เทพแห่งระบบ-บทที่ 580 กำกับและแสดงเอง

โดย  NNewnovel

เทพแห่งระบบ

บทที่ 580 กำกับและแสดงเอง

บทที่ 12 สู้กับสวีฮ่าว


“ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้!”


หญิงสาวเห็นว่าลูกสาวกำลังโดนทำร้าย สีหน้าของนางดุดันขึ้นมา จากนั้นก้มเก็บหินจากพื้น ตั้งใจจะสู้กับอีกอีกฝ่ายโดยไม่เกรงกลัวสิ่งใดอีก


ชายคนนั้นเงื้อดาบในมือขึ้นและฟันออกไป “นังโง่ดื้อด้าน! ตายซะ!”


ฉึก!


เลือดแดงฉานสาดกระเซ็น


แต่กลับเป็นเลือดของชายคนนั้นที่ถูกดาบแทงทะลุอก ดาบที่ถือในมือแข็งค้างอยู่กลางอากาศ


หญิงสาวถึงกับนิ่งตะลึง


ชายคนนั้นหันกลับไปมองช้า ๆ ร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งปรากฏสู่สายตา


เด็กหนุ่มคนนี้… เขาเคยเห็นมาก่อน


เขาเคยเห็นบนหมายจับ


เป็นเด็กหนุ่มที่สังหารนายกองขั้นสองชุยเซียวคนนั้น


“ไอ้ชั่ว! เจ้าเป็นใคร! บังอาจทำร้ายพวกเรา โจรป่าแห่งขุนเขาต้าหวัง!”


โจรป่าคนหนึ่งโพกผมด้วยผ้าสีดำเห็นพรรคพวกโดนฆ่าตาย จึงแผดเสียงตะคอกด้วยความโกรธเกรี้ยว


เจียงผิงอันชักดาบสีดำออกมา จ้องหน้าโจรป่าที่ร้องด่าเขาด้วยสายตาเย็นเยียบ


โจรป่าที่โพกผมเห็นสายตาเย็นเฉียบปานน้ำแข็งแล้วรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างประหลาด


แต่… ตอนนี้จะทำท่าอ่อนแอหวาดกลัวไม่ได้ ประกอบกับอีกฝ่ายเป็นเพียงแค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้น จะต้องกลัวอะไรกัน


“ดูหน้าพ่อของเจ้าอยู่เรอะ! ไอ้ระยำ บังอาจสังหารคนของพวกเรา พี่น้องทั้งหลาย ฆ่าเด็กนี่...”


เขากำลังตะโกนเรียกพรรคพวกให้ลงมือพร้อมกัน แต่กลับพบว่าคนอื่น ๆ พากันวิ่งแตกตื่นหนีกันอุตลุด


“พวกเจ้าเป็นอะไรไป! เหตุใดต้องหนี กะอีแค่เด็กคนหนึ่ง ลงมือจัดการพร้อมกันก็เรียบร้อยแล้ว!”


โจรป่าที่โพกผมไม่เข้าใจสักนิด ก่อนหน้านี้ยังคุยโตโอ้อวดถึงความเก่งกาจของแต่ละคน เหตุใดเวลานี้จึงวิ่งหางจุกตูดเหมือนกับสุนัข


ล้วนขยะทั้งนั้น


“เขาคือคนที่สังหารนายกองขั้นสองชุยเซียว!”


โจรป่าที่กำลังวิ่งตาลีตาเหลือกร้องเตือนเสียงสั่นเครือด้วยความปรารถนาดี


พอได้ฟัง สีหน้าของโจรป่าที่โพกผมก็แข็งทื่อ


ทั่วทั้งอำเภอผิงสุ่ย ไม่มีใครไม่รู้จักเด็กหนุ่มคนนี้


เด็กหนุ่มที่สังหารทหารม้ายศนายกองขั้นสอง ไม่ว่าชาวบ้านหรือโจรป่าล้วนดีใจด้วยกันทุกฝ่าย ปกติเวลาที่ไม่มีอะไรทำ ทุกคนก็จะคุยกันเรื่องความร้ายกาจของเด็กหนุ่มคนนี้


ระยะนี้ได้ยินมาว่าเด็กหนุ่มเข้าสู่เทือกเขาอินทรีครวญไปแล้ว


ไม่คิดเลยว่าจะบังเอิญมาเจอเข้า!


สีหน้าของโจรป่าที่โพกผมด้วยผ้าสีดำเปลี่ยนไป เขาพยายามฝืนกลืนน้ำลาย ความอหังการหายไปจากใบหน้า


“เจ้า… เจ้าหนู ข้าจะให้เงินเจ้า...”


ฉึก!


พูดยังไม่ทันจบความเจ็บแปลบก็แล่นขึ้นมาจากกลางอก


นี่คือความรู้สึกของการโดนแทงทะลุหัวใจงั้นหรือ?


เจียงผิงอันตวัดดาบไล่ฟันโจรป่าคนอื่น ๆ ต่ออย่างรวดเร็ว ไม่สนใจโจรป่าคนนั้นอีก


คนเหล่านี้เป็นเพียงแค่โจรป่าทั่วไป ไม่อาจทัดทานกำลังของเจียงผิงอันได้ สังหารได้ง่าย ๆ ราวกับฟันแตงกวา


เห็นเจียงผิงอันเดินเข้ามาใกล้ หญิงที่เหลือยืนนิ่งอยู่กับที่ ไม่กล้าขยับเขยื้อน


เจียงผิงอันใช้ดาบตัดเชือกที่มัดตัว จากนั้นมอบเงินที่ริบมาจากพวกโจรป่าให้พวกนาง


“ไปเถอะ”


“ขอบคุณผู้มีพระคุณมาก! ขอบคุณเหลือเกิน!”


ผู้หญิงทั้งหมดคุกเข่าลงกับพื้นพร้อมน้ำตาไหลพราก


หากเจียงผิงอันไม่เข้ามาช่วย เมื่อพวกนางไปถึงรังโจร คงไม่พ้นถูกทรมานจนตายอยู่ดี


เจียงผิงอันกำลังประคองให้พวกนางลุกขึ้น ฉับพลันสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป สัมผัสได้ถึงบางอย่างกำลังใกล้เข้ามา


“เจอแล้ว! เด็กคนนั้นอยู่นี่! รีบส่งสัญญาณเร็ว!”


เสียงตะโกนตื่นเต้นเสียงหนึ่งดังมาจากจุดที่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ทหารกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏตัวออกมาจากแนวต้นไม้รกทึบ


มีคนจุดบางอย่างจนลุกไหม้ จากนั้นของสิ่งนั้นก็พวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ก่อนจะระเบิดกลางอากาศ กลายเป็นดอกไม้ไฟสีสันสะดุดตายิ่ง


เจียงผิงอันรีบวิ่งหนีโดยเร็ว


มีคนมาเห็นเข้าจนได้!


“ตามไป! อย่าให้หนีไปได้! เด็กคนนี้มีค่าถึงสองพันตำลึงเชียวนะ!”


ทหารทุกนายตาแดงก่ำ ไล่ตามไปอย่างรวดเร็ว


เมื่อทหารกลุ่มนี้ไล่ตามไป เด็กหญิงที่ได้รับความช่วยเหลือพลันเงยหน้า มองมารดาของตนด้วยความสับสน


“ท่านแม่ พี่ชายคนนั้นเป็นคนดี เขาช่วยพวกเราไว้ แต่ทำไมทหารจึงต้องการจับตัวพี่ชาย ไม่จับตัวพวกโจรป่าเล่า?”


ผู้เป็นแม่อ้าปากอยากจะตอบ แต่ไม่รู้จะตอบเช่นไรดี


ทหารที่กำลังไล่ตามเจียงผิงอันในเทือกเขาอินทรีครวญเห็นสัญญาณบนฟ้าแล้ว แต่ละคนกรูเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง


ขณะนั้นเอง อินทรียักษ์ที่มีลำตัวยาวหนึ่งจั้งกว่า ๆ ก็ปรากฏตัวบนฟากฟ้า และบนตัวอินทรียักษ์ตัวนั้นก็มีร่างร่างหนึ่งยืนอยู่


“วิถีแห่งการฝึกตนเป็นของข้า สวีฮ่าว! มีของวิเศษในครั้งนี้ ข้าต้องได้เป็นนายกองขั้นหนึ่งแน่นอน!”


สวีฮ่าว หนึ่งในนายกองขั้นสองแห่งอำเภอผิงสุ่ย


เขาต่างจากทหารคนอื่น ๆ ตรงที่เขาไม่ขี่ม้า แต่ขี่อินทรี


อินทรีย์ตัวนี้คือสัตว์ภูตที่บิดาจับมาให้ ต้องเสียแรงกำลังไปมากกว่าจะปราบพยศได้


ความหมายเทือกเขาอินทรีครวญคือแม้แต่อินทรีเห็นแล้วยังต้องโอดครวญ นี่เป็นเพียงคำพูดเกินจริงเท่านั้น


หากมีอินทรีตัวนี้ เขาจะสามารถไปถึงจุดหมายได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องกังวลถึงความซับซ้อนของเส้นทางเลยสักนิด


เมื่อส่งสัญญาณออกไปได้ไม่นาน สวีฮ่าวก็มาถึงที่นั่นทันที เขายืนอยู่บนตัวอินทรีพลางมองหาเป้าหมาย


“เจอตัวแล้ว!”


สวีฮ่าวเห็นร่างคนเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว


“ลงไป!”


สวีฮ่าวสั่งอินทรียักษ์เสียงเข้ม


ขณะที่เจียงผิงอันกำลังวิ่งหนี เด็กหนุ่มเห็นเงามืดปรากฏขึ้นบนพื้น ทาบทับตัวเสียมิด สัญชาตญาณบอกให้เขากลิ้งตัวไปอีกด้านอย่างรวดเร็ว


และในเวลานี้เอง กรงเล็บอันคมกริบคู่หนึ่งของอินทรีก็โฉบลงมา


ต้นไม้ที่อยู่รอบ ๆ ถูกเกี่ยวจนหักโค่นในชั่วพริบตา


ชายหนุ่มอายุประมาณยี่สิบเศษ ๆ ผมยาวปลิวไสวกระโดดลงจากหลังอินทรีอย่างองอาจ


และชักดาบฟันเข้าใส่เจียงผิงอันโดยไม่พูดพร่ำทำเพลงใด ๆ


เจียงผิงอันถึงกับสะดุ้งโหยง ชายคนนี้สามารถควบคุมอินทรีตัวโตถึงเพียงนี้ได้!


อินทรีตัวนี้จะต้องเป็นสัตว์ภูตอย่างแน่นอน!


โลกของเจียงผิงอันถูกเติมเต็มด้วยความรู้ใหม่อีกข้อหนึ่ง คือที่แท้สัตว์ภูตสามารถฝึกได้


แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาคิดตรึกตรองมากนัก อีกฝ่ายกำลังประชิดเข้ามาใกล้แล้ว


เจียงผิงอันจึงถือดาบขึ้นพร้อมตั้งรับ


เคร้ง เคร้ง!


เสียงโลหะสองชิ้นกระทบกันดังก้องไปทั่วผืนป่า


สวีฮ่าวเห็นว่าดาบมายาของตนถูกขวางไว้ได้ ถึงกับทำตาโตตกตะลึง


“เจ้าใช้วิชาดาบมายาเป็นด้วย!”


เมื่อสักครู่ทั้งสองใช้วิชาดาบมายาในเวลาเดียวกัน ดาบทั้งสองเล่มปะทะกันกลางอากาศจนเกิดประกายไฟ


สวีฮ่าวรู้ดีว่าดาบมายาเรียนรู้ยากถึงเพียงใด ในบรรดาทหารของอำเภอผิงสุ่ย คนที่เรียนวิชาดาบมายาได้สำเร็จจะได้เป็นนายกองขั้นสอง หากชำนาญก็อาจได้เป็นถึงนายกองขั้นหนึ่ง


อีกฝ่ายคงได้วิชาดาบหลังจากสังหารชุยเซียวเป็นแน่ แต่นี่เพิ่งผ่านไปได้แค่ไม่กี่วันเท่านั้น เจ้าเด็กนี่กลับศึกษาจนใช้ดาบมายาเป็นแล้ว!


คนอื่นต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะเรียนวิชาดาบได้สำเร็จ แต่เด็กคนนี้… ยังไม่ถึงเดือนเลยกระมัง?


ขณะสวีฮ่าวกำลังตื่นตะลึง ในแววตาพลันปรากฏร่องรอยแห่งความริษยา


ภายใต้คำชี้แนะของบิดา เขาต้องใช้เวลาถึงหกเดือนถึงจะเรียนขั้นที่หนึ่งสำเร็จ กระทั่งบิดาก็ยังชื่นชมว่าเขามีพรสวรรค์


ทว่าอีกฝ่าย… ไม่ถึงเดือนก็สำเร็จแล้ว


ทั้งอายุน้อย และไม่มีใครคอยชี้แนะ


ในอำเภอผิงสุ่ยมีแค่เขา สวีฮ่าว เพียงคนเดียวที่มีพรสวรรค์ก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องมีคนที่สอง!


สวีฮ่าวตวัดดาบฟันเจียงผิงอันอีกครั้งด้วยความอิจฉา


เจียงผิงอันตวัดดาบขึ้นต้านทานอีกครั้ง อีกฝ่ายอำพรางดาบจริงภายใต้เงามายา จากนั้นฟันออกไป


ชั่วขณะนี้ หยกคุ้มภัยที่ห้อยอยู่ข้างเอวเจียงผิงอันสว่างวาบ กลายเป็นลำแสงสีเขียวต้านคมดาบ


ทว่ากลับไม่สามารถขัดขวางการโจมตีของสวีฮ่าวได้!


เจียงผิงอันหน้าถอดสี


ทั้ง ๆ ที่ต้านดาบมายาไว้ได้แล้ว แต่เหตุใดยัง...


ดาบมายาขั้นที่สอง! เงามายาสองเงา!


“ฮ่า ๆ! ตกใจล่ะสิ คิดไม่ถึงเลยใช่หรือไม่?”


เห็นอาการตื่นตะลึงและหวาดกลัวบนใบหน้าเจียงผิงอัน สวีฮ่าวดีใจมาก เขาพลันบุกโจมตีเข้าใส่อีกครั้ง


ผลยังคงเหมือนก่อนหน้านี้ ดาบของอีกฝ่ายกระทบโดนเกราะคุ้มภัย


กำลังการโจมตีของอีกฝ่ายแข็งแกร่งมาก เพียงแค่สองดาบเท่านั้น พลังของเกราะคุ้มภัยลดลงไปถึงสองในสิบส่วน


หากฟันต่ออีกแปดครั้ง เกราะคุ้มภัยต้องพังแน่!


รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว