Sweet Kiss จุมพิตมธุรส-2.คู่ขาอีกคน (1)

โดย  รสิตา เพียงพิณ

Sweet Kiss จุมพิตมธุรส

2.คู่ขาอีกคน (1)

“เราเป็นคนรักกันจริงๆ”

ใบหน้าสวยหวานชะงักกึก สบตาคู่คมเข้มอย่างค้นหา หากก็ไม่เห็นความแตกต่างจากเวลาปกติจึงรู้ว่าเขาเพียงพูดตามเนื้อผ้า หญิงสาวอดอารมณ์ขุ่นไม่ได้ รู้สึกราวโดนชายหนุ่มแกล้งล้อ ในเมื่อรู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นไปไม่ได้

“เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วนี่คะ”

เสียงหวานดูเหมือนกำลังงอนทำให้คิ้วเข้มกระตุกนิดๆ สังเกตสีหน้าของอีกฝ่ายเงียบๆ โดยไม่ออกความเห็นอะไรกับสิ่งที่หญิงสาวพูด ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งเบียดใกล้เจ้าของร่างบางจนเจ้าตัวต้องเอนกายขยับห่าง พอเขามองเธอก็รีบโบกมือสองข้างไปมา

“เอ่อ ดิฉันไม่ได้รังเกียจเจ้านายนะคะ”

“คุณแทนตัวเองว่าแก้มกับผมก็ได้นะ”

กุลนารีกะพริบตาปริบๆ เมื่อเขาพูดไปเรื่องอื่น

“มาคิดดูแล้วคุณพูดกับผมห่างเหินมากเลย เจ้านายอย่างนั้น ดิฉันอย่างนี้ ทั้งที่เราทำงานด้วยกันมาเกือบสิบปีได้แล้วมั้ง ถึงคุณจะเป็นผู้ช่วยอยู่สองปีก็เถอะ”

ขณะที่ชายหนุ่มพูดกุลนารีก็ค่อยๆ ถอยออกไปนั่งไกลอีกหน่อย ซึ่งเป็นส่วนพื้น มือหนาจึงยื่นมาคว้าแขนเธอเอาไว้

“ระยะห่างที่คุณเว้นช่องไว้มันมากไป ทำตัวสบายๆ เถอะ พูดแบบกันเองดีกว่า”

“แต่ดิฉันพูดอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว”

“ไม่ต้องรีบหรอก แล้วก็เรียกผมวีก็ได้ ไม่ต้องเจ้านายทุกคำ”

หัวใจดวงน้อยเต้นโครมคราม เธอมองหน้าคนพูดแล้วหลุบตาลงมองมือของเขา มือหนาอุ่นต่างจากเธอที่อยู่ในห้องมาพักใหญ่ ใบหน้านวลเนียนร้อน หน้าอกวูบโหวง ทั้งที่สะกดใจสะกดอารมณ์อ่อนไหวทว่าตนเองกลับคาดหวัง กระทั่งพศินปล่อยมือแล้วอาการเธอก็ยังสงบได้ยาก ได้แต่หวังว่าสีหน้าของตนคงไม่หลุดให้ชายหนุ่มสงสัย

“ถ้าเจ้านายต้องการ ดิฉันก็ยินดีทำตามคำสั่งค่ะ”

ไม่รู้เพราะอะไร พศินไม่ค่อยชอบประโยคของหญิงสาวเท่าไรนัก ราวกับเธอประชดเขาอย่างนั้น

“ยินดีทำตามก็เปลี่ยนคำเรียกให้ถูกเสียด้วย”

ชายหนุ่มย้ำเสียงเรียบ

จากนั้นสองหนุ่มสาวก็มองกันนิ่งครู่หนึ่งก่อนที่กุลนารีจะพูดขึ้น

“ขอบคุณ...คุณวีอีกครั้งนะคะ ความจริงไม่น่าจะต้องเสียเงินให้พ่อเลย เดี๋ยว...แก้มให้พ่อเองก็ได้ค่ะ”

พศินโอนเงินต่อหน้าบิดาของเธอ เธอจึงไม่สามารถแย้งได้ ก่อนหน้านี้แอบคิดว่าตนจะเป็นฝ่ายโอนแล้วบอกว่าชายหนุ่มโอนก็ได้ ที่สำคัญเธอไม่อยากให้พ่อได้ใจ

“อีกอย่าง...แก้มกลัวว่าพ่อจะไม่หยุดแค่นี้”

“ก็อาจจะเป็นอย่างนั้น ถ้าเขาเรียกร้องอีกก็บอกผม”

“แก้มเกรงใจค่ะ แถมมีหวังได้เป็นหนี้...คุณวีหัวโต ให้หักเงินเดือนก็ยังไม่พอ”

“งั้นคุณคงต้องติดเหง็ก เป็นเลขาผมไปตลอดชีวิต แต่งงานไม่ได้แล้วล่ะ”

ชายหนุ่มพูดหน้าตาย ทำเอาคนเห็นหน้างอ

“ที่แท้ก็มีแผนไม่คิดจะให้แก้มแต่งงานสินะคะ”

“เรื่องนี้ต้องแล้วแต่คุณ ผมก็แค่ต้องหาเลขาใหม่”

“เดี๋ยวแก้มโอนเงินคืนให้เดี๋ยวนี้เลยค่ะ”

กุลนารีพูดพร้อมลุกพรวดขึ้น รู้สึกอารมณ์เสียที่เขาทำเหมือนไม่แคร์เธอเลยสักนิด พร้อมเปลี่ยนเลขาอยู่ตลอดเวลา ทว่าไม่กล้าโวยใส่เจ้านาย

“ไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณ...”

ข้อมือบางถูกฉุดอย่างกะทันหันทำให้ร่างบางที่ยังตั้งตัวไม่ทันติดโถมไปหาร่างสูงกำยำ แขนเรียววาดมาเกาะไหล่หนา ใบหน้าสวยหวานชนเข้ากับใบหน้าคมคาย ปากแตะปากอย่างพอดิบพอดี กุลนารีทั้งใจหายวาบ ตกใจ และวาบหวามในเวลาเดียวกัน แต่ก็รีบดึงสติให้ถอยออกมา แต่แล้วอยู่มือหนาข้างหนึ่งก็วางลงบนท้ายทอยของเธอ

“ผมขอคืนเป็นอย่างอื่นก็แล้วกัน”

“อะไรคะ”

เสียงหวานเบายิ่งนัก หญิงสาวถามโดยไม่ทันคิด เพราะใบหน้าทั้งคู่ห่างกันไม่ถึงคืบ และใจเธอก็เต้นกระหน่ำอย่างรุนแรง ทว่าพศินไม่ตอบ เธอรู้สึกได้ถึงแรงรั้งจากท้ายทอยให้ขยับหน้าไปหาเขา แล้วปากอุ่นก็แนบกับริมฝีปากเธอ คราวนี้หัวใจเธอแทบจะกระโดดออกมานอกอกเลยทีเดียว

ปากได้รูปขยับแผ่ว แตะต้องกลีบปากนิ่มอย่างใจเย็น แม้ว่าสัมผัสของหญิงสาวจะให้ความรู้สึกอยากช่วงชิงเป็นเจ้าข้าวเจ้าของยิ่งนัก ทว่าเขาก็เริ่มอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากจูบสลับบนกลีบปากอิ่มบางเบาแปรเปลี่ยนเป็นบดเบียด เพิ่มแรงกดปากกระด้างหนักขึ้นเมื่อร่างบางโอนอ่อนแทนที่จะต่อต้าน

ดวงตาคู่สวยปิดปรือลง แม้จะตกใจในคราแรกหากสุดท้ายก็ไม่ได้ฝืนชายหนุ่ม กุลนารีละทิ้งความคิดทั้งหมดลงในทันทีที่ปากอุ่นประทับมาหา ยอมให้อีกฝ่ายจูบโดยไม่ขัดขืนทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอยากได้รับจูบจากเจ้านายของตนหรือไม่ ทว่าความกระด้างต่างจากปากตนก็ดึงดูดจิตใต้สำนึกของสาวอ่อนประสบการณ์ให้นึกสนใจใคร่รู้

กระแสวาบหวิวมาพร้อมการเบียดประชิด และเมื่อปลายลิ้นอุ่นเริ่มไล้ตามมายิ่งพาอกใจไหวหวั่น พศินจูบซับกลีบปากอิ่มครู่หนึ่ง แขนกำยำที่ตอนแรกจับข้อมือเธอก็โอบรอบร่างบางพามาให้แนบกับร่างหนา ใบหน้าขาวคมขยับเปลี่ยนมุมหากเธอก็มีเวลาหายใจเพียงชั่วอึดใจเพราะปากเขาแทบไม่ห่างไปเลย มือหนาสอดเข้าไปในกลุ่มผมยาวคลึงอย่างนุ่มนวล บดจูบอ่อนหวานทว่าหนักหน่วงเนิ่นนานก่อนชายหนุ่มจะหมุนตัวเธอผ่อนลงไปนอนบนที่นอนใต้ร่างเขา นั่นแหละใบหน้าคมคายจึงผละออก ทว่าไม่ห่างเท่าไรนัก

กุลนารีที่เคลิบเคลิ้มลืมตาขึ้นช้าๆ เห็นชายหนุ่มกลืนน้ำลาย ดวงตาคู่คมกวาดมองทั่วทั้งใบหน้าเธอ ตามด้วยปลายนิ้วแกร่งไล้เบาๆ ขณะพึมพำ

“แก้มแดงเชียว”

เสียงของพศินดูไม่ปกตินัก ขณะที่หญิงสาวเองก็ใจสั่น เนื้อตัววูบวาบไปหมด

“นี่เหรอคะ ที่เจ้านายอยากได้จากแก้ม”

“แค่บางส่วน ยังไม่ครบ”

ริมฝีปากอิ่มสวยเผยอขึ้น ช่างราวท้าทายให้เขาแนบปากลงไปอีกครั้งเหลือเกิน พศินจูบประทับหนักๆ ชั่วอึดใจก่อนจะกระซิบติดกลีบปากนุ่ม

“จ่ายไปสองหมื่น จูบแบบเด็กๆ จะไปคุ้มอะไร”

บอกแล้วก็บดเบียดเน้นยิ่งกว่าครั้งแรก จูบเม้มบนปากสีเชอร์รี่อย่างจริงจัง เขาได้ยินที่แม่หญิงสาวพูดทุกประโยค แน่นอนว่ากุลนารีสวยหวานทั้งที่ไม่ต้องเติมแต่งใดๆ จริง แก้มสาวนวลเนียนน่าฝังจมูกดอมดม ปากแดงอิ่มสวยน่าจูบ เมื่อได้มาอยู่ชิดใกล้ตามลำพังอย่างนี้ แถมเจ้าตัวยังทำสีหน้าท่าทางแข็งกระด้างราวงอนเขา ทำให้พศินอยากกำราบ

ทั้งจังหวะบังเอิญที่ปากแตะกัน เขาก็ราวถูกแรงดึงดูดให้อยากสัมผัสปากนุ่มสีหวานมากกว่านี้

คำพูดของชายหนุ่มก้องอยู่ในหูกุลนารีและมันก็ทำให้ใจสาวที่เต้นแรงอ่อนล้าเสียดื้อๆ

นั่นสิ คนที่เวลาเป็นเงินเป็นทองอย่างพศินน่ะหรือ จะไม่คิดค่าตอบแทนที่เขาจ่ายไปอย่างคุ้มราคา ชายหนุ่มคงคิดว่าไม่เอาคืนเป็นเงินก็ดีเท่าไรแล้ว

เธอควรยอมจ่ายคืนเขาด้วย ‘จูบแรก’ ในชีวิตอย่างเต็มใจสินะ


==============

ให้เงินแล้วเอาคืนด้วยจูบ มันหวิวไปนะคะเจ้านาย ^-^

*อีบุ๊กวางขายแล้ว สนใจฉบับเต็มดาวน์โหลดได้ที่ MEBMARKET จ้า

==============

เฟซบุ๊กเพจ รสิตา เพียงพิณ มาเมาท์ มาคุยนิยายกันได้จ้า

https://twitter.com/rasitawriter

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว