Sweet Kiss จุมพิตมธุรส-1.ตบมาตบกลับนะ (1)

โดย  รสิตา เพียงพิณ

Sweet Kiss จุมพิตมธุรส

1.ตบมาตบกลับนะ (1)

เข้ามาในห้องน้ำตาก็ร่วงพรูลงอาบแก้ม ทั้งที่ไม่ได้สะอึกสะอื้นเลยแม้แต่น้อย ชายหนุ่มพาเธอมานั่งที่โซฟา ห้องของเธอมีโซฟาเล็กๆ นั่งได้สองคน โต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้ เตียง ตู้เย็นขนาดเล็ก เครื่องปรับอากาศ ทุกอย่างครบพร้อม หากมาบ้านกุลนารีจะใช้ชีวิตอยู่ในห้องตนเองเป็นส่วนใหญ่เพราะไม่อยากเผชิญหน้ากับบิดานัก

“เป็นยังไงบ้าง”

พร้อมคำถามปลายนิ้วแกร่งก็แตะข้างแก้มเธอเบาแทบไม่รู้สึก หรืออาจเพราะเธอชาหน้าอยู่แล้ว

“ชาค่ะ”

เธอตอบตามตรงเสียงเบา แล้วก็รับรู้ได้ว่าเขาช่วยเช็ดน้ำตาให้ ดวงตาคู่สวยสบกับตาคู่คมที่ตอนนี้ไม่ดูดุเลยแม้แต่น้อย แล้วก็อยากร้องไห้มากขึ้น เป็นครั้งแรกที่พศินมองเธอด้วยแววตาอ่อนโยนอย่างนี้

“คุณโดนแบบนี้บ่อยเหรอ”

“ครั้งแรกค่ะ เคยเกือบจะโดนบ่อยๆ แต่แม่ห้ามไว้ทัน ครั้งนี้แม่เห็นว่ามีแขกอยู่ด้วย คงคิดไม่ถึง”

กุลนารีพูดยาวราวเก็บกด แต่เธอขยับปากเพียงเล็กน้อย

“เจ้านายไม่น่าบอกว่าจะให้เงินพ่อเลยค่ะ”

“ใช้หนี้ไปแล้ว คงไม่มีอะไร”

“หนี้น่ะมีตลอดแหละค่ะ ก็พ่อไปบ่อนทุกวัน”

ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจยาว

“ผมไม่ชอบที่เขาทำร้ายคุณ จะให้ยืนดูเฉยๆ ได้ยังไง”

พศินบอกจากใจจริง เขาไม่ชอบเลยที่ต้องเห็นกุลนารีเจ็บตัว นับตั้งแต่ครั้งเบญจวรรณแล้ว และที่เธอยอมเปียกให้เขาอยู่ในร่มนั่นอีก เรื่องแบบนี้ผู้ชายต้องเป็นคนเสียสละ แต่หญิงสาวก็ทำ จนเขารู้สึกขายหน้า บ่อยครั้งที่กุลนารีมักดูแลเขาเกินเหตุราวเขาเป็นน้องชายหรือลูกของเธอกระนั้น ซึ่งเขาไม่ค่อยชอบใจนัก ทว่าการเห็นอีกฝ่ายถูกทำร้ายเป็นเรื่องที่พศินทนนิ่งไม่ได้มากที่สุด แถมรอยยังเป็นปื้นหนาชัดเจนกว่าเบญจวรรณเสียอีก

“ดิฉันจะคืนให้ หักจากเงินที่ต้องดูแลเจ้านายวันหยุดก็ได้ค่ะ”

เธอเสนออย่างคิดว่าสมเหตุสมผล ทว่าพศินไม่ตอบ ถามไปเรื่องอื่นแทน

“พอจะมียาทาไหม แก้มคุณ”

“มีค่ะ”

“งั้นก็ไปล้างหน้าเถอะ แล้วผมจะทาให้”

กุลนารีทำตามที่ชายหนุ่มบอกโดยไม่เรื่องมาก เธอเองก็ไม่ได้เป็นสาวอ่อนไหว อ่อนแอง่ายเท่าไรนัก อาจเพราะเติบโตมากับพ่อที่อารมณ์ร้อน และแม่ที่ใจเย็นยอมพ่อเสมอไม่เคยเถียง เธอจึงอยากช่วยอยากดูแลแม่ให้ได้ ทำให้กุลนารีพยายามทำตัวเก่ง ใจแข็งและแกร่งกล้าเถียงพ่อตั้งแต่อายุยังน้อย เธอก็เลือกเรียนภาษาอังกฤษเพื่อโอกาสที่กว้างขึ้นในการทำงาน ทั้งยังตั้งใจสมัครตำแหน่งเลขาทันทีที่เรียนจบแล้วเห็นประกาศรับสมัครผู้ช่วยเลขาผู้บริหาร ซึ่งตอนนั้นพศินยังเป็นรองประธานอยู่ แต่รัมภาควบเลขาสองตำแหน่งโดยดูแลท่านประธานไพศาลด้วยจึงต้องมีคนช่วยทำงาน

หญิงสาวลงไปหายาด้านล่างครู่หนึ่งก่อนจะกลับมายังห้องตนเอง ร่างสูงกำยำที่หยิบรูปบนโต๊ะทำงานของเธอดูอยู่หันมามองด้วยดวงตาคู่คมอ่อนแสง มุมปากได้รูปราวยกยิ้มบางแทบมองไม่ออกทำให้เท้าเล็กชะงัก ความรู้สึกบางอย่างแล่นวูบเข้ามาในใจ แต่กุลนารีสลัดมันทิ้งไปอย่างรวดเร็ว

พศินวางรูปของเธอลงแล้วเดินมานั่งบนโซฟา กุลนารีจึงนั่งลงเช่นกัน

“พ่ออารมณ์ดีจริงๆ ถึงขั้นทำกับข้าวเอง”

เธออดบ่นไม่ได้

“ถึงจะไม่ค่อยทำ แต่พ่อฝีมือดีค่ะ ก่อนแต่งกับแม่พ่อเป็นเชฟที่โรงแรม ออกมาช่วยแม่ขายก๋วยเตี๋ยวหลังจากยายเสียไปน่ะค่ะ”

กลุนารีชวนคุยเมื่อปลายนิ้วอุ่นแตะลงบนแก้มของตนพร้อมยาที่ทาบางเบาเพื่อถึงความสนใจไม่ให้ตัวเองแสดงออกว่าขัดเขิน เพราะหน้าขาวคมคายอยู่ไม่ห่างนัก ตาคมเข้มมองเธอ ขณะที่เธอสามารถไล่มองขนตายาวของชายหนุ่มกับปลายจมูกโด่งได้อย่างใกล้ชิด ซึ่งนั่นทำให้ใจสาวสั่นไหวนัก

“งั้นก็ถือว่าผมโชคดี ได้กินฝีมือเชฟโรงแรม”

“เจ้านายยังจะมีอารมณ์พูดเล่นอีก ดิฉันรู้สึกผิดนะคะที่พาเจ้านายมาที่บ้าน นอกจากจะเจอเรื่องแย่ๆ ในบ้านแล้ว ยังจะต้องมาจ่ายหนี้ให้พ่อดิฉันอีก”

พศินถอยออกหลังจากทายาเสร็จ กวาดมองดวงตาสวยหวานแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“แต่ผมรู้สึกดีนะ เพราะผมอยู่ด้วยถึงช่วยคุณได้”

เธออยากสังเกตขณะที่ชายหนุ่มพูด แต่เพราะมีกฎที่ตั้งไว้ในใจกุลนารีจึงไม่พยายามทำความเข้าใจนัก คิดเพียงว่าเจ้านายสงสารเธอ

“ยังไงก็ขอบคุณเจ้านายค่ะที่ช่วย อย่างน้อยบรรยากาศในบ้านตอนนี้ก็ดีขึ้นผิดหูผิดตา”

หญิงสาวยกมือไหว้ชายหนุ่มอย่างจริงใจ แต่ก็อดกัดบิดาตัวเองไม่ได้ หากก็พยายามทำใจเช่นกัน เพราะเวลานี้พศินก็ได้รู้เห็นแล้วว่าบิดามารดาของเธอสนใจเงินมากแค่ไหน เพราะก่อนหน้านี้ชายหนุ่มก็ได้ยินเรื่องที่แม่พูดกับเธอ

“เอ่อ ส่วนเรื่องที่แม่พูด...”

กุลนารีหน้าแหยไม่รู้จะแก้ตัวอย่างไร

“เจ้านายไม่ต้องใส่ใจหรอกนะคะ”

ขณะนั้นเสียงโทรศัพท์ของพศินดังขึ้นชายหนุ่มจึงรับ ส่วนเธอเองก็ผละไปหาน้ำในตู้เย็นมาเสิร์ฟให้ชายหนุ่ม

==============

พศินมีโน้ตบุ๊กในกระเป๋าเสื้อผ้าของเขา ชายหนุ่มนั่งดูงานอยู่ครู่ใหญ่ ขณะที่กุลนารีอ่านหนังสือรอเจ้านาย เผื่อเขาต้องการใช้อะไร ไม่ได้ลงไปดูพ่อกับแม่ตนกระทั่งมารดาขึ้นมาเคาะประตู ทั้งสองก็ตามลงไปนั่งกินข้าวที่โต๊ะอาหารเล็กๆ นั่งได้สี่คนพอดี

“เต็มที่เลยนะไอ้ลูกเขย”

กุลนารีแอบเม้มปากเมื่อบิดาเรียกพศินแบบนั้น แถมยังออกจะดูหยาบสักหน่อยในความคิดของเธอ ทว่าชายหนุ่มก็ยิ้มบางรับอย่างไม่ติดใจอะไร ราวยอมรับกลายๆ เสียอย่างนั้น

“ว่าแต่ที่ว่าจะให้เงินนี่ เมื่อไรเหรอ”

คุณสรรชัยโพล่งขึ้นกลางโต๊ะ หลังจากเริ่มกินกันไปได้ไม่กี่คำ

“พ่อ...”

“แกไม่ต้องยุ่ง ฉันคุยกับผัวแก”

ลูกสาวแทบกลอกตา ทั้งอ่อนใจทั้งอับอายระคนกัน

“แล้วหนี้เท่าไรเหรอครับ”

“ตอนนี้ก็สองหมื่น”

“ทำไมเยอะจังล่ะพ่อ ก่อนปลายเดือนแก้มก็ให้มา เงินเดือนออกแก้มก็ให้เพิ่มมาจากที่แม่ขอด้วย”

“เอ๊ นังลูกคนนี้...”

“ครับ สองหมื่นก็สองหมื่น”

เมื่อเห็นว่าพ่อกุลนารีเริ่มขยับตัวและหันไปตวาดเธอพศินก็เอ่ยขึ้นทันที แล้วยังวางมือของตนบนต้นขาหญิงสาวเพราะนั่งข้างกันไม่ให้อีกฝ่ายแย้ง

ร่างบางเกร็งขึ้นในทันใดเพราะถูกแตะต้องในส่วนที่ชายหนุ่มไม่เคยแตะ เธอแทบจะกลั้นหายใจเลยทีเดียว

“กินข้าวแล้วผมจะโอนให้เลย แต่ผมขออะไรอย่างนึงได้ไหมครับ”

“อะไรก็ได้ ลูกเขยขอทั้งที”

คุณสรรชัยยิ้มกว้างถูกใจ เงินกำลังจะลอยมาอยู่ในมือ

“อย่าทำร้ายแก้มแบบนี้อีก ถือว่าผมขอ”

บิดาของเธอเงียบไป มารดาเองก็ตาโตอย่างไม่คาดคิดก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นแววตาพึงพอใจ

ส่วนกุลนารีนิ่งงัน เธอเหมือนกำลังไร้ความรู้สึก ทั้งมือหนาที่ยังวางที่เดิม ความห่วงใยที่เขาแสดงออก และชื่อเล่นของเธอจากน้ำเสียงราบเรียบทว่าทรงพลังในความรู้สึกส่งผลกระทบต่อใจดวงน้อยอย่างรุนแรง

พศินดีกับเธออย่างนี้ทำไมกัน?


==============

พศินปกป้องก็ดีแล้วแก้ม น่าปลื้มปริ่ม ดีกว่าตอนทำเย็นชาหน้าดุเยอะเลย ^-^

*อีบุ๊กวางขายแล้ว สนใจฉบับเต็มดาวน์โหลดได้ที่ MEBMARKET จ้า

==============

เฟซบุ๊กเพจ รสิตา เพียงพิณ มาเมาท์ มาคุยนิยายกันได้จ้า

https://twitter.com/rasitawriter

รีวิวจากผู้อ่าน 2 รีวิว
  • Anchalee Veerachaichuang
    เมื่อ 4 ปี 9 เดือนที่แล้ว
    ติดตามต่อไป
    • อ่านถึง : 1.ตบมาตบกลับนะ (1)
  • SIRIKULLAYA
    เมื่อ 4 ปี 9 เดือนที่แล้ว
    Thank you ka
    • อ่านถึง : 1.ตบมาตบกลับนะ (1)

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว