เทพราชันมังกรหวนคืน-ตอนที่ 91 ป่าผจญเพลิงชั้นใน(ตอนแรก)

โดย  Peerapong Wongamata

เทพราชันมังกรหวนคืน

ตอนที่ 91 ป่าผจญเพลิงชั้นใน(ตอนแรก)

***ชี้แจง***

ต้องอภัยเป็นอย่างสูงนะครับที่หายไปเป็นอาทิตย์ด้วยไม่ได้บอกกล่าวไว้ก่อน เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ทางครอบครัวทำให้ต้องเดินทางออกนอกจังหวัดอย่างกระทันหัน จึงไม่มีเวลาได้อัพนิยายหรือแจ้งเรื่องราวใดๆให้กับผู้อ่านทุกท่านไว้ก่อน

ส่วนตอนนี้ผมเพิ่งจะกลับมาถึงบ้าน จึงขออัพนิยาย 2 ตอนที่แต่งไว้ก่อนจะออกเดินทางออกนอกจังหวัดนะครับ หลังจากคิดคำนวญแล้ว ยังเหลือนิยายอีก 10 ตอนที่ต้องอัพ ไว้ผมจะอัพพยายามแต่งให้ได้มากที่สุดและอัพให้ทันโดยเร็วนะครับ

เนื่องจากผมต้องเดินทางออกนอกจังหวัดเป็นอาทิตย์ ทำให้ผมมีงานที่ค้างไว้ค่อนข้างเยอะ ดังนั้นอาจจะไม่มีเวลาแต่งมากนัก แต่จะแต่งให้ได้อย่างน้อยวันละ 2 ตอนเป็นอย่างต่ำแม้จะอดหลับอดนอนก็ตาม

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรก็ตาม แต่ผมก็หายไปเป็นอาทิตย์โดยไม่มีการแจ้งเตือน ผมจะทำการชดเชยให้สอง 2 ตอน หรือก็คือหลังจากอัพนิยายจนทันแล้วผมจะอัพเพิ่มให้ 2 ตอนเพื่อเป็นการชดเชยให้ผู้อ่านนะครับ แต่คงใช้เวลาหลายวันหน่อยนะครับ แม้ว่าใจจริงอยากจะชดเชยมากกว่านี้แต่ผมมีเวลาค่อนข้างจำกัด หวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะไม่ว่ากันนะครับ

-------------------------------------------l3lackShadow


“ศิษย์พี่หญิง ท่านรู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใด”หลินเฟิงยังคงจับมือหนิงเสวี่ยไว้แล้วกล่าวถามด้วยสีหน้าอยากรู้หยากเห็น


“ข้าก็ยังไม่รู้เหมือนกัน ท่านปู่ไม่บอกอันใดข้าเลย” หนิงเสวี่ย


“อ้ะ!! เจ้าบังอาจมาจับมือข้าหรือ?” หนิงเสวี่ยพลันนึกอะไรออกก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ พร้อมกับสบัดมือหลินเฟิงออก นางหันใบหน้าสีแดงของนางหนีจากหลินเฟิงอย่างรวดเร็ว


“แต่ข้าเจตนาดีนะ ” หลินเฟิงเกาหัวพลางยิ้มเจื่อนๆ


“หึ ใครเชื่อเจ้าก็โง่แล้ว” หนิงเสวี่ยกล่าวด้วยสีหน้าเขินอาย ซึ่งขัดกับใบหน้าในยามปกติของนางอย่างสิ้นเชิง


หลินเฟิงยิ้มอย่างขมขื่น เขาส่ายหน้าพร้อมหยักไหล่ แม้ว่าเขาตั้งใจเข้าไปช่วยจริงๆ แต่เรื่องจับมือนั้นมันคือผลพลอยได้ ที่มีโอกาสจะได้จับมือกับสาวงาม แล้วมีหรือที่หลินเฟิงจะปล่อยให้โอกาสเช่นนี้หลุดลอยไป


ส่วนอีกด้านหนึ่ง เสี่ยวเจี้ยง เขาจ้องเขม็งไปทางหลินเฟิง เมื่อหลินท่าทางและสีหน้าของหนิงเสวี่ย เขาไม่รู้จริงๆว่าหลินเฟิงมันมีอันใดดี หนิงเสวี่ยถึงเริ่มมีใจให้หลินเฟิง เพราะตั้งแต่นางเข้ามาเป็นศิษย์ใน เขาก็ตามจีบและดื้อนางอยู่นาน แต่นางมีเพียงท่าทีเย็นชาใส่เขาเท่านั้น


“หลินเฟิง งานจัดอันดับ ข้าจะทำให้เจ้าต้องเสียใจ” เสี่ยวเจี่ยงพึมพับ มองหลินเฟิงพร้อมจิตสังหาร


ส่วนหลินเฟิงนั้น เมื่อสัมผัสได้ถึงจิตสังหารเขาก็หันกลับไปมอง เขาพบว่าคนที่ปล่อยจิตสังหารใส่เขาคือ เสี่ยวเจี้ยง ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว แต่ไม่นานเขาก็ละคสวามสนใจมาที่การคุยกับหนิงเสวี่ยเช่นเดิม


‘ ตอนนี้ข้าต้องรีบเพิ่มความแข็งแกร่งโดยเร็วที่สุดสินะ ’ หลินเฟิงครุ่นคิด


ตอนนี้เขามีศัตรูคือศิษย์อันดับ 1 ของนิกาย และแรงกดดันครั้งนี้มันมากมายมหาศาล จนทำให้หลินเฟิงไม่กล้าอิดออดแต่อย่างไร เพราะจากที่สัมผัสได้ เสี่ยวเจี้ยงต้องการสังหารเขาจริงๆ และหากมีโอกาสมันไม่ปล่อนหลินเฟิงไปแน่นอน ดังนั้นเขาจำเป็นต้องแข็งแกร่งเพื่อปกป้องตนเอง


หลังจากที่ผู้อาวุโสคงกล่าวจบเขาก็จากไป เหล่าศิษย์ต่างๆก็เริ่มแยกย้ายไปฝึกฝนของตนเช่นกัน งานจัดอันดับนี้สำคัยกับพวกเขามาก ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้ได้มากที่สุดก่อนจะถึงเวลา แม้จะไม่สามารถติด 1 ใน 5 ได้ แต่อย่างน้อย หากอันดับดีขึ้น พวกเขาก็ได้แต้มสะสมมากขึ้น รวมทั้งยังป้องกันอันดับไม่ให้ตกลงไปต่ำกว่าเดิมด้วย


ส่วนหลินเฟิงนั้น หลังจากแยกย้ายกับคนอื่นๆแล้วเขาก็กลับบ้านไปฝึกฝนตนเองทันที ตอนนี้เขามีศัตรูที่แข็งแกร่งมาก อีกทั้งยังเป็นศิษย์ประมุข หากอีกฝ่ายสังหารเขาได้ อย่างไรประมุขก็ช่วยให้ศิษย์ของเขาไม่ได้รับโทษแน่นอน ดังนั้นเขาจำเป็นต้องปกป้องตนเองด้วยพลังของตนเอง


หลินเฟิงกลับเข้าห้อง จากนั้นก็ฝึกฝนวรยุทธ์ [ กรงเล็บเทพมังกร ] ทันที เขาจำเป็นต้องสำเร็จขั้นเริ่มต้นให้ได้โดยเร็ว จากนั้นเขาจะไปหาวรยุทธ์ท่าร่างสามัญ มาฝึกฝนเพื่อ แน่นอนว่าเวลาเพียง 3 เดือนไม่พอแน่นอน ดังนั้นหลินเฟิงจึงตัดสินใจที่จะฝึกฝนวรยุทธ์ตอนกลางวัน บ่มเพาะพลังตอนกลางคืน เขาฝึกฝนเช่นนี้สามถึงสี่วัน ก่อนจะนอนพักผ่อน


2 เดือนผ่านไป


ตามที่หลินเฟิงคาดเดาเอาไว้ เขาใช้เวลาประมาณ 1 เดือนเพื่อสำเร็จวรยุทธ์ [ กรงเล็บเทพมังกร ] ขั้นเริ่มต้น จากนั้นเขาก็ไปหอตำราเพื่อหาวรยุทธ์ท่าร่างสามัญ จนหลินเฟิงได้รับวรยุทธ์ท่าร่างสามัญระดับสูงที่เขาถูกใจ


[ ก้าวลวงตา ]


วรยุทธ์ท่าร่างนี้เป็นวรยุทธ์ที่เน้นการเคลื่อนที่ระยะสั้นโดยการเร่งความเร็วสูงสุดเพื่อให้เกิดภาพติดตา มันเป็นวรยุทธ์ที่ฝึกฝนยากมาก หลายปีผ่านมาไม่มีใครฝึกฝนมันได้สำเร็จมาก่อน ผู้คนนส่วนมากมักเลือกที่จะยอมแพ้ไม่เว้นแม้กระทั้ง เสี่ยวเจี้ยง


เสี่ยวเจี้ยงใช้เวลาในการฝึกฝนประมาณ 1 เดือน แต่เขากับไม่มีความคืบหน้าในการฝึกฝนแม้แต่น้อยทำให้เขาล้มเลิกในการฝึกฝนไปในที่สุด แต่ทว่าหลินเฟิงนั้นตรงกันข้าม เขาใช้เวลาเพียง อาทิตย์เดียวก็สำเร็จขั้นเริ่มต้นแล้ว และด้วยการฝึกฝนที่บ้าคลั่งของเขาทำให้หลินเฟิงสามารถสำเร็จขั้นเข้าใจ ได้ภายในสองอาทิตย์


ด้วยความที่มันเป็นวรยุทธืท่าร่างสามัญระดับสูง เพียงแค่สำเร็จขั้นเข้าใจ ก็มีความเร็วเทียบเท่าวรยุทธ์ท่าร่างสามัญระดับกลาง ที่สำเร็จขั้นเชี่ยวชาญ หรือกระทั้งเร็วกว่าด้วยซ้ำ ดังนั้นหลินเฟิงจึงไม่ได้เน้นไปที่การฝึกฝนวรยุทธ์ แต่เน้นไปที่การบ่มเพาะมากกว่า


ส่วนวรยุทธ์เทพอย่าง [ กรงเล็บเทพมังกร ] นั้นหลังจากที่หลินเฟิงสำเร็จขั้นเริ่มต้นก็ไม่ได้ฝึกฝนต่อเลย เพราะเพียงแค่สำเร็จขั้นเริ่มต้น หลินเฟิงก็สามารถตัดอาวุธที่หล่อจากเหล็กกล้าได้อย่างง่ายดาย ความรุนแรงของวรยุทธ์นี้มันเทียบเท่าหรือมากกว่าคนที่มีพลังฝีมือมากกว่า 2 ขั้นได้เลยทีเดียว


หากหลินเฟิงแปลงกาย บวกกับใช้เพลิงอเวจีควบคุ๋กับ [ กรงเล็บเทพมังกร ] แล้วละก็หลินเฟิงสามารถเอาชนะคนที่อยู่เหนือกว่า 4 ขั้นได้อย่างแน่นอน ต้องไม่ลืมว่าหลินเฟิงนอกจากมีร่างกายที่แข็งแกร่งเป็นทุนเดิมแล้วยังฝึกฝนวรยุทธ์ป้องกันแบบเสริมกาย [ ปราการเหล็ก ] ทำให้รากฐานของหลินเฟิงดีกว่าคนอื่นๆมากนัก


ที่สำคัญที่สุดคือหากต้องการสำเร็จขั้นเข้าใจหลินเฟิงจำเป็นต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 เดือน แต่หลินเฟิงหาได้มีเวลามากเช่นนั้นไม่ดังนั้นหลินเฟิงจึงไม่มีทางเลือกใดๆ ทำได้เพียงแต่ต้องหยุดและไปฝึกฝนอย่างอื่นไปก่อน


ตอนนี้หลินเฟิงกำลังนั่งบ่มเพาะพลังด้วยเคล็ดเทพมังกรเพลิงอเวจีอยู่ รอบตัวหลินเฟิงล้อมรอบไปด้วยเพลิงอเวจี แต่ทว่าจู่ๆเพลิงอเวจีเหล่านี้ก็พลันลุกโหมรุนแรงกว่าเก่าราวกับไม่สามารถควบคุมได้ จากนั้นมันก็ค่อยๆสงบลงเช่นเดิม แต่สิ่งที่ต่างออกไปคือเพลิงอเวจีที่ล้อมรอบหลินเฟิงอยู่นั้นมีขนาดใหญ่กว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด


“ในที่สุดข้าก็บรรลุระดับรวบรวมขั้น 3 เสียที” หลินเฟิงพึมพัมกับตัวเอง ขณะที่สำรวจร่างกายของตนเอง


พลังฝีมือของหลินเฟิงสำเร็จขั้น 2 นานแล้ว ตั้งแต่ ไม่กี่วันแรกที่เริ่มฝึกฝนบ้าคลั่งเช่นนี้ และตอนนี้หลินเฟิงบรรลุระดับรวบรวมขั้น 3 ด้วยเวลาเกือบๆ 2 เดือน ย่อมทำให้หลินเฟิงพึงพอใจอยู่แล้วแน่นอน แต่ต้องไม่ลืมว่าความเร็วเช่นนี้แลกมาด้วยการที่หลินเฟิงฝึกฝนจนแทบไม่ได้พักผ่อน หากเขาฝึกฝนตามปกติ คงใช้เวลานานกว่านี้แน่นอน

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว