ดั่งดวงตะวันที่ฝันหา(Bring me sunshine)-24. หิวมาก อยากกินเนื้อแกะ 3/3 - NC

โดย  กรวลัญชน์

ดั่งดวงตะวันที่ฝันหา(Bring me sunshine)

24. หิวมาก อยากกินเนื้อแกะ 3/3 - NC

“คุณจิลล์” หรือจะมาซ้อมบทนางร้าย? วาดตะวันคิดขำ ๆ

“มีความสุขจังนะ ส่งอาหารให้กันทุกมื้อแบบนี้ เพราะใครบางคนมีบริการมื้อพิเศษเป็นการตอบแทนหรือเปล่า” จิรารัตน์มองวาดตะวันอย่างเหยียดหยาม พยายามปกปิดสายตาริษยาอย่างยากลำบาก

เธอได้ยินพนักงานที่บูธตัวเองพูดกันว่ามีอาหารดี ๆมาส่งให้ที่บูธของวาดตะวันไม่ได้ขาด

ที่รู้ก็ด้วยความที่พนักงานบางคนของทั้งสองบูธรู้จักกันและบูธก็อยู่ไม่ไกลกันนัก

“ถ้าบูธเราเสน่ห์แรงเหมือนทางโน้นก็ดีสิเนอะ จะได้มีของอร่อยกินทุกวันบ้าง”

จิรารัตน์ที่บังเอิญมาได้ยินถึงกับเลือดขึ้นหน้า เดาไม่ยากว่าอาหารเหล่านั้นใครเป็นคนส่งมา

เปรียบเทียบกับใครก็ได้ แต่เธอไม่ชอบถูกเปรียบเทียบกับวาดตะวันที่สุด!!

แค่เด็กที่เกิดจากผู้หญิงที่ท้องไม่มีพ่อ แม่ไต่เต้าขึ้นมาเป็นเมียของคุณลุงหลังจากคุณป้าของเธอเสียได้เพียงปีเดียว คนที่เธอไม่เคยเห็นอยู่ในสายตา แต่ตอนนี้เธอกลับถูกเปรียบเทียบว่าเสน่ห์แรงไม่เท่าอีกฝ่าย

หนำซ้ำคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่อง ยังเป็นศิวดลที่เธอเฝ้าหลงใหลใฝ่ฝันเสียด้วย

วาดตะวันมองจิรารัตน์นิ่งอยู่ชั่ววินาที ก่อนจะถอนใจเสียงดังให้รู้กันไปเลยว่าเธอแสนจะเบื่อหน่าย

เธอเสียบหูฟังเข้ากับโทรศัพท์มือถือ กดอะไรอยู่ 2-3 ที แล้วลุกขึ้นไปปิดประตูห้องที่เธอเปิดทิ้งไว้ จากนั้นก็เดินมาหาจิรารัตน์แล้วดึงให้นั่งลงข้าง ๆ กัน

มือข้างหนึ่งยัดหูฟังข้างหนึ่งใส่ไปในหูของจิรารัตน์ไม่เบานัก อีกฝ่ายยังงง ๆ กับการกระทำของเธอจนไม่ได้ถอยหนี เห็นวาดตะวันใช้หูฟังข้างที่เหลือแล้วหันมาหาเธอ

จิรารัตน์มองตามที่วาดตะวันพยักเพยิดก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังโทรออก

Video call หาศิวดล!!!

จิรารัตน์หันมามองวาดตะวันอย่างตกใจ ยังไม่ทันจะพูดอะไร ใบหน้าของศิวดลก็ปรากฎขึ้นบนหน้าจอพร้อมกับเสียงของเขาที่ทักมาอย่างประหลาดใจแกมล้อเลียน

“ว้าว ซันไชน์ นี่ video call แรกของเราเลยนะเนี่ย”

“ค่ะ วาดว่าถึงเวลาที่ต้องคุยกันหน่อย พี่ดลสะดวกไหมคะ” วาดตะวันถามเสียงเรียบ เมื่อชายหนุ่มตอบกลับมาว่าสะดวก วาดตะวันก็ขยับโทรศัพท์มือถือให้เขาเห็นจิรารัตน์ที่นั่งหน้าซีดอยู่ข้าง ๆ

ศิวดลเลิกคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อเห็นจิรารัตน์ “อ้าว จิลล์”

วาดตะวันเห็นว่าเขาอยู่ในห้องทำงานตามลำพังจึงเริ่มพูดอย่างรวดเร็ว เธอมีงานอีกมากที่ต้องรีบไปทำ ไม่อยากเสียเวลาไปกับการเป็นคู่ซ้อมบทนางร้ายละครหลังข่าวให้จิรารัตน์อีก

“วาดอยากคุยพร้อม ๆ กันไปเลยค่ะ จะได้ไม่เสียเวลา ตกลงว่าความสัมพันธ์ของพี่ดลกับคุณจิลล์ตอนนี้มันเป็นแบบไหนคะ ยังเป็นแฟนกันอยู่หรือเปล่า?”

จิรารัตน์มองวาดตะวันเหมือนมองตัวประหลาด

ให้ตายสิ เธอไม่นึกไม่ฝันเลยว่าวาดตะวันจะเล่นไม้นี้

ศิวดลยกยิ้มมุมปากนิดหนึ่งอย่างพอจะเดาอะไรได้ วาดตะวัน ยัยเด็กแสบ!!

“พี่กับจิลล์เราเลิกกันเด็ดขาดไปหลายเดือนแล้ว ก่อนจะมาเจอน้องวาดอีก ตอนนี้เป็นแค่เพื่อนกัน อันนี้เราคุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่เหรอครับ จิลล์?”

จิรารัตน์หน้าซีดก่อนจะแดงก่ำด้วยความอับอาย จะให้เธอบอกว่าอย่างไรได้??

บอกว่าเธอยังรักและอยากกลับไปคบกับเขาอีก ทั้ง ๆ ที่ฝ่ายชายพูดมาอย่างไร้เยื่อใยขนาดนี้

เธอก็มีศักดิ์ศรีเหมือนกันนะ

“ค่ะ” จิรารัตน์ตอบสั้น ๆ

“แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ จิลล์ไปพูดอะไรกับน้องวาดหรือเปล่า”

ยังดีที่พระเอกเรื่องนี้ฉลาด วาดตะวันคิดอย่างพอใจ

ก็ในเมื่อจิรารัตน์สมัครใจเล่นบทร้ายไปแล้ว ส่วนศิวดลเป็นพระเอก

วาดตะวันก็ยอมเสียสละเป็นนางเอกเองก็แล้วกัน ไม่ได้อวยตัวเองอะไรนะ

พอดีว่าบทมันถูกส่งมาถึงมือเอง หึหึ!!

แล้วเธอก็ไม่อยากเป็นนางเอกที่ต้องเก็บกด อดทนอดกลั้นเสียด้วย

“คุณจิลล์เหมือนจะไม่พอใจที่พี่ดลสั่งอาหารมาให้วาดน่ะค่ะ คล้ายว่าจะยังหึงพี่ดลอยู่ วาดเลยอยากเคลียร์ให้มันจบไป ถ้าพี่ยังคบกันอยู่ วาดก็ไม่อยากยุ่ง”

จิรารัตน์สบสายตาที่ศิวดลมองมาทางเธอแล้วใจหายวาบ

ถ้าเขาโกรธขึ้นมา เธอลำบากแน่นอน

“จิลล์เปล่านะคะ แค่.. แค่แหย่วาดเขาเล่นเท่านั้น เราเลิกกันแล้ว จิลล์จะหึงทำไม”

วาดตะวันมองหน้าคนพูดอย่างทึ่ง ๆ นับว่ามีไหวพริบใช้ได้ทีเดียว

“จิลล์รู้แบบนั้นก็ดีแล้ว ผมรู้ว่าคุณฉลาดพอที่จะรู้ว่าอะไรควรทำหรือไม่ควรทำ” ศิวดลเว้นจังหวะเล็กน้อย

ก่อนจะพูดกับวาดตะวัน

“เคลียร์แล้วใช่ไหมซันไชน์ ต่อไปจิลล์เขาคงไม่แหย่น้องวาดแบบนี้อีกแล้วล่ะ”

จิรารัตน์เม้มปากแน่น พยักหน้ารับคำด้วยสีหน้าแดงก่ำ

“เคลียร์แล้วค่ะ ถ้าอย่างนั้นวาดไม่กวนพี่ดลแล้วดีกว่า”

อ้อ! ใช้งานเสร็จก็ถีบหัวส่งเลยหรือ ศิวดลยิ้มนิดหนึ่ง

“เอาไว้คราวหน้า ถ้าจะ video call กันอีก ขอเป็นแบบชุดนอน Sexy หรือไม่ก็บิกินี่ริมทะเลนะจ๊ะ”

คราวนี้คนหน้าแดงคือวาดตะวัน

พระเอกเรื่องนี้นอกจากจะฉลาดแล้วยังหื่นแบบน่าไม่อายอีกด้วย!!

เธอถลึงตาดุใส่ศิวดล บ่นอุบอิบว่า “คนหื่น!”

ศิวดลวางสายไปแล้ว วาดตะวันเก็บหูฟังเข้าที่ก่อนจะมองจิรารัตน์ที่นั่งกำมือแน่นอยู่ข้าง ๆ

“คุณจิลล์ ที่จริงวาดไม่อยากทำแบบนี้เลยนะคะ เพียงแต่วาดไม่อยากรองรับอารมณ์หึงหวงของคุณอีก ทั้ง ๆที่วาดไม่ได้ทำอะไรผิด ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกับเราทั้งสามคน วาดเลยคิดว่าเคลียร์กันตรง ๆ น่าจะดีที่สุด”

จิรารัตน์ทั้งโกรธ ทั้งอาย แต่ก็อย่างที่ศิวดลบอก เธอฉลาดพอที่จะไม่ทำอะไรให้ตัวเองต้องดูแย่ไปกว่านี้

“ถือว่าเธอแน่ วาดตะวัน ก็ขอให้เก่งอย่างนี้ตลอดไปเถอะ!!”

วาดตะวันมองตามร่างสูงเพรียวของอีกฝ่ายที่กระชากประตูเปิดแล้วเดินจากไปอย่างโกรธเกรี้ยว

หวังว่าละครน้ำเน่านี่จะจบลงได้เสียทีนะ


วันนี้เป็นวันแรกของงานจัดแสดงสินค้า เริ่มด้วยพิธีเปิดงานในช่วงสาย จากนั้นเป็นรอบของสื่อมวลชนที่จะได้เข้ามาเก็บภาพและสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ ในช่วงเย็นถึงเปิดให้นักลงทุนและบุคคลทั่วไปได้เข้าชมงาน

วาดตะวันที่ยืนอยู่ในบูธกำลังมองดูภวิลและภิรัญญาให้สัมภาษณ์กับสื่อที่มารายล้อมจนเต็มพื้นที่หน้าบูธอย่างชื่นชม พี่วิลของเธอแม้ปกติจะเงียบขรึมแต่ถ้าอยู่ในโหมดทำงาน ความสามารถด้านการเจรจา การใช้วาทะศิลป์ของชายหนุ่มไม่เป็นรองใครแน่นอน แม้ใบหน้าขาวแต่เครื่องหน้าคมเข้มนั้นติดจะเรียบเฉยอยู่บ้าง แต่นั่นกลับเป็นเสน่ห์ที่สาว ๆ เทใจให้เขาเป็นหนุ่มโสดในฝันมาหลายปี ดูจากสายตานักข่าวสาวที่มาสัมภาษณ์ก็ได้

ส่วนคุณหนูภิรัญญานั้นไม่ต้องห่วง หญิงสาวออกงานสังคมมาตั้งแต่ยังรุ่น แม้จะรับผิดชอบงานด้านบัญชีและการเงินเป็นหลัก แต่ด้านการประชาสัมพันธ์และการตลาดภิรัญญาก็ทำได้ดี หญิงสาวอยู่ในชุดสูทสีเบอร์กันดีจากแบรนด์หรูที่เข้ารูปเป๊ะไปทุกสัดส่วน เทียบกับจิรารัตน์นางแบบคนดังที่อยู่ในบูธไม่ห่างกันนัก

ภิรัญญากินขาด

วาดตะวันมัวชื่นชมคนในครอบครัวจนกระทั่งพนักงานที่ยืนข้าง ๆ สะกิดเบาๆ

“คุณวาดคะ คุณวิลเรียกค่ะ”

นั่นล่ะเธอถึงก้าวตรงไปยืนทางด้านซ้ายมือของภวิล เธอไม่ชอบออกสื่อ แต่ก็ไม่มีปัญหาถ้าต้องทำ มีนักข่าวถามถึงแนวคิดการตกแต่งบูธ 2-3 คำถาม วาดตะวันก็ตอบอย่างไม่เคอะเขิน จากนั้นก็เป็นการถ่ายรูป โดยภวิลอยู่ตรงกลาง มีภิรัญญาและวาดตะวันประกบด้านขวาซ้าย

เมื่อสิ้นสุดการสัมภาษณ์ ภวิลและภิรัญญาอยู่ดูความเรียบร้อยในงานอีกสักพัก ขณะที่ภิรัญญากำลังดูพนักงานทดสอบระบบการเชื่อมต่อโปรแกรมบัญชีจากสำนักงานใหญ่มาใช้ในบูธ ภวิลกับวาดตะวันก็สำรวจความเรียบร้อยโดยรวมอีกครั้ง

“วาดจะกลับบ้านเลยหรือเปล่า พี่จะให้คนไปส่ง”

ภวิลถามเพราะตอนเช้าวาดตะวันมาพร้อมเขา เขารู้ดีว่าเธอเหนื่อยกับการเตรียมงานครั้งนี้มาเกือบเดือน งานต่อจากนี้ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของวาดตะวันแล้ว ดังนั้นไม่มีความจำเป็นที่เธอต้องอยู่ในงานต่อ

“เอ่อ.. คือวาดยังไม่กลับค่ะ” น้องสาวของเขาอ้อมแอ้มตอบ

“มีนัดกับคุณศิวดลหรือ?” มีพี่ชายฉลาดจนน่ากลัวแบบนี้ วาดตะวันไม่แน่ใจจริง ๆ ว่าเป็นเรื่องดีหรือเปล่า

เธอยังไม่ทันได้ตอบก็เห็นศิวดลที่มาพร้อมจักรธร กำลังเดินตรงมาที่บูธ จนกระทั่งมาหยุดยืนตรงหน้าภวิล

ศิวดลเคยเจอกับภวิลในงานต่าง ๆ บ้างเป็นบางครั้ง จึงทักทายกันอย่างสุภาพ

วาดตะวันไม่เคยเห็นศิวดลมายืนคู่กับพี่ชายเธอแบบนี้ จึงอดจะพิจารณาเปรียบเทียบไม่ได้

ดูเหมือนภวิลจะสูงกว่าศิวดลเล็กน้อย แต่ศิวดลดูมีกล้ามเนื้อมากกว่าภวิลที่ติดจะผอมอยู่สักหน่อย

ภวิลมีผิวพรรณขาวสะอาดตามเชื้อสายจีนของมารดา ในขณะที่ศิวดลมีผิวสีแทนเข้มสวย

ความหล่อนั้นกินกันไม่ลงจริง ๆ

วาดตะวันได้ยินเสียงคิกคักดังจากหญิงสาวหลายคนที่แอบมองมา ซึ่งเธอก็พอจะเข้าใจนะ

มีหนุ่มหล่อเร้าใจโพรไฟล์ดี 2 คน มายืนให้มองพร้อมกันแบบนี้ สาวคนไหนจะไม่ฟินล่ะ

ขนาดเธอยังฟินเลย!!

จักรธรเห็นสายตาของคุณวาดตะวันแล้วก้มหน้าซ่อนยิ้ม นึกยินดีไปกับศิวดลที่ไม่ได้คลั่งรักอยู่ฝ่ายเดียว จักรธรอยากให้เจ้านายแต่งงานลงหลักปักฐานเสียที ดึกๆ ดื่นๆ จะได้อยู่กับเมีย ไม่ต้องโทรมาปลุกเขาให้วุ่นวายอีกต่อไป

ศิวดลที่กำลังคุยกับภวิลหันมาเห็นสายตาเป็นประกายของวาดตะวันแล้วชะงักไปเล็กน้อย

มามองกันแบบนี้ เดี๋ยวก็เป็นเรื่องหรอก

“ผมมารับน้องวาดไปทานข้าวครับ เสร็จแล้วจะไปส่งที่บ้าน”

ภวิลพยักหน้าอย่างรับรู้ เขาเอ่ยลาศิวดลอย่างสุภาพก่อนจะเดินกลับเข้าไปด้านในบูธ

แต่ขณะที่เดินผ่านน้องสาว เขาก็ก้มลงกระซิบเสียงเบาพอให้ได้ยินกันแค่สองคน

“เก็บอาการหน่อย”

วาดตะวัน “!!!”


อาหารเย็นที่ศิวดลจองไว้เป็นอาหารญี่ปุ่นร้านดัง ทั้งสองทานกันอย่างเอร็ดอร่อยในห้องที่จองไว้เป็นพิเศษเพื่อความเป็นส่วนตัว บทสนทนาเป็นไปอย่างออกรส ศิวดลเติมสาเกใส่ถ้วยให้วาดตะวันอย่างเป็นธรรมชาติ ก่อนจะยกถ้วยของตัวเองขึ้นจิบช้า ๆ วาดตะวันเหน็ดเหนื่อยกับการเตรียมงานมาหลายสัปดาห์ วันนี้เธอจึงถือโอกาสผ่อนคลายด้วยการกินอย่างเต็มที่

ดังนั้นยามเมื่อขึ้นรถคันหรูของศิวดลเพื่อกลับบ้าน ใบหน้าของวาดตะวันจึงขึ้นสีชมพูเรื่อจากฤทธิ์สาเกที่ดื่มไปไม่น้อย แต่เธอยังมีสติดี เห็นได้จากการที่เธอสังเกตว่าจักรธรไม่ได้ขึ้นรถมาด้วย

ศิวดลจึงบอกว่าจักรธรไปเตรียมตัวเพราะกลางดึกคืนนี้ต้องเดินทางไปต่างประเทศพร้อมศิวดล

“พี่ดลไปต่างประเทศบ่อยจังนะคะ” วาดตะวันตั้งข้อสังเกต

“ก็ไปดูสาขาของ SS Group บ้าง ไปติดต่อธุรกิจใหม่บ้าง”

“ยังจะมีธุรกิจใหม่อีกเหรอคะ แค่นี้ก็ทำงานหนักจะแย่แล้ว จะเอาเงินไปทำไรเยอะแยะคะ”

วาดตะวันยกนิ้วเรียวขึ้นมาโบกไปมาตรงหน้าเขา ซึ่งเป็นกิริยาที่ปกติเธอไม่เคยทำ

ศิวดลคาดว่าน่าจะเป็นเพราะสาเก 2 ขวดนั่นแน่ๆ

มือแข็งแรงรวบนิ้วของเธอไว้ ก่อนจะกุมมือนุ่มแล้วบีบเบา ๆ

“เก็บเงินไปขอสาว สาวคนนี้มีร้านเพชร บ้านรวยเสียด้วย พี่เลยต้องเก็บสินสอดให้มากหน่อย”

“แล้วสาวร้านเพชรเขาบอกหรือคะว่าต้องการเงินเยอะ ๆ” วาดตะวันถามเสียงขึ้นจมูก

ศิวดลหัวเราะ อดใจไม่ไหวต้องเอื้อมไปยกร่างนุ่มหอมกรุ่นมานั่งบนตักแกร่ง

วาดตะวันร้องวี๊ดเบา ๆ เหลือบมองเห็นว่าศิวดลเลื่อนกระจกฝ้าขึ้นแล้วก็ค่อยวางใจ

แต่ว่า...ท่วงท่าของเธอตอนนี้มันไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย

ศิวดลจับเธอนั่งหันหน้าเข้าหาเขา ขาเรียวยาวในกางเกงผ้าสีขาวเนื้อดีของเธอคร่อมอยู่บนตัวเขา สองมือหนาโอบกระชับหมิ่นเหม่ตรงโค้งสะโพก ในขณะที่ใบหน้าห่างกันไม่ถึงคืบ

“ถ้าอย่างนั้น สาวร้านเพชรต้องการอะไรจ๊ะ พี่จะได้หามาให้” ศิวดลถามเสียงพร่า

วาดตะวันมองริมฝีปากหยักสวยของเขาอย่างเหม่อลอย อืม.. ต้องการอะไรนะ ตอนนี้เธอเบลอไปหมดแล้ว

ศิวดลกระชับหลังคอของวาดตะวันไว้ก่อนริมฝีปากของเขาจะฉกวูบเข้าหาปากนุ่มของเธอ

เรียวลิ้นซอกซอนเข้าสู่โพรงปากของหญิงสาวอย่างหิวโหยเร่าร้อน มือของเขาปลดปล่อยผมที่วาดตะวันมวยเอาไว้อย่างสวยงามลงเคลียแผ่นหลังบาง

วาดตะวันโอบแขนเรียวรอบคอเขาอย่างลืมตัว เธอรู้แต่ว่าจูบของเขาร้อนรุ่ม หอมหวาน ชวนมึนเมายิ่งกว่าสาเกชั้นดีที่เธอดื่มมาเสียอีก ยามเมื่อเขากดสะโพกตึงสวยของเธอเข้าหาตัว วาดตะวันก็ไม่ได้ถอยนี้ เธออยากสัมผัสเขาให้ใกล้กว่านี้ รับรู้สัมผัสวาบหวามนี้ให้มากขึ้น

“น้องวาด น้องวาด คนดี” ศิวดลพึมพำเสียงแหบพร่า ก่อนจะกดจูบลงไปอีกครั้งอย่างเร่าร้อน ลิ้นอุ่นหนากระหวัดเกี่ยวลิ้นของหญิงสาวอย่างเชี่ยวชาญ พึงพอใจอย่างยิ่งเมื่อเธอขยับใบหน้าให้เขาจูบได้อย่างถนัดถนี่มากขึ้น

ศิวดลลากปลายจมูกโด่งไปตามแก้มนวล ลิ้นอุ่นชื้นซุกซนฉกไล้ใบหูบอบบาง เรียกเสียงครางหวานจากคนอ่อนประสบการณ์ ร่างบางเกร็งสะท้านด้วยความซาบซ่านแปลกประหลาดที่หมุนวนอยู่ในช่องท้อง

มือหนาลูบไล้เอวคอดก่อนจะเคลื่อนมาด้านหน้าแล้วปลดกระดุมสูทแบรนด์หรูของเธออย่างช่ำชอง

วาดตะวันสะดุ้งสุดตัวเมื่อรับรู้ถึงสัมผัสจากมือร้อนที่ลูบไล้จากหน้าท้องแบนราบ สู่อกนุ่มใต้บราเซียลูกไม้สีขาวสะอาด ศิวดลเคลื่อนใบหน้าขึ้นกดจูบที่ปากแดงบวมเจ่อเพื่อสกัดเสียงร้องห้ามของเธอ มือหนาขยับไปด้านหลังแล้วปลดตะขอ ปล่อยความงามเต่งตึงของวาดตะวันให้เป็นอิสระ

“พี่ดล พี่ดล” วาดตะวันกำลังหลงวนอยู่ในกระแสเชี่ยวกรากของอารมณ์ที่เธอไม่คุ้นเคย ริมฝีปากของเขาไต่ลงไปตามลำคอของเธอ สู่แอ่งชีพจรที่เต้นตุบ เนินอกอวบที่ขาวกระจ่างอยู่กลางไฟสีนวลตา

ศิวดลมองความงามตรงหน้าด้วยแววตาร้อนแรง วาดตะวันสวยและหอมหวานจนเขาแทบคลั่ง

ริมฝีปากร้อนรุ่มของเขาจูบเบาๆ ลงบนไฝสีแดงบนเนินอกของเธอ ปลายลิ้นร้อนไล้เลียตรงไฝเม็ดนั้นอย่างลุ่มหลง นี่เป็นสิ่งที่เขาอยากทำมาตลอดนับตั้งแต่เจอหน้าวาดตะวัน ก่อนที่ปากลิ้นของเขาจะเคลื่อนต่ำลงไปเล็กน้อย เพื่อตวัดลงไปบนยอดทรวงสีสวยล่อตาที่อยู่ใกล้ ๆ กัน

“อื๊อออ !! พี่ดล” เธอต้องหยุดเขา ต้องหยุด หยุด…

สติอันน้อยนิดที่เหลืออยู่ร้องเตือน แต่ปฏิกิริยาของร่างกายกลับตรงกันข้าม สองมือบางขยุ้มผมหนาของเขาอย่างลืมตัว ร่างงามแอ่นน้อย ๆ เพื่อรับสัมผัสลวกร้อนจากปากลิ้นของชายหนุ่มอย่างน่าละอาย

“สวยเหลือเกิน วาดตะวัน ซันไชน์”

ศิวดลชื่นชมปรนเปรอทรวงอกงามทั้งสองข้างของเธออย่างเท่าเทียม ร่างกายของเขาเริ่มขยายจนปวดร้าว มือหนาข้างหนึ่งคลึงเคล้นอกอวบ อีกข้างหนึ่งเคลื่อนไปดึงสะโพกของเธอเข้าหา ก่อนจะเบียดความแข็งขึงทรมานของตัวเองเข้าหาเธอด้วยจังหวะบดคลึงแสนเร่าร้อนจนวาดตะวันต้องครางแผ่วหวาน

“พะ พี่ดลขา พอ..พอก่อน” วาดตะวันร้องขอด้วยเสียงแผ่วระโหยเหมือนจะขาดใจ

มือแข็งแรงเอื้อมจับมือบางข้างหนึ่งของวาดตะวัน แล้วชักนำลงเบื้องล่าง เพื่อสัมผัสความคับแน่นของเขาผ่านเนื้อผ้า

วาดตะวันสะดุ้ง พยายามดึงมือกลับ แต่ศิวดลกลับกดเอาไว้ ก่อนจะเงยหน้าจากอกนุ่มหอมหวาน เพื่อมองดวงหน้าหวานแดงก่ำ สบตาตื่นตะลึงระคนเขินอายของเธอ

“นิดเดียว น้องวาด ช่วยพี่นะครับ” ศิวดลกระซิบข้างหู ก่อนจะเพิ่มน้ำหนักมืออย่างช้า ๆ

วาดตะวันหน้าแดงจนลามไปถึงคอ หัวใจดวงน้อยของเธอเต้นระทึกด้วยความตื่นเต้น เมื่อสัมผัสตัวตนอันร้อนระอุคับแน่นของเขาอย่างเต็มไม้เต็มมือผ่านเนื้อผ้า ศิวดลกดมือนุ่มของเธอเป็นจังหวะช้า ๆ

ซบใบหน้าคมเข้มกับซอกคอของเธอ พรูลมหายใจอุ่นร้อนรดผิวเนื้อนวลจนวาดตะวันขนลุกอย่างซ่านเสียว

เวลาผ่านไปอย่างยาวนานเหลือเกินในความรู้สึกของวาดตะวัน มีเพียงเสียงลมหายใจหอบแรงอย่างข่มอารมณ์ของศิวดลและเสียงหัวใจของเธอที่เต้นระรัวจนน่ากลัว กระทั่งผ่านไปหลายนาที ใบหน้าคมเข้มแดงก่ำของเขาก็เงยขึ้นจากซอกคอหอมกรุ่นของเธอ

มือหนาขยับนำมือของเธอออกจากความแข็งขึงเบื้องล่าง ก่อนจะยกมันขึ้นจรดริมฝีปากของเขาอย่างช้า ๆ

ปากลิ้นร้ายกาจไล่จูบละเลียดปลายนิ้วสะอาดของเธอทีละนิ้ว ในขณะที่สายตาร้อนแรงของเขาตรึงสายตาเธอไว้จนมิอาจมองทางอื่น จนกระทั่งมือของเขายื่นมาขยับเสื้อสูทที่ร่วงลงไปกองอยู่ที่เอวของเธอ

วาดตะวันถึงได้รู้สึกตัวว่าเธอนั่งเปลือยอกให้เขาดูอยู่เป็นนานสองนาน

ศิวดลยิ้มมองหญิงสาวที่รีบใส่เสื้อ ติดกระดุมมือไม้สั่น เขารอจนเธอสวมจนเสร็จเรียบร้อย ก็เอื้อมมือรั้งเธอเข้ามากอดอย่างแนบแน่น

วาดตะวันพยายามขยับหนี ศิวดลจึงกระซิบดุ

“น้องวาดอย่าขยับ พี่ยังแข็งอยู่นะ” เท่านั้นเองคนในอ้อมแขนก็นิ่งเกร็งไปทันที

“มีคำตอบให้พี่หรือยังจ๊ะ?” เขากระซิบถามข้างหูซึ่งยังแดงก่ำ วาดตะวันส่ายหน้า

“ส่ายหน้านี่คือยังไม่ได้คิด หรือคิดแล้ว say no?”

จนผ่านไปเป็นนาที วาดตะวันจึงอ้อมแอ้มตอบ “ยังคิดไม่ออกค่ะ”

ศิวดลหัวเราะหึ ก่อนจะประคองใบหน้าของเธอให้สบตาเขา

“ตอนนี้งานไม่ยุ่งแล้ว น่าจะมีเวลาคิดแล้วมั้ง พี่กลับมาอาทิตย์หน้าจะมาฟังคำตอบนะ”

..............................

Yes ค่ะพี่ดลลล!! ตอบเลยได้ไม๊ แล้วไปต่อกันให้จบ!!! 555555555555 อันนี้อิชั้นพูดเอง น้องวาดไม่ได้พูดค่ะ

นี่เป็นซีนที่อยากเขียนนานแล้ว NC นั่นเอง เอ๊ยย!! บ่แม่นนน หมายถึงซีน video call ของนางเอกค่ะ

ในเมื่อแฟนเก่ามาตามวุ่นวาย คนที่ควรเคลียร์ให้เราคือผู้ชายค่ะ ไม่ใช่เรีื่องที่เราต้องไปตบตีให้เล็บหัก หัวฟู เสียลุคนางเอก

แฟนที่ดี คือคนที่ต้องพร้อมเสมอที่จะเคลียร์ตัวเองเพื่อเรานะคะ

แต่ถ้าเพิ่มฟามแซ่บไปอีก เราไม่เรียกว่า แฟนที่ดีค่ะ ให้เรียกสามีไปเลย !! ฮิ้ววววววว!!

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว