ตอนที่ 1.
เตียงน้ำสั่นคลอนจนแทบหักเมื่อบทรักอันเร่าร้อนมันทวีความรุนแรงขึ้น อากาศเย็นเยียบของแอร์ไม่ได้ช่วยให้อุณหภูมิร่างกายของคนทั้งคู่ลดลงกลับเพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจ ดูได้จากเหงื่อกาฬที่ชโลมกายและเสียงกรีดร้องของหญิงสาวที่เปล่งออกราวกับสำลักความสุขทุกเมื่อ จนกระทั่งคนร่างสูงเคลื่อนไหวเป็นครั้งสุดท้าย เสียงกรีดร้องของหญิงสาวใต้ร่างจะดังลั่นห้องก่อนจะทิ้งทั้งตัวลงกับที่นอนอย่างหมดสภาพ เหลือเพียงแต่ชายหนุ่มเท่านั้นที่ยืนหยัด มุมปากหนาได้รูปกระตุกขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาคมกริบมองร่างบางเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะถอนตัวตนของเขาออกแล้วเดินไปยังโต๊ะที่ติดกับผนังกระจกด้านหนึ่ง เบื้องหน้าเมื่อมองผ่านออกไปคือแสงสีและตึกสูงเสียดฟ้าใจกลางมหานครนิวยอร์ก เขารินเหล้าราคาแพงลงสู่แก้วก่อนจะยกมันขึ้นจรดริมฝีปากได้รูป
“เอามือของเธอออกไปจากตัวฉันเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงทรงอำนาจ มันราบเรียบแต่แฝงไปด้วยความน่ากลัว แม่นางแบบสาวผู้โชคดีที่ได้นอนกับเจ้าพ่อค้าอาวุธระดับโลกถึงกับหน้าถอดสี รีบถดตัวเองกลับไปยืนอยู่ด้านหลัง ไม่กล้ามองเนื้อกล้ามบนแผ่นหลังที่เจ้าหล่อนเผลอจิกเล็บลงไปเพื่อระบายความเสียวซ่านด้วยซ้ำ แฮคเตอร์เอี้ยวใบหน้าคมมามอง ก่อนที่เขาจะหมุนตัวมาหา เขาก้าวย่างเข้ามาหาแม่นางแบบด้วยความใจเย็นพร้อมกับแก้วเหล้าในมือ อลิซาเบธมองด้วยความตื่นตระหนก ร้นตัวหนีอัตโนมัติแต่ทว่ามือหนาได้คว้าที่ปลายคางแล้วออกแรงบีบเพียงเล็กน้อย แต่มันทำให้หญิงสาวน้ำตาเล็ด เขาบีบแรงขึ้นเรื่อยๆ ขณะพูดไปด้วยใบหน้าเรียบสนิท “เธอรู้กฎของฉันดี ว่าฉันจะแตะต้องคู่นอนของฉันแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และ! จะไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องบนร่างกายฉันอีก เพราะฉันไม่ชอบจับอะไรซ้ำซาก”
“อะ… อลิซ ขะ… ขอโทษค่ะ” น้ำตาอลิซาเบธไหลอาบแก้ม ร่างกายของเธอสั่นระริก อยากจะออกไปจากตรงนี้แต่ก็ไม่สามารถทำได้ ได้แต่กรนด่าความอวดดีของตนเองว่าเธออาจจะให้เขาปฎิบัติกับเธอต่างจากผู้หญิงคนอื่น ยังไงซาตานก็คือซาตาน!
ก๊อกๆๆๆ
แฮคเตอร์ละสายตาไปยังประตูห้องที่ถูกเคาะพร้อมกับเสียงของลูกน้องคนสนิทพูดขึ้น
“ทางเราจับไอ้เคนเดลได้แล้วครับ ผมพามันไปอยู่ที่ห้องแดง รอให้บอสลงไปจัดการครับ” ริคาโด้ บอดี้การ์ดคนสนิทเอ่ยรายงาน แฮคเตอร์เผยรอยยิ้มเหี้ยมทันทีแล้วเดินไปหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาสวม อลิซเบธถอนหายใจอย่างโล่งและแทบทรุดลงกับพื้น เธอรีบเดินไปจัดการกับตัวเองเพื่อจะได้ออกไปจากที่นี่แต่ทว่าไม่ทันจะได้หยิบเสื้อผ้าผมเธอก็ถูกกระชากอย่างแรงจนเกือบหงายหลังและคนที่ทำแบบไม่ปราณีปราศรัยก็คือเจ้าของห้อง ชายหนุ่มลากหญิงสาวออกจากห้อง ไม่สนด้วยว่าเจ้าหล่อนจะเจ็บศีรษะ ไร้อาภรณ์สวมใส่ และลูกน้องที่ยืนอยู่ทั่วเพ้นท์เฮาส์จะมองด้วยสายตาหื่นกามเช่นไร โดยมีริคาโด้เดินตามเจ้านายไปติดๆ เขาไม่แสดงความรู้สึกเหมือนกับลูกน้องคนอื่นๆ อลิซาเบธกลัวจนร้องไห้ ทั้งอ้อนวอน ทั้งขอร้องให้แฮคเตอร์ปล่อยเธอจนกระทั่งเขาลากเธอจนมาถึงห้องๆ หนึ่งที่อยู่ชั้นล่างสุดด้านหลังของเพ้นท์เฮาส์ หญิงสาวเบิกตากว้างเมื่อเห็นผู้ชายคนหนึ่งถูกมัดอยู่บนเก้าอี้ สภาพสะบักสะบอม เขียวช้ำแทบดูไม่ได้ เลือดมากมายเปรอะตามตัวโดยเฉพาะใบหน้า และเมื่อผู้ชายคนนั้นเงยหน้ามามองชายข้างตัวของเธอเขาก็ดิ้นร้นร้องขอชีวิตทันที
“ได้โปรดเถอะครับ ผมผิดไปแล้ว คราวหน้ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก ได้โปรด… ให้โอกาสผมอีกครั้ง” แล้วชายคนนั้นก็ร้องไห้เมื่อเห็นสายตาว่างเปล่าของซาตานหนุ่ม ไม่เพียงแค่ไม่สนใจกลับมองไปยังหญิงสาวเปลือยเปล่าข้างกาย มือหนานั่นกระชากผมสลวยของผู้หญิงขึ้น เขาได้ยินเสียงกรีดร้องแต่ทำอะไรไม่ได้
“ดูให้เต็มๆ ตานะที่รัก ว่าถ้าไม่เชื่อฟังฉันแล้วผลมันจะเป็นยังไง” แฮคเตอร์พูดเสียงเย็นพลางแบมือไปข้างกาย ริคาโด้รู้หน้าที่เขาวางปืนลงบนมือเจ้านายหนุ่มทันที อลิซเบธเบิกตากว้าง พยายามจะหนีแต่มือหนานั้นกำผมเธอแน่น เธอร้องไห้ เธออยากออกไปจากขุมนรกขุมนี้ ชายคนนั้นอ้อนวอนขอชีวิตอีกครั้ง
“อย่า…. ได้โปรด…”
ปัง!!!
จิตใจของมนุษย์นั้นยากแท้หยั่งถึง รูปโฉมอันงดงามไม่ได้บ่งบอกถึงความงดงามของจิตใจ บางคนนั้นมีรูปโฉมที่ใครๆ ก็ต่างอิจฉา แต่ทว่าการกระทำนั้นไม่ต่างจากอสูรกายในนรก แฮคเตอร์ มาครอฟ คือหนึ่งในนั้น เขาเป็นนักธุรกิจหนุ่มชาวอเมริกันรูปงาม วัยสามสิบสี่ปี ฉายาที่ทุกคนต่างพร้อมใจยกให้คือ ซาตาน ซึ่งตรงกันข้ามกับใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตร ชายหนุ่มเป็นนักค้าอาวุธสงครามที่ผูกขาดในตลาดการค้าอาวุธโลก ไม่มีใครกล้าต่อกรกับเขาแม้แต่อาชญากรตัวเอ้ ใช่! เขาทั้งหล่อร้ายและมีอิทธิพล ไม่แปลกที่สาวๆ กว่าค่อนโลกสนใจอยากจะเป็นหวานใจของเขา หรือไม่! ก็ขอแค่เป็นสาวข้างกายบนเตียง สูดดมและอิ่มเอมกับบทรักที่เร่าร้อน ให้ร่างกายหนาแผดเผาร่างพวกหล่อนให้เป็นจุณก็พอ ทั้งๆ ที่รู้ว่าชายหนุ่มเป็นยิ่งกว่าซาตานและฆ่าเจ้าหล่อนได้ทุกเมื่อหากรับใช้บนเตียงไม่ถูกใจ
“ผลประกอบการปีนี้เป็นที่น่าพอใจมากครับ ผลกำไรมากกว่าไตรมาสที่แล้วเกือบสี่สิบเปอร์เซ็นต์” ริคาโด้เอ่ยรายงานผลสรุปการประชุมผลประกอบการให้เจ้านายหนุ่มฟัง นอกจากเขาจะเป็นบอดี้การ์ดคนสนิทแล้วยังทำหน้าที่ควบตำแหน่งเลขาเพื่อสะดวกต่อการทำงานให้กับเจ้านายอีกด้วย แต่ดูเหมือนเจ้านายจะไม่ได้รู้สึกดีใจกับผลประกอบการนี่เท่าไหร่นักอาจจะเป็นเพราะบริษัทมาครอฟทำกำไรเกินความคาดหมายได้ทุกไตรมาสอยู่แล้ว ไม่รวมกับสาขาลูกที่เขาเปิดกิจการในประเทศสำคัญๆ ของโลก
“บอกฝ่ายพัฒนาอาวุธว่าอีกสองวันฉันจะเข้าไปทดสอบอาวุธที่พัฒนาขึ้นใหม่” หลังจากฟังคำรายงานบอดี้การ์ดคนสนิทพ่วงตำแหน่งเลขาเจ้าพ่อค้าอาวุธก็พูดในสิ่งที่ต้องการทันที
“ครับบอส”
“แล้ววันนี้ฉันมีนัดกับใครอีกมั้ย”
“ไม่…” ไม่ทันที่ริคาโด้จะได้พูดจบประโยค เสียงหวานแแสนคุ้นหูตั้งแต่เล็กจนโตของเขาและเจ้านายดังขึ้นที่หน้าประตูห้องทันทีพร้อมกับร่างพร้อมเพรียวของหญิงสาวเพียงคนเดียวในโลกที่เจ้าพ่อมาเฟียค้าอาวุธยอมอ่อนข้อให้ทุกกรณี
“มีสิจ๊ะ”
“มาดามโรส” การมาปุบปับของมาดามโรสเมรี่ มาครอฟ ไม่ได้เป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับลูกชายอย่างแฮคเตอร์เลยแม้แต่น้อย เพราะเขารู้ว่าเมื่อใดที่มารดาปรากฎตัวแบบไม่บอกไม่กล่าวมักจะมีเรื่องปวดหัวมาให้เขาอยู่เสมอ และเขาก็ไม่เคยเลยที่จะเอ่ยปฏิเสธความต้องการของมาดามได้เสียที ในขณะที่ริคาโด้เพียงอมยิ้มกับท่าทางอึ้งๆ ของบอสก่อนจะออกจากห้องไปอย่างรู้หน้าที่
“ไงจ๊ะลูกรักขอมาดาม มาดามคิดถึงลูกจังเลย” มาดามโรสเมรี่เข้ามากอดเข้ามาหอมแก้มลูกชายพร้อมรอยยิ้มระบายทั่วใบหน้า ก่อนจะยิ้มน้อยๆ เมื่อคิ้วเข้มของลูกชายที่ใครๆ เขาว่าร้ายกาจนักหนาขมวดขึ้น นัยน์ตาสีน้ำเงินทะเลเข้มที่ถอดแบบสามีเธอมานั้นมองด้วยความสงสัยและระวังภัย แน่นอนที่แฮคเตอร์ต้องระวังเพราะเธอไม่เคยพกความปกติมาให้ลูกชายอยู่แล้ว มาแบบธรรมดามันก็น่าเบื่อแย่ ต้องเอาอะไรสนุกๆ มาฝากด้วยถึงจะเป็นสีสันของชีวิต “แฮคไม่คิดถึงมาดามเหรอลูก” มาดามโรสเมรี่แสร้งทำเสียงเศร้า แฮคเตอร์หรี่ตาลงแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาไม่ถนัดอ้อนหรือเอาใจใครแม้ว่าคนคนนั้นจะเป็นมารดาของเขาก็ตาม ดังนั้นเขาเลยทำแค่ยิ้มบางๆ ให้เท่านั้น
“เปล่าครับ ผมก็คิดถึงมาดามเหมือนกัน แล้วมาดามมาหาผมมีเรื่องหรือเปล่า ไหนเลขาส่วนตัวมาดามบอกว่ามาดามไปฮันนีมูนกับนายใหญ่ที่เนเธอร์แลนด์ไงครับ” นายใหญ่ที่เขาว่าคือบิดาของเขานั่นเอง แต่เรียกนายใหญ่เหมือนคนอื่นจนติดปากไปแล้ว
“เผอิญว่ามาดามมีเรื่องเร่งด่วนจะคุยกับลูก มาดามเลยทิ้งนายใหญ่ของลูกเที่ยวคนเดียวไปสักวันสองวันก่อนน่ะ” แฮคเตอร์ถึงกับหนาวสันหลังเมื่อเห็นนัยน์ตามาดามวิบวับเหมือนกำลังสนุกแต่สำหรับเขาเรื่องอะไรที่มาดามเอามาให้มันไม่เคยสนุกกับเขาเลย
“เรื่องอะไรครับ”
“ดูตัว”
“ผมขอทำงานต่อครับมาดาม” แฮคเตอร์หันกลับไปยังกองงานเอกสารเขาทันที ข่มอารมณ์ไม่ให้เผลอใส่อารมณ์กับมารดา เพราะเรื่องนี้มาดามโรสเมรี่มาพูดกับเขาเป็นร้อยครั้งเห็นจะได้และเขาก็ปฏิเสธไปทุกครั้ง เขาไม่พร้อมกับการมีครอบครัว และเขาไม่สนใจจะมีมันด้วยซ้ำ ถ้ามาดามอยากอุ้มหลานขนาดนั้นไม่ไปบอกไอ้น้องชายต่างแม่อย่างไอ้ฮอร์คมันนะ ขยันมาหาเขาจริงๆ ทั้งๆ ที่มาดามก็รักฮอร์คไม่ต่างจากลูกในไส้เหมือนกับเขาเลย เผลอๆ อาจจะรักหมอนั่นมากกว่าเขาด้วยซ้ำ แต่เขาก็ไม่ได้น้อยใจอะไรหรอกนะที่มาดามจะรักใครมากกว่าเพราะยังไงก็สายเลือดมาครอฟเหมือนกัน แต่น้องชายต่างมารดาเขามันน่าอัดให้น่วมโทษฐานที่มันชอบหนีเที่ยวไม่มาช่วยงานเขาเสียที ลอยไปลอยมาทำตัวไร้ประโยชน์ไปวันๆ นอกจากงานจริงๆ จังๆ ที่เขาสั่งให้ทำนั่นแหละ
“อย่าทำแบบนี้กับมาดามนะแฮค!” มาดามโรสเมรี่เริ่มใบหน้าง้อง้ำไม่พอใจลูกชายที่ปฏิเสธสิ่งที่เธอต้องการอีกแล้ว “มาดามอยากอุ้มหลานแล้วนะ ทำแค่นี้ให้มาดามไม่ได้เหรอ”
“ไม่ได้ครับ ผมยังไม่พร้อมจะผลิตหลานให้มาดามตอนนี้ และถ้ามาดามอยากอุ้มหลานทำไมไม่ไปหาไอ้ฮอร์คบ้างล่ะครับ มันก็ทำหลานให้มาดามอุ้มได้เหมือนกัน” แฮคเตอร์พูดอย่างเหนื่อยใจ
“มาดามหาน้องไม่เจอ” แฮคเตอร์หรี่ตามองมาดามอย่างจับผิดแล้วยกยิ้มที่มุมปากหนานิดๆ ไม่ใช่ว่าหาน้องไม่เจอหรอกแต่ไม่อยากหามากกว่า
“ถึงยังไงผมก็ขอขัดใจมาดามครับ”
“แฮค มาดามขอนะ ครั้งนี้ครั้งเดียวถ้าไม่ชอบน้องมาดามจะไม่บังคับก็ได้” มาดามโรสเมรี่ยิ้มเอาใจลูกชาย แฮคเตอร์วางปากกาลงบนโต๊ะมองพิจารณามาดามอย่างจริงจัง เขาไม่เชื่อหรอกว่ามาดามจะไม่บังคับ อ่อนให้เขามากขนาดนี้แสดงว่าต้องวางแผนเอาไว้แล้วอย่างแน่นอน “แต่มาดามรับรองด้วยเกียรติของมาดาม ว่าคนนี้ต้องถูกใจแฮคอย่างแน่นอน”
“อย่ามั่นใจนักเลยครับ ผมอาจจะไม่ถูกใจลูกสะใภ้ที่มาดามหมายตาก็ได้ และไม่ว่ามาดามจะวางแผนอะไรไว้ก็รัดผมไว้ไม่ได้แน่นอน” มุมปากหนายกยิ้มอย่างผู้กำชัย
คฤหาสน์นรานุรักษ์ เชียงใหม่ ประเทศไทย
“ดูตัวเหรอ!” เสียงหวานโพล่งเสียงดัง นัยน์ตาเบิกกว้างหลังจากฟังเรื่องราวจากปากเล็กที่มีรูปร่างหน้าตาเหมือนเธอทุกประการ คนเล่าได้แต่พยักหน้าอย่างหงอยๆ เพราะไม่อยากไปดูตัวตามที่บิดามารดาอยากให้ไป เธอไม่อยากแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รัก อีกอย่างผู้ชายคนที่บุพการีหมายหมาดนั้นเป็นถึงมาเฟียค้าอาวุธทรงอิทธิพล เธอกลัวเขา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถ้าไปเจอกันเธอต้องทำตัวยังไง เขาจะต้องน่ากลัวเหมือนที่ใครๆ ต่างพูดแน่ๆ แล้วถ้าเกิดเธอทำอะไรไม่พอใจเขาไม่ฆ่าเธอด้วยมือเปล่าเหรอ
“ใช่” น้ำเสียงเศร้าจนคนฟังเริ่มเดือดแทน ทำไมคุณพ่อคุณแม่ชอบบังคับพี่สาวฝาแฝดเธอทุกเรื่องเลย
“ถึงว่าคุณแม่ได้ทำตัวแปลกๆ ตอนที่เห็นมนต์กลับมาแบบกะทันหัน เพราะไม่กล้าบอกกลัวว่ามนต์จะอาละวาดแน่นอน” เพราะเธอเพิ่งกลับจากไปตะล่อนตะลุยทะเลทรายกับหน่วยรบพิเศษที่เธอประจำการ ก็เลยไม่รู้เรื่องสิ่งที่พี่สาวเธอถูกบังคับ อีกอย่างทุกคนในบ้านก็คงไม่อยากบอกเธอด้วยแหละเพราะรู้ดีว่าเธอรักพี่สาวมาก ใครกล้าขัดใจโดนเธอเก็บทุกคน ถึงว่าคุณหญิงเพ็ญแขถึงทำตัวมีพิรุธ ถึงจะเอ่ยยิ้มต้อนรับเธอกลับบ้านด้วยท่าทางปกติแต่มันไม่อาจหลุดจากสายตาสังเกตเธอไปได้เลยต้องมาเค้นคอจากพี่สาว ที่ตอนแรกก็อึกอักไม่กล้าบอกเหมือนกัน
“ทำยังไงดีล่ะมนต์ หวานไม่อยากไปดูตัวเลย แถมผู้ชายที่คุณแม่จะให้ดูตัวด้วยเค้าเป็นถึงมาเฟียค้าอาวุธ ชื่อเสียงเขาไม่ใช่น้อยๆ เลย หวานกลัว” น้ำตาเริ่มปริ่มขอบตาสวย น้ำมนต์ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วเอื้อมตัวไปดึงกระดาษทิชชูที่หัวเตียงมาให้พี่สาวเช็ดน้ำตาพลางสั่งเสียงเหี้ยมตามนิสัยทหารที่ถูกฝึกไม่ให้อ่อนแอแม้ว่าจะเผชิญสถานการณ์อันเลวร้าย
“เช็ดน้ำตาซะ แล้วห้ามสะอื้นหรือร้องไห้ออกมาอีก ไม่อย่างนั้นมนต์ไม่ช่วยหวานแก้ปัญหานี้แน่” เมื่อพันตรีหญิงแห่งหน่วยรบพิเศษสั่งเสียงเข้มผู้น้อยที่แทบจะไม่ค่อยได้ออกไปเผชิญโลกกว้างถึงกับคอหดวูบแล้วเช็ดน้ำตาอย่างลวกๆ กลั้นเสียงสะอื้นสุดกำลัง ไม่กล้าสบสายตาน้องสาวจอมเฮี้ยบ น้ำมนต์มองพี่สาวตลอดถึงกับหัวเราะในความขี้กลัวของพี่สาวที่ไม่เคยหายไปเสียที
“มนต์ช่วยหวานได้เหรอ แล้วจะช่วยหวานยังไง” หลังจากเพียรกลั้นเสียงสะอื้นและน้ำตาไม่ให้ไหลได้แล้วน้ำหวานเอ่ยถามน้องสาวฝาแฝดของตนทันที นึกโทษตัวเองเหมือนกันไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรเธอก็ไม่เคยแก้ปัญหาเองได้เลย ต้องพึ่งพาน้องสาวตลอด
“ง่ายมาก แค่มนต์ไปแทนหวาน” น้ำหวานตาโต มองน้องสาวฝาแฝดที่พูดออกมาได้หน้าตาเฉยอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน นี่น้องสาวเธอลืมไปแล้วเหรอว่าเธอเพิ่งบอกเองนะว่าคู่ดูตัวเธอเป็นใคร
“มนต์ แต่ผู้ชายคนนั้นเขาเป็นถึงมาเฟียนะ เขาน่ากลัวมากแล้วถ้าเขารู้ว่าเราสลับตัวไปเขาจะไม่เอาเรื่องคุณพ่อคุณแม่เหรอ” น้ำหวานพูดด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “อีกย่างคุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ยอมแน่ๆ” นี่คืออีกเรื่องที่เธอเองก็หนักใจไม่น้อย คุณพ่อคุณแม่ไม่มีทางยอมอยู่แล้ว และเธอก็พอรู้เหตุผลว่าทำไมท่านทั้งสองจึงเลือกเธอให้ไปดูตัวแทนที่จะเป็นน้องสาว น้ำมนต์น่ะแข็งแรงดูแลตัวเองได้ไม่เหมือนเธอที่ดูแลตัวเองไม่ได้เลย จนคุณพ่อคุณแม่ต้องหาคนดูแลเธอยามที่ท่านไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว
“คำตอบของคำถามแรกคือมนต์ไม่กลัว ถึงแม้ว่าหมอนั่นจะเป็นมาเฟียใหญ่แค่ไหนก็ตาม อย่าลืมนะหวานว่ามนต์เป็นใคร ผู้ก่อการร้ายระดับโลกมนต์เจอมาแล้ว กะอีแค่มาเฟียคนหนึ่งบนโลกใบนี้ไม่ได้ทำให้มนต์วิ่งหางจุ๊กตูดแน่นอน” ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยได้ยินชื่อเสียงของแฮคเตอร์เจ้าพ่อมาเฟียค้าอาวุธเสียเมื่อไหร่ เธอได้ยินจนหูแฉะ แถมยังเคยเจอผ่านๆ อยู่หลายครั้งเพราะหมอนี่มาส่งอาวุธให้ทางกลาโหมด้วยตนเอง “คำตอบของคำถามที่สองคือ คุณพ่อคุณแม่ไม่กล้าหือกับมนต์หรอก ท่านสองคนกลัวมนต์เอาระเบิดมาถล่มสวนที่ราชบุรีของท่านจะตาย ฮ่าๆ”
“แต่หวานกลัวว่ามันจะไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิ” น้ำหวานพูดด้วยสีหน้าไม่คลายความวิตกกังวลขณะมองน้องสาวฝาแฝดที่กำลังหัวเราะกับคำพูดตัวเอง เท่าที่เธอได้ยินมาแฮคเตอร์ไม่ใช่ผู้ชายที่ใครจะไปล้อเล่นง่ายๆ เสียด้วย
“อ้อ แล้วการสลับตัวของเราห้ามบอกใครเด็ดขาด เข้าใจนะ” น้ำมนต์สั่งพี่สาวฝาแฝดเสียงเรียบ น้ำหวานพยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้
“จากการตรวจสอบอาวุธที่เราเก็บได้ในที่เกิดเหตุเป็นของบริษัทมาครอฟจริงๆ ครับหัวหน้า” แซน ลูกน้องคนสนิทของพันตรีหญิงหนึ่งเดียวของไทยที่ได้เป็นหัวหน้าหน่วยรบพิเศษของกองทัพอเมริกาเอ่ยขึ้นหลังจากเขาตรวจสอบอาวุธที่กองเก็บหลักฐานของหน่วย ตราที่ตัวอาวุธล้วนเป็นของมาครอฟทั้งสิ้น เขาสงสัยไม่น้อย ชายค้าอาวุธคนดังขนาดนั้นกล้าขายอาวุธให้กลุ่มก่อร้ายโดยไม่ปกปิดเครื่องหมายการค้าของตนเลยหรือ
“น้ำเสียงของนายดูไม่มั่นใจกับหลักฐานเลยนะแซน” พันตรีหญิงแพทย์หญิงน้ำมนต์ นรานุรักษ์เอ่ยเหย้าลูกน้องเสียงใส ไม่ได้นึกแปลกในเลยที่ได้ยินว่าอาวุธที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุเป็นของเจ้าพ่อค้าวุธสงครามอย่างแฮคเตอร์ มาครอฟ
“แหม หัวหน้าก็… พ่อค้าอาวุธที่ไหนจะทิ้งเครื่องหมายการค้าของตัวเองไว้ล่ะครับ รู้ๆ ทั้งรู้ว่ายังไงทางการต้องตรวจสอบหลักฐานอยู่แล้ว”
“นั่นก็จริง แต่อย่าลืมนะอีตาซาตานแฮคเตอร์ไม่เหมือนชาวบ้าน หมอนี่คิดอะไรอยู่ไม่มีทางรู้หรอก อาจจะจงใจทิ้งเครื่องหมายเอาไว้ก็ได้ พ่อค้าน่ะขายให้ทุกคนที่มีเงินซื้อนั่นแหละ”
“แต่เราก็ปรักปรำทางนั้นร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่ได้นะครับหัวหน้า”
“นี่นายรับเงินทางนั้นมาเท่าไหร่ ทำไมปกป้องกันจัง” น้ำมนต์แซวยิ้มๆ รู้ดีแหละว่าลูกน้องเป็นคนยังไง หมอนี่จะทำอะไรต้องมีหลักฐานชนิดที่มัดผู้ร้ายไม่หลุดเท่านั้น ไม่อย่างนั้นจะไม่ดำเนินการใดๆ เด็ดขาด ไม่เหมือนเธอถล่มไปก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากัน
“หัวหน้า” แซนเริ่มทำเสียงดุเมื่อลูกพี่อย่างน้ำมนต์เริ่มตีรวน หญิงสาวหัวเราะก๊าก
“ไม่เอาน่าๆ นายไม่ต้องห่วงว่าเราจะจับผิดฝาผิดตัว งานนี้ฉันจะเข้าถ้ำเสือไปหาลูกเสือมาให้นายเอง” เพราะรู้ว่าเรื่องมันต้องเป็นแบบที่เธอคิด เธอเลยวางแผนว่าจะเข้าอาณาจักรมาครอฟด้วยตัวเองแต่ติดตรงที่ไม่รู้จะเข้าไปในนั้นด้วยวิธีไหน พอดีกับที่พี่สาวเธอต้องไปดูตัวกับเจ้าของถ้ำที่เธอจะเข้าไปพอดีมันเลยเข้าทาง แค่เธอไปดูตัวแทนพี่สาวแล้วตอบตกลงทางนั้นโดยยื่นข้อเสนอว่าแต่งแค่สามเดือนแล้วหย่า ดูท่าหมอนั่นเองก็ไม่อยากมีครอบครัวเท่าไหร่ เธอก็จะได้เดินเข้าออกบ้านนั้นได้สบายแถมยังคอยดูความเคลื่อนไหวเจ้าพ่อค้าอาวุธได้อีกด้วย และถ้าหมอนี่ทำผิดจริงเธอก็จัดการไปทีเดียว หึ แบบนี้เขาเรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
“มันเสี่ยงเกินไปนะครับถ้าหัวหน้าจะทำภารกิจเองคนเดียว”
“เสี่ยงมากกว่านี้ฉันก็ทำมาแล้ว เอาน่า ไม่ต้องเป็นห่วงฉันจะติดต่อนายกับหน่วยเป็นระยะ แค่นี้ก่อน เริ่มแผนการเมื่อไหร่ฉันจะติดต่อกลับไปทันที”
“ครับ” น้ำมนต์วางสาย ก่อนจะเดินเข้าบ้านเมื่อพี่สาวเดินมาเรียก แซนจ้องมองโทรศัพท์แล้วถอนหายใจด้วยความเป็นห่วงลูกพี่จอมดื้อ
ข่าวการเดินทางมาประเทศไทยของเข้าพ่อค้าอาวุธของโลกเป็นข่าวดังตลอดสองสามวันที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นสื่อแขนงไหนก็ลงข่าวของชายหนุ่มนามซาตานทั่วไปหมด ถึงแม้ว่าการมาของชายหนุ่มในครั้งนี้จะเป็นการเดินทางมาเจรจาเรื่องอาวุธกับรัฐบาลก็ตาม มีการอารักขาชายหนุ่มหนาแน่นยิ่งกว่ารัฐมนตรีบางคนเสียอีก แต่ไม่มีใครรู้เลยว่านอกจากมาเฟียหนุ่มจะมาคุยเรื่องธุรกิจแล้วเขายังต้องไปดูตัวตามคำสั่งของมาดามโรสในสองวันให้หลัง โดยมาดามโรสเมรี่จะบินตามมาพร้อมกับนายใหญ่แห่งมาครอฟ เพื่อตามประกบลูกชายจอมเจ้าเล่ห์ที่อาจจะชิ่งดูตัวหรือทำกิริยาแย่ๆ ใส่ว่าที่ลูกสะใภ้ที่เธอหมายตาเอาไว้ก็ได้ การเดินทางมาโรงแรมที่นัดดูตัวของเจ้าพ่อค้าอาวุธในวันนี้เป็นการเดินทางเรียบง่าย ไร้เงาการ์ดเป็นสิบเหมือนอย่างหลายวันที่ผ่านมา เพราะแฮคเตอร์ไม่ต้องการให้เป็นข่าว เขาจึงมาพร้อมกับริคาโด้เพียงสองคนเท่านั้น แค่เพียงก้าวเท้าลงมาดามกับนายใหญ่แห่งมาครอฟก็ลงจากรถอีกคันเช่นกัน มาดามโรสเมรี่ยิ้มกว้างพลางเดินเข้าไปหาลูกชายแล้วเอาแก้มแนบแก้มทั้งสองข้างเป็นการทักทาย เธอดีใจที่เห็นลูกชายที่นี่ ส่วนแฮคเตอร์หลังจากที่ทักมารดาเสร็จแล้วเขาก็เข้าไปกอดบิดาเป็นการทักทายเช่นกัน
“พ่อตกใจนะที่เห็นเราที่นี่ไอ้เสือ” ฮาร์ต มาครอฟเอ่ยสัพยอกลูกชาย เลยได้ค้อนวงโตจากภรรยา เขาหัวเราะแล้วตบบ่าลูกชายก่อนจะเดินนำเข้าไปในโรงแรมพร้อมกับบอดี้การ์ดสองสามคนที่ตามมาดูแล
“นายใหญ่ติดต่อฮอร์คได้มั้ยครับ พอดีผมมีงานให้น้องทำ” ขณะเดินไปยังห้องรับรองที่จองไว้เพื่อดูตัวในวันนี้เขาก็คุยกับบิดา ฮาร์ตมองเสี้ยวหน้าลูกชาย ถึงแม้จะไม่แสดงออกทางสีหน้าหรือแววตาเขาก็พอจะดูออกว่ามันต้องเป็นเรื่องสำคัญมากถึงกับต้องตามคนที่เป็นดังเงาซาตานให้กลับมารับใช้
“ไม่ต้องให้นายใหญ่ติดต่อผมหรอกพี่ชาย เงาที่พี่ต้องการอยู่ที่นี่แล้วครับ” ฮอร์ค มาครอฟเดินยิ้มร่าออกมาจากทางเดินทางหนึ่งของโถงทางเดิน ก่อนจะเดินมากอดมาดามโรสเมรี่แม่เลี้ยงที่เขารักเคารพเหมือนแม่แท้ๆ ตั้งแต่แม่เขาเสียมาดามโรสเมรี่ก็ไม่เคยไล่หรือรังเกียจที่เขาเป็นลูกอีกคนของมาครอฟ มาดามเลี้ยงดูเขาให้ความรักเหมือนที่พี่ชายเขาได้จนบางครั้งเขาคิดว่าเขาได้มากกว่าพี่ด้วยซ้ำจึงตอบแทนเท่าที่ตอบแทนท่านทั้งสองและพี่ชายได้ แต่เขาไม่ไปนั่งโต๊ะช่วยพี่ชายบริหารงานแน่นอน ของน่าเบื่อแบบนั้นเขาได้เฉาตายพอดี สู้ทำตัวเหมือนนินจาแว๊บไปแว๊บมาช่วยงานลับของพี่ชายดีกว่า และเพราะแบบนี้เขาเลยได้ฉายาเงาซาตานไปโดยปริยาย
“มาดามคิดถึงฮอร์คมากเลย”
“ผมก็คิดถึงครับ” ฮอร์คยิ้มเอาใจ ก่อนจะเลยมองไปหาพี่ชายที่มองเขม็ง ไม่ใช่เพราะอิจฉาแต่เพราะกำลังอารมณ์เสียที่เขาหนีช่วยงานที่บริษัทอีกแล้ว ก็บอกแล้วไงว่าเขาไม่ชอบนั่งโต๊ะบริหาร
“ฉันก็คิดถึงนายเหมือนกันไอ้น้องชาย” น้ำเสียงแฮคเตอร์เอาเรื่อง นี่ถ้าไม่ติดว่าเป็นน้องฮอร์คโดนเขาอัดไปนานแล้ว
“เอาเป็นว่าผมจะให้พี่จัดการกับผมหลังจากที่พี่เสร็จการดูตัวแล้วดีมั้ย” ฮอร์คยกมือยอมแพ้แล้วยิ้มขำ แฮคเตอร์เบิกตาขึ้นเล็กน้อยแล้วหันไปมองมารดาแล้วหรี่ตา ไหนบอกว่าติดต่อลูกชายคนโปรดไม่ได้ เฮ้อ นี่แหละมาดามโรสเมรี่ลูกๆ ต้องตามให้ทันไม่งั้นได้ตายอนาท
“อย่ามองมาดามแบบนั้นนะแฮค ไปได้แล้วอย่าให้ทางนั้นต้องรอ” มาดามโรสเมรี่รีบลากลูกชายคนโตไปทันที แฮคเตอร์ไปตามแรงจูงของมารดาแต่ไม่วายมามองน้องชายอย่างคาดโทษ ในขณะที่ด้านฝ่ายหญิงกำลังงกระวนกระวายเมื่อลูกสาวที่แสนอ่อนหวานและไม่เคยขัดคำสั่งสักครั้งอย่างน้ำหวานลูกสาวคนโตยังเดินทางมาไม่ถึงเสียทีทั้งๆ ที่ขอตัวออกไปทำธุระนานแล้ว และเมื่อครอบครัวทางฝ่ายชายมาถึงคุณหญิงเพ็ญแขแทบนั่งไม่ติด ท่านอดุลได้แต่บีบมือให้ภรรยาหายกังวลเท่านั้นพร้อมบอกว่าลูกอาจจะกำลังเดินทางมาก็ได้ “สวัสดีค่ะคุณแข คุณดุล” การเรียกที่ออกจะสนิทชิดเชื้อเรียกแววตาคมกล้ามองอย่างใช้ความคิด แสดงว่าไม่ได้เพิ่งรู้จักแบบผิวเผินเหมือนที่แล้วๆ มาแต่เป็นการสนิทมาพอสมควร
“สวัสดีค่ะคุณโรส คุณฮาร์ต เชิญนั่งค่ะ” คุณหญิงเพ็ญแขเชิญแขกพิเศษนั่งลงด้วยรอยยิ้มแอบหวั่นกลัวว่าลูกสาวนางจะดื้อขึ้นมา
“คุณแข คุณดุลนี่ลูกชายคนโตของโรสค่ะชื่อแฮคเตอร์ ส่วนคนเล็กชื่อฮอร์คค่ะ ไม่ว่ากันนะคะที่ชวนลูกชายคนเล็กมาด้วย มาทำความรู้จักว่าที่พี่สะใภ้น่ะค่ะ” มาดามโรสเมรี่จัดการดองเสร็จสรรพเรียกนัยน์ตาคมกล้าของลูกชายคนโตขวับมองขณะลูกชายคนเล็กได้แต่อมยิ้มขำ
“อ้อ ไม่เป็นไรค่ะ ดีเสียอีกที่จะได้ทำความรู้จักกันไว้” คุณหญิงเพ็ญแขหันไปยิ้มให้สองหนุ่ม แฮคเตอร์และฮอร์คลุกขึ้นยืนแล้วค้อมตัวเล็กน้อยยามยื่นมือไปจับมือคุณนายเพ็ญแขและคุณอดุลตามการทักทายสากล คุณหญิงเพ็ญแขยิ้มอย่างชื่นชม ไม่เห็นจะเหมือนกับชื่อเสียงโหดๆ ที่ได้ยินมาเลย เธอคงไว้ใจฝากให้ดูแลลูกสาวคนโตของเธอได้ ส่วนลูกสาวคนเล็กรายนั่นน่ะแกร่งเกินหญิงและหัวดื้อที่สุดคงไม่มีหนุ่มกล้าตายคนไหนฉุดลงมาจากคานแน่ๆ เพราะกลัวดงลูกปืนที่แม่ประคุณจะสาดมาตอนไหนก็ไม่รู้
“แล้วนี่หนูหวานไปไหนละคะ ยังเดินทางมาไม่ถึงเหรอคะ” มาดามถามถึงว่าที่ลูกสะใภ้ทันทีที่สองหนุ่มทักทายผู้ใหญ่ฝั่งหญิงสาวแล้ว สีหน้าซีดๆ ไม่มองหน้าตรงๆ ของคุณหญิงเพ็ญแขเรียกรอยยิ้มหยักที่มุมปากหนา เขาคิดได้อย่างว่าผู้หญิงคนนั้นคงยังเสริมสวยไม่เสร็จ คงอยากจับเขาจนตัวสั่นเลยสิท่า
“เอ่อ…”
“มาแล้วค่ะ ขอโทษะคะที่เสียมารยาทให้รอนาน” หน้าประตูเปิดพลัวะพร้อมกับผู้มาใหม่ หญิงสาวที่เพิ่งเข้ามาแจกรอยยิ้มที่ดูเรี่ยราดเหลือเกินให้กับทุกคนในห้อง โดยเฉพาะผู้ชายที่เธอมาดูตัวแทนพี่สาวในวันนี้ คุณหญิงเพ็ญแขถึงกับอ้าปากค้างพูดไม่ออกแล้วมองหน้าสามีที่มีอาการไม่ต่างกัน ท่านทั้งสองรู้ดีว่านั่นไม่ใช่น้ำหวานแต่เป็นน้ำมนต์ฝาแฝดคนน้อง เรื่องหน้าไม่ต้องพูดถึงสองสาวเหมือนกันจนแยกไม่ออก แต่ที่ทำให้แยกออกได้คือการกระทำและการแต่งตัว น้ำหวานจะเป็นคนที่แต่งตัวเรียบร้อยอ่อนหวานต่างกับน้ำมนต์ที่จะแต่งตัวเหมือนผู้ชายและการกระทำที่ห้าวเกินตัว
“น้ำมนต์” โอ๊ย คนเป็นแม่จะเป็นลม
“น้ำมนต์เองค่ะคุณพ่อคุณแม่” น้ำมนต์เดินมานั่งข้างคุณแม่เธอทันที ไม่สนใจสายตาปรามดุของผู้เป็นแม่สักนิด ส่วนคุณอดุลได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่กับการกระทำที่ดูไม่เหมาะสมของลูกสาวคนเล็ก “สวัสดีค่ะคุณลุงคุณป้า ต้องขออภัยที่คนที่คุณลุงคุณป้าต้องการเป็นสะใภ้ไม่ต้องการมาดูตัว น้ำหวานมีคนรักอยู่แล้วน่ะค่ะแต่มนต์ยังไม่มี ก็เลยอยากลงจากคานก็หวังว่าลูกชายคุณลุงคุณป้าจะสนใจมนต์บ้าง” น้ำมนต์ยิ้มหวานอ้อนผู้ใหญ่ฝั่งชาย หวังว่าให้เห็นใจเธอและมันก็ได้ผล ดูได้จากที่มาดามโรสเมรี่อมยิ้มแก้มตุงด้วยความชอบใจว่าที่ลูกสะใภ้จอมแก่น ท่าทางงานนี้ลูกชายเธอได้หัวหมุนแน่ น่าสนุกจริงๆ
“ป้าน่ะ ไม่สิ มาดามไม่มีปัญหาหรอกลูก แบบหนูมนต์มาดามก็ชอบ ไม่ว่าคนไหนที่เป็นลูกสาวของคุณแขมาดามรับเป็นลูกสะใภ้หมดแหละ แต่น่าเสียดายที่หนูหวานมีคนรักแล้วไม่อย่างนั้นมาดามจะให้ลงเอยกับตาฮอร์ค” คนที่จะถูกจับคลมถุงชนโดยไม่ได้เตรียมใจมาก่อนอีกคู่สะดุ้งโหยงแล้วมองหน้ามารดาเขม็ง ถึงว่าคงไม่เรียกเขามาให้ดูหน้าว่าที่พี่สะใภ้อย่างเดียว นี่กะจะจับคู่เขาด้วยหรือเนี่ย ร้ายจริงๆ นะมาดามโรสเมรี่ ส่วนแฮคเตอร์กระตุกยิ้มสมน้ำหน้าน้องชาย แต่ผู้หญิงคนนี้ดูไม่ธรรมดาจริงๆ
“เอ่อ…”
“ไม่ต้องกังวลนะคะคุณแข โรสเองก็ทราบว่าคุณแขมีลูกสาวฝาแฝด ตอนแรกจะให้มาทั้งสองคนด้วยซ้ำ แต่เป็นแบบนี้แล้วโรสยังไงก็ได้ค่ะ ได้หนูมนต์เป็นลูกสะใภ้โรสก็ไม่ขัด” มาดามโรสเมรี่จัดแจงให้เสร็จสรรพจนฝั่งคุณหญิงเพ็ญแขและคุณอดุลก็ตั้งตัวไม่ทันกับการตัดสินใจแบบรวดเร็วทันใจ นายใหญ่แห่งมาครอฟหัวเราะน้อยๆ แล้วชวนพ่อฝ่ายหญิงคุยเรื่องอื่นแทนปล่อยให้ภรรยาคนเก่งจัดการ
“ขอบคุณนะคะ แล้วต้องขอโทษด้วยที่เกิดเรื่องแบบนี้”
“โอ๊ย ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ไม่ต้องคิดมากนะคะ” มาดามโรสเมรี่ยิ้มให้คุณหญิงเพ็ญแขแล้วเผื่อแผ่มายังว่าที่ลูกสะใภ้ที่องลูกชายคนโตเขาตาเป็นมันด้วยความถูกใจ เธอไม่ขัดปล่อยให้เด็กๆ ทำความรู้จักกันเองแล้วชวนคุณหญิงเพ็ญแขคุยเมื่อเห็นว่าแฮคเตอร์เชิญหญิงสาวออกไปคุยกันนอกห้อง
น้ำมนต์พาเจ้าพ่อค้าอาวุธมายังสวนหย่อมบริเวณตรงกลางของโรงแรมแล้วนั่งลงบนม้านั่งมองดูรอบๆ ราวกับมันน่าสนใจมากกว่าชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาปานเทพบุตรที่กำลังนั่งลงม้านั่งตัวเดียวกันกับเธอแต่นั่งห่างกันคนละฝั่ง โดยมีริคาโด้คอยดูแลเจ้านายอยู่ห่างๆ
“ฉันขอพูดตรงๆ เลยแล้วกัน ฉันรู้ว่าคุณไม่อยากมีเมีย ฉันเองก็ไม่อยากมีสามี เลยคิดว่าเราน่าจะคุยกันได้” น้ำมนต์เปิดประเด็น แฮคเตอร์ปรายตามองหญิงสาวที่มองเขาไม่มีหลบและไม่เกรงกลัวอิทธิพลเขาแม้แต่น้อยด้วยความสนใจ เขาอยากจะรู้ว่าเจ้าหล่อนคิดจะทำอะไร ถ้าไม่อยากจับเขาเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ถึงจะแอบหงุดหงิดที่เสน่ห์อันล้นเหลือไม่สามารถทำให้ผู้หญิงที่ดูจืดชืดไร้รสนิยมในการแต่งตัวคนนี้หลงได้
“ไม่อยากมีสามี? แต่ในห้องเธอบอกว่าอยากลงมาจากคาน”
“ฉันก็พูดไปงั้น” น้ำมนต์ยักไหล่ “ฉันหวงความโสด พอๆ กับที่คุณหวงความโสดของคุณนั่นแหละ ฉันเลยมีข้อเสนอมาให้คุณพิจารณา” เป็นครั้งแรกจริงๆ ที่แฮคเตอร์คุยกับผู้หญิงที่ไม่ใช่แม่ได้นาน ปกติแค่มองตาแล้วจบลงบนเตียงเท่านั้น
“ว่ามา”
“แต่งกันสามเดือนแล้วหย่า” แฮคเตอร์หรี่ตาจ้องมองดวงตาคมว่าปกปิดอะไรเขาไว้ไม่ยอมพูดออกมาหมดหรือเปล่า
“แล้วเธอกจะเรียกร้องสินสมรสสินะ ฉลาดดีนี่” แฮคเตอร์ยิ้มเหยียด นึกว่าเจ้าหล่อนจะต่างกับคนอื่นแต่ไม่เลยผู้หญิงมันก็หิวเงินกันทุกคน
“ฉันไม่เรียกร้องอะไรทั้งนั้นแหละ บ้านฉันก็ไม่ได้จนขนาดต้องทำอะไรสิ้นคิดแบบนั้น” น้ำมนต์เองกลับเป็นฝ่ายไม่ชอบใจที่เขาดูถูกเธอแบบนี้ ผู้หญิงที่ผ่านมาของเขาอาจจะเป็นแบบนั้นแต่ไม่ใช่สำหรับเธอ จะเอาเงินมากมายไปทำอะไรทั้งที่ชีวิตนี้เธอมอบให้ชาติไปแล้ว “ฉันไม่ได้เหมือนผู้หญิงที่ผ่านมาของคุณนะคุณซาตานที่จะหิวเงินแบบนั้น” ไม่รู้ว่าเจ้าหล่อนเห็นเขาเป็นเพื่อนหรือไม่กลัวกับใบหน้าดุๆ ของเขากันแน่ถึงได้กล้าใช้นิ้วเล็กๆ นั่นมาจิ้มเบาๆ ที่หน้าอกเขา และก่อนที่เขาจะปัดมือเล็กนั่นออกไปเจ้าหล่อนก็เนรเทศมันออกไปเอง
“ฉันไม่เชื่อว่าเธอต้องการแค่นี้” น้ำมนต์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ อยากจะจับหัวโตๆ นั่นเขกต้นไม้สักทีสองทีจะเข้าใจอะไรให้มันง่ายขึ้น ทำไมเข้าใจอะไรยากเย็นแบบนี้ เธอไม่ต้องการอะไรคือไม่ต้องการสิ อ้อ ยกเว้นเรื่องงาน เธอต้องการเข้านอกออกในบ้านมาครอฟแบบไม่มีใครสงสัยถึงได้ทำแบบนี้ต่างหาก ระยะเวลาแค่สามเดือนเธอน่าจะพอเอาหลักฐานทุกอย่างมา
“ฉันต้องการแค่นี้ ฉันมาดูตัวแทนพี่สาวเพราะพี่ฉันกลัวคุณมาก ฉันกลัวว่าพี่ฉันจะหัวใจวายตายถ้าคุณเผลอตะคอกใส่นางไป และฉันต้องการให้เป็นไปตามผู้ใหญ่เพื่อให้ทุกอย่างจบ และพอถึงเวลาที่ฉันกับคุณหย่า วันนั้นแหละพวกท่านจะได้รู้ว่าการจับคลุมถุงชนไม่ได้เป็นความหวังดีเลยแม้แต่น้อย” น้ำมนต์มองตาเจ้าพ่อมาเฟียไม่มีหลบเพื่อแสดงความจริงใจ แต่ทำไมหนอพอมองดวงตาสีน้ำเงินเข้มคู่นี้เข้าทำเอาใจสั่นแปลกๆ ไม่นะมนต์ แกจะใจง่ายชอบคนหล่อไปทั่วแบบนี้ไม่ได้นะ
“ก็ได้” คิดๆ ดูแล้วมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร มาดามโรสเมรี่จะได้เลิกจับคู่ให้เขาเสียทีถ้ารู้ว่าการจับคู่ของท่านทำให้ชีวิตคู่ของลูกพัง
“โอเค งั้นกลับขึ้นไปดีกว่า จะได้บอกข่าวดีให้ทั้งสองฝ่ายรู้” น้ำมนต์ลุกขึ้นก่อน แต่ด้วยสายตาที่ว่องไวดุจเหยี่ยวของเธอดันไปเจอเงาสะท้อนบนผนังกระจกเห็นคนกำลังเล็งปืนมาจากตึกอีกด้านและเล็งมายังชายหนุ่มข้างๆ เธอ และก่อนที่ฝ่ายนั้นจะลงมือร่างเล็กกระแทกร่างใหญ่ไปอีกทางทันที!
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว