บทนำ
รถยนต์คนหนึ่งแล่นฝ่าความมืดเข้ามาจอดบริเวณหน้าบ้าน ไม่นานเครื่องยนต์ก็ดับลง ภายในบ้านที่ปิดไฟมืดไปนานแล้วค่อยๆ มีแสงสว่างขึ้นทีละดวงอีกครั้ง พร้อมๆ กับเสียงสนทนากันพึมพำของคนภายในบ้าน
“กลับบ้านดึกอีกตามเคย แล้วเนี่ยใครมาส่งอีกล่ะ รถไม่คุ้นเลย”
เสียงทุ้มของชายสูงวัยเอ่ยออกมาก่อน เมื่อสังเกตเห็นว่าภายนอกเป็นรถยนต์คันหนึ่งซึ่งแปลกไปจากที่เคยเห็น
“ทำไมยังไม่เข้าบ้านอีก มัวทำอะไรกันอยู่”
คนเป็นแม่เอ่ยตามออกมา มือยังพัลวันกับสายเสื้อคลุมที่สวมอยู่
“ลูกสาวเธอชักจะเอาใหญ่แล้วนะแม่พิกุล”
“พ่อนี่ก็นะ พูดยังกับว่ายัยวีมันลูกชั้นกับกระบอกไม้ไผ่งั้นแหละ”
สูงวัยทั้งสองต่างเริ่มโยนความผิดให้กันเมื่อลูกสาวคนเล็กมีพฤติกรรมที่ไม่ค่อยเชื่อฟัง เที่ยวดึก กลับบ้านเกือบเช้าบ่อยๆ คืนนี้ก็เช่นกัน
เมื่อหญิงสาวก้าวลงจากรถแล้ว ไม่นานรถยนต์ปริศนาคันดังกล่าวก็ถอยออกจากหน้าบ้านแล้วเคลื่อนตัวออกไป ปล่อยให้คนที่แอบมองอยู่ในบ้านชะเง้อตามจนลูกสาวตัวดีเปิดประตูเข้าบ้านมาขัดจังหวะ
“อ้าว พ่อ แม่ ยังไม่นอนอีกเหรอ”
“หึ ใครจะถ่างตาอยู่ไปได้ ไม่นอน นี่มันตีสี่แล้วนะยัยวี”
“นอนแล้วทำไมมายืนชะเง้อมองหาอะไรตรงนี้ล่ะ”
“ก็มาดูให้เห็นกับตาอ่ะสิว่า วันนี้ใครมาส่งแก ... รถคันใหม่ แบบนี้หมายความว่ายังไงยัยวี”
พิกุลผู้เป็นแม่เอ่ยถามลูกสาวที่อยู่ในสภาพแทบไม่เต็มคน หน้าแดง นัยน์ตาฉ่ำเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอลล์
“แม่จะสนใจทำไม เรื่องส่วนตัวของฉัน”
“ถ้าอยากมีผัว ก็มีให้มันเป็นตัวเป็นตนไปเลยสิลูกเอ้ย ทำไมต้องทำตัวอย่างนี้ เมื่อวานควงคน วันนี้ควงคน อายชาวบ้านเขาบ้าง”
“อายทำไมแม่ เรื่องนี้มันเรื่องส่วนตัวของฉัน ไม่เกี่ยวกับชาวบ้านสักหน่อย สนใจทำไม”
“แกไม่สนใจ แต่พ่อแม่อายคนเขานะโว๊ย อย่าพูดเห็นแก่ตัวแบบนี้สิ”
“ฉันไปนอนแล้ว ไม่อยากทะเลาะกับคนแก่ พ่อ แม่ก็ไปนอนได้แล้ว เลิกทำตัววุ่นวายกับชีวิตฉันสักทีเถอะ”
รุ่งรวีพ่นประโยคแสนรำคาญออกมาอย่างหัวเสียแล้วเดินหนีพ่อกับแม่ที่ยืนอารมณ์เสียค้างอยู่ สูงวัยทั้งสองได้แต่มองหน้ากันแล้วส่ายหน้าพร้อมๆ กันด้วยความอิดหนาระอาใจกับพฤติกรรมของลูกสาวคนเล็กของตน
♦♦……….♦♦……….♦♦