เหอซือเมี่ยว-ความสุขแสนประเสริฐ ๖๐ : ความลับไม่มีในโลก

โดย  fews

เหอซือเมี่ยว

ความสุขแสนประเสริฐ ๖๐ : ความลับไม่มีในโลก

“รุกหนักไปมั้ย” เอกพจน์เอ่ยกับบุตรสาวที่แยกกันออกมาจากห้องอาหารกันตามลำพัง

“คุณพ่อว่า ไมล์เขาแปลกๆมั้ยคะ ไม่มีท่าทางแปลกใจอะไรเลย อย่างกับว่าสองคนนี้เจอกันแล้ว” ศศิกานต์ไม่ได้ตอบคำถามของบิดา แต่แปลกใจและตามไม่ทันความคิดของบุตรชายตนมากกว่า และเมื่อไมล์ไม่แสดงท่าทางอะไรเลย ศศิกานต์ก็คิดว่าตนก็ไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อมอะไร แม่ลูกกันก็พอจะรู้จักรู้ใจกันบ้างถึงไม่มากนักในตอนนี้ ตอนที่ไมล์เติบโตเป็นผู้ชายสมชายแล้วก็ตาม

“ไมล์ไม่ใช่คนช่างซัก เราต่างก็รู้ดี เมื่อก่อนยังพอคาดเดาได้ แต่ตอนนี้พ่อรู้สึกว่าไมล์เขาเปลี่ยนไป เก็บอารมณ์ความรู้สึกได้ดีมาก เอาเถอะ อย่างไรแล้ว ก็ระวังหน่อย ให้เขาสองคนสมัครใจเองอย่าได้ถึงกับไปบังคับกัน และอย่าได้ทำให้ไมล์รู้สึกว่าเราเอาความรู้สึกของเขามาล้อเล่น” เอกพจน์เตือนศศิกานต์ ตามประสาคนที่ผ่านโลกมามาก


น้ำแข็งที่ขอตัวกลับขึ้นมาห้องนอนของตนที่มีอยู่ในบ้านหลังนี้ แม้เสื้อนักศึกษาจะถูกเปลี่ยนกลับคืนร่างของเธอนานแล้ว แต่น้ำแข็งก็ไม่อยากที่จะรีบลงไปเลยทั้งๆที่มีคนรออยู่ก็ตาม

“น้องยังไม่เเสร็จเหรอ” ศศิกานต์หมายถึงน้ำแข็ง เมื่อเดินมาถึงห้องรับแขกเพื่อที่จะออกไปข้างนอก แต่เห็นบุตรชายนั่งอ่านหนังสืออะไรสักเล่มอยู่

“ครับ” ไมล์ตอบรับสั้นๆ

“งั้นเดี๋ยวแม่ไปดูให้ก่อนแล้วกัน”

“ไม่ต้องหรอกครับแม่ ผมไม่ได้รีบอะไร” ไมล์วางหนังสือในมือและลุกขึ้นยืนเข้าไปหอมแก้มแม่และกล่าวลา ศศิกานต์ยอมโอนอ่อนผ่อนตามใจไมล์ และก่อนจะไปศศิกานต์เหมือนมีอะไรอยากเอ่ยอยากถามไมล์ แต่ก็ตัดสินใจที่จะไม่ถาม เพราะมันจะไปกระตุ้นเรื่องน้ำแข็งอีกคนที่จากไปอย่างไม่มีวันกลับมากเกินไป แม้เธอจะไม่เข้าใจเลยว่าทำไมบุตรชายไม่มีคำถามอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธออยากอธิบายว่า เรื่องน้ำแข็งที่อยู่ชั้นสองของบ้าน มันเป็นพรหมลิขิต แต่เอาเถอะ ให้พวกเขาตัดสินใจเองดีกว่า

น้ำแข็งที่ต้องลงมาจนได้ เธอเดินไปยังห้องรับแขก และเห็นเขานั่งอยู่เพียงลำพัง เขากำลังอ่านหนังสือ น้ำแข็งเกิดความลังเล และเหมือนเธอจะยังไม่ได้ไปลาคุณท่าน นั่นเป็นเหตุผลให้น้ำแข็งได้ต่อเวลาหายใจของตัวเองไปได้อีก น้ำแข็งที่หันหลังกลับและไปยังระเบียงที่เอกพจน์ชอบไปอยู่ที่นั้น โดยมีสายตาเยือกเย็นติดตามไปด้วยอย่างไม่รู้ตัว

“ไปได้สักทีนะ” ไมล์เอ่ยเสียงเบาๆ แต่แฝงความประชดประชันไว้ เมื่อเวลาผ่านไปเกือบสิบนาที น้ำแข็งก็กลับมาปรากฎตัวอีกครั้ง

“ขอโทษค่ะ” น้ำแข็งรู้ตัว แต่เธอไม่ได้สำนึกผิดอะไร แต่เธอก็ยังเอ่ยคำ ขอโทษออกไป

“ถ้าไม่ได้รู้สึกอย่างที่พูด ก็อย่าพูดออกมา เพราะมันเป็นหนึ่งในกลุ่มคำในหลายๆคำที่เป็นคำศักดิ์สิทธิ” น้ำแข็งมองไมล์ เธอไม่เข้าใจความหมาย แต่รู้สึกถึงความไม่พอใจที่ไมล์ส่งมา น้ำแข็งจึงเลือกที่จะเงียบเสียง และยืนอยู่กับที่ รอ เธอรอให้เขาขยับและเธอค่อยเดินตามหลังไปห่างๆแบบเงียบๆแล้วกัน

ไมล์จ้องมองใบหน้างดงามน่ารักแบบที่ชอบนั้นอยู่นาน เขากำลังมองหา เพราะเขาไม่เชื่อเรื่องบังเอิญ ผู้หญิงตรงหน้าอาจจะไปทำศัลยกรรม แม่อาจจะเป็นเจ้าของความคิดนี้ แต่คิดแบบนั้นไมล์ก็รู้สึกไม่ดีนัก เพราะนั้นเขาก็คิดไม่ดีกับแม่

ไมล์ที่ยืนนิ่งจ้องมองใบหน้าหวานละมุนนั้นอยู่นาน แต่ต้องขยับก้าวเท้าเดินออกจากห้องรับแขกไปยังรถที่ถูกเลือกมาให้เขาแล้ว รถเบนซ์ของแม่ ไมล์ก้าวขึ้นประจำตำแหน่งหลังพวงมาลัย น้ำแข็งที่เดินตามมาอย่างห่างๆ จำต้องเร่งฝีเท้าทันที เมื่อไมล์ที่เข้าไปในรถแล้วเขาสตาร์ทรถทันที น้ำแข็งแม้จะเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น แต่ในใจกลับอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเขาจะไปเลยโดยไม่รอเธอหรือทิ้งเธอไว้ ก็ดีนะ เธอเต็มใจให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น

ไมล์เคลื่อนรถออกไปทันที เมื่อน้ำแข็งไม่สมหวัง แต่ทันทีที่เข้ามานั่งข้างคนขับเรียบร้อยแล้ว น้ำแข็งก็ล้วงโทรศัพท์ของตนเองออกมา เธอกดอะไรอยู่ไม่นานเสียงแรกที่เกิดขึ้นภายในรถคือเสียงนำทางจากแอฟแมพ [maps]

“หนวกหู” ไมล์คำรามออกมาอย่างไม่พอใจ

“ขะ...ขอโทษค่ะ” น้ำแข็งรีบปิดทันที “อ๊ะ! อย่าคะ ไม่ต้องขึ้นสะพาน” น้ำแข็งรีบเอ่ยบอก เมื่อไมล์กำลังขึ้นทางต่างระดับ “มันเลยโรงพยาบาลค่ะ”

ไมล์ไม่ได้พูดอะไร แต่ก็ทำตามที่น้ำแข็งบอก

Grrrrr Grrrr น้ำแข็งหันไปมองไมล์ทันที เมื่อเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของเธอดังขึ้นมา

“ตาม สบาย” ไมล์เอ่ยย้ำทีละคำ น้ำแข็งจึงพยักหน้าเป็นเชิงขอบคุณ และกดรับสายโดยเอามือป้องปาก

“นาย”

“พี่สาว เย็นนี้ผมไปรับพี่ที่ มหา’ลัย นะครับ”

“อีกแล้วนะ”

“นะครับ ผมก็อยากดูแลมื้อเย็นให้กับพี่สาวอีกสักมื้อ”

“เจอกันที่เดิมแล้วกัน ไม่ต้องเทียวไปเทียวมาให้เปลืองค่ารถ”

“ไม่เอาหรอกแบบนั้นพี่สาวก็เอาแต่นั่งรถเมล์ ผมไปหาพี่แล้วเรานั่งแท็กซี่กลับกันนะครับ” น้ำแข็งแอบชำเลืองมองไมล์ที่ยังเงียบสงบอยู่ แต่ถ้านานกว่านี้ เขาอาจจะไม่พอใจเอาก็ได้ น้ำแข็งจึงตอบตกลงอย่างรวดเร็วและกดวางสาย

“ถึงแล้วค่ะ เลี้ยวซ้าย” น้ำแข็งรีบร้องบอกไมล์ เมื่อหันมามองด้านหน้า ไมล์ยังเงียบอยู่เช่นเดิม และเลี้ยวเข้าช่องทางเข้าของโรงพยาบาล “จอดตรงนี้ก่อนได้มั้ยคะ เดี๋ยว เอ่อ น้ำ...ดิฉันจะเข้าไปจัดการเรื่องกรอกประวัติ”

“ฉันไม่ใช่คนขับรถของเธอ” ไมล์พูดออกไปและเคลื่อนรถเข้าช่องรับบัตร สู่อาคารจอดรถ น้ำแข็งชำเลืองมองหน้าด้านข้างของไมล์ เขาสงบนิ่ง นิ่งจนเธอคิดว่าไมล์ไม่อาจแยกแยะระดับคำพูดที่สุภาพแบบที่สุภาพชนทั่วไปเขาใช้กัน

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว