“คุณหมอค่ะ หนูว่าเรา”
เด็กสาวเท้ามือลงบนโต๊ะโน้มตัวเข้าใกล้ใบหน้าหล่อใสของหมอหนุ่ม หล่อนจ้องเข้าไปในดวงตาอันคมกริบของเขา ดวงตาคู่นี้ที่เพียงแค่คนไข้เห็นก็ขวัญหนีดีฝ่อ แต่สำหรับหล่อนไม่ใช่
“ลองมาหาข้อตกลงร่วมกันดีกว่าไหมคะ”
สิ้นคำริมฝีปากบางนุ่มก็ประกบลงบนปากหมอหนุ่มอย่างรวดเร็ว
หมอหนุ่มถึงกับตะลึงงัน ความเร่าร้อนและหอมหวานจากริมฝีปากของเด็กสาวทำให้เลือดในกายเขาร้อนฉ่าขึ้นฉับพลัน !
เมื่อลิ้นเล็กไล้ปลายลิ้นไปตามเรียวปากของเขา ความรู้สึกทั้งหมดทั้งมวลพุ่งตรงไปยังริมฝีปาก ให้เผยอออกรับจูบหอมหวานที่เด็กสาวพยายามปรนเปรอให้
จ๊วบบบบบบบบบบบบบบ
อืมมมมมมมม
ในขณะที่หมอหนุ่มกำลังตกอยู่ใต้ความเร่าร้อนของเธอ มือเรียวของเด็กสาวก็ยกโทรศัพท์ขึ้นบันทึกภาพของเขาทั้งคู่เอาไว้
และเมื่อทั้งคู่ผละออกจากกัน หมอหนุ่มหายใจหอบ ยิ่งเด็กสาวยิ้มร่าอย่างยินดี หัวใจเขายิ่งเต้นโครมคราม ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยจูบกับผู้หญิง แต่เขาไม่เคยจูบกับเด็กสาวที่เพิ่งจะผลิบานเช่นนี้ รสชาติช่างรัดรึงใจเขายิ่งนัก
“ระหว่างเขียนใบตรวจโดยไม่ตรวจจริง ๆ กับการจูบกับคนไข้ซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่าสิบแปดปีในคลินิก ไม่รู้ว่าทำผิดจรรยาบรรณข้อไหน น้า ร้ายแรงที่สุด คริ คริ”
เด็กสาวรีบขยับถอยห่างจากเขาในระยะที่เอื้อมมือไม่ถึง พลางแกว่งโทรศัพท์ในมือต่อหน้าเขา เพื่ออวดรูปภาพของเขาทั้งคู่
“ฮึ เธอนี่มันเด็กแสบจริง ๆ”
หมอหนุ่มแค่นหัวเราะในลำคอ นี่เขาเสียท่าให้กับเด็กมอปลายหรือนี่
“เอาน่าหมอรีบเขียนใบตรวจมาไว ๆ หรือจะให้หนูโวยวายเดี๋ยวนี้เลยก็ได้นะ ว่า ถูกล่วงละเมิดทางเพศ”
เด็กสาวยิ้มลอยหน้าลอยตา
คำที่หล่อนประกาศกับเขาว่าเรียนเก่ง และฉลาดมากคงจะจริง เด็กสาวคนนี้ รู้มากเกินวัยเสียด้วย เขาหัวเราะให้กับตนเองในใจ ไม่คิดเลยว่าคนอย่างเขาจะพลาดท่าเสียทีให้เด็กสาวมัธยมเสียแล้ว
“ได้ ฉันจะลงในใบตรวจให้ว่า ปกติ”
“ขอบคุณค่ะ”
เอื้องฟ้ายิ้มดีใจจนออกนอกหน้า แล้วรีบเก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋า
“เดี๋ยว แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าเธอจะลบภาพนั้นแล้ว”
“คนอย่างเอื้องฟ้า พูดคำไหน คำนั้นค่ะ เมื่อคุณหมอลงในใบตรวจเสร็จ ฉันก็จะลบรูปทันที”
“คนอย่างหมอคมกฤช ก็ไม่ยอมให้ใครมาลูบคมง่าย ๆ เช่นกัน ยื่นหมา ยื่นแมว”
“ไม่เห็นเคยได้ยิน ! ยื่นหมา ยื่นแมว มีแต่สุภาษิตที่ว่ายื่นหมูยื่นแมว”
เอื้องฟ้าทำปากยื่น ไม่อยากให้เขายึดโทรศัพท์
“ผู้ใหญ่พูดยังไม่จบ ห้ามพูดแทรก”
หมอหนุ่มเสียงขรม ส่งสายตาดุ ๆ มาให้เด็กสาว เมื่อฝ่ายนั้นยอมสงบลงเขาจึงเอ่ยต่อว่า
“เธอต้องเอาโทรศัพท์ของเธอมาแลกกับใบตรวจ”
เอื้องฟ้าถึงกับตาโต อยากจะวิ่งเอาหัวโขกกำแพงตายนัก ! นี่หล่อนเสียจูบไปแล้ว ยังจะต้องเสียโทรศัพท์อีกหรือนี่
“ว่าไง”
หมอหนุ่มเร่งเร้า
“หมอยึดโทรศัพท์หนูไป แล้วหนูจะใช้อะไรล่ะ”
เด็กสาวโวยวายกระฟัดกระเฟียด
“ฉันจะชดใช้ให้ แต่เครื่องนี้ฉันขอ”
เขาต้องเก็บโทรศัพท์เครื่องนี้ไว้ เพื่อแน่ใจว่าภาพเมื่อสักครู่ต้องถูกทำลายจริง ๆ และไม่ถูกเผยแพร่ออกมาทำลายชื่อเสียเขาภายหลัง
เอื้องฟ้าคิดคำนวณอยู่ในใจแล้วรีบโพล่งออกมาทันทีก่อนที่เขาจะเปลี่ยนใจ
“ได้ ๆ ขอเป็นไอโพนสิบสองพลัส ๆ นะคะ คุณหมอรูปหล่อ”
หล่อนยิ้มหน้าทะเล้น ไหน ๆ โทรศัพท์เครื่องนี้ก็ใช้มาหลายปีจนตกรุ่นแล้ว ดาวโรงเรียนอย่างเธอต้องได้อะไรที่คู่ควรสิ
หมอหนุ่มไม่ตอบ เขาก้มหน้าก้มตาเขียนใบตรวจแล้วยื่นให้เด็กสาว พร้อมกับรับโทรศัพท์ยี่ห้อตลาดค่อนข้างเก่าของหล่อนมา
“ขอบคุณค่ะ แล้ววันไหน หนูจะได้โทรศัพท์ใหม่”
เอื้องฟ้ารีบถาม
“ว่างวันไหนก็มาเอาที่คลินิกแล้วกัน”
“ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ งั้นเดี๋ยวหนูมาใหม่นะคะ”
เด็กสาวแทบจะกระโดดออกไปจากห้องตรวจ
หมอหนุ่มยิ้มเย็น ส่ายศีรษะน้อย ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ลุกขึ้น แล้วเดินตามออกไป
..................................................................................
ชายวัยกลางคนถือถุงอาหารและน้ำหวานในมือ เดินสวนกันกับสองคู่แม่ลูกที่เพิ่งเดินออกไปจากคลินิก
ชายคนนั้นขยับแว่นมองตามแผ่นหลังของทั้งคู่ ก่อนจะเอ่ยถามผู้ที่สวมเสื้อกาวตัวยาวว่า
“ไอ้กฤชพวกเขามาทำอะไร”
“อ๋อ เขาพาลูกสาวมาตรวจ ผมก็เลยบอกว่าหมอไม่อยู่ให้มาตรวจวันหลัง”
คนถูกซักไซ้รีบถอดเสื้อกาวของพี่ชายออก แล้วแขวนไว้บนผนังตามเดิม
“แน่ใจนะ ว่าแกทำอย่างนั้นจริง ๆ”
ผู้เป็นพี่ชาย และเป็นหมอเจ้าของคลินิกตัวจริง เดินเข้ามาใกล้น้องชายตัวดีอย่างคาดคั้น
“โธ่พี่สัน ผมก็เป็นหมอนะ แม้จะเป็นกุมารแพทย์ ไม่ใช่สูติแพทย์เหมือนพี่แต่ผมก็รู้หลักจรรยาบรรณของแพทย์น่า”
คมกฤชหลบสายตาพี่ชายที่มองเขาเหมือนจะทะลุปรุโปร่งเสียทั้งหมด
“ฉันก็แค่เดา เพราะเด็กสาวเมื่อครู่สวยไม่เบาเลยนะ แล้วไอ้หมอคาสโนว่าอย่างแก มีหรือจะไม่อยากเล่นบทบาทหมอสูฯ”
ผู้เป็นพี่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอา เรื่องผู้หญิงมากหน้าหลายตาของน้องชายลอยเข้าหูบ่อย ๆ ตั้งแต่สมัยเป็นนักศึกษาแพทย์ ปัจจุบันน้องชายของเขาเป็นกุมารแพทย์ หรือหมอเด็กเต็มตัวแล้วก็ยังไม่เลิกนิสัยเจ้าชู้
“ฮ่า ฮ่า พี่สันก็เข้าใจล้อผมเล่น ผมรึอุตส่าห์เฝ้าคลินิกให้พี่ออกไปซื้อของกินยังจะจับผิดผมอีกหรือ ผมไม่ชอบทำคลินิกพี่สันก็รู้”
คมกฤชเบี่ยงเบนประเด็น
“เอ่อ ๆ ว่าแต่เรื่องวิจัยที่แกชอบนักหนาถึงไหนแล้ว”
คมสันวางถุงเสบียงในมือบนเคาน์เตอร์ วันนี้น้องชายแวะมาเยี่ยมเขาจึงรีบออกไปซื้อของกินเพื่อรองท้องก่อนที่จะถึงเวลาเปิดคลินิก
“ทดลองกับสัตว์เรียบร้อยแล้วได้ผลดีมาก เหลือทดลองกับมนุษย์แต่ต้องให้แน่ใจเสียก่อนว่ายาตัวนี้ไม่มีอันตรายกับมนุษย์แน่นอน”
“อืม ถ้าแกชอบด้านนี้ก็รีบ ๆ ทำ จะได้เป็นอาจารย์หมอไว ๆ”
“โธ่ ใครอยากเป็นอาจารย์ เครียดตายชัก สู้ขายสูตรยาให้บริษัทเอกชนรวยกว่าเยอะ”
“ครับ พ่อคนฉลาด พ่อหัวการค้า จะทำอะไรก็รีบ ๆ ทำเถอะ อายุนายก็สามสิบกว่าแล้ว อย่ามัวแต่ยุ่งเรื่องสาว ๆ ให้มากนัก”
“ฮึ ฮึ ครับคุณพี่คมสัน”
คมกฤชฉีกยิ้มกว้าง มันเป็นรอยยิ้มที่ดูเหมือนแสนจะจริงใจ แต่กลับหาความจริงใจในนั้นยากยิ่งนัก และรอยยิ้มนี้ที่ล่อลวงสาว ๆ หลายคนให้เข้ามาติดกับหมอคาสโนว่าอย่างเขาจนถอนตัวไม่ขึ้นมานักต่อนักแล้ว
.............................................................................................