ดุจดังมธุรส-23.อ้อมกอดในวันเหนื่อยล้า (2)

โดย  รสิตา เพียงพิณ

ดุจดังมธุรส

23.อ้อมกอดในวันเหนื่อยล้า (2)

ตอนที่ 3





“หวง หวง เรามีลูกอีกคนเถอะ” สิ้นเสียงก็โน้มตัวไปจูบอย่างแผ่วเบา ริมฝีปากขบกันไปมา มือหนาใหญ่เริ่มซุกซนล้วงเข้าไปในสาบเสื้อ และเคล้าคลึงยอดปทุมข้างซ้ายทีขวาที อีกมือกำลังดึงที่คาดเอวออกก็ต้องหยุดชะงัก เพราะมือขาวอวบผลักร่างเขาออกทันที

“ท่านพี่! น้องไม่อยากมีลูกอีกแล้ว” ฮูหยินหวงกำลังจัดเสื้อผ้าให้เข้าที

เฉิงเป่าขยับเข้าไปใกล้และซุกไซ้ที่ต้นคออีกครั้ง ฮูหยินหวงก็ขยับหนีและหันมาจ้องมองด้วยสายตาวิงวอน

“ท่านพี่ข้าพูดจริงๆ นะ อายุเราสองคนเริ่มมากแล้ว ข้ากลัวมีลูกแล้วเลี้ยงไม่ได้ กลัวลูกออกมาแบบ........เซอร์เออร์” พูดจบถอนหายใจอย่างแรง“เป็นแบบเซอร์เออร์แล้วจะทำไม เจ้ายังรังเกียจลูกสาวตัวเองอยู่อีกเหรอ” เฉิงเป่าพูดจบล้มตัวลงนอน

หวงหวง หันไปมองและส่งสายตาวิงวอน “ข้าทำผิดอะไร โชคชะตาข้าถึงเป็นเช่นนี้ ข้าไม่ได้ลักเล็กขโมย ฆ่าใครตายสักหน่อย ทำไมสวรรค์ถึงกลั่นแกล้งกันได้” พูดจบน้ำตาก็ไหลอาบแก้ม นึกถึงลูกสาวคนเล็กที่นางรับไม่ได้ที่ให้กำเนิดออกมาในสภาพเช่นนั้น

เฉิงเป่าใช้มือเกลี่ยน้ำตาที่ไหลอาบแก้มออก “มันไม่ใช่ความผิดของใครหรอก เจ้าอย่าไปโทษสวรรค์เลย โทษข้านี้ที่ทำให้เจ้าต้องเจอแบบนี้ เจ้าอยู่กับข้าตั้งแต่อายุสิบสี่เราสองคนปากกัดตีนถีบทำมาหากินกันอย่างสุจริตจนมีทุกสิ่งทุกอย่างมีร้านค้ามากมาย จวนหลังใหญ่อีกหลายหลัง มีลูกที่น่ารักสามคน ถึงแม้ลูกคนที่สามของเราจะแปลกประหลาดแต่นางก็เป็นลูกของเรานะ”

“ลูกของท่านไม่ใช่ของข้า” หวงหวงไม่พอใจและเอามือไปทุบอกเฉิงเป่าอย่างแรง

“โอ๊ย!”

เฉิงเป่าเอามือลูบๆ หน้าอกที่ถูกทุบ

“ได้ๆ ลูกของข้า เจ้าพอใจหรือยัง” พูดจบพลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้หวงหวง

หวงหวง เห็นอาการน้อยใจของสามีแล้วได้แต่ถอนหายใจ และเอื้อมเข้าไปในสาบเสื้อของเฉินเป่า ลูบไล้อกอย่างแผ่วเบา

“ท่านพี่”

เฉิงเป่าเริ่มรับรู้ความรู้สึกของฮูหยินของเขาที่กำลังใช้ไม้อ่อน ทำให้เขาหายน้อยใจ เขาดึงมือของนางออกอย่างแรง ทำให้หวงหวงเกือบล้มไปด้านหลัง

“ท่านพี่” หวงหวงตะโกนอย่างเหลืออด พร้อมใช้มือทั้งสองข้างผลักให้เฉิงเป่าตกเตียง แต่เฉิงเป่ารู้ทันรีบเด้งตัวลุกขึ้นนั่ง

“ข้ารู้ว่าเจ้าจะทำอะไรข้า” เฉิงเป่าพูดพร้อมชี้นิ้วไปที่นาง

หวงหวงสูดลมหายใจลึกๆ สีหน้าเริ่มไม่พอใจยิ่งกว่าเก่า และล้มตัวตะแคงหันหน้าไปอีกทาง “ท่านรู้แล้วจะทำไม”

“ไม่ทำไม” เฉิงเป่าเสียงอ่อนลงแล้ว กำลังลุกเดินออกไปจากห้อง

หวงหวงแอบเห็นสามีกำลังเดินออกจากห้อง “ท่านจะไปไหน”

เฉิงเป่าหันมามอง “ข้าจะไปหาลูกชายตัวดีของเราเสียหน่อย จะไปถามว่าของที่เอามาให้บรรดาน้องสาว มันมีค่ามากนะสร้อยคอมรกตเม็ดใหญ่ที่หาได้ยาก รวมถึงรัดเกล้าโบราณน้ำงามมาก เจ้าลูกชายเราไม่มีปัญญาหามาได้ง่ายๆ ต้องมีอะไรสักอย่างแน่”

“ท่านพี่ ลูกเราไม่ได้อยู่ที่ห้องหรือจวนเล็กหรอก สาวใช้มารายงานตั้งแต่เย็นแล้วว่าออกไปที่โรงเตี๊ยมเฟิ่งเหินแล้ว” พูดจบก็หันกลับไปนอนตะแคงเข้าตามเดิม

ที่โต๊ะกลม พร้อมกับย่องขึ้นเตียงแล้วโถมเข้าใส่หวงหวง เขาไม่สนใจว่านางจะเริ่มแก่ตัวลงแต่เรือนร่างของนางอวบอั๋นขึ้นมากกว่าเก่า ก็ยังทำให้เขาลุ่มหลงได้ตลอด ตอนนี้เขาต้องการนางคนเดียวเท่านั้น หวงหวงไม่ทันตั้งตัวก็ถูกลิ้นเลียที่ซอกคอ มือซ้ายขวาเหมือนรู้หน้าที่รีบดึงที่คาดเอวนางออก ส่วนตัวเขาตอนนี้เสื้อนอนถอดออกไปตั้งแต่ปีนขึ้นเตียงแล้ว เขาไม่ปล่อยโอกาสหลุดลอยอีกเป็นแน่ เขารู้จุดอ่อนของนางอยู่ที่ซอกคอก็เลียและขบกัดกระตุ้นให้นางเกิดอารมณ์

“ท่านพี่ อย่า” เสียงหวงหวงขาดช่วง แต่เรือนร่างนางตอบรับกับร่างกายเฉิงเป่าที่กำลังลุกล้ำเข้ามาอย่างรวดเร็ว

“ท่านพี่”

“เจ้าไม่ต้องพูด” เขาขบติ่งหูไล่จากบนลงล่าง และใช้มือบดขยี้ยอดปทุมไปมา อีกมือล่วงล้ำเข้าไปสำรวจปากถ้ำที่ตอนนี้เริ่มชุ่มชื้นนางกระสับกระส่ายไปมา กัดที่แขนเขาอย่างแรง เฉิงเป่าฉีกยิ้มอย่างผู้ชนะ ไม่นานเขาก็เข้าไปครอบครองร่างของนางขึ้นลงอย่างช้าๆ เป็นจังหวะ และเร่งดุดันยิ่งขึ้นจนนางต้องใช้เล็บจิกไปที่หลังอย่างแรง

“ท่านๆ ท่านข้าไม่ต้องการมีลูกอีกแล้วนะ” เสียงแผ่วเบาจะขาดใจดังขึ้นมา

“ได้ๆ ได้ๆ หวงหวง ตอนนี้ข้าจะสุดแล้วเจ้าละ” พูดจบนางอย่างแรง

นางไม่พูดอะไร ส่งสายตาออกไปว่านางพร้อมที่จะขึ้นสวรรค์กับเขา

สองสามีภรรยาผลัดกันรุกผลัดกันรับอยู่อย่างนี้ค่อนคืน เมื่อเสร็จศึกใหญ่ที่นานๆ จะจัดขึ้น เฉินเป่าจะเป็นผู้ปรนนิบัติให้ฮูหยินของเขาโดยไม่เรียกสาวใช้เข้ามาช่วย แต่พวกเขาก็ไปจบศึกครั้งสุดท้ายที่ถังน้ำที่อยู่ห้องด้านข้างอีกครั้ง



ส่วนฝั่งโรงเตี๊ยมเฟิ่งเหินมีกลุ่มชายหนุ่ม 3 นั่งดื่มสุราอยู่ที่ห้องรับรอง และมีผู้ติดตามกระจายตัวอยู่ที่ระบียงและตามบันได ไม่ให้ผู้ใดเข้าออกหรือขึ้นลงผ่านบริเวณนี้ได้

“พวกเจ้าแน่ใจนะว่าต้องการแบบนี้ ข้าไม่ได้บังคับขู่เข็ญพวกเจ้านะ” เฉิงชางพูดจบกระดกเหล้าเข้าปาก

สองหนุ่มนั่งมองหน้ากันแล้วส่งเสียงหัวเราะขึ้นพร้อมกัน เฉินชางได้แต่ส่ายหัวกับพฤติกรรมของสหายตัวดีของเขาเป็นอย่างมาก

ชายหนุ่มชุดขาวผมรวบรัดตึง ผิวขาว รูปร่างโปร่ง คิ้วหนา จมูกโด่ง มีลักยิ้ม รินเหล้าลงในแก้วและใช้นิ้วขนเล่นไปมา “ข้าไป๋จินโหวไม่เคยพูดเล่นอยู่แล้ว ข้าชอบพี่ชายแล้วทำไมจะชอบน้องสาวของเขาไม่ได้ละ”

“เฮ้อ!” เฉิงชางถอนหายใจอย่างแรง “แล้วเจ้าละเยี่ยฉายอัน” สายตาหันไปจ้องชายหนุ่มที่คลุมเสื้อหนังสัตว์สีดำ ผมปรกหน้าซีดซ้าย และปล่อยสยายลงมาถึงกลางหลัง ผิวขาว ร่างสูงโปร่ง ดวงตาคมเข้มสีน้ำตาลเข้ม คิ้วหนา จมูกโด่งได้รูป รัดเกล้าที่หน้าผาก”

ชายหนุ่มไม่ตอบหยิบกริชสีทองล้อมไปด้วยเพชรพลอยออกมาดู

เฉิงชางในเวลานี้รู้สึกอับจนหนทางเพราะเขาแพ้ประลองยุทธ์ในค่ายทหารที่จัดขึ้นทุกปี เขาไม่น่าแพ้ให้กับสหายสองคนนี้เลย และเดิมพันๆ บ้าๆ ที่เป็นความลับดำมืดไม่อาจจะบอกกล่าวกับบิดาและมารดาได้เวลานี้กัดกินหัวใจเข้าจมดิ่งเข้าไปทุกที กลัวพวกท่านรับไม่ได้กับการเดิมพันยกน้องสาวให้กับไป๋จินโหวและเยี่ยฉายอัน

“เจ้าอย่าคิดมากเลยนะว่าที่พี่เขยคนดี” ไป๋จินโหวพูดแหย่เฉิงชาง

เฉิงชางเริ่มเดือดดาลชี้นิ้วไปที่ไป๋จินโหวและเยี่ยฉายอัน “พวกเจ้ากำลังทำให้ข้ากลายเป็นบ้าไปแล้วรู้ไหม ข้าไม่กล้าเล่าความลับนี้ให้ใครฟังเลย ข้ากลัวพวกท่านจะรับไม่ได้ในเรื่องนี้”

พูดจบก็กับมาทำหน้าเศร้าสร้อยเหมือนเดิม พร้อมกับเทไหเหล้าลงในปากเฮือกใหญ่

เยี่ยฉายอันยิ้มให้เฉิงชาง “เจ้าไม่ต้องกังวลอะไรหรอกพวกข้าไม่ได้บังคับให้นางต้องแต่งกับพวกข้าตอนนี้เสียหน่อย น้องสาวของเจ้าอายุน้อยกว่าข้า 2 ปี ก็ถือว่ายังเป็นแค่เด็กสาวอยู่เลย พวกข้าไม่ใช่ตาเฒ่าตัณหากลับเสียหน่อย”

“ฮ่าๆ ฮ่า! เจ้าพูดถูกฉายอัน นานๆ ข้าจะเห็นเจ้าพูดยืดยาว มาๆ มาๆ ดื่ม” ไป๋จินโหวรินเหล้าและส่งให้เยี่ยฉายอันกับเฉินชาง

“เฮ้อ! ข้าคิดผิดใช่ไหมที่ไปรับพนันบ้าๆ กับพวกเจ้า” เฉิงชางรู้ดีว่าไป๋จินโหวที่มีอายุเท่ากับเขาเก่งในการพลิกลิ้นพูดผิดให้เป็นถูกได้ตลอดลื่นไหลหาตัวจับยาก เก่งการวางแผน วรยุทธ์สู่สีกับเขา แถมรูปร่างหน้าตาไม่เลวถือกำเนิดในจวนอัครเสนาบดี มีสาวๆ ติดพันมากมายไหนเลยจะให้เขาวางใจมอบน้องสาวให้ได้ ส่วนเยี่ยฉายอันอายุน้อยกว่าเขาสามปี เก่งไปทุกเรื่องไม่ว่าวรยุทธ์การต่อสู้โดดเด่น ขี่ม้ายิงธนู เป็นอันดับหนึ่งในค่ายทหาร หน้าตาจัดว่าดีทีเดียว แต่ชาติกำเนิดไม่มีใครรู้ เขาไม่เคยบอกใครบอกแต่ว่าอยู่ทางตอนเหนือที่มีหิมะตกตลอด คิดแล้วทำให้เขากลุ้ม

“ตกลงของที่ให้พวกนางเจ้าบอกข้าได้ไหมว่าคนไหนได้ของใคร” ไป๋จินโหวถาม

เฉิงชางมองหน้าพวกเขาพร้อมกับยกไหขึ้นมาเทใส่ปากที่เฮือกใหญ่ “พวกเจ้าไปดูกันเองแล้วกัน ข้าไม่ได้เลือกให้พวกนาง ข้าให้น้องรองเลือกก่อนส่วนที่เหลือให้น้องเล็ก”

“เยี่ยฉายอันวางกริชลงอย่างเบา และเอื้อมไปหยิบไหเหล้าอีกไหเทเข้าปาก “เฉิงชางเจ้ายังไม่เคยเล่าเรื่องน้องสาวคนเล็กให้พวกข้าฟังเลย มีแต่เล่าน้องเรื่องน้องรองของเจ้าว่าหน้าตาเป็นอย่างไร”

เฉิงชางสะอึกและพูดแบบขอไปที “ข้ารักน้องคนเล็กมากเรื่องอะไรจะเล่าให้พวกหมาป่าอย่างพวกเจ้าฟังละ”

เยี่ยฉายอันคิดในใจว่าต้องมีความลับที่ไม่อาจบอกพวกเขาได้ เขารู้ว่าเฉิงชางรักหวงแหนน้องคนเล็กมากดูจากพฤติกรรมต่างๆ ที่อยู่ด้วยกันมา ความลับนี้เขาต้องรู้ให้ได้

“มาๆ มา พวกเจ้ามาดื่มให้กับว่าที่พี่เขยหน่อย” ไป๋จินโหวพูดอย่างติดตลกไม่ให้เฉิงชางอึดอัดมากไปกว่านี้

เฉิงชางเอื้อมไปหยิบไหส่งให้เยี่ยฉายอันและดื่มพูดคุยในเรื่องอื่นไม่เอ่ยเรื่องความลับนี้ต่อ ทำให้บรรยากาศในห้องตอนนี้กับสรวลเสเฮฮาตามประสาหนุ่มๆ

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว