“มาแล้วเจ้าค่ะ พวกเขากลับมากันแล้ว!” แม่นมเฉารีบวิ่งกระวีกระวาดมาบอกสตรีทั้งสามที่นั่งจิบชารอมั่วหลีกับหลิงจ้านกันอยู่ในโถงหลัก โดยที่ปี้หวายเป็นคนเดียวที่ดื่มนมแพะอุ่นๆตามคำสั่งของจี้เส้าชาง
ซึ่งจี้เส้าชางบอกว่า “นอกจากนมแพะแล้ว ห้ามดื่มนมชนิดอื่น เพราะนมแพะสามารถวางยาพิษได้ยาก เนื่องจากพิษที่ผสมลงไปในนมแพะจะทำให้นมแพะมีสีดำขึ้นมาทันที ส่วนอาหารที่เจ้าต้องกินตลอดแปดเดือนนี้คือของนึ่งของต้มที่ข้าจะเป็นคนลงมือทำเอง และจะเป็นคนยกมาให้เจ้ากินเองกับมือ นอกจากอาหารของข้าแล้ว เจ้าห้ามกินอาหารฝีมือผู้ใดอีก”
“ข้าน้อยเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ข้าน้อยซาบซึ้งใจในพระคุณของคุณหนูมากจริงๆ”
“ในสายตาข้าเจ้ามิใช่บ่าว แต่เป็นเพื่อนรู้ใจ เพราะในอนาคต...ลูกหลานของเจ้าอาจจะได้หมั้นหมายกับลูกหลานของข้ากับท่านอ๋องก็เป็นได้!”
“คุณหนู...” ปี้หวายบอกไม่ถูกว่านางรักและเคารพเทิดทูนจี้เส้าชางมากเพียงใด
หลิงจ้านเดินก้าวข้ามธรณีประตูมาก่อนมั่วหลีที่เดินตามหลัง เขาหันไปมองว่าที่ภรรยาพลางถามอย่างงุนงงว่า
“ไยพวกเจ้าให้คนนำพวกข้ามาพบพวกเจ้าที่นี่ แทนที่จะเป็นที่ศาลารับลม ดูเข้มงวดเกินไปหรือเปล่า?”
จี้เส้าชางยิ้มและหัวเราะเบาๆ “มีเรื่องสำคัญต้องบอก จึงต้องเข้มงวดเป็นพิเศษเพคะ”
“เรื่องอันใดกัน ถึงทำให้ข้ากับมั่วหลีต้องมานั่งดื่มชากันในโถงที่แสนจะอุดอู้”
จี้เส้าชางค้อนพองาม “ในเมื่อท่านอ๋องพูดเช่นนี้ หม่อมฉันก็ขอถามสักประโยคว่าเหตุใดยังไม่พาหม่อมฉันไปเยือนจวนสกุลเจิ้งสักครั้ง!”
สีหน้าของหลิงจ้านเจื่อนลงเล็กน้อย แก้มคล้ำขึ้นสีเรื่อ เพราะคนที่เหลือต่างพากันหัวเราะเบาๆด้วยความขบขันที่หรงชินอ๋องถูกว่าที่พระชายาย้อนคำพูดใส่อย่างเอาเรื่อง
จี้เส้าชางได้ทีพูดต่อว่า “ยามนี้หม่อมฉันว่าง ท่านอ๋องจะพาไปจวนสกุลเจิ้งได้หรือยัง?”
“เจ้าอยากไปเยือนจวนข้าจริงๆ?”
“แน่นอนสิเพคะ”
“ก็ได้...” ท่านอ๋องหนุ่มพูดอุบอิบ ก่อนจะเดินไปจับจูงมือสาวคนรักที่ยังนั่งอยู่ที่เก้าอี้ จี้เส้าชางพูดขึ้นมาอีกว่า
“ท่านอ๋องมิอยากรู้หรือเพคะ ว่าเหตุใดวันนี้พวกเราถึงพากันมารอพวกท่านที่นี่”
“เออ จริงสิ ข้าลืมไปเลย มีเรื่องสลักสำคัญอันใดหรือไม่?”
“สำคัญอย่างยิ่งเพคะ โดยเฉพาะกับมั่วหลี!” จี้เส้าชางยิ้มหวานใส่ตาว่าที่พระสวามีที่กระพริบตาปริบๆมองนางและตรึกตรองคำพูดมีนัยของนางไปด้วยอยู่เป็นนานสองนาน
ก่อนหลิงจ้านจะเท้าสะเอวระเบิดเสียงหัวเราะดังคับโถง หันไปตบไหล่มั่วหลีที่ยังยืนเซ่อไม่รู้ร้อนรู้หนาวกับใครเขา
“ยินดีด้วย ยินดีด้วยนะ มั่วหลี”
“ยินดี ยินดีอะไรหรือพ่ะย่ะค่ะ”
ป๊าบ!
“โอ๊ย!”
หัวของมั่วหลีถูกฝ่ามือหนาใหญ่ของผู้เป็นนายตบอย่างแรงจนหน้าเกือบทิ่ม ทำเอาสาวๆเกือบหลุดเสียงร้องวี้ดว้ายด้วยความตกอกตกใจออกมา
“ท่านอ๋อง ไยตบหัวข้าน้อยเล่า?” มั่วหลีตัดพ้อ
“ก็เจ้ามันทึ่มนัก สมควรเอาขี้เลื่อยออกให้หมดหัว!” หลิงจ้านถลึงตาใส่มั่วหลีที่ยิ้มจืดเจื่อนยังโง่งมมิเปลี่ยน
“ฮูหยินเจ้าตั้งครรภ์แล้ว ใต้เท้ามั่ว!” จี้เส้าชางเป็นคนบอกเอง
มั่วหลีถึงกับหันขวับไปมองภรรยาที่เอียงหน้ายิ้มอย่างเอียงอายตาค้าง ตัวแข็งทื่อแน่นิ่งตกใจดั่งไก่ไม้
หลิงจ้านอ๋องหันมายิ้มอบอุ่นให้นางในดวงใจที่ผุดลุกขึ้นจากโต๊ะ จับมือเขาแน่นแล้วพากันเดินออกไปจากเรือนหลัก เพื่อไปยังจวนสกุลเจิ้งเงียบๆกันแค่สองคน
อัพจนครบโควต้าแล้วนะคะ
เล่มสอง (จบ) ใกล้วางแผงแล้วนะคะ
ตอนต่อไปเป็นตอนแรกของเล่มสองนะคะ
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว