“น้องสะใภ้หยุดร้องไห้ฟูมฟายเถิด ข้าจะบอกความจริงให้เจ้าได้รับรู้ เจ้าจะได้ตาสว่างเสียที”
“ความจริงอันใด”
นางสะบัดหน้าดิ้นไปดิ้นมา
“เฟิ่งหวงเป็นคนให้ข้าเข้าหาเจ้า เพื่อสอนเจ้าเรื่องบนเตียง”
เหยียนผิงได้ยินเช่นนั้นถึงกับชะงัก “ข้าไม่เชื่อ”
“หากเจ้าไม่เชื่อ เมื่อเขากลับมาค่อยถามเอากับเขาแล้วกัน แต่คืนนี้ข้าจะสอนเจ้าเสียก่อน”
สิ้นคำ เขาก็หยัดกายขึ้น แล้วจับขานางแยกออก
“อา... น้องสะใภ้ของข้า เจ้ายังสวยสดเหลือเกิน”
“ไม่นะ อย่ารังแกข้าเลยเจ้าค่ะ”
เหยียนผิงรีบเอามือปิดบังเนินเนื้อเรือนหยกของตน
เฟิ่งหยางไม่ฟังเสียง เขาโน้มกายลงจูบแนบกับมือน้องสะใภ้ แล้วใช้ปลายลิ้นลากเลียไปตามเรียวนิ้ว ทำเอานางสยิวเสียวขึ้นมาจนเผลอชักมือกลับเปิดโอกาสให้ปากร้อนผ่าวของเขากดลงที่เรือนหยกนาง
“เอ๊ะ”
เหยียนผิงสะดุ้งด้วยความตกใจปนเสียววาบ เป็นครั้งแรกที่นางถูกบุรุษกลืนกินตรงจุดอ่อนไหว
“อืม.. แผล่บ หืม”
เฟิ่งหยางกดปลายลิ้นเลียลากไล้ไปตามร่องกลีบเนื้ออุ่น แล้วดูดเบา ๆ พลางซบใบหน้าซุกไซ้กับเนินนั้นสูดกลิ่นกายสาวทำเอาเขาปวดร้าวไปทั้งแก่นกาย
“อา.. งื้อออ มะ ไม่เจ้าคะ คุณชายใหญ่ อา อย่า”
น้องสะใภ้ร้องครางเสียงสั่นอย่างเสียวซ่าน แม้ปากจะร้องห้ามแต่นางกับแอ่นกายลิ้นร้อนของเขา
“ดูแล้ว เจ้าคงจะยังไม่เคยถูกน้องชายข้ากินส่วนที่อร่อยที่สุดสินะ” เฟิ่งหยางเงยหน้าขึ้นดูน้องสะใภ้ที่หลับตาพริ้ม ร่างสั่นสะท้านอย่างพอใจ “อา... เช่นนั้น ข้าจะใช้ปากทำให้เจ้าร้องลั่นถึงสวรรค์ให้ดู”
สิ้นคำเขาก็กดริมฝีปากร้อนผ่าวลงจูบที่เรือนหยกนางอีก เนินเนื้อของนางทั้งอูมทั้งเนียนสวยไร้เส้นไหมปกคลุมทำให้เห็นกลีบเนื้อสีแดงฉ่ำชัดเจน
“ม๊วบ....”