หัวใจซาตานเถื่อน-ตอนที่ 20 เรื่องเข้าใจผิด

โดย  ฟากฟ้าเคียงดาว

หัวใจซาตานเถื่อน

ตอนที่ 20 เรื่องเข้าใจผิด

หลี่อู่ถอนหายใจออกมาเงียบๆ ใบหน้ายังคงมีรอยยิ้มอยู่ เขายังคงยื่นมือออกไปเหมือนเก่าและพูดกับซุ่งลุ่ยอีกครั้ง

“สวัสดีครับ ผมชื่อหลี่อู่ เป็นโค้ชเทควันโดสายดำ ขอถามหน่อยว่าคุณผู้ชายอยู่สายสีไหน?”

ถึงแม้ว่าน้ำเสียงจะดูเรียบเฉย แต่ว่ามีแฝงไว้ด้วยความภูมิใจโอ้อวดตนเองอยู่เป็นนัย ทำให้คนที่ได้ยินรู้สึกอึดอัด

เมื่อเห็นอย่างนี้ ซ่งลุ่ยก็รู้สึกว่าไม่ดี ที่จะเพิกเฉยต่อชายคนนี้อีก แต่ว่าหลังจากที่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด ซ่งลุ่ยเองก็ไม่เต็มใจที่จะจับมือกับเขา ดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นและหยิบกาน้ำถัดจากเขา หลังจากรินให้ตนเองและซุนเยี่ยนแล้วถึงจะตอบคำถามของหลี่อู่

“ผมชื่อซ่งลุ่ย ระดับไม่สูง ทุกคนในเมืองเหวินหว่าจะรู้ว่าฉันคือผู้ช่วยของประธานจาง เป็นแค่ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ตำแหน่งคงไม่สูงแตะตาคุณ”

หลังจากพูดจบ ก็ไม่สนใจมือของหลี่อู่ที่ยื่นออกมา ซ่งลุ่ยหันไปคุยกันซุนเยี่ยนแทน

“ซุ่นเยี่ยน เธอเป็นผู้หญิงจะเรียนเทควันโดไปทำไมกัน เรียนอะไรแบบนี้เอาไปใช้ประโยชน์อะไรได้?”

หลี่อู่ที่ถูกเมินและทิ้งไว้ข้างๆ ก็รู้สึกอับอายขึ้นมาทันที เตรียมที่จะเดินจากไป ก็ได้ยินซ่งลุ่ยพูดแบบนั้น เขาก็กำมือแน่นทันทีและเดินไปที่ซ่งลุ่ยแล้วพูดเสียงดังกับซ่งลุ่ย

“รบกวนนายอย่ามาดูถูกเทควันโด คำพูดของนายเหมือนเป็นการดูหมิ่น ซึ่งนายอาจจะยังไม่เคยพบเจอกับผู้ที่มีฝีมือในเชิงเทควันโดมากนัก หวังว่านายจะเก็บคำพูดแบบนั้นของนายกลับไป ถ้าหากนายไม่เก็บคำพูดนั้นคืนไป ฉันก็จะไม่ถือสาให้นายได้เห็นกระบวนท่าของเทควันโดที่แข็งแกร่ง!”

น้ำเสียงเอาจริงเอาจัง บ่งบอกถึงการขู่คุกคามอย่างเห็นได้ชัด!

ซ่งลุ่ยยิ้มหลังจากได้ยิน เขาเตรียมที่จะลุกขึ้นโต้แย้งกับหลี่อู่ แต่ซุนเยี่ยนกลับชิงตอบโต้ไปเสียก่อน เธอยืนขึ้นและพูดกับหลี่อู่ด้วยความโกรธ

“นายคิดอะไรอยู่ นายคิดอยากจะลงมือต่อสู้ กับพี่ชายฉันงั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นพวกเราคงต้องมาประลองกันสักตั้งแล้วละ!”

หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็ยื่นมือออกมาทำท่าทางของเทควันโด เตรียมพร้อมที่จะสู้กับหลี่อู่

เมื่อหลี่อู่เห็นซุนเยี่ยน ที่ให้การปกป้องซ่งลุ่ยขนาดนั้น ความโกรธในใจที่เพิ่มมากขึ้นของเขาก็ระเบิดออกมา!

หลี่อู่เตรียมจะก้าวไปข้างหน้า แล้วกันให้ซุนเยี่ยนอยู่ข้างๆ เพื่อต่อสู้กับซ่งลุ่ย แต่ว่าทันใดนั้นเขาก็เหมือนจะนึกบางสิ่งบางอย่างออก แล้วพูดกับซุนเยี่ยน

“เมื่อกี้เธอเพิ่งจะบอกว่าอะไรนะ เขาเป็นพี่ชายของเธอ?”

ในขณะที่เขาชี้นิ้วไปที่ซ่งลุ่ยอย่างไม่กล้าที่จะเชื่อคำพูดนั้น

หลังจากที่เห็นหลี่อู่ ตั้งการ์ดพร้อมสู้ไปทางซ่งลุ่ย เธอก็พูดกับหลี่อู่ว่า

“ใช่! เขาเป็นพี่ชายของฉัน พวกเราทั้งสองคนโตมาด้วยกัน นายกล้าลงมือกับพี่ชายของฉันงั้นเหรอ! ”

ในช่วงก่อนที่ซุนเยี่ยนจะพูดนั้น เขาก็ยังคงรักษา ท่าทางโจมตีไว้อยู่เหมือนเก่า ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ แต่เมื่อหลี่อู่ได้ยินคำพูดแบบนั้น ของซุนเยี่ยนในใจก็หายโกรธ ทิ้งมือที่ตั้งการ์ดลงอย่างเขินอาย แล้วพูดกับซ่งลุ่ย

“ขอโทษด้วยครับพี่ชาย ซุนเยี่ยนเคยบอกกับผมแล้ว ว่ามีพี่ชายที่ชื่อซ่งลุ่ย ก็แปลกใจตั้งแต่ที่ได้ยินชื่อตั้งแต่ที่แรกว่าทำไมถึงคุ้นหู ! ที่แท้นายก็คือซ่งลุ่ยนั่นเอง ขอโทษที่ครับ!”

หลังจากพูดจบ หลี่อู่ก็เดินอ้อมซุนเยี่ยนไปยังซ่งลุ่ย มือทั้งสองข้างดึงมือของซ่งลุ่ยมาเขย่าขึ้นเขย่าลง แล้วพูดกับซ่งลุ่ย

“เมื่อกี้ที่ผมได้ล่วงเกินไป ต้องขออภัยจริงๆ พี่ชายวันนี้ผมเลี้ยงเอง ชดเชยกับเหตุการณ์เมื่อกี้ น่าขายหน้าจริงๆ!”

ซ่งลุ่ยรู้สึกเขินอายเล็กน้อย จากความกระตือรือร้น อย่างฉับพลันของหลี่อู่ เมื่อคิดอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว คำพูดของทั้งสองคน อาจชวนทำให้เข้าใจผิดได้ ซ่งลุ่ยดึงมือออกอย่างไม่ตั้งใจและพูดกับหลี่อู่

“ ไม่มีอะไร ไม่ว่าจะเลี้ยงหรือไม่เลี้ยงก็นั่งลงเถอะ”

ซ่งลุ่ยตบไหล่ของหลี่อู่ไปด้วย และให้หลี่อู่นั่งลงไปด้วย

ในด้านของซุนเยี่ยน ที่เห็นทั้งสองคนปรองดองกัน ใบหน้าก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา และนั่งลงถัดจากซ่งลุ่ยไป เธอก็จับแขนของซ่งลุ่ยแล้วพูดอย่างมีความสุขว่า

“แบบนี้ก็ดีเลย ไม่จำเป็นต้องตึงเครียดกันแบบนั้น!”

พูดจบก็หันหน้าไปทางซ่งลุ่ยแล้วพูดต่ออีกว่า

“พี่ลุ่ย วันนี้พี่ทำอะไร ไม่คิดถึงฉันเหรอ!” ด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอดมาก

เมื่อซ่งลุ่ยได้ยินซุนเยี่ยนพูดแบบนั้นกับตนเอง ก็ส่ายหัวด้วยรอยยิ้มที่ลำบากใจ และก็ไปกระซิบที่หูของซุนเยี่ยน เมื่อเธอได้ยินก็หัวเราะคิกคักๆ ออกมา หลังจากนั้นก็เลียนแบบ ที่ซ่งลุ่ยทำโดยการกระซิบไปที่หูของซ่งลุ่ยบ้าง ทั้งสองผลัดกันกระซิบไปมา และแล้วหลี่อู่ก็ถูกทิ้งด้วยเมินเฉยไว้ด้านข้างอีกครั้ง

เหตุการณ์นี้ตกอยู่ในสายตาของหลี่อู่ สีหน้าของเขาอดไม่ได้ที่จะถอดสี สายตาคลุมเครือ พอดีกับที่พนักงานเสิร์ฟเอาอาหารมาเสิร์ฟพอดี หลี่อู่คว้าขวดเบียร์มา แต่ว่าไม่มีที่เปิดฝาขวด เขาจึงวางนิ้วโป้งไว้ใต้ฝาขวดและออกแรงงัดอย่างรุนแรง ก็ได้ยินเสียง ‘ป๊อก’ ฝาขวดก็กระเด็นออกมา

ทั้งสองคนที่ได้ยินเสียงนี้ก็ประหลาดใจ ดังนั้นจึงหยุดการกระซิบความลับของตนเอง

หลี่อู่พอใจกับผลงานของมือเขาเองมาก ดังนั้นเขาจึงวางขวดเบียร์นี้ ไว้ตรงหน้าซ่งลุ่ย และหยิบเบียร์อีกขวดหนึ่งออกจากกล่องข้างๆ และใช้วิธีเดียวกันกับขวดเมื่อครู่เปิดออก หลี่อู่ยกขวดเบียร์ขึ้นกลางอากาศ และพูดกับซ่งลุ่ยว่า

“พี่ลุ่ย ด้วยความนับถือพี่ เมื่อกี้เพิ่งจะล่วงเกินพี่ไป ฉันจะดื่มเพื่อแสดงความเคารพพี่ก่อน”

ทันทีที่คำพูดของหลี่อู่จบ เขาก็หยิบเบียร์ขวดนั้นขึ้นมา และดื่มมันจนหมดขวด ซ่งลุ่ยเห็นที่หลี่อู่เคารพตนเองแบบนั้น ตนเองจะบ่ายเบี่ยงปฏิเสธก็เห็นว่าจะดูไม่ดี ดังนั้นจึงยกเบียร์ขึ้นมาดื่มจนหมดขวดเช่นกัน

หลังจากซ่งลุ่ยดื่มเสร็จ เขาก็ตระหนักได้ว่าเมื่อสักครู่ ท่าทางเขากับซุนเยี่ยนมีความใกล้ชิดกัน ตอนนี้มันจึงไม่ดีที่จะคุยกับซุนเยี่ยนแค่คนเดียว ดังนั้นเขาจึงเรียกทั้งสองคน

“มามามา กินข้าว โค้ชหลี่ ฉันก็ไม่รู้ว่าอาหารจะถูกปากนายหรือเปล่า ลองกินดูสักหน่อย”

เมื่อหลี่อู่ได้ยินก็พยักหน้า ยกตะเกียบขึ้นมาคีบกับข้าว ซุนเยี่ยนที่อยู่ข้างๆก็หยิบตะเกียบขึ้นมาเช่นกัน

พวกเขาทั้งสามคนยังคงอยู่ในความเงียบ ในช่วงเวลานั้น ซุนเยี่ยนก็อยากจะถามบางสิ่งบางอย่างกับซ่งลุ่ย แต่เพราะว่าโค้ชหลี่อยู่ที่นี่ มันเลยไม่ค่อยสะดวกเลยที่จะเอ่ยปากถาม ท่าทางที่อยากจะถามอะไรสักอย่าง ตกอยู่ในสายตาของซ่งลุ่ย จนเขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปากถาม

“เป็นอะไรไปซุนเยี่ยน มีอะไรอยากจะพูดเหรอ ที่นี่ไม่มีคนนอกนะ”

หลังจากที่พูดจบ ก็รีบเรียกหลี่อู่กินข้าว ซุนเยี่ยนที่ได้ยินแบบนั้น ก็เกิดความลังเลบนใบหน้านิดหน่อย พอกำลังจะอ้าปากพูด ก็ได้ยินเสียงขวดเบียร์จากไหนไม่รู้หล่นแตกข้างๆหลี่อู่!

เศษแก้วที่แตกร่วงลงบนพื้น ในตอนนั้นเองหลี่อู่รีบลุกขึ้นนอย่างรวดเร็ว ซึ่งมันไม่ง่ายเลยที่จะสามารถควบคุมอารมณ์ให้เป็นปกติได้ ในใจของเขาก็โกรธถึงขีดสุดทันที

เขามองไปรอบๆ ก็พบว่าไม่มีใครขว้างขวดมาทางตนเอง ดังนั้นเขาจึงเอ่ยปากและพูดด้วยเสียงที่ดังว่า

“ฉันไปทำเรื่องอะไรให้! อย่าให้ฉันต้องลงไม้ลงมือก็แล้วกัน!”

หลังจากหลี่อู่พูดจบ เขาหยิบขวดเบียร์เปล่าข้างๆขึ้นมาไว้ในมือ ใช้มือขวายกขวดขึ้นกลางอากาศ แล้วออกแรงบีบอย่างรุนแรงจนได้ยินเสียง ‘เพล้ง’ เศษแก้วจากขวดเบียร์ก็ตกลงมาที่พื้น หลี่อู่มองไปรอบๆด้วยสายตาที่ดุร้าย แล้วพูดกับพวกเขาเหล่านั้นที่กำลังมองมาว่า

“ถ้าไม่ออกมา ขวดเบียร์เมื่อกี้ก็คือจุดจบของเขา!”

ผู้คนรอบข้างยังคงมองมาที่เขา ด้วยสีหน้าที่ไร้ความรู้สึก พร้อมทั้งบรรยากาศก็เริ่มตึงเครียดขึ้น

ในเวลานี้หลี่อู่ไม่แยแสกับคนเหล่านี้ เขากำลังจะใกล้บ้าเต็มที่ ดังนั้นเขาจึงเริ่มมองหาคนที่จะสามารถโยนขวดเบียร์มาทางเขาได้ คนคนนั้นจะต้องคุ้นเคยกับเขาแน่ และเขาก็ต้องคุ้นเคยมากๆด้วย แต่ว่าตอนนี้ไม่มีวิธีที่ดีๆมาใช้

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว