เช้าวันจันทร์หลังจากที่ปุณณวิชญ์ส่งแฟนสาวแล้วชายหนุ่มก็เข้าไปพบตำรวจที่โรงพักเพื่อติดตามคดี ทางตำรวจเจ้าของคดีแจ้งว่ารถที่คนร้ายใช้เป็นรถที่เช่ามา ตำรวจได้ข้อมูลจากผู้เช่าแล้วกำลังออกจับเพราะรูปพรรณของคนเช่าตรงกับรูปจากกล้องหน้ารถยนต์ ถ้าจับได้แล้วจะโทรให้ชายหนุ่มเข้ามาชี้ตัวอีกครั้ง คำตอบที่ได้จากเจ้าพนักงานทำให้ปุณณวิชญ์พอใจในระดับหนึ่ง แต่ที่เขายังกังวลก็คือยังติดต่อมุกไหมไม่ได้ จากที่ฟังคุณลดาเล่ามานั้น มุกไหมคงจะเป็นคนจ้างผู้ชายสองคนนั้นมาอีกที แต่คงต้องรอให้จับผู้ชายสองคนนั้นได้เสียก่อน ถึงจะทราบแน่ชัดว่าใครเป็นคนจ้างมาเพราะภาพจากกล้องหน้ารถ ไม่มีภาพของมุกไหมเลย
ปุณณวิชญ์พยายามคิดว่าระหว่างนี้คนรักเก่าของเขาจะไปอยู่ที่ไหน เพราะตลอดเวลาที่คบกันนั้นเธอไม่เคยพาเขาไปรู้จักครอบครัวเลยสักครั้ง
เสียงเคาะประตูรัวๆ ทำให้มุกไหมที่กำลังนั่งเบื่ออยู่ในห้องต้องรีบเดินมาเปิดประตู ตั้งแต่วันที่เกิดเรื่องเธอหนีมากับผู้ชายที่เธอจ้างให้ฉุดกัลยณัฏฐ์ เธอนั่งรถของคนร้ายออกมาจากที่เกิดเหตุเพราะกลัวคนอื่นจะมาเจอเธออยู่ที่นั่น เมื่อออกมาจากจุดเกิดเหตุได้ไกลพอสมควรแล้ว ชายทั้งสองก็จอดรถเพื่อทวงถามค่าจ้างแต่เธอก็ไม่ยอมจ่ายเพราะงานไม่สำเร็จตามที่ได้ตกลงกันไว้ ระหว่างที่กำลังมีปากเสียงกันอยู่ริมถนนนั้นมุกไหมเห็นท่าไม่ค่อยดีจึ่งวิ่งหนีข้ามไปยังถนนอีกฝั่งแล้วโบกมือพร้อมทั้งตะโกนขอความช่วยเหลือ เนื่องจากเป็นทางแยกรถที่ผ่านมาจึงชะลอความเร็ว พอชายหนุ่มบนรถเห็นว่ามีผู้หญิงกำลังขอความช่วยเหลือเขาจึงจอดรถ ชายใจดีถามว่าเกิดอะไรขึ้นมุกไหมจึงบอกว่าเธอกำลังถูกผู้ชายสองคนทำร้าย และจะขอติดรถเขาไปด้วย ชายหนุ่มยังคงแล้วขับต่อไปเรื่อยๆ พอหญิงสาวถามเขาถึงจุดหมายปลายทาง คำตอบที่ได้ทำให้เธอพอใจเพราะไกลจากรุงเทพฯ น่าจะปลอดภัยสำหรับเธอในช่วงนี้ มุกไหมจึงยอมนั่งรถมากับเขาเพราะไม่อยากกลับไปที่คอนโดฯ หญิงสาวเลือกที่จะปิดมือถือเพราะไม่อยากติดต่อและไม่อยากให้ใครตามตัวเธอเจอ หญิงสาวไม่มั่นใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะมีใครไปแจ้งตำรวจหรือเปล่า แต่ถึงแจ้งก็คงอีกนานกว่าจะหาตัวเธอเจอเพราะอย่างน้อยคนที่เธอจ้างก็ไม่รู้จักชื่อจริงหรือรู้จักที่อยู่ของเธอ
“คุณจะมานั่งๆ นอนๆ อย่างนี้ไม่ได้นะ ถ้าจะอยู่ที่นี่ก็ต้องช่วยกันทำงาน” เสียงหญิงสูงวัยเรียกเธอจากนอกห้อง
“โอ๊ย..ถ้ารู้ว่าจะมาลำบากอย่างนี้ฉันไม่ตามมาหรอก” เธอบ่น
ตอนแรกที่นั่งรถมากับผู้ชายที่จอดช่วยเธอนั้น หญิงสาวคิดว่าผู้ชายที่มาด้วยคงจะมีฐานะไม่น้อย เธอจะใช้ความสาว ความสวยให้ที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ อย่างน้อยก็ในช่วงที่ยังหลบหนีอยู่แต่ทุกอย่างก็ผิดจากที่คิดไว้มากเพราะคนที่เธอนั่งรถมาด้วยนั้นเป็นแค่คนขับรถของพ่อเลี้ยงคนหนึ่ง ซึ่งเธอเองก็ยังไม่เคยเห็นหน้าพ่อเลี้ยงคนที่ว่านั้นเลยสักครั้ง
“ออกมาช่วยกันทำงานบ้าน บ่ายนี้พ่อเลี้ยงจะพาแขกมาทานข้าว” เสียงเดิมยังเรียกอยู่
หญิงสาวมองชุดที่ตัวเองใส่ตอนนี้แล้วก็หงุดหงิด เพราะเสื้อยืดที่แสนเชยกับผ้าถุงลายดอกไม้ที่เธอไม่เคยคิดจะใส่เลยสักครั้ง
มุกไหมไม่เคยทำงานหนักเพราะเธอเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย เธอจึงไม่เคยได้รับความลำบาก จนกระทั่งบิดามารดาของเธอแยกทางกัน หญิงสาวถูกส่งไปอยู่โรงเรียนประจำและพอเรียนจบไม่นานเธอก็ได้ข่าวว่ามารดาแต่งงานใหม่และย้ายไปอยู่ต่างประเทศ เธอไม่เคยสนใจจะถามว่ามารดาไปอยู่ที่ไหน เพราะตลอดเวลาคนที่ส่งเงินให้เธอใช้คือผู้เป็นบิดา แต่เมื่อเธอเรียนจบบิดาก็ไปแต่งงานใหม่ เธอจึงไม่กล้าหลบหนีไปหาบิดาเพราะไม่ถูกกับภรรยาใหม่ของเขา
“เอ้านี่ ยกไว้วางบนโต๊ะ” แม่บ้านคนเดิมที่ไปเรียกเธอออกมาจาห้อง ส่งถาดอาหารให้เธอนำไปวางบน
“พ่อเลี้ยงใจดีไหมป้า” เธออยากรู้
“ก็ใจดีน่ะสิ ใครๆ ก็รักพ่อเลี้ยงกันทั้งนั้น ถ้าอยากอยู่ทำงานที่นี่ก็ทำตัวดีๆ ฉันจะพูดกับพ่อเลี้ยงให้” ป้าชื่น แม่บ้านที่พ่วงตำแหน่งแม่ครัวใหญ่บอกหญิงสาว เธอรู้เพียงว่าลูกชายของเธอเจอผู้หญิงคนนี้กำลังจะถูกทำร้ายเลยพาติดรถเข้ามาด้วย
“ขอบคุณจ๊ะป้า” เธอกล่าวอย่างไม่อย่างเต็มใจนัก เธอเองไม่คิดจะอยู่ที่นี่ตลอดไปแต่ตอนนี้คงต้องยอมๆ ไปก่อน
เสียงคนคุยกันดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ป้าชื่นบอกให้หญิงสาวหลบอยู่แต่ในครัว เพราะเธอยังไม่ได้แจ้งพ่อเลี้ยงว่ามีคนมาขออาศัยอยู่ด้วย
มุกไหมแอบมองไปยังห้องรับประทานอาหาร ที่บริเวณหัวโต๊ะมีชายวัยกลางคนผิวสีเข้ม คงเพราะต้องทำงานกลางแดดเป็นเวลานาน หน้าตาก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้แหล่ รูปร่างก็ไม่ได้อ้วนลงพุงอย่างที่เธอคิดในตอนแรก ข้างๆ กันเป็นผู้หญิงสาววัยไม่น่าจะเกินสามสิบ แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าราคาแพงแต่ใบหน้าดูซีดเซียวเหมือนป่วย เธอแอบมองดูด้วยความสงสัยในความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง
“เดี๋ยวฉันจะพานายหญิงไปพักผ่อน เธอก็ช่วยเก็บของไปก่อนละกัน ถ้าพ่อเลี้ยงถามก็บอกไปว่าเป็นญาติของฉันก็พอ” ป้าชื่นเข้ามาบอกเธอถึงในครัว
“ค่ะ แล้วนายหญิงของป้าไม่สบายหรือเปล่าคะ เห็นหน้าซีดเชียว” เธอรีบหาข้อมูล
“ก็ใช่น่ะสิ เธอไม่ค่อยสบาย นี่ก็พึ่งจะออกจากโรงพยาบาลถ้าเธอจะทำงานที่นี่ ฉันจะได้มีเวลาดูแลนายหญิงอย่างเต็มที่” นางบอกกับหญิงสาวแล้วรีบเดินไปประคองนายหญิงเพื่อพาไปยังห้องพักที่อยู่ไกลออกไปจากห้องรับประทานอาหารพอสมควร
บ้านหลังนี้เป็นบ้านไม้สักทั้งหลัง มุกไหมเดินสำรวจเมื่อตอนช่วยทำความสะอาดก็พบว่ามีห้องหับอีกหลายห้องที่ไม่มีคนอยู่ ดูเหมือนทั้งบ้านจะมีแค่พ่อเลี้ยงที่กำลังนั่งดื่มอยู่คนเดียวในห้องกับนายหญิงที่ป้าชื่นพึ่งพาไปพักผ่อน เธอกับป้าชื่นนั้นพักที่ห้องเล็กๆ บริเวณหลังบ้าน ส่วนชายหนุ่มที่เธอติดรถมานั้นก็ไม่เคยเห็นเขาอีกเลย พอถามป้าชื่นนางก็บอกว่าลูกชายมักจะไปค้างที่กระท่อมเล็กที่อยู่ท้ายสวน
“พ่อเลี้ยงยังไม่แก่เลยเนาะ” มุกไหมชวนชบาเด็กสาวที่อีกคนที่คอยทำความสะอาดบ้านคุยในระหว่างช่วยกันทำความสะอาดในครัว ชบาเป็นเด็กสาวชาวบ้านอายุน่าจะไม่เกิน 20 ปี
“ใช่จ้ะพี่ พ่อเลี้ยงยังหนุ่มอยู่เลยพี่รู้ไหมสาวๆ ในเมืองนี้ต่างก็อยากจะเข้ามาเป็นนายหญิงของที่นี่กันทั้งนั้น แต่พ่อเลี้ยงก็เลือกคุณเขมจิรา ก็คนเมื่อกี้นั่นแหละเพราะเธอเป็นลูกสาวของผู้มีพระคุณ แต่คุณเขมเธอไม่ค่อยแข็งแรง เข้าออกโรงพยาบาลบ่อยๆ”
“อ๋อ แล้วทั้งคู่มีลูกกันหรือยัง”
“ยังเลยจ้ะพี่ ป้าชื่นบอกว่านายหญิงมีลูกไม่ได้แต่พ่อเลี้ยงอยากมีลูก บางทีหนูก็เห็นทะเลาะกันเรื่องนี้บ่อยๆ พ่อเลี้ยงคงอยากมีลูกไว้สืบสกุล สมบัติตั้งมากมายถ้าไม่มีลูกก็น่าเสียดายเนาะพี่” คนเล่าเจื้อยแจ้วไปเรื่อยเพราะนานๆ จะมีคนวัยเดียวกันมาคุยด้วย ปกติเวลาอยู่กับป้าชื่นก็ไม่ค่อยได้คุยเรื่องนี้ เพราะป้าชื่นไม่ชอบให้ยุ่งเรื่องของเจ้านาย
มุกไหมพนักหน้ารับรู้ ก่อนที่จะเดินไปช่วยชบาเก็บจานอาหารบนโต๊ะ พ่อเลี้ยงมองมาอย่างสงสัยเพราะเขาเองจำลูกจ้างในบ้านได้ทุกคน พอเธอหน้าขึ้นมาสบตาพ่อเลี้ยงเหมือนไม่ได้ตั้งใจ ก่อนที่จะรีบหลบตาคมกริบที่จ้องมา
“มาทำงานใหม่เหรอ” เสียงทุ้มถามขึ้นอย่างสุภาพ
“ค่ะ” มุกไหมตอบแต่ไม่กล้าเงยหน้าสบตา ไม่ใช่เพราะเธอกลัวหรืออายแต่เพราะเธอรู้ว่ากิริยาแบบไหนที่ผู้ชายชอบ
“ชื่ออะไรล่ะ” พ่อเลี้ยงหนุ่มถาม
“มุกค่ะ”
“อือ ชื่อเหมาะกับตัวเองดี” เขามองผิวขาวเนียนที่โผล่พ้นเสื้อยืดกับรูปร่างสวยไปทุกสัดส่วนด้วยสายตาของเสือที่กำลังจ้องเหยื่อ ก่อนจะหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาจิบแล้วแอบยิ้มอย่างพึงใจ
“ดึกแล้ว ไปพักเถอะ ทั้งสองคนนั่นแหละพรุ่งนี้เช้าไปพบผมที่ห้องทำงานด้วยนะ” พ่อเลี้ยงหนุ่มบอกประโยคสุดท้ายเขาหันมายิ้มให้มุกไหม
พ่อเลี้ยงมลคลเป็นหนุ่มใหญ่วัย 40 เขาแต่งงานและมีภรรยาแล้ว แต่ภรรยาร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงและไม่สามารถมีลูกให้เขาได้มีหลายครั้งที่เขาคิดจะเลิก แต่เขากับพ่อของเธอมีธุรกิจหลายอย่างที่ทำร่วมกัน การเลิกกับเธอก็เหมือนกับการฆ่าตัวเองดีๆ นี่เองเขาจึงยังคงต้องดูแลเธอในฐานะภรรยาต่อไป แต่ก็ออกไปหาเศษหาเลยที่อื่นซึ่งเขมิกาก็รู้แต่เธอไม่ได้ว่าอะไร ตราบใดที่ผู้หญิงพวกนั้นไม่มายุ่งกับเธอ
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูทำให้พ่อเลี้ยงมงคลที่กำลังนั่งดูรายรับรายจ่ายอยู่ต้องชะงัก
“เข้ามาเลย” หนุ่มใหญ่เงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวตรงหน้า วันนี้เธออยู่ในชุดเดิมที่เธอใส่มา เสื้อสายเดี๋ยวสีน้ำเงินกับกางเกงขาสั้นสีขาวทำให้ผิวที่ขาวอยู่แล้วดูขาวเนียนจนเขาไม่อาจละสายตาไปจากร่างนั้นได้เลย
“พ่อเลี้ยงมีอะไรจะเรียกใช้มุกหรือเปล่าคะ”
“มีอะไรจะถามหน่อย เห็นว่าพึ่งมาอยู่เป็นหลานป้าชื่นใช่ไหม” มงคลถามป้าชื่นตั้งแต่เช้าถึงผู้หญิงคนนี้ แต่คำตอบที่ได้เขาเองก็ไม่ค่อยเชื่อเพราะดูจากรูปร่างแล้วไม่น่าจะเป็นเครือญาติกัน
“ป้าชื่นให้มุกบอกคุณว่าเป็นหลานค่ะ แต่มุกไม่อยากโกหกเพราะถ้าพ่อเลี้ยงจะรับมุกเข้าทำงานมุกก็อยากให้รับเพราะความสามารถของมุกไม่ใช่เพราะมุกเป็นหลานของใคร” เธอทำสีหน้าจริงจัง
มุกไหมเล่าให้พ่อเลี้ยงฟังว่าเธอทำงานที่กรุงเทพฯ แล้วมีปัญหากับเจ้านายเพราะเธอไปรู้ความลับที่ไม่ควรรู้ของบริษัท เจ้านายเลยส่งคนมาจับขณะที่กำลังจะกลับบ้าน พอดีหลานป้าชื่นไปเจอและช่วยไว้เธอจึงขอติดรถเขามาด้วย
“แล้วเรียนจบอะไรมา” พ่อเลี้ยงไม่ได้ฟังที่เธอเล่าเลย เพราะเขาเอาแต่จ้องหน้าอกของเธอที่ขยับขึ้นลงตามจังหวะการหายใจ
“เรียนบริหารค่ะ แต่เอกสารทุกอย่างอยู่ที่คอนโดฯ มุกคงไม่กล้ากลับไปเอา เพราะกลัวอิทธิพลเจ้านายค่ะ ที่มีติดตัวมาก็แค่บัตรประชาชนกับใบขับขี่ค่ะ” เธอเล่าพร้อมเสียงที่ฟังดูน่าสงสาร พร้อมส่งบัตรประชาชนให้เขา
“เรียนมาสูงเหมือนกัน งานในครัวกับงานทำความสะอาดคงจะไม่เหมาะ เดี๋ยวผมดูว่าที่สำนักงานมีอย่างอื่นให้ทำไหม” พ่อเลี้ยงบอกอย่างใจดี
“ขอบคุณค่ะพ่อเลี้ยง” มุกไหมยกมือไหว้พร้อมส่งสายตาที่แฝงไปด้วยความเย้ายวน
“ช่วงนี้ก็มาช่วยงานเอกสารผมไปก่อนแล้วกัน” พ่อเลี้ยงบอกหญิงสาว
มุกไหมช่วยเจ้านายคนใหม่ตรวจเอกสารทั้งโฉนดที่ดินที่ชาวบ้านนำมาค้ำประกันเงินกู้แล้วก็ยิ้มพราว เพราะดูจากจำนวนเงินที่ปล่อยกู้ไปนั้นไม่น้อยเลยที่เดียว แล้วยังจะมีสวนผลไม้ทั้งลำไย ลิ้นจี่รวมไปถึงโรงงานแปรรูปอีกสองแห่งที่พ่อเลี้ยงมงคลเป็นเจ้าของ เธอคิดเล่นๆ ว่าถ้าเธอได้เป็นนายหญิงของที่นี่ชีวิตเธอคงจะสุขสบายไม่น้อย แม้พ่อเลี้ยงจะมีภรรยาอยู่แล้ว แต่เท่าที่เธอเห็นเมื่อคืน ภรรยาพ่อเลี้ยงคงไม่สามารถให้ความสุขกับพ่อเลี้ยงได้เป็นแน่
หลังอาหารมื้อกลางวันที่เธอได้มีโอกาสร่วมโต๊ะกับพ่อเลี้ยง ป้าชื่นดูจะไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่มุกไหมก็ไม่สนใจเพราะคนที่ใหญ่ที่สุดในบ้านนี้สนใจเธอนั่นก็เพียงพอแล้ว เมื่อพ่อเลี้ยงมงคลถามถึงเรื่องที่พักเธอก็ตอบไปตามตรงว่าตอนนี้พักอยู่กับป้าชื่นเพราะไม่มีญาติที่ไหนและพึ่งเคยมาจังหวัดนี้เป็นครั้งแรก พ่อเลี้ยงมงคลได้ยินดังนั้นก็รีบเปิดทางให้ตัวเอง เขาอนุญาตให้เธอย้ายขึ้นมาอยู่ห้องทางปีกตะวันตกของบ้านที่ไม่มีใครอยู่ โดยให้เหตุผลกับภรรยาว่ามุกไหมจะมาเป็นผู้ช่วยของเขา จึงไม่เหมาะที่จะให้ไปอยู่ที่ห้องเดียวกับป้าชื่นเพราะห้องนั้นทั้งเล็กและแคบคงไม่ค่อยสะดวกถ้าจะอยู่กันสองคน
มุกไหมเข้ามาเอากระเป๋าสะพายเพียงใบเดียวของเธอในห้องป้าชื่น แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจากนั้นเธอก็ดึงซิมในเครื่องออกแล้วทิ้งลงถังขยะที่อยู่ภายในห้อง เธอคงไม่ต้องติดต่อใครอีกในอดีตอีกแล้วเพราะตอนนี้เธอจะมีชีวิตใหม่ที่นี่ ชีวิตที่เธอคิดว่าต้องดีกว่าเดิม
หญิงสาวเข้ามาขออนุญาตพ่อเลี้ยงออกไปข้างนอก เพื่อหาซื้อเสื้อผ้าและเครื่องใช้ส่วนตัว
“เดี๋ยวผมเองก็ต้องเข้าไปในเมืองอยู่แล้ว ไปพร้อมกันเลยก็ได้นะ” พ่อเลี้ยงรีบอาสา
“ขอบคุณพ่อเลี้ยงมากนะคะ แต่มุกเกรงใจค่ะ ให้มุกนั่งรถโดยสารไปเองก็ได้ค่ะ” เสียงที่ถ่อมตัวนั้นทำให้พ่อเลี้ยงเอ็นดูเธอเป็นอย่างมาก
“ที่นี่ไม่มีรถโดยสารหรอกครับ” พ่อเลี้ยงบอกเธอเสียงเรียบไม่แสดงความรู้สึก คงเพราะตอนนี้ไม่ได้อยู่กันแค่สองคนในห้อง
“งั้นก็คงต้องรบกวนพ่อเลี้ยงแล้วล่ะคะ”
พอนั่งรถไปด้วยกันเธอก็ชวนพ่อเลี้ยงคุยอย่างเป็นกันเอง เธอถามเขาในหลายเรื่องซึ่งพ่อเลี้ยงมงคลก็ยินดีที่จะตอบ ดูเหมือนว่าพ่อเลี้ยงจะชอบเธออยู่มาก เพราะตลอดเวลาที่เดินเลือกซื้อของนั้น เขาเอาอกเอาใจเธอตลอด หญิงสาวเลือกซื้อของเพียงเล็กน้อยเพราะไม่อยากให้เขาคิดว่าเธอสาวนักช้อป นั่นยิ่งทำให้พ่อเลี้ยงรู้สึกดีกับหญิงสาวมาก มุกไหมมองหน้าพ่อเลี้ยงแล้วส่งยิ้มขอบคุณไปให้ หญิงสาวคิดว่าอีกไม่นานพ่อเลี้ยงมงคลคงจะให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ
ฝาก e-book ใน meb ด้วยนะคะ
https://bit.ly/โอบรักด้วยหัวใจ
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว