หัวใจซาตานเถื่อน-ตอนที่ 26 นักสืบจำเป็น

โดย  ฟากฟ้าเคียงดาว

หัวใจซาตานเถื่อน

ตอนที่ 26 นักสืบจำเป็น

13.00น.

พลอยนภัสลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความอ่อนเพลีย บทรักอันเร่าร้อนเมื่อคืนที่ผ่านมาแทบจะทำให้เธอขาดใจ หลังจากวันนี้เป็นต้นไปเธอสัญญากับตัวเองเลยว่าจะไม่ยอมเสียเปรียบชายหนุ่มอีก ถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่าการหลอกถามเรื่องสร้อยในวันนั้นจะทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เธอคงเลือกที่จะหลอกถามบอดี้การ์ดคนสนิทของเขาแทน

“ตื่นแล้วเหรอ?”

แมทเทโอเปิดประตูเดินเข้ามาในห้องอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเดินมานั่งข้างหญิงสาวบนเตียง

“เป็นอะไรหรือเปล่า หืม” เขาเอ่ยถามเสียงอ่อนโยน เมื่อเห็นหญิงสาวทำหน้าบึ้งตึงไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขา

“ฉันโกรธคุณ โกรธมากๆ ด้วย ถ้าเมื่อคืนคุณไม่เอาแต่ใจ แล้วปล่อยให้ฉันนอน ฉันคงไม่ตื่นสายแบบนี้” เธอหันมาระบายความในใจใส่ชายหนุ่ม แต่แทนที่เขาจะรู้สึกผิดกลับนั่งยิ้มอย่างสุขใจ อารมณ์โกรธก่อนหน้านี้แทบจะมลายหายไปทันที เมื่อเจอรอยยิ้มของคนตรงหน้า

“ว้า…คุณก็ยิ้มเป็นนี่นา ฉันก็นึกว่าคุณทำเป็นอยู่หน้าเดียวซะอีก”

แมทเทโอแทบจะหุบยิ้มทันทีที่รู้ตัวว่าเผลอยิ้มออกมา ก่อนจะตวัดร่างบางขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน จากนั้นจึงเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำทันที ด้วยรู้ดีว่าหญิงสาวในอ้อมแขนที่เพิ่งผ่านบทรักอันเร่าร้อนเป็นครั้งแรก คงจะยังไม่มีแรงมากพอที่จะประคองตัวเองเข้าไปในห้องน้ำได้

“คุณออกไปได้แล้ว ฉันอาบน้ำเองได้” เธอหันไปไล่ชายหนุ่มทันทีที่ถูกวางลงในอ่างจากุซซี่

แมทเทโอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยอมเดินออกจากห้องน้ำไปแต่โดยดี

พลอยนภัสใช้เวลาอาบน้ำเกือบครึ่งชั่วโมง ก่อนจะตัดสินใจเรียกชายหนุ่มให้เข้ามาอุ้มเธอออกจากห้องน้ำ เมื่อรู้สึกเจ็บจี๊ดกลางกายสาวจนเดินต่อไปไม่ไหว

“วันนี้คุณนอนพักก่อน ยังไม่ต้องออกไปไหน เดี๋ยวผมจะนั่งเป็นเพื่อน…หิวหรือเปล่า?” เขาพูดเสียงเรียบอย่างห่วงใย หลังปล่อยหญิงสาวลงบนเตียงนุ่ม

“หิวมาก” เธอพยักหน้าตอบกลับไป

แมทเทโอต่อสายตรงไปที่ห้องครัวทันทีอย่างไม่รอช้า หลังจากนั้นไม่นานหัวหน้าแม่บ้านก็นำอาหารขึ้นมาเสิร์ฟให้ผู้เป็นนายถึงที่ห้องอย่างรวดเร็ว พร้อมกับโต๊ะที่สามารถพับเก็บได้

“ออกไปได้แล้ว” เขาสั่งขึ้น

“คุณไปทำงานของคุณเถอะ ฉันดูแลตัวเองได้” เธอหันไปไล่ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างกาย ก่อนจะหันมาจัดการกับอาหารตรงหน้า

แมทเทโอยืนมองหญิงสาวอยู่ครู่ใหญ่ๆ ก่อนจะเดินมานั่งข้างเธอและเอ่ยถามสิ่งที่อยู่ในใจ

“คุณมีอะไรอยากจะบอกผมหรือเปล่า?”

“ไม่มี” เธอพูด ขณะที่ตักอาหารเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

“งั้นคุณบอกผมได้มั้ยว่าไปทำอะไรที่โรงแรมตลอดหลายวันที่ผ่านมา” เขาถามขึ้น

“ใครบอกคุณ!?” เธอหันมาถามด้วยความตกใจเล็กน้อย ด้วยไม่คิดว่าบอดี้การ์ดที่ตามประกบเธอไปด้วยจะซื่อสัตย์กับชายหนุ่มขนาดนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เธอได้ทำข้อตกลงกับบอดี้การ์ดของเขาจนเข้าใจแล้ว

“เป็นเพราะสร้อยเส้นนั้นหรือเปล่า?”

“ใช่ ฉันอยากจะหาเจ้าของสร้อยให้เจอเร็วๆ จะได้กลับไปใช้ชีวิตตามที่ตัวเองต้องการสักที” เธอพูดออกไปในที่สุด เมื่อไม่สามารถเลี่ยงได้ จะช้าหรือเร็วยังไงชายหนุ่มก็ต้องรู้ในสักวัน

“คุณยังมีความคิดจะกลับเมืองไทยอยู่เหรอ?”

“ที่นั่นเป็นบ้านเกิดฉันนะ จะช้าหรือเร็วยังไงฉันก็ต้องกลับไปอยู่ดี”

“แล้วผมล่ะ?”

“ไม่เห็นยากเลย คุณก็ใช้ชีวิตของคุณไปสิ ถึงยังไงสัญญาฉบับนั้นก็มีอายุแค่ปีเดียว…ฉันพูดมั้ย?” พูดจบ เธอก็หันมาจัดการกับอาหารในจานต่อ

“ไม่!! ยังไงคุณก็ต้องอยู่กับผมที่นี่” เขาพูดขึ้นอย่างเอาแต่ใจ ก่อนจะเดินออกจากห้องไปด้วยความหงุดหงิด ปล่อยให้หญิงสาวนั่งงงอยู่บนเตียงเพียงลำพัง

“เป็นอะไรของเขา” เธอพึมพำอย่างไม่เข้าใจในอารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของชายหนุ่ม เธอพูดผิดตรงไหน วันหนึ่งชายหนุ่มก็ต้องไปมีชีวิตของตัวเอง ตัวเธอเองก็เช่นกัน คนที่มีทุกอย่างเพียบพร้อมอย่างเขาไม่มีทางมาสนใจผู้หญิงธรรมดาอย่างเธอแน่นอน...เธอมั่นใจ


•••

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว