[จบ] แม่ปากร้ายยุค​ 80 -ตอนที่ 43 กลิ่นหอม

โดย  Enjoybook

[จบ] แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่ 43 กลิ่นหอม

ตอนนี้คนของจักรวรรดิฮั่นและจักรวรรดิแดวูต่างก็ได้ทำการล้อมหยางเฉินเอาไว้ ทำให้หยางเฉินรู้สึกเหมือนเป็นคนสำคัญขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก


“เถาเถา คนที่โจมตีเราเมื่อครู่ คือไป่ฮั่น คนของจักรวรรดิฮั่นเองก็ไล่ตามเรา” หยางเฉินพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด


“ตอนนี้เราไม่อาจจะไปยังจักรวรรดิฮั่นได้ ข้าเกรงว่าเรายังไปไม่ถึงโถงเถีย ไป่ฮั่นคงตามเรามาทันแล้ว”

เถาเถาในพู่กันพึมพำออกมา “เจ้ากลับไปที่จักรวรรดิฮั่นก่อน แล้วข้าจะล่อพวกมันออกไป”


“เถาเถา เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือ? เจ้าล่อพวกนี้ออกไป แต่เจ้าจะโดนพวกนี้จับเอา” หยางเฉินพูดออกมา “เจ้าคิดว่าข้า หยางเฉิน ผู้นี้เป็นคนที่ทิ้งพวกพ้องหรือไงกัน!”


“เฮ้อ เสี่ยวหยาง เจ้าก็รู้ว่าหากเจ้าอยู่ต่อก็ช่วยอะไรไม่ได้ พวกเขาต้องฆ่าเจ้าเพื่อจะยึดครองข้า หากเราสองคนแยกกัน เป้าหมายของพวกก็มีแค่ข้า เจ้าจะได้ปลอดภัย” เถาเถาถอนหายใจและแสดงท่าทีสลดออกมา


ตอนที่ทั้งสองพูดคุยกันนั้นไปฮั่น และชายตัวใหญ่ก็ได้โผล่มาที่ด้านหลัง ซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก


ไป่ฮั่นเห็นชายตัวใหญ่ สีหน้าก็เปลี่ยนไปพร้อมพูดขึ้น “หยูเหวินชาง ไม่คิดเลยว่าเจ้าเองก็มาด้วย”


“จักรวรรดิฮั่นมาได้ แล้วทำไมข้าจะมาไม่ได้ หากข้าอยู่ที่นี่ ข้ากลัวว่าเจ้าคงไม่มีโอกาสได้สมบัติขอบเขตจักรพรรดินั่นไป!” หยูเหวินชางหัวเราะออกมา ขณะที่ผมของเขาก็กระพือไปตามลม


“ฮึ่ม! เจ้าอย่างได้มั่นใจไปเลย เพราะสุดท้ายก็ยังไม่รู้ว่าใครจะได้มันไปครอบครอง” ไป่ฮั่นพูดออกมาอย่างเย้ยหยัน ความแข็งแกร่งของหยูเหวินชางแม้จะสูงกว่าเขา แต่เขาไม่คิดจะยอมแพ้ในเรื่องนี้


หลังจากพูดจบ ไป่ฮั่นก็พุ่งเข้าหาพู่กันและหยางเฉินทันที


“ฮ่าฮ่า...” หยูเหวินชางหัวเราะออกมา “ในเมื่อข้าอยู่ที่นี่ จักรวรรดิฮั่นของเจ้าไม่มีทางชิงสมบัติขอบเขตจักรพรรดินี่ไปได้แน่” ในตอนที่เขาหัวเราะออกมาเขาก็ก้าวออกมาเช่นกัน


พู่กันได้ใช้เงินไปหมดแล้ว ความเร็วจึงลดลง ทำให้ไป่ฮั่นและหยูเหวินชางตามมาจนทัน


เมื่อเห็นว่าพู่กันอยู่ใกล้แค่เพียงเอื้อมมือ หยูเหวินชางและไป่ฮั่นก็แสดงสีหน้ายินดีออกมา จากนั้นพวกเขาก็ได้ยื่นมือออกมาเพื่อจับพู่กันเอาไว้ !


“เสี่ยวหยางกระโดดขึ้น ข้าจะหยุดพวกเขาเอง!” เถาเถาส่งข้อความบอกหยางเฉินแล้วควบคุมพู่กันให้สะบัดใช้ทักษะสรรค์สร้าง จากนั้นตัวอักษรหลายหมื่นตัวก็ได้ลอยออกมาครอบตัวไป่ฮั่นและหยูเหวินชางเอาไว้!


เมื่อไม่มีเงินคอยให้พลังงาน การโจมตีระดับนี้จึงใช้ไม่ได้ผลกับคนขอบเขตจักรพรรดิ หยูเหวินชางและไป่ฮั่นแค่สะบัดมือก็สามารถทำลายตัวอักษรพวกนั้นได้แล้ว


หยางเฉินที่อยู่บนพู่กันไม่คิดจะฟังคำพูดของเถาเถาแล้วหนีไปเพียงลำพัง เมื่อเห็นว่าการโจมตีของเถาเถาสลายไป เขาก็ได้กางมือออก จากนั้นแหวนมิติของหยวนมู่ก็ได้ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือของเขาทันที


“เปิดตาดูว่าอะไรอยู่ด้านใน!” หยางเฉินตะโกนใส่หยูเหวินชางและไป่ฮั่น


หยูเหวินชางและไป่ฮั่นถึงกับตกตะลึง พวกเขาแผ่การรับรู้ไปที่แหวนมิติในมือของหยางเฉิน จากนั้นสีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป “แก่นผลึก!”


เมื่อเห็นแก่นผลึก หยูเหวินชางและไป่ฮั่นก็ตาเป็นประกาย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาสนใจแก่นผลึกมากแค่ไหน


“ปล่อยข้าไป ไม่งั้นข้าจะทำลายแก่นผลึกนี่!” หยางเฉินมองไปที่หยูเหวินชางและไป่ฮั่น แล้วพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา


“ฮึ่ม ปล่อยเจ้าไปอย่างนั้นรึ? ไม่ใช่แค่เราจะไม่ได้แก่นผลึก แม้แต่สมบัติขอบเขตจักรพรรดิก็จะหนีรอดไปด้วย!” ไป่ฮั่นหัวเราะออกมา เขาไม่ได้โง่ที่จะปล่อยหยางเฉินไป


“ส่งแก่นผลึกและสมบัติมา แล้วข้าอาจจะไว้ชีวิตเจ้า!” หยูเหวินชางพูดออกมา “ไม่สิ แม้ว่าเจ้าจะส่งมันมาทั้งหมด แต่ข้าก็จะฆ่าเจ้าอยู่ดี!”


‘ข่มขู่ข้าอย่างนั้นรึ? เจ้าคิดว่าข้าจะกลัวหรือไง?’ หยางเฉินรู้สึกไม่สบอารมณ์สักนิด และมองไปที่ทั้งสองคน พร้อมกับพูดขึ้นมา “อย่าทดสอบความอดทนของข้า แก่นผลึกนี่สำคัญมากกว่าสมบัติขอบเขตจักรพรรดิ ทันทีที่พวกเจ้าปล่อยข้าไป ข้าจะส่งแก่นผลึกให้”


หยูเหวินชางและไป่ฮั่นดวงตาเป็นประกายขึ้นมา พวกเขาใจเต้นรัว สุดท้ายหยูเหวินชางก็พูดขึ้นมา “ได้ ข้ารับปากเจ้า !”


ไป่ฮั่นกัดฟันแน่นและพูดขึ้น “ข้าเองก็รับปากเจ้าเช่นกัน”


“ข้าจะโยนแหวนมิติขึ้นไปในอากาศ ใครจะได้มันไปก็ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของพวกเจ้าเอง” หยางเฉินยิ้มแล้วสะบัดมือไปมา เขามองไปรอบๆราวกับคิดว่าจะโยนแหวนไปที่ไหนดี


หยูเหวินชางและไป่ฮั่นจับตาดูการเคลื่อนไหวของหยางเฉิน ทันทีที่หยางเฉินโยนแหวนออกมา พวกเขาจะรีบไปเก็บมันทันที


“รับ!” หยางเฉินตะโกนออกมา แล้วโยนแหวนมิติเข้าไปในป่า ในเวลาเดียวกันนั้นเถาเถาก็ได้ควบคุมพู่กันให้หันกลับ แล้วมุ่งหน้าไปทางจักรวรรดิฮั่นทันที


ส่วนไป่ฮั่นและหยูเหวินชาง ก็รีบพุ่งไปทางที่แหวนมิติตกทันที ทั้งสองคนยื่นมือออกไปรับแหวน ก่อนจะถึงพื้นพร้อมกัน เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยื่นมือมาเพื่อรับแหวน พวกเขาก็พลิกฝ่ามือแล้วทำการโจมตีอีกฝ่ายทันที !


ปัง! ฝ่ามือของทั้งสองปะทะกัน ทำให้พลังปราณระเบิดออกไปทั่วทุกทิศทาง โดยมีทั้งสองเป็นศูนย์กลาง ต้นไม้หลายร้อยต้นโดยรอบหักโค่นลงมา กิ่งไม้และใบหญ้ากระเด็นไปทั่วท้องฟ้า


ในขณะที่ไป่ฮั่นถอยกลับไป 10 ก้าวก่อนจะประคองตัวได้ ส่วนหยูเหวินชางก็ถอยกลับไป 7 ก้าวถึงจะประคองตัวได้ ชัดแล้วว่าความแข็งแกร่งของหยูเหวินชางนั้นสูงกว่าไป่ฮั่น หลังจากที่ทั้งสองประคองร่างกายได้สักพัก ก็รีบพุ่งเข้าไปหาแหวนมิติที่ตกอยู่ที่พื้นทันที


“ฮึ่ม!” หยูเหวินชางฮึดฮัดออกมาแล้วบินไปยังแหวนมิติ พร้อมกับเขวี้ยงขวานเข้าใส่ไป่ฮั่น! สีหน้าของไป่ฮั่นเปลี่ยนไปทันที จากนั้นมือของเขาก็ประกบเข้าหากัน พร้อมกับปราณที่แผ่ออกมารวมตัวเป็นใบมีดลมยาวหลายนิ้วฟันเข้าใส่ขวาน !


ปัง ! ขวานและใบมีดลมได้ปะทะกันอย่างรุนแรง มีดลมพังลงและกลายเป็นใบมีดลมขนาดเท่ากับฝ่ามือนับไม่ถ้วนกระเด็นออกไปโดยรอบ ขวานเองก็กระเด็นกลับไปหาหยูเหวินชาง


ในเวลาเดียวกันหยูเหวินชางก็เก็บแหวนขึ้นมาจากพื้น ตอนที่เก็บแหวนขึ้นมานั้น เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ไป่ฮั่น ข้าได้มันมาแล้ว” ในตอนที่หัวเราะอยู่นั้นเขาก็ยกขวานขึ้นแล้วพุ่งเข้าใส่อีกฝ่าย


“ฮึ่ม!” ไป่ฮั่นฮึดฮัดออกมา เขาแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา


หยูเหวินชางเห็นสีหน้าของไป่ฮั่นก็ยิ้มออกมา เมื่อเขามองมาที่แหวนมิติ สีหน้าเขาก็ต้องเปลี่ยนไปทันที!


เมื่อเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของหยูเหวินชาง ไป่ฮั่นก็นิ่งไป เขารีบแผ่การรับรู้ไปที่แหวน เมื่อเห็นว่ามันไม่มีแก่นผลึกอยู่ด้านใน เขาก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “หยูเหวินชาง ดูเหมือนว่าเจ้ากับข้าจะถูกหลอกเสียแล้ว!”


“รนหาที่ตาย!” หยูเหวินชางโกรธจัด เขาขยี้แหวนทิ้ง แล้วกระทืบเท้าพุ่งก่อนจะออกไปไล่ตามหยางเฉินและพู่กันอีกครั้ง แต่อยู่ๆเขากลับชะงักไปในอากาศ เพราะเขารู้สึกได้ว่าทั้งป่าเหมือนจะสั่นไหว ต้นไม้ส่ายไปมา


ไป่ฮั่นและหยูเหวินชางหันกลับไปมองที่ป่า ก็พบว่ามีลูกศรสีดำยาวหลายสิบเมตรพุ่งตัดอากาศมาทางพวกเขาจากด้านในป่าลึก ลูกศรนี้ได้แผ่ปราณที่แข็งแกร่งออกมาทุกทิศทาง ทำให้ต้นไม้โดยรอบหักโค่น และกลายเป็นเถ้าในทันตา นี่คือปราณหยินที่น่ากลัวมาก!


เมื่อมองไปยังทางที่ลูกศร ห่างออกไปหลายร้อยฟุตก็พบกับชายชุดขวาถือธนูยาวสีดำ ในมือของเขากำลังง้างคันศรอยู่ เขาคือคนที่ยิงลูกศรมาเมื่อครู่


“เย่ลั่ว!” หยูเหวินชางและไป่ฮั่นสีหน้าเปลี่ยนไป พวกเขารีบถอยกลับทันที !


ตอนที่ถอยนั้นพวกเขาก็กัดฟันแน่นแล้วพูดขึ้นมา “เย่ลั่ว เราหาเรื่องเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ทำไมเจ้าถึงลงมือกับเรา?”


“พวกเจ้าไล่ตามคนที่มีสมบัติขอบเขตจักรพรรดิอยู่ใช่หรือไม่?” เย่ลั่วพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเฉยเมย


หยูเหวินชางและไป่ฮั่นได้ยินแบบนั้น ก็สีหน้าบิดเบี้ยวไป ‘หรือว่าคนผู้นั้นเกี่ยวข้องกับเย่ลั่วกัน?’


“ตอนนี้พวกเจ้าคงรู้แล้วว่าทำไมข้าถึงจัดการกับพวกเจ้าสินะ?” ตอนที่เย่ลั่วพูดขึ้น ลูกศรสีดำยาวหลายสิบเมตรก็พุ่งเข้าหาหยูเหวินชางและไป่ฮั่นทันที


“เย่ลั่ว เขาหนีไปได้แล้ว เราไม่ได้ไล่ตามเขา ทำไมเจ้าถึงต้องลงมือกับเราอีก?” หยูเหวินชางมองไปที่ลูกศรที่พุ่งเข้ามาแล้วกัดฟันแน่น


“เย่ลั่ว เราจะไม่ไปสร้างปัญหาให้กับเขาอีกในอนาคต แต่ทำไมเจ้าจะต้องยอมมีเรื่องกับจักรวรรดิฮั่นและจักรวรรดิแดวูด้วย?” ไป่ฮั่นตะโกนออกมาพร้อมกับถอยไป


“พวกเจ้าข่มขู่ข้ารึ?” เย่ลั่วยิ้มออกมา


“ไม่ ข้าไม่ได้ข่มขู่เจ้า ข้าแค่ไม่อยากให้จักรวรรดิฮั่นมีเรื่องกับโถงเถีย” ไป่ฮั่นรีบอธิบายออกมา เหงื่อของเขาชุ่มไปทั่วใบหน้า


“วันนี้ข้าแค่พูดคุยด้วย หากมันเกิดขึ้นอีกในอนาคต ข้าจะไปหาพวกเจ้าเอง” เย่ลั่วหันกลับ ตอนที่เขาเดินออกมานั้นเขาก็ได้ส่งคำว่า ‘ทลาย’ ออกมา


คำนี้ดังก้องไปทั่ว ธนูได้ระเบิดออกตรงหน้าทั้งสองคนอย่างรุนแรง จากนั้นเปลี่ยนเป็นหมอกดำนับไม่ถ้วนลอยขึ้นไปบนฟ้า สักพักทุกอย่างก็กลับคืนสู่ความสงบ


เมื่อเห็นว่าลูกศรหายไปไป่ฮั่นและหยูเหวินชางก็พากันหยุดและคิดในใจ ‘เย่ลั่วใช้ธนูซวนตี้กับเรา เขาเกี่ยวข้องกับชายคนนั้นยังไงกัน?’


....


หยางเฉินไม่รู้เลยว่าเย่ลั่วช่วยเขาเอาไว้ ตอนนั้นเขาได้ขี่พู่กันออกมาจากป่าไป แล้วมุ่งหน้าไปที่เมืองหลวงทันที


ในตอนนั้นเองเขาก็เห็นว่าที่ป่าด้านหลังนั้นมีควันดำลอยขึ้นมา เขาจุงได้พูดกับเถาเถา “เถาเถา เจ้าดูนั่น!”


เถาเถามองผ่านพู่กัน ก็พบว่าบริเวณที่ไป่ฮั่นและหยูเหวินชางอยู่นั้น มีปราณดำลอยขึ้นมา


เมื่อเห็นปราณดำนั้น สีหน้าของเถาเถาก็เปลี่ยนไป “ครั้งที่แล้วที่เย่ลั่วจัดการกับหยวนชีเซียว เขาก็ได้ยิงลูกศรออกมา สุดท้ายลูกศรก็เหมือนเปลี่ยนเป็นปราณดำ”


“เย่ลั่วอย่างนั้นรึ?” หยางเฉินถามขึ้นมา


“ข้าเองก็ไม่แน่ใจ พวกเรากลับไปที่เมืองหลวงก่อน หากพวกเขาไม่ไล่ตามเรามาจริงๆ เราจะไปที่โถงเถียไม่ทัน” ในตอนที่พูดนั้น เถาเถาก็ควบคุมให้พู่กันเดินหน้าต่อไป





รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว