัญในวันครบรอบวันเกิดมากมายเช่นนี้ แต่ก็ยังคงกล่าวว่า

“ซินเอ๋อร์มีเรื่องอยากจะขอร้องเจ้าค่ะ”

“เจ้าอยากขอเรื่องใดรึ บอกแม่มา”

“ซินเอ๋อร์ให้อาหารไก่และปลา ได้เงินค่าขนมทุกเดือน แต่อาเฟินก็ช่วยพวกเราด้วย ข้าขอให้อาเฟินได้ค่าขนมด้วยได้รึไม่เจ้าคะ”

“โธ่! คุณหนูของบ่าว บ่าวและลูกเป็นทาส ไม่อาจรับเงินได้เจ้าค่ะ” เสียงของน้าหลิงดังขึ้น

หมิงเยว่จึงกล่าวว่า “ข้าลืมไป ต้องขอบใจน้องเล็กที่กล่าวเตือนข้า”

แล้วหมิงเยว่จึงหันไปกล่าวกับน้าหลิงว่า

“น้าหลิงและครอบครัวมาอยู่กับพวกเราได้เดือนกว่าแล้ว น้าหลิงขยันขันแข็งช่วยงานพวกเราได้มาก ข้าจะให้เงินเดือนน้าหลิงเดือนละหนึ่งตำลึง และให้อาเฟินเดือนละสิบห้าอีแปะ น้าหลิงห้ามปฏิเสธเด็ดขาด เพราะครอบครัวของป้าอิงก็ได้เงินเดือนเช่นเดียวกัน”

น้าหลิงตกใจมากรีบหันไปมองป้าอิง เมื่อเห็นว่าป้าอิงพยักหน้า น้าหลิงจึงกล่าวด้วยความซาบซึ้งใจว่า

“ขอบคุณคุณหนูและครอบครัวมากเจ้าค่ะ ที่เมตตาดูแลและไม่รังเกียจข้าและลูกๆของข้า ยังมีพี่อิงและชงเมิ่งที่คอยช่วยเลี้ยงลูกของข้าอีก ข้าและลูกมีบุญจริงๆเจ้าค่ะที่ได้มาอยู่ที่แห่งนี้”

จากนั้นทุกคนจึงแยกย้ายเตรียมตัวเข้านอน ก่อนจะก้าวออกจากห้องกินข้าว หมิงเยว่ได้ยินน้องเล็กคุยกับเพ่ยเฟินว่า

“อาเฟิน เรารีบเข้านอนกันเถอะ”

“คุณหนูง่วงนอนแล้วรึเจ้าคะ”

“ยังหรอก แต่วันนี้เป็นวันเกิดของข้า เผื่อว่าดรีมจะมาหาข้าบ้าง”

“___”


สามวันถัดจากวันเกิดของน้องเล็ก ผักบุ้งรุ่นที่ห้าก็เก็บได้ ครั้งนี้ใช้เวลาเก็บผักบุ้งและปลูกผักบุ้งรุ่นใหม่เป็นเวลาห้าวัน เพราะวันที่หกต้องเก็บผักกวางตุ้งและผักคะน้าต่อ

จากนั้นใช้เวลาเก็บผักกวางตุ้งและผักคะน้าอยู่หกวันจึงแล้วเสร็จ แต่พวกเราไม่ได้ปลูกผักกวางตุ้งและผักคะน้าต่ออีก เนื่องจากใกล้ช่วงฤดูหนาวแล้ว

และวันนี้เป็นวันออกผลสอบของน้องสี่และชงจื้อ ปรากฏว่าชงจื้อสอบได้ที่สิบ และน้องสี่สอบได้สองของชั้นเรียน ทั้งๆที่เพิ่งเข้าเรียนหลังเพื่อน ทั้งคู่ได้รับคำชมเชยอย่างมากจากอาจารย์ จึงทำให้วันนี้ทุกคนในบ้านมีความสุขปลื้มปิติยิ่งนัก


วันรุ่งขึ้น ท่านพ่อและหมิงเยว่เข้าในตำบล ไปซื้อพู่กันและแท่นหมึกใหม่เพื่อเป็นรางวัลให้แก่เด็กทั้งสองคนที่ขยันหมั่นเพียร โดยซื้อพู่กันและแท่นหมึกราคายี่สิบตำลึงให้แก่น้องสี่ ส่วนของชงจื้อราคาห้าตำลึง ก่อนกลับยังซื้อกระดาษอีกจำนวนมาก เพื่อให้เด็กทั้งสองได้ฝึกปรือ เมื่อเด็กทั้งสองได้รับของขวัญรู้สึกปลื้มใจมาก ต่างกล่าวว่าพรุ่งนี้จะนำไปใช้ที่โรงเรียน


ในช่วงหัวค่ำของวันถัดมา หมิงเยว่เห็นน้องชายใช้พู่กันและแท่นหมึกอันเก่า จึงกล่าวถามด้วยความสงสัยว่า

“น้องสี่ เหตุใดจึงไม่นำพู่กันและแท่นหมึกอันใหม่มาใช้เล่า”

น้องสี่นิ่งเงียบไม่ยอมตอบ แต่ชงจื้อกลับแสดงสีหน้าคับข้องใจออกมา

“ชงจื้อ ข้าให้เจ้าตอบแทนน้องสี่”

“ขอรับคุณหนู วันนี้คุณชายนำพู่กันและแท่นหมึกไปที่โรงเรียน แต่พี่เฟยฉีเห็นเข้า จึงมาขอยืมจากคุณชายขอรับ” ชงจื้อรีบตอบ

“แล้วเจ้าก็ให้พี่เฟยฉี ยืมรึน้องสี่”

“ขอรับ” น้องสี่ตอบเสียงเบา

“น้องสี่จงจำไว้ว่า เราจะไม่เอาเปรียบใคร แต่ก็จะไม่ยอมให้ใครมาเอาเปรียบ พวกเจ้าทั้งคู่ตามข้าไปที่บ้านท่านตา”

“ขอรับ/ขอรับ”

เมื่อไปถึงบ้านท่านตา ได้เห็นทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าจึงกล่าวทักทายทุกคน แล้วหมิงเยว่จึงกล่าวกับพี่เฟยฉีว่า

“พี่เฟยฉีเจ้าคะ ขอมาขอพู่กันและแท่นหมึกของหลงเอ๋อร์คืนเจ้าค่ะ”

“พู่กันและแท่นหมึกอะไรรึ เยว่เอ๋อร์” ท่านลุงรองเอ่ยถาม

“พู่กันและแท่นหมึกใหม่ ท่านพ่อซื้อให้เป็นรางวัลแก่หลงเออร์ที่สอบได้ที่สองของชั้นเรียนเจ้าค่ะท่านลุงรอง”

“แค่พู่กันกับแท่นหมึก ให้พี่ของเจ้ายืมไปใช้ก่อน หาใช่เรื่องใหญ่ไม่” ท่านป้าสะใภ้รองกล่าว

“แต่มันเป็นของรางวัลของหลงเอ๋อร์ และหลงเอ๋อร์เพิ่งนำไปโรงเรียนวันแรก ยังไม่ได้เริ่มใช้เลยเจ้าค่ะ”

พี่เฟยฉีรีบกล่าวว่า “บ้านพวกเจ้าร่ำรวยแล้ว เหตุใดจึงตระหนี่เยี่ยงนี้ พวกเจ้าซื้อพู่กันกับแท่นหมึกให้หลงเอ๋อร์ เหตุใดจึงไม่ซื้อให้ข้าด้วย”

“ก็เพราะว่าพี่เฟยฉีไม่ได้สอบได้ที่สองเหมือนหลงเอ๋อร์เจ้าค่ะ ทั้งๆที่หลงเอ๋อร์และชงจื้อช่วยทำงานในตอนเช้า แล้วยังไปช่วยงานที่ร้านหลังเลิกเรียนอีก ยังเรียนได้ดีกว่าบางคนที่ไม่ยอมช่วยงานอะไรเลยเจ้าค่ะ”

“จ...เจ้า” พี่เฟยฉีโกรธจนพูดไม่ออก

“หลงเอ๋อร์ ลุงรองขอโทษแทนลูกชายของลุงด้วย อาฉีรีบไปนำพู่กันและแท่นหมึกมาคืนหลงเอ๋อร์”

พี่เฟยฉีทำสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็ยอมทำตามคำสั่งของท่านลุงรอง

เมื่อพี่เฟยฉีนำของมาคืน หมิงเยว่จึงกล่าวกับพี่เฟยฉีว่า

“ถึงแม้ว่าข้าจะไม่เคยเรียนหนังสือเหมือนท่าน แต่ก็ยังรู้ว่าไม่ควรอยากได้ของของผู้อื่น ที่ไม่ใช่ของตนเจ้าค่ะ”

หมิงเยว่พาเด็กชายทั้งสองกลับบ้าน เมื่อถึงบ้านแล้วหมิงเยว่ให้น้องสี่แยกไปทบทวนบทเรียนก่อน จากนั้นจึงกล่าวกับชงจื้อว่า

“ถ้ามีเรื่องอันใดที่เกี่ยวข้องกับหลงเอ๋อร์เช่นเรื่องที่เกิดในวันนี้อีก เจ้ารีบมาบอกข้า เข้าใจรึไม่”

“เข้าใจขอรับคุณหนู”

“นี่คือเงินสามสิบอีแปะ พรุ่งนี้เจ้านำไปซื้อขนมแบ่งกับเพื่อนๆ ฉลองที่เจ้ากับน้องสี่สอบได้ผลการเรียนดี”

“ขอบคุณขอรับคุณหนู”

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว