สี่ทุ่มคืนวันเสาร์ถัดมา...
ร่างบางออกจากห้องน้ำมาด้วยชุดนอนเรียบร้อยพร้อมทั้งมาส์กแปะบนหน้า ตั้งใจนอนโดยไม่ทำอะไรแล้ว เพราะวันนี้เธอเข้าบริษัทกับเจ้านายที่เข้าไปตรวจเอกสารอนุมัติเร่งด่วนของแต่ละแผนก กว่าจะออกมาก็บ่ายแก่ แล้วโทรชวนญาดาไปดูหนังวันพรุ่งนี้ เพราะมั่นใจว่าพศินต้องพักหนึ่งวันแน่นอน
หลังจากทิ้งตัวลงนอน รอเวลามาส์กหน้าครบก็หยิบมือถือมาเปิดดูแต่แล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นว่ามีข้อความเข้ามาตอนเธออาบน้ำ กุลนารีแทบไม่อยากอ่านทว่าก็จำต้องเปิดข้อความของเจ้านาย
‘มาหาผมที่คอนโด’
ข้อความเข้ามาเมื่อราวยี่สิบนาที และเป็นครั้งแรกที่เธอถูกเรียกตัวในตอนกลางคืน แม้ว่าตอนนี้รถไฟฟ้ายังไม่ปิด แต่ก็เป็นเรื่องผิดปกติ ทว่าไม่มีเวลาคิดมาก กุลนารีรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปยังคอนโดของพศินให้เร็วที่สุดเพราะชายหนุ่มไม่ได้บอกกำหนดเวลา อาจหมายถึงให้เธอไปโดยเร็ว
==============
‘ทำไมช้า คุณอยู่ไหนแล้ว’
เธอถูกตามด้วยข้อความอีกครั้งก่อนจะขึ้นรถไฟฟ้ากุลนารีจึงพิมพ์ตอบกลับไป
‘ขอโทษค่ะ ดิฉันเห็นข้อความหลังอาบน้ำเสร็จน่ะค่ะ ตอนนี้กำลังจะขึ้นรถไฟฟ้าค่ะ’
‘เร็วหน่อยแล้วกัน’
หญิงสาวก้าวเร็วๆ แทบจะวิ่งเมื่อลงจากรถไฟฟ้ากระทั่งขึ้นไปถึงชั้นบนของห้องเจ้านาย เธอกดโทรหาชายหนุ่มตั้งแต่ยังไม่ถึงห้องเพื่อถามว่าจะให้เข้าไปได้เลยหรือไม่ หากอีกฝ่ายก็ไม่ได้รับสายทว่าประตูกลับเปิดออกมาแทน กุลนารีเหลือบมองก็เห็นว่าเป็นเจ้านายของตน
“มาสักที”
เสียงพึมพำไม่ดังนักพร้อมกับพศินคว้ามือเธอดึงเข้าห้อง ดันตัวให้มายืนเคียงข้าง แล้วกุลนารีก็รับรู้ได้ถึงแขนกำยำรัดวางโอบช่วงไหล่ของเธอ ร่างหนาในชุดเสื้อคลุมชิดด้านข้างตัว
คนที่ยังมึนงงอยู่ยืนตัวแข็งเกร็ง สมองเหมือนหยุดทำงานไปชั่วขณะ ภาพตรงหน้าเธอคือสาวร่างอวบอัดที่เจอกันอาทิตย์ที่แล้วยืนจับปมผ้าขนหนูอยู่ตรงหน้าห้องนอน สีหน้าถมึงทึงไม่พอใจ
“คนที่ผมนัดไว้มาแล้ว”
ใจดวงน้อยวูบไหวกับคำบอกที่ดังขึ้นใกล้ๆ เสียงเข้มให้ความรู้สึกหวิวอย่างบอกไม่ถูก แถมสิ่งที่ได้ยินก็ทำเอาความคิดในหัวราวสะดุดหน้าคว่ำหัวคะมำ จนไม่เข้าใจความหมายของชายหนุ่ม
“เบลคิดไม่ผิดเลย คุณกับแม่เลขานี่?”
สาวสวยเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจที่ดูออกว่าพยายามสะกดเอาไว้
“บอกไปแล้วนี่ว่าไม่มีเวลาให้คุณทั้งคืน”
สีหน้าเบญจวรรณแทบเก็บความรู้สึกไม่อยู่แล้ว หากเหมือนเจ้าตัวยังไม่ยอมแพ้
“ทีเวลาที่อยู่กับเบลคุณยังเรียกแม่มาเลยนี่คะ งั้นเบลก็น่าจะใช้เวลาของแม่นี่ได้”
“เงินที่จะจ่ายคุณอยู่ที่เลขาผม”
“คุณโอนให้เบลก็ได้ ไม่เห็นต้องเรียกใครมาเลย คุณทำเหมือนไล่ให้เบลไปเร็วๆ”
มาถึงตอนนี้กุลนารีคิดว่าเธอพอเข้าใจจุดประสงค์ที่เจ้านายเรียกตนเองทุกครั้งหลังจากที่เขาอยู่กับผู้หญิงแล้ว อุตส่าห์หลงคิดว่าเขาจัดการเรื่องผู้หญิงของตัวเองโดยเธอไม่ต้องวุ่นวาย ที่ไหนได้ เขาก็ใช้เธอเป็นเครื่องมือไล่สาวๆ เหล่านั้น
“ไม่ถึงเก็บไล่หรอก แต่เสร็จธุระแล้วก็แค่นั้น แล้ววันนี้ผมก็จ่ายคุณเรียบร้อย เพราะฉะนั้นคุณควรกลับได้แล้ว”
น้ำเสียงราบเรียบยังไม่ห่าง เรือนกายอุ่นยังไม่คลายไปไหน และกุลนารีก็รู้สึกเหมือนกำลังถูกควบคุมมากกว่าโอบกอด
“คุณพศิน นี่คุณตั้งใจไล่เบลจริงเหรอคะ ทำไม? ในเมื่อคุณพอใจ...พอใจเซ็กส์ของเบล”
เบญจวรรณอึกอักเล็กน้อยหากก็โพล่งออกมาด้วยความคับข้องใจระคนขุ่นเคืองอย่างมาก เธอไม่เชื่อว่าชายหนุ่มจะไม่ติดใจเธอ ในเมื่อยอมต่อกับเธอตลอดแต่เขากลับตั้งใจไล่เธอกลายๆ เสมอ
“ก็พอใจ”
คราวนี้มือหนาขยับกุมตรงหัวไหล่เหมือนบังคับให้เธอเดินไปพร้อมร่างสูงกำยำขณะเอ่ย
“ไม่งั้นผมจะต่อกับคุณเหรอ แล้วช่วงหลังผมก็เรียกคุณมาคลายเครียดบ่อยๆ มันก็ชัดเจนแล้วว่าเซ็กส์คุณดีจริง”
“คุณ! นี่คุณเห็นเบลเป็นแค่ของเล่นคลายเครียดอย่างนั้นเหรอ”
“แล้วคุณคิดว่าตัวเองเป็นอะไร”
กุลนารีต้องพยายามยกเท้าที่หนักอึ้งของตัวเองให้ตามชายหนุ่มให้ทัน แม้เขาจะเดินช้าแต่เธอแทบไม่อยากเดินเลย ใจหนึ่งก็นึกสงสารลูกผู้หญิงด้วยกันที่ต้องมาเจอกับเจ้านายผู้เย็นชาของเธอ หากอีกใจก็สงสารตัวเองที่ต้องมารับรู้และตอนนี้ยังก้าวขาข้างหนึ่งเข้าไปเกี่ยวข้องในเรื่องส่วนตัวของชายหนุ่มแล้ว
เธออยากเว้นระยะห่างมาตลอด ทว่าพศินกลับดึงเธอตกลงไปในหลุมปัญหาอย่างกะทันหันจนยากที่จะปีนขึ้นมาได้แล้ว เพราะดันกลายเป็นคู่ขาอีกคนของเจ้านายตัวเองไปเสียอย่างนั้น อย่างน้อยก็ในสายตาของเบญจวรรณ
==============
เอ่อ ทำไมหาเรื่องให้เลขาแบบนี้ล่ะคะเจ้านาย ^-^"
==============
เฟซบุ๊กเพจ รสิตา เพียงพิณ มาเมาท์ มาคุยนิยายกันได้จ้า
https://twitter.com/rasitawriter
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว