ปรมาจารย์นักหลอมอาวุธ-บทที่ 29 การต่อสู้อันดุเดือด (1)

โดย  Reeeed

ปรมาจารย์นักหลอมอาวุธ

บทที่ 29 การต่อสู้อันดุเดือด (1)

ละมุนเขยิบตัวลากเสียงยาวง่วงนอนไม่พอยังเจอคนขี้ตื๊อมารบกวนการนอน

“แต่วันเว้นวันแบบนี้หนูไม่ไหว”

“สองวันครั้ง” เขาพ่นลมหายใจยาวต่อรองแบบไม่ค่อยเต็มใจ

“สามวันครั้งค่ะ”

“ไม่เอา!” เสียงทุ้มแข็งขึ้นขึงตาไม่ยอมลงกับข้อต่อรองที่ทำให้เขาอึดอัดกับการทนรอ

“หรือเราไม่ต้องมีอะไรกันอีกดีคะ” ละมุนเสียงเหวี่ยงสะบัดหน้าใส่ไม่อยากคุยกับคนเอาแต่ใจ เขาอ้าปากค้างอยู่ ๆ สาวน้อยวัยละอ่อนที่คิดว่าหัวอ่อนกลับออกคำสั่งให้ต้องทำตามที่เธอต้องการ

“ใจร้าย สามวันก็สามวัน” แขนแกร่งโอบกระชับหน้าง้ำหน้างอน้อยใจไม่อยากตกลงแต่ก็ต้องยอมทำตาม ละมุนหลับตาลงเหนื่อยล้าอันที่จริงก็สงสารแต่ถ้าต้องรองรับความต้องการมากมายของเขาวันเว้นวันมันไม่ไหว

“ที่ตกลงกันเริ่มวันนี้เลยเหรอ เลื่อนออกไปก่อนได้ไหมวันนี้ยังไม่ทำใจว่าจะอด” เขายังต่อรองเพราะวันนี้รู้สึกกระปรี้กระเปร่าจะได้ร่วมรักกับหญิงสาวที่เขาต้องการไม่ได้เผื่อใจมาว่าจะผิดหวัง

“วันนี้อนุโลมให้ก่อนแล้วพักสามวันนะคะ” ละมุนเสียงอ่อนในที่สุดก็ใจอ่อนให้กับเขา พสุธรอมยิ้มกรุ้มกริ่มสอดมือเข้าชายชุดนอนเคลื่อนลากไล้เบา ๆ เข้าไปคลึงเคล้นหน้าอกอวบอิ่มกระตุ้นให้หญิงสาววาบหวามหายใจหอบกระเส่าเพลิดเพลินหลงใหลไปกับการเล้าโลมเนิบนาบกำลังจะกลายเป็นความเร่าร้อนเปลี่ยนห้องนอนให้ระอุขึ้นภายในไม่อีกกี่นาทีต่อมา.............

สองกายนอนก่ายกอดกันบนโซฟาใหญ่หลังจากเสร็จศึกรักหนักหน่วงจนอ่อนเพลียเหงื่อไหลโซมกาย

“วันนี้คุณลงไปแผนกบัญชีทำไมตั้งหลายครั้งคะ หนูได้ยินพวกพี่ ๆ เขาคุยกันว่าปกติคุณจะไม่ลงไปแผนกนั้น”

“ไปส่องสาวบัญชีสวย ๆ”

“ขี้โม้” ละมุนหลุดขำไม่เชื่อที่เขาพูด

“ห่วงเมียไงอยากรู้ว่าทำงานเป็นยังไง” แขนแกร่งโอบกระชับกายบางนุ่มนิ่มอย่างทะนุถนอมวันนี้เสียงานเสียการไปกับความกังวลเดินวนเวียนอยู่แต่แผนกบัญชี

“ทำไมน่ารักจัง” ละมุนอมยิ้มเขี่ยคางสากเงยมองแววตามีประกายความดีใจที่เขาเป็นห่วง

“ลงไปดูตั้งหลายรอบเมื่อยขาไปหมดกลับมาแทนที่จะมีรางวัลตอบแทนที่ไหนได้เมียไม่ให้ปล้ำ มันน่าน้อยใจจริง ๆ” เสียงทุ้มบ่นกระปอดกระแปดหน้างอ ละมุนยื่นจมูกกดหอมแก้มสากเป็นการตอบแทนหน้าหล่อหันมองตาหวานเยิ้ม

“ให้รางวัลคนเดินเหนื่อย”

“ข้างนี้ด้วย” พสุธรเอียงหน้าทำแก้มป่องให้หอมแก้มอีกข้าง ละมุนยื่นหน้าเข้าใกล้จะหอมแก้มดันถูกคนขี้โกงหันมาจุ๊บปากเธอแทน ละมุนอมยิ้มยื่นปากจู๋ประกบจูบริมฝีปากหนารุกผู้ชายแบบไม่ต้องรอให้เขาเข้าหา ร่างเปลือยเปล่าขึ้นคร่อมทับกายหนาถอนริมฝีปากส่งสายตาเย้ายวน

“ลุงน่ารักหนูมีของแถมให้” ละมุนยกยิ้มมุมปากให้กับคนร่างใหญ่ใต้ตัวเธออย่างเจ้าเล่ห์แล้วซุกหน้าไซ้คลอเคลียซอกคอแกร่ง

“อื้มห์ ....ไหนว่าเหนื่อยไง.........” เสียงทุ้มแหบพร่าเคลิบเคลิ้มกับการเล้าโลมของสาวน้อยที่เขาฝึกปรือมากับมือ

“เบิ้ลเผื่อให้คนอดสามวัน” ลิ้นน้อยลากไล้ขบดูดอย่างช่ำชองเคลื่อนตัวถูไถบดเบียดกายหนาอย่างช่ำชอง

“สามวันลุงแก่ ๆ จะอดใจไม่ฟันสาวแสบได้ไหมก่อน” มือหนาเคลื่อนบีบคลำก้นงอนอย่างกระสันหลับตาพริ้มเพลินไปกับสาวน้อยที่หลอกล่อให้แก่ระทวยหลงเธอโดยไม่รู้ตัว

หนึ่งเดือนผ่านไป

ห้องทำงานของพสุธร

สุมาลีให้พนักงานร้านเพชรเจ้าใหม่เข้ามาจัดวางเครื่องเพชรเพื่อนำเสนอ ซึ่งร้านเพชรเดิมร้านประจำของคุณหญิงย่ายังไม่มีคอลเลคชั่นใหม่และแบบอื่นมานำเสนอเพราะพสุธรเหมาเครื่องเพชรชิ้นเล็กมาหมดทุกแบบแล้ว

“เชิญค่ะคุณพอล” สุมาลีผายมือให้เจ้านายเลือกเครื่องประดับ เขาเดินดูแล้วชี้ชิ้นนั้นชิ้นนี้ออกจนเหลือแค่สิบชิ้น

“เอาแค่นี้” เขาเลือกไม่กี่ชิ้นเพราะยังไม่ถูกใจก่อนจะหยิบบัตรแบล็กการ์ดให้สุมาลีจัดการ

“หาร้านใหม่ให้ผมอีกแค่นี้ไม่พอ” พสุธรออกคำสั่งแล้วเดินไปนั่งเก้าอี้ทำงานเปิดคอมพิวเตอร์ดึงภาพกล้องวงจรปิดของแผนกบัญชีมาเปิดดู

“ค่ะคุณพอล” สุมาลียืนงงแปลกใจว่าพสุธรเอาเครื่องประดับเพชรมูลค่าขนาดนี้ไปแจกให้ใครทำไมถึงใช้เครื่องเพชรยี่สิบสี่ชิ้นหมดภายในเวลาหนึ่งเดือน

จุดถ่ายเอกสารอยู่ในห้องถ่ายหน้าห้องแผนกบัญชี

ติ๋วให้ละมุนมาช่วยถ่ายเอกสารแบ่งเป็นชุด ๆ เมื่อถ่ายเสร็จหนึ่งชุดต้องเอาคลิบลวดแบ่งเอกสารไว้ไม่ให้ปนกัน ละมุนถ่ายเอกสารเสร็จก็นำต้นฉบับและสำเนามาแยกเป็นชุด ๆ บนโต๊ะยาวในห้องถ่ายเอกสาร

ระหว่างกำลังจัดแยกเอกสารอยู่นั้นละมุนได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงและฝีเท้าของคนสองสามคนกำลังเดินมุ่งมายังแผนกบัญชีเลยหันไปมองพอดีกับสายตาคู่สวยดุดันของสินีนาถปรายตามองมา

“เธอ!” สินีนาถชะงักตกใจเมื่อเห็นละมุนอยู่ที่นี่ ละมุนรีบยกมือไหว้ก้มหน้าไม่สบตา ด้านติ๋วได้ยินเสียงก็รีบวิ่งมาไหว้สินีนาถและแนะนำน้องใหม่

“สวัสดีค่ะคุณนาถ ละมุนเป็นพนักงานใหม่ค่ะ” ติ๋วประหม่าเมื่อเห็นสายตาของสินีนาถจ้องมองละมุนไม่วางตาก่อนจะเชิดหน้าเดินเข้าไปในแผนกบัญชี

“นี่คือคุณสินีนาถรองประธานพี่สาวคุณพสุธร ละมุนทำอะไรทำไมเขาถึงมองแบบนั้น” ติ๋วหันมาถามละมุนด้วยความเป็นห่วง

“เปล่าพี่ แค่หันไปเจอ”

“คนรวยนี่ก็แปลกมองพวกเราอย่างกับแค้นกันมาสักสิบปีสิบชาติ” ติ๋วบ่นพึมพำมองเคืองตามหลังรองประธานก่อนจะหันหลังไปถ่ายเอกสารต่อ ละมุนพ่นลมหายใจโล่งอกที่สินีนาถไม่พูดอะไรมากกว่านี้อย่างว่าผู้บริหารใหญ่โตเจอสังคมมามากคงโผงผางให้ใครรู้อะไรได้ง่าย ๆ


รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว