เหอซือเมี่ยว-ความสุขแสนประเสริฐ ๔๗ : Teacher?...ก็ดีนะ

โดย  fews

เหอซือเมี่ยว

ความสุขแสนประเสริฐ ๔๗ : Teacher?...ก็ดีนะ

“ช่วงนี้เราจะต้องโชว์สินค้าและทำความสะอาดร้าน แล้วยังต้องเทรนพนักงานให้มีอัธยาศัยดีอีกด้วย” มีคนพูดเสริมขึ้นมา

“พวกเขาทำโพรโมชันลดราคา พวกเราก็จะทำด้วยเหมือนกัน” อีกคนพูดขึ้น “ลูกค้าส่วนมากจับจ่ายซื้อของที่ห้างของเราจนเคยชิน ไม่เชื่อหรอกว่าพวกเขาจะสามารถดึงลูกค้ากลุ่มนี้ไปได้”

ทุกคนล้วนถกเถียงกัน มู่หานเซี่ยจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ อย่างว่องไว

เมื่อก่อนเธอจะแค่นั่งมองโน่นมองนี่ไปเรื่อย แต่มาวันนี้ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของทีมงาน เธอพบว่าเหล่าผู้บริหารล้วนมีประสบการณ์อันโชกโชน ใช้เวลาเพียงไม่นานพวกเขาก็สามารถหาคำตอบที่จะนำมาซึ่งการปฏิบัติได้จริง เช่น เพิ่มแนวคิดในการตกแต่งร้านให้สวยงามสะอาดสะอ้าน การนำพนักงานเก่าเข้าฝึกอบรมทางวิชาชีพอย่างเข้มข้น นอกจากนี้ยังจะสรรหาสินค้าดีมีคุณภาพและสดใหม่เข้ามาเสริม สินค้าประเภทเกรดกลางๆ พอใช้ได้จะไม่นำมาขึ้นวางบนชั้นอีกแล้วในวันพรุ่งนี้

มีบางครั้งที่เธอเงยหน้าขึ้นมาแล้วพบว่าเมิ่งกังนั่งฟังเงียบๆ มีบางความเห็นที่เขาจะกล่าวสรุปหรือให้คำตัดสินใจ บางความเห็นที่เขาจะซักถามขึ้นโดยตรงถึงข้อได้เปรียบเสียเปรียบ ซึ่งความเห็นของเขาล้วนเป็นคำพูดที่รวบรัดชัดเจน อีกทั้งยังให้เกียรติผู้ใต้บังคับบัญชา ซึ่งทำให้ทุกคนยอมคล้อยตามเขา

ปิดท้ายการประชุมด้วยคำพูดของผู้จัดการฝ่ายการตลาดที่ว่า “ประธานเมิ่ง ผมคิดว่าลดห้าเปอร์เซ็นต์ก็แล้วกัน เริ่มในสัปดาห์ที่หย่งเจิ้งเปิดกิจการเลย เงินทุนหมุนเวียนของพวกเรามีประมาณ 2 ล้านหยวนต่อวัน หากลงเงินเข้าไปในส่วนนี้สักหนึ่งสัปดาห์จะตกประมาณ 1 แสนกว่าหยวน คิดว่าน่าจะเพียงพอ”

เมิ่งกังครุ่นคิดชั่วครู่ก่อนจะเห็นชอบด้วย

ผลสุดท้ายก็คือ ไม่ว่าจะอยู่ในสมรภูมิไหน การตั้งรับย่อมง่ายกว่าการโจมตี

การให้ส่วนลดที่เท่ากันในสินค้าชนิดเดียวกัน แน่นอนว่าลูกค้าจะต้องไปจับจ่ายยังร้านที่คุ้นเคย ต่อให้มีคู่แข่งเพิ่มขึ้นมากแค่ไหนก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ เมื่ออยากจะคงความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในวงการก็ต้องชิงลงมือก่อนเพื่อรักษาความได้เปรียบเอาไว้เท่านั้น


บ้านของมู่หานเซี่ยอยู่ไม่ไกลจากห้างสรรพสินค้าเท่าไร

ช่วงใกล้ค่ำ เธอลงจากรถประจำทาง เดินผ่านถนนลูกรังโดยใช้มือปิดปากเพื่อกันไม่ให้ฝุ่นเข้าจมูกและปาก พอเดินผ่านซากปรักหักพังของอาคารที่ถูกรื้อถอนก็จะถึงอะพาร์ตเมนต์ที่ทั้งเก่าและผุพังหลังหนึ่ง คนส่วนใหญ่ย้ายออกไปแล้ว ในตึกจึงเหลือห้องว่างกว่าครึ่ง แต่ก็ยังมีคนอาศัยอยู่บ้างรวมทั้งมู่หานเซี่ยด้วย

ห้องของเธออยู่ชั้นบนสุด... คือชั้นหก เธอก้าวเท้าเดินขึ้นบันไดอย่างฉับไว พอเปิดประตูห้องเสร็จก็โยนกระเป๋าเป้แล้วตรงไปนั่งบนโซฟา

“ฮ้า...” เธอทอดเสียงยาวสะท้อนถึงความสุขและความทุกข์ที่ปะปนกันในใจออกมา

สักพักหญิงสาวก็ลุกขึ้นยืน มองไปยังผนังห้องสีขาวที่มีรอยกระดำกระด่างตรงจุดที่แขวนรูปของพ่อแม่เอาไว้ ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืด เธอจ้องมองรูปของพวกท่านในห้องที่มืดสลัว จากนั้นก็เริ่มพูดคนเดียว

“แม่คะ หนูเก่งแล้วนะ วันนี้ประธานเมิ่งของพวกเราให้หนูไปทำงานฝ่ายการตลาดแล้วด้วย ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปหนูจะเป็นพนักงานออฟฟิศอย่างเป็นทางการ ไม่ได้เป็นแค่พนักงานขายแล้วนะคะ”

“คิดไปคิดมาถ้าเทียบกับเพื่อนๆ ที่เรียนมหาวิทยาลัย หนูว่าพวกเราคงต่างกันไม่มาก แต่ไหนแต่ไรผลการเรียนของหนูก็สู้ได้อยู่แล้ว”

“พอคิดอีกทีหนูคงจะเลิกดวงซวยเสียที แล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นดีขึ้นเรื่อยๆ”

“พรุ่งนี้จะต้องไปหาอะไรอร่อยๆ ฉลองซะหน่อย แล้วหนูจะเผากระดาษเงินกระดาษทองไปให้พ่อกับแม่เยอะๆ เลย ลูกสาวได้เป็นพนักงานออฟฟิศแล้วนะคะ ไม่ใช่คนจนอีกแล้ว”

“ทำไมพ่อกับแม่ถึงจากไปกันหมด หนูคิดถึงมากนะคะรู้ไหม” พูดแล้วเธอก็ร้องไห้ออกมา ร้องไปสักพักก็เช็ดน้ำตาแล้วทุ่มตัวลงไปนอนเหม่อบนเตียง

หญิงสาวคิดถึงเรื่องในที่ประชุมวันนี้ การประชุมระดับสูงแบบนี้ ไม่แน่ใจว่าในอนาคตเธอจะดีพอที่จะมีโอกาสแสดงความคิดเห็นบ้างหรือเปล่า จู่ๆ เธอก็คิดถึงหลินม่อเฉิน คำพูดปองร้ายที่เขากล่าวทิ้งท้ายเอาไว้ไม่ดีสำหรับบริษัทของเธอเท่าไรนัก

จู่ๆ หญิงสาวก็นึกถึงสิ่งที่คนในฝ่ายการตลาดหาข้อมูลมา พวกเขาบอกว่าหลินม่อเฉินจบจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในประเทศสหรัฐอเมริกา

มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เคยเป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาในฝันของเธอ จากนั้นความคิดหนึ่งก็แวบเข้ามาในหัว เธอรีบออนไลน์โปรแกรมคิวคิว*ทันที

“โห่วจือ อยู่หรือเปล่า?”

โห่วจือเป็นเพื่อนสมัยเรียนมัธยมปลายของเธอ ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียที่นิวยอร์กพอดี

ต้องรอเกือบเที่ยงคืน โห่วจือที่อยู่คนละฟากฟ้าถึงจะตอบกลับ “อยู่สิคุณหัวหน้าห้อง วันนี้คิดยังไงถึงติดต่อมาหาฉัน มีเรื่องอะไรเหรอ?”

มู่หานเซี่ยคลี่ยิ้มนิดๆ ตอบไปว่า “ไม่มีเรื่องติดต่อไม่ได้เหรอ ตอนนี้เป็นไงบ้าง?”

“ดีมากเลยล่ะ เธอก็รู้ว่าฉันน่ะอยู่ที่ไหนก็เจริญเติบโตได้”

“ฮ่าๆ ดีจังเลย! ฉันมีเรื่องรบกวนนายหน่อย เคยได้ยินคนที่ชื่อหลินม่อเฉินไหม เขาจบจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียของนาย”

“ไม่รู้จักหรอก...เรียนปีเดียวกับฉันเหรอ?” โห่วจือถาม

“น่าจะเป็นรุ่นพี่พวกเราหลายปีเหมือนกันนะ”

“ถึงจะไม่รู้จัก แต่ถ้าเป็นคำขอของหัวหน้าห้องแล้วละก็ ข้าน้อยจะบุกป่าฝ่าดงค้นหาข้อมูลมาให้กระจ่างจนได้ วางใจเถอะ ถ้าเป็นกลุ่มก๊วนคนจีนโพ้นทะเลด้วยกัน ฉันไปสอบถามข้อมูลแป๊บเดียวก็ได้แล้ว”

“ขอบคุณมาก ขอบคุณจริงๆ!” แล้วมู่หานเซี่ยก็ส่งสติกเกอร์รูปหน้าคนยิ้มแฉ่งไป

ผ่านไปสักพักโห่วจือก็ถามกลับมา “คุณหัวหน้าห้อง ตอนนี้เธอเป็นไง สบายดีหรือเปล่า?”

มู่หานเซี่ยหยุดคิดครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับไป “ดีสุดๆ ไปเลย!”

แล้วโห่วจือก็ส่งรูปคนเต้นรำอย่างสนุกสนานมาให้ มู่หานเซี่ยเห็นแล้วก็อดขำไม่ได้


วันต่อมามู่หานเซี่ยได้เข้าทำงานในฝ่ายการตลาดอย่างเป็นทางการ

เธอต้องย้ายห้องทำงานจากชั้นล่างไปอยู่ชั้นบน บรรยากาศจึงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ห้องทำงานชั้นบนนั้นเงียบสงบ ทุกคนพากันนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ บ้างก็เข้าประชุมหรือไม่ก็ออกไปทำแผนการตลาดเพื่อเสนองาน ทุกอย่างดูเป็นระเบียบเรียบร้อย

ผู้จัดการให้มู่หานเซี่ยแนะนำตัวสั้นๆ กับทุกคน แล้วให้เธอเรียนรู้งานกับเจ๊ใหญ่

เจ๊ใหญ่มอบหมายงานง่ายๆ ให้เธอทำไปก่อน เช่น ถ่ายเอกสาร

มู่หานเซี่ยวางตัวอ่อนน้อมถ่อมตน ขยันขันแข็ง ปากหวานแต่ไม่ใช่ประจบประแจง เธอเป็นคนคุยสนุก พอได้ร่วมงานกันเพียงวันเดียว ไม่เพียงแต่เจ๊ใหญ่เท่านั้น คนอื่นๆ ในออฟฟิศต่างก็รู้สึกว่าสาวน้อยคนนี้เฉลียวฉลาด ไม่ใช่พนักงานซื่อๆ บื้อๆ เธอจึงเป็นที่ชื่นชอบของทุกคน

ได้เวลาพลบค่ำ สาวออฟฟิศที่ชื่อมู่หานเซี่ยก็เลิกงานตรงเวลา วันนี้เธอนัดเหอจิ้งไปกินแหลกกันสักมื้อ สองสาวนั่งรถประจำทางมุ่งตรงไปยังตลาดกลางคืนริมแม่น้ำ กินบาร์บีคิวกองโต ดื่มเบียร์ เท่านั้นยังไม่พอ หลังจากกินกันจนพุงกางแล้วทั้งคู่ก็นั่งไหล่ชนไหล่กันริมแม่น้ำมองดาวบนท้องฟ้าไปพร้อมๆ กัน

“นี่...” เหอจิ้งมองมู่หานเซี่ยด้วยความสงสัย “บอกมาตามจริงเลยนะ เธอได้ค่าแรงเพิ่มขึ้นเท่าไร?”

“เออ ก็ขึ้นมา...” มู่หานเซี่ยหัวเราะร่า “เป็นสองเท่าจากเดิม”

“ว้าว!” เหอจิ้งอุทานออกมาแล้วชูกำปั้นมาที่หน้าของเธอ “อย่างนี้ไม่พูดยังจะดีเสียกว่า”


ทั้งคู่หัวเราะกันอย่างสนุกสนาน

ผ่านไปสักพักมู่หานเซี่ยก็ลุกขึ้นเดินไปริมแม่น้ำที่มืดสนิท มองแสงไฟฝั่งตรงข้ามซึ่งเป็นแหล่งที่เจริญที่สุดของเมืองเจียงเฉิง มองเท่าไรก็ไม่เห็นยอดของตึกระฟ้า

ด้วยความภาคภูมิใจที่มีอยู่แน่นอก เธออดไม่ได้ที่จะร้องตะโกนออกมา “จักรวาลนี้เป็นของฉัน”

เหอจิ้งหัวเราะจนลงไปนอนกลิ้งกับพื้น ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาต่างคิดว่าทั้งคู่เป็นเด็กสาวสติไม่เต็ม

ภาพยนตร์เรื่องไททานิกออกฉายไปครบสิบปีเต็มแล้ว แต่ไม่รู้เป็นยังไง คำพูดของตัวพระเอกในเรื่องที่ตะโกนว่า ‘I’m the King of the World’ ยังคงติดปากของมู่หานเซี่ยอยู่

เหอจิ้งที่อยู่ข้างๆ นึกสนุกขึ้นมา “เธอกำลังมองหารักแท้อยู่ใช่ไหม อยากได้แบบแจ็คสักคนไหมล่ะ?”

“แน่นอน ถ้าบนโลกนี้จะมีแจ็คสักคนที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อฉัน แล้วก็กระโดดลงไปในน้ำทะเลแบบนั้น ฉันก็จะรักเขา”

เหอจิ้งเดาะลิ้น เพื่อนของเธอที่ยืนอยู่ริมน้ำท่ามกลางการผสมผสานของแสงและเงายามค่ำคืนหันมาหาพร้อมรอยยิ้ม “แต่ฉันไม่ใช่โรส ฉันจะไม่ยอมอยู่อย่างเดียวดาย ฉันจะกระโดดลงน้ำพร้อมกับเขาด้วย เราจะกอดกันแน่นแบบไม่พรากจากกัน”

มืดแล้ว ทั้งคู่นั่งรถประจำทางกลับมาถึงห้างสรรพสินค้า เหอจิ้งนั้นนั่งรถประจำทางอีกสายหนึ่งกลับบ้าน มู่หานเซี่ยเองก็คิดว่าจะกลับบ้านแล้วเช่นกัน แต่พอเงยหน้าขึ้นเห็นห้างสรรพสินค้าหย่งเจิ้งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกำลังตกแต่งใกล้จะเสร็จก็อดหยุดมองไม่ได้

ตัวอาคารตกแต่งใหม่ด้วยสีขาว ชั้นบนสุดติดตัวอักษรสีดำขนาดใหญ่ว่า ‘หย่งเจิ้ง Yourmart’ เห็นแล้วรู้สึกขัดตาชะมัด เธอรู้สึกว่ารูปแบบอาคารแม้จะดูล้ำสมัยก็จริง แต่หากเทียบกับห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ที่มีความขลังอย่าง ‘เล่อหย่า’ ซึ่งออกแบบด้วยสีแดงสดใสแล้ว หย่งเจิ้งดูแล้วไร้สง่าราศีไปเลย

ช่วงที่อยู่คนเดียวในค่ำคืนนี้ มู่หานเซี่ยเกิดแรงดลใจบางอย่างจึงตัดสินใจจะสำรวจห้างใหม่เสียหน่อย

รีวิวจากผู้อ่าน 6 รีวิว
  • goong_cute
    เมื่อ 5 ปี 10 เดือนที่แล้ว
    ไม่ใช่องค์ชายมีหลงเมี่ววเออร์นั
    • อ่านถึง : ความสุขแสนประเสริฐ ๔๗ : Teacher?...ก็ดีนะ
  • MintsriPHMU
    เมื่อ 5 ปี 11 เดือนที่แล้ว
    ติดตามต่อค่าาม
    • อ่านถึง : ความสุขแสนประเสริฐ ๔๗ : Teacher?...ก็ดีนะ
  • Puma1008
    เมื่อ 5 ปี 11 เดือนที่แล้ว
    ขอบคุณค่ะรอๆๆๆๆไ
    • อ่านถึง : ความสุขแสนประเสริฐ ๔๗ : Teacher?...ก็ดีนะ
  • Yimsuthinee
    เมื่อ 5 ปี 11 เดือนที่แล้ว
    ขอบคุณค่ะ.
    • อ่านถึง : ความสุขแสนประเสริฐ ๔๗ : Teacher?...ก็ดีนะ
  • pukky
    เมื่อ 6 ปี 13 ชั่วโมงที่แล้ว
    รออยู่นะคะ น่ารักอ่ะ
    • อ่านถึง : ความสุขแสนประเสริฐ ๔๗ : Teacher?...ก็ดีนะ
  • BowNim
    เมื่อ 6 ปี 15 ชั่วโมงที่แล้ว
    สมุกมากเลยค่ะ รอติดตามนะค่ะ เป็นกำลังใจให้ไรท์นะค่ะ
    • อ่านถึง : ความสุขแสนประเสริฐ ๔๗ : Teacher?...ก็ดีนะ

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว