ถังฮวนเลิกคิ้วขึ้นแล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอก
เนื่องจากวงแหวนนี้สามารถดูดซับความร้อนได้ จึงไม่ต้องกังวลว่าพลังปราณแท้จะหมดลง ก่อนที่จะคิดหาวิธีกำจัดแหวนวงนี้ เพียงแค่เขาดูดซับความร้อนแปลกๆ ที่มีอยู่รอบๆนี่เข้าไปเรื่อยๆ แล้วควบคุมการไหลเวียนให้ดีแล้วส่งมันเข้าไปสู่วงแหวนก็พอ
เวลาที่ผ่านมาถังฮวนได้ฝึกฝนทักษะการกลั่นของเตาหลอมเก้าสุริยัน และวงล้อชีพจรวิญญาณให้ถึงขีดสุดแล้ว
เผลอแวบเดียวก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมง
ความร้อนที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากวงแหวนทั้งสองวงที่ประตู ถังฮวนพยายามทุกวิถีทาง แต่ฝ่ามือทั้งสองข้างของเขาก็ยังติดแน่นอยู่กับวงแหวนไม่ยอมหลุด
“ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปข้าจะไม่ตายเพราะพลังหมดหรอก แต่จะอดตายนี่แหละ!”
ถังฮวนรู้สึกปวดหัวยิ่งนัก
เสี่ยวเป่าสังเกตเห็นว่าถังฮวนตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก จึงขยับไปมาซุกอยู่บนไหล่ คลอเคลียใบหูและแก้มของเขา
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะต้องคิดหาทางออกได้แน่”
ถังฮวนพยักหน้าอย่างสบายๆ ให้เสี่ยวเป่า แต่ทันทีที่เขาหันกลับมา แสงสีแดงร้อนแรงก็พุ่งเข้าสู่ดวงตา รูปสลักนกฟีนิกซ์สองตัวที่อยู่เหนือซุ้มประตูดูเหมือนจะมีชีวิตขึ้นมา มีแสงเจิดจ้านับร้อยนับพันส่องประกายระยิบระยับบนร่างของพวกมัน ขนนกงดงามก็พลิ้วไหวเบา ๆ ราวกับว่าพวกมันจะกระพือปีกบินออกไป ดวงตาทั้งสองคู่ดูเหมือนกับอัญมณีสีดำนิล
ในสายตาของถังฮวนนกฟีนิกซ์คู่ที่ประตู ดูเหมือนจะกลายเป็นจิตวิญญาณที่มีชีวิตขึ้นมา
“อิ๋ง?” (อะไรน่ะ?)
เสี่ยวเป่าตกใจกับการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันนี้ มันจ้องมองไปที่นกฟีนิกซ์ทั้งสองที่เสมือนจริงตรงหน้า แล้วดวงตาสีฟ้าคู่นั้นก็เบิกโพลง
ในสายตาของถังฮวนเขาเองก็ประหลาดใจไม่น้อย
แต่แล้วถังฮวนก็โล่งใจ เขาเข้าใจทันทีว่าวงแหวนทั้งสองวงที่ประตูดูดซับความร้อนออกจากร่างของเขา อาจเป็นเพราะฟีนิกซ์คู่นี้แหละที่ดูดซับไป
เพียงแต่เขาไม่รู้ว่าทำไมพวกมันถึงต้องดูดซับพลังงานไปมากมายขนาดนี้
แม้ว่าเมื่อครู่ถังฮวนไม่ได้สูญเสียปราณแท้ไปมากมายเท่าใด แต่เขาก็สัมผัสถึงปริมาณความร้อนที่แปลกประหลาดที่ดูดซับเข้ามาในเตาสวรรค์เก้าสุริยันได้ว่ามีมากเหลือประมาณ หากปราศจากเตาสวรรค์เก้าสุริยันถังฮวนเกรงว่าตนคงจะถูกดูดเข้าไปจนแห้งตายแน่นอน
ดูเหมือนว่าเขาต้องทำให้นกฟีนิกซ์คู่นี้พอใจด้วยความแข็งแกร่งของตัวเอง ซึ่งการจะทำให้พวกมันเปลี่ยนไปเหมือนเช่นในตอนนี้ ไม่มีทางเกิดขึ้นได้กับผู้ฝึกยุทธระดับสี่อย่างถังฮวน ถ้าเขาเป็นคนธรรมดาล่ะก็...
“อืม! อืม--”
ในขณะที่ถังฮวนกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เสียงร้องแหลมสูงสองเสียงก็ดังชัดขึ้นมาจากประตู ทันใดนั้นปีกของนกฟีนิกซ์ทั้งสองก็กระพือราวกับว่าพยายามที่ดิ้นรนให้หลุดพ้นจากพันธนาการของประตูและพร้อมจะโบยบินขึ้นไปสู่ท้องฟ้า
เมื่อเห็นอย่างนั้นถังฮวนก็รีบถอยหลังไปสองก้าวโดยไม่ทันตั้งตัว
"อิ๋ง! อิ๋ง!" (นั่น! นั่น!)
เสี่ยวเป่าชี้ไปที่ฝ่ามือของถังฮวนแล้วตะโกนอย่างตื่นเต้น
ถังฮวนรู้ว่าฝ่ามือของเขาหลุดจากวงแหวนได้แล้ว ด้วยการกระพือปีกของนกฟีนิกซ์ ทันใดนั้นประตูทั้งสองเริ่มเปิดออกจากด้านใน ราวกับว่าช่องว่างระหว่างประตูขยายออกอย่างรวดเร็วแทบจะมองไม่ทันด้วยตาเปล่า เผยให้เห็นด้านหลังบานประตูเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แท้จริงแล้วภายในเป็นพระราชวังสีแดงเพลิงที่สุกใสและสวยงาม
พระราชวังกว้างใหญ่มโหฬาร ขื่อคานและเสาแกะสลักลวดลายวิจิตรโบราณ ของตกแต่งต่างๆ มีรูปแบบเป็นนกฟีนิกซ์ที่งดงามที่เห็นได้อยู่ทุกที่ ในพระราชวังสามารถมองเห็นซุ้มประตูสูงเปิดโล่ง เมื่อมองผ่านซุ้มประตูเข้าไปจะมองเห็นสิ่งต่างๆ ภายในซุ้มนั้น
วังนี้ประกอบด้วยสามส่วน กลางห้องโถงขนาดใหญ่นั้นมีแสงสีแดงกระพริบ คล้ายกับเปลวไฟที่กำลังลุกไหม้
“เปลวไฟนั่น...หรือจะเป็น 'เพลิงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์' ?”
ดวงตาของถังฮวนสั่นไหว ในใจราวติดปีกโผบิน ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความคาดหวังและตื่นเต้น
คลื่นความร้อนที่รุนแรงแผ่ออกมา ความร้อนแปลกๆ ที่อยู่ในนั้นอัดแน่นเข้มข้นกว่าที่อยู่ด้านนอกวังมากนัก โชคดีที่เตาสวรรค์เก้าสุริยันสามารถดูดซับมันได้ ถังฮวนจึงสามารถทนต่อคลื่นความร้อนนี้ได้โดยไม่ลำบาก ช่างเป็นการรุกคืบอย่างเร่าร้อน
อย่างไรก็ตามนี่ก็แค่ชั่วคราว เมื่อเตาสวรรค์เก้าสุริยันเต็มไปด้วยความร้อนที่สะสมไว้เกินอัตรา สถานการณ์จะแตกต่างจากนี้มาก
เขาต้องเดินทางออกจากถ้ำนี้ก่อนที่เตาจะเต็ม
"อิ๋ง!"
เหมือนถังฮวนเพิ่งฉุกคิดได้ คล้ายกับว่าเขาจะค้นพบอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นเสี่ยวเป่าก็กระโดดลงจากไหล่ของถังฮวน มันยืดขาทั้งสองข้างออกมา เลี้ยวไปทางขวาครู่เดียวก็หายตัวไปแล้ว
ถังฮวนไม่กังวลเลยว่ามันจะเจออันตรายอะไรไหม ด้วยความสามารถของเสี่ยวเป่าในการสัมผัสถึงรังสีการฆ่าฟันได้ดีกว่าตัวเขาซะอีก ถ้าที่นั่นอันตรายมันจะไม่วิ่งไปแน่นอน
"เอาล่ะ!"
ครู่ต่อมาถังฮวนก็กระโจนไปข้างหน้า และในเวลาเดียวกันเขาก็เตรียมถือปืนเอาไว้ในมือ แม้ทิศทางที่เสี่ยวเป่าพุ่งไปจะไม่มีอันตราย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าข้างหน้าเขาจะปลอดภัย ยิ่งไปกว่านั้นอันตรายบางอย่างก็ไม่ได้เข้ามาตรงๆ อย่างวิธีการฆ่าของนักฆ่า
เป็นการถูกต้องแล้วที่จะระมัดระวังตัวในสภาพแวดล้อมที่แปลกประหลาดเช่นนี้
ถังฮวนกระโดดราวกับว่าเขากำลังเหินบิน ไม่กี่อึดใจก็เดินผ่านพื้นที่ว่างกว่าร้อยเมตรผ่านซุ้มประตูแล้วเข้าไปสู่ห้องโถงส่วนที่สองของวัง เทียบกับด้านหน้าแล้วพื้นที่โถงขนาดใหญ่นี้ดูเหมือนจะกว้างขวางกว่ามาก นอกเหนือจากเสาที่สวยงามรอบๆ แล้ว แทบจะไม่เห็นอะไรตกแต่งอยู่เลย แต่ทางด้านทิศตะวันออกและทิศตะวันตกของห้องโถง มีวัตถุแวววาวมากมายกองอยู่ ทว่ามันไกลเกินกว่าจะเห็นได้ชัด
ถังฮวนมองไปที่ตรงนั้นเพียงครั้งเดียว เขาระงับความอยากรู้อยากเห็นที่อยู่ในอกแล้ววิ่งต่อไป
จากนั้นไม่นานถังฮวนก็เข้าสู่โถงส่วนที่สาม
ใจกลางห้องโถงกว้างนั้น มีรูปปั้นนกฟีนิกซ์ขนาดใหญ่สยายปีกกว้าง คอยื่นไปข้างหน้า และเชิดหัวสูงราวกับว่าจะทะยานสู่ท้องฟ้า ขนหางที่น่าอัศจรรย์ของมันก็ลอยอยู่ในอากาศราวกับว่ากำลังร่ายรำอยู่ในสายลม รูปสลักมีความอ่อนช้อยงดงามทั่วทั้งร่าง
ด้านหน้าของรูปสลักมีแท่นทรงกลมสูงประมาณสองเมตรและยาวประมาณยี่สิบเมตร
แท่นทรงกลมทั้งหมดดูเหมือนทับทิมชิ้นใหญ่ เหนือแท่นทรงกลมมีเปลวไฟขนาดใหญ่กำลังลุกโชน และคลื่นความร้อนขนาดใหญ่กำลังโบกพัดกระจายไปทุกทิศทาง ภายในคลื่นความร้อนแต่ละระลอกที่แผ่ออกมา คลื่นความร้อนแปลก ๆ ที่ถังฮวนกำลังดูดซับอยู่นั้นเป็นพลังที่รุนแรงมาก
“นี่คือ 'เพลิงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์' แน่นอน”
ถังฮวนเริ่มร้อนขึ้น ดวงตาของเขาตะลึงงัน เมื่อมองเข้าไปใกล้ๆ จึงพบว่ามีความกดอากาศต่ำอยู่ตรงกลางของแท่นทรงกลม ซึ่งครอบคลุมเปลวไฟไว้มากกว่าครึ่งหนึ่งของแท่นทรงกลม ไม่เพียงแค่นั้นยังสามารถมองเห็นปีกที่ลุกเป็นไฟที่เกี่ยวพันกันในหลุมนั้น
ภายในปีกนั้นดูเหมือนจะมีรูปร่างเล็กกะทัดรัด
“ด้วยปีกในปีกที่ปรากฏขึ้นอีกครั้งในยอดเขาโลหิตอัคนีของภูเขาเฟิงหมิง...”
ถังฮวนพึมพำเบาๆ และหลังจากนั้นไม่นาน เขาหลุดปากออกมาสี่คำอย่างไม่สามารถควบคุมได้
“ราชาวิหคเพลิง?”
-โปรดติดตามบทต่อไป-
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว