คุณพ่อยอดซุปเปอร์สตาร์-ตอนที่ 24 : เซียเยว่สตูดิโอ

โดย  Novel Room

คุณพ่อยอดซุปเปอร์สตาร์

ตอนที่ 24 : เซียเยว่สตูดิโอ

เพราะการมารับเสี่ยวเยว่เยว่สาย หลิวจือเซียจึงรู้สึกว่าเขานั้นติดหนี้เสี่ยวเยว่เยว่ ดังนั้นหลังจากกลับไปถึงบ้าน ไม่ว่าอะไรก็ตามที่เสี่ยวเยว่เยว่ขอ หลิวจือเซียจึงทำให้ทุกอย่าง


ผลที่ได้คือเด็กน้อยคนนี้รบเร้าหลิวจือเซียให้เล่านิทานจนกระทั่งเข้านอนตีหนึ่ง


เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อพระอาทิตย์สาดแสงเข้ามา เสี่ยวเยว่เยว่ก็ยังคงนอนหลับอยู่บนเตียงราวกับว่าเป็นเจ้าหญิงนิทราที่ล้อมรอบไปด้วยคนแคระ


เมื่อถึงเจ็ดนาฬิกา หลิวจือเซียก็เข้าไปในห้องของเสี่ยวเยว่เยว่และเตรียมเสื้อผ้าสำหรับเจ้าตัวเล็กที่จะสวมใส่ไปโรงเรียนในเช้าวันนี้


“พ่อคะ... พ่อทำอะไรคะเนี่ย ? ”


เสี่ยวเยว่เยว่ที่กำลังหลับสนิท จู่ ๆ ก็ลุกขึ้นมาจากเตียงและขยี้ตาด้วยความงัวเงีย “โอ้ เจ็ดโมงแล้ว เยว่เยว่จะต้องไปโรงเรียน ! ”


เมื่อเทียบกับเด็กคนอื่น ๆ จากวัยเดียวกัน เสี่ยวเยว่เยว่รู้จักสิ่งต่าง ๆ มากมาย เธอสามารถดูเวลาได้ รู้จักคำศัพท์ต่าง ๆ อีกทั้งยังเล่นเปียโนเป็น ดูเหมือนว่าเสี่ยวเยว่เยว่น่าจะนำเด็กคนอื่นในวัยเดียวกันไปมาก


“โอ้ว เจ้าหญิงนิทราของเราตื่นจากการหลับใหลแล้ว มาสิ เดี๋ยวพ่อจะช่วยแต่งตัวให้นะ” หลิวจือเซียก้าวไปข้างหน้า เขาบีบแก้มใสสีชมพูของเสี่ยวเยว่เยว่และแต่งตัวให้เธอ


เห็นได้ชัดว่าเยว่เยว่ยังคงง่วงอยู่ แต่เธอก็ปล่อยให้หลิวจือเซียแต่งตัวให้เธออย่างเชื่อฟัง “พ่อคะ วันนี้พ่อจะไปโรงเรียนกับหนูไหมคะ ? ”


เมื่อวานนี้ หลิวจือเซียได้พูดคุยกับเธอเกี่ยวกับการไปโรงเรียนพร้อมกับหลางเหมิงฮัน และดูเหมือนว่าเด็กน้อยคนนี้จะคิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก


ขณะที่แต่งตัวนั้น หลิวจือเซียก็กล่าวขึ้นว่า “วันนี้พ่อจะไปกับหนู แต่นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หนูจะต้องทำตัวดี ๆ กับพี่สาวฮันฮันนะ”


หลางเหมิงฮันเป็นลูกสาวคนที่สองของหลางเวิ่นซิง แม้ว่าจะอยู่ชั้นเดียวกัน แต่เธอก็แก่กว่าเสี่ยวเยว่เยว่ถึงสองเดือน


“อืม หนูจะทำตัวดี ๆ ” เสี่ยวเยว่เยว่พยักหน้าอย่างจริงจัง ท่าทางของเธอน่ารัก


“ก๊อก ก๊อก ก๊อก ! ”


เมื่อหลิวจือเซียแต่งตัวให้กับเสี่ยวเยว่เยว่เสร็จเรียบร้อย ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น


เมื่อหลิวจือเซียเปิดประตูออก ก็พบว่าคนที่มาคือหลางเวิ่นซิง


“พี่ซิงหรือ ? ” หลิวจือเซียงุนงงเล็กน้อย “พี่มาได้ยังไงกัน ? ”


หลางเวิ่นซิงที่กำลังถือกระเป๋าใบเล็กเอาไว้ในมือ ข้าง ๆ เขาก็มีเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ยืนอยู่ เขาหัวเราะและกล่าวขึ้นว่า “จือเซีย คุณลืมไปแล้วเหรอว่าผมเป็นผู้จัดการของคุณ ดังนั้น สัญญาก็ต้องเป็นสัญญา ฮันฮันและเยว่เยว่จะไปโรงเรียนด้วยกัน เราจะไปรับส่งพวกเธอพร้อมกัน”


หลางเวิ่นซิงพูดจบก็โบกมือทักทายเสี่ยวเยว่เยว่


หลิวจือเซียไม่รู้จะร้องไห้หรือว่าหัวเราะดี “พี่ซิง แต่เรายังไม่ได้เซ็นต์สัญญากันเลยนะ”


“ทำไมล่ะ คุณจะกลับคำงั้นหรือ ? ” ดวงตาของหลางเวิ่นซิงจ้องเขม็งไปที่หลิวจือเซีย “ผมจะบอกกับคุณว่าถ้าคุณเข้ามาในเวิ่นซิงเอนเตอร์เทนเมนท์แล้ว คุณจะเปลี่ยนใจอีกไม่ได้แล้วนะ ! ”


“ก็ได้ ผมยอมแล้ว” หลิวจือเซียส่ายหน้าเล็กน้อย จากนั้นเขาก็มองไปที่เด็กหญิงตัวเล็กที่ยืนอยู่ถัดจากหลางเวิ่นซิงพร้อมกับทักทายเธอ “นี่ใช่ฮันฮันลูกสาวของพี่ใช่ไหม ? สาวน้อย ช่างน่ารักอะไรแบบนี้”


“ฮ่าฮ่า ใช่แล้ว ฉันลืมแนะนำไปเลย”


หลางเวิ่นซิงเข้าไปในห้อง เขาวางของลงบนโต๊ะจากนั้นก็พูดว่า “นี่คือลูกสาวของฉัน ฮันฮัน ทักทายอาหลิวสิลูก”


เด็กหญิงตัวเล็กเขินอายจนใบหน้าสีขาวของเธอกลายเป็นสีแดง เธอก้มหน้าและพูดเบา ๆ “สวัสดีค่ะอาหลิว”


“ฮ่าฮ่า” หลิวจือเซียหัวเราะ เขาหันหน้าไปหาในห้อง “เยว่เยว่ มานี่เร็วเข้า มาดูสิว่าใครมา ? ”


“ค่ะคุณพ่อ”


“ไหน ใครมาคะ ? ”


เมื่อได้ยินคำพูดของหลิวจือเซีย เสี่ยวเยว่เยว่ก็วิ่งออกมาอย่างตื่นเต้น เมื่อเธอเห็นหลางเหมิงฮัน ดวงตาของเธอก็เปล่งประกายทันที


แต่เมื่อเห็นหลางเวิ่นซิงอยู่ด้วยข้าง ๆ ในชุดสูทสุภาพ เธอก็ถึงกับหยุดชะงัก เธอมองไปที่หลางเหมิงฮันและหลางเวิ่นซิงอีกครั้งราวกับว่าชั่งน้ำหนักอะไรบางอย่าง


“เยว่เยว่ หนูกำลังคิดอะไรอยู่ ? ” หลางเวิ่นซิงเห็นเยว่เยว่กำลังครุ่นคิด เขาก็เลยหัวเราะออกมา “ฮ่าฮ่า ทำไมกัน ? ไม่เจอลุงแค่คืนเดียวก็ไม่รู้จักลุงหลางแล้วหรือ ? ”


เมื่อวานนี้ หลางเวิ่นซิงให้คนไปรับลูกสาวช่วงบ่าย เขาได้เข้าไปที่โรงเรียนอนุบาลเพื่อรับหลางเหมิงฮัน ทันทีที่พบเจอกับเสี่ยวเยว่เยว่ เขาก็บอกให้เจ้าตัวเล็กเรียกเขาว่าลุง


เสี่ยวเยว่เยว่จับมุมเสื้อของหลิวจือเซียและกระซิบเบา ๆ ว่า “ลุงหลางเป็นคนดี”


“ฮ่าฮ่า” หลางเวิ่นซิงรู้สึกมีความสุขมาก เขาชี้ไปที่ถุงใบใหญ่ใบเล็กบนโต๊ะ “เยว่เยว่ ของพวกนี้ล้วนแต่เป็นของอร่อยมาก ลุงเอามาฝากหนู ถ้าหนูต้องการอะไรบอกลุงมาได้เลย ถ้าลุงว่างลุงจะซื้อมาให้”


“พ่อ หนูก็อยากได้เหมือนกัน” ในเวลานั้น ฮันฮันก็เงยหน้าขึ้นมา


หลางเวิ่นซิงลูบผมของฮันฮัน จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “ได้สิ ได้เลย”


เสี่ยวเยว่เยว่ที่เห็นตุ๊กตาบนโต๊ะ ดวงตาก็ถึงกับเป็นประกาย เธอมองไปที่หลิวจือเซียด้วยสายตาคาดหวัง “พ่อคะ...”


“ขอบคุณคุณลุงหรือยัง ? ” ตราบใดที่ลูกสาวของเขามีความสุข หลิวจือเซียก็ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ยอมรับ ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาจะต้องร่วมมือกันในอนาคต หากเกรงใจเกินไปก็คงจะไม่ใช่เรื่องดี


“ขอบคุณค่ะคุณลุงหลาง”


เด็กน้อยมีความสุขมาก จากนั้นเธอก็วิ่งกลับไปที่ห้องตัวเอง


หลังจากผ่านไปสักพัก เธอก็วิ่งออกมาพร้อมกับกระดาษสองสามแผ่นในมือ “พี่ฮัน นี่คือเด็ก ๆ ที่พ่อของฉันชวนให้มาบ้าน นี่คือลูกเป็ดขี้เหร่ นี่คือลูกไก่…”


เสี่ยวเยว่เยว่ให้ความสำคัญกับการ์ตูนเหล่านี้ราวกับเป็นสมบัติของเธอ เธอไม่เคยแสดงให้คนอื่นเห็น แต่ตอนนี้เธอสามารถแบ่งปันให้กับหลางเหมิงฮันเพื่อแสดงถึงความใจกว้างของเธอ


“ว้าว ช่างน่ารักอะไรแบบนี้ ! ” ฮันฮันเอนศีรษะพร้อมกับดวงตาที่เปล่งประกาย


“ฮ่าฮ่า ไว้ฉันจะเล่าเรื่องลูกเป็ดขี้เหร่ให้ฟังวันหลัง” เสี่ยวเยว่เยว่ดึงหลางเหมิงฮันไปที่ด้านข้าง


เมื่อเห็นฉากเช่นนั้น หลิวจือเซียและหลางเวิ่นซิงก็มองหน้ากันด้วยรอยยิ้ม


“จือเซีย คุณหาทนายได้หรือยัง ? ” ขณะที่พวกเขากำลังทานอาหารเช้า หลางเวิ่นซิงก็ดึงเอาเนื้อปูสองอันออกมาจากถุงพร้อมกับนมสองกระป๋อง “ฮันฮัน เยว่เยว่ มาที่นี่เร็วเข้า รีบทานอาหารเช้าแล้วไปโรงเรียนได้แล้ว”


เมื่อมองไปที่หลางเวิ่นซิง หลิวจือเซียก็ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้ ผู้ชายคนนี้ทำราวกับว่านี่เป็นบ้านตัวเองก็ว่าได้


“ไม่ ผมไม่ต้องการทนาย” หลิวจือเซียพูดขณะพาเด็กสองคนมาที่โต๊ะอาหาร “ผมเชื่อว่าคุณจะไม่แก้ไขสัญญาเพื่อเอาเปรียบผม”


อันที่จริงไม่ใช่ว่าหลิวจือเซียเชื่อใจหลางเวิ่นซิง แต่ด้วยความสามารถของเขา เขาเคยอ่านสัญญามากมายในชีวิตก่อน หากสัญญาของเวิ่นซิงเอนเตอร์เทนเมนท์จะถูกแต่งเติมอุบายลงไป เขาก็สามารถพบเจอทั้งหมดได้อยู่ดี เมื่อถึงเวลานั้น เวิ่นซิงเอนเตอร์เทนเมนท์จะต้องเสียมากกว่าได้อย่างแน่นอน


ความตั้งใจเดิมของหลิวจือเซียก็เป็นเช่นนั้น เขารู้ว่าหลางเวิ่นซิงเจ้าเล่ห์อยู่พอตัว แต่ถึงเช่นนั้นเขาก็ไม่สนใจ เพราะเขาเชื่อมั่นในฝีมือของตัวเองมาก


“แล้วก็อีกอย่างหนึ่ง” หลางเวิ่นซิงที่กลืนซาลาเปาเข้าไปในปากและพูดต่อว่า “เนื่องจากนี่เป็นการจัดตั้งสตูดิโอ มันจำเป็นจะต้องมีชื่อ สิ่งนี้จะต้องถูกเขียนเอาไว้อยู่ในสัญญาอีกด้วยเช่นกัน”


หลิวจือเซียครุ่นคิดและกล่าวขึ้นว่า “เรียกมันว่าเซียเยว่สตูดิโอ”


“เซียเยว่สตูดิโอ ? ” หลางเวิ่นซิงนั้นตกตะลึง เขามองไปที่เสี่ยวเยว่เยว่และพยักหน้า “อืม งั้นก็เอาตามนี้ ! ”

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว