บทที่สามสิบสาม
หลังจากครอบครัวท่านลุงรองออกไปแล้ว ท่านลุงใหญ่จึงถามว่า
“ท่านพ่อขอรับ แล้วพวกเราจะไปอยู่ที่ใดขอรับ พวกเรามีเงินเพียงแค่สามสิบตำลึง”
หมิงเยว่จึงรีบตอบว่า
“ท่านลุงใหญ่เจ้าคะ ท่านแม่จะสร้างบ้านหลังใหม่บนที่ดินของท่านลุงใหญ่ให้ท่านตาท่านยายเจ้าค่ะ ท่านพี่เฟยหมิงจะได้แต่งงานเสียที”
“ไม่ได้นะ มันมากเกินไป”
“ไม่มากหรอกเจ้าค่ะ สมัยก่อนตอนที่บ้านพวกข้าลำบาก เป็นท่านตาท่านยายที่คอยช่วยเหลือเสมอ ครอบครัวของท่านลุงใหญ่ก็ไม่เคยรังเกียจพวกข้า ท่านป้าสะใภ้ใหญ่และพี่เฟยเจินยังนำขนมไปให้พวกข้าเสมอ ข้าไม่เคยลืมเจ้าค่ะ”
“ต่อไปท่านตาท่านยายไม่ต้องทำนาแล้วนะเจ้าคะ ท่านแม่จะให้เงินพวกท่านคนละแปดตำลึงต่อเดือนเจ้าค่ะ ที่นาก็ให้คนอื่นเช่าเถอะเจ้าค่ะ”
“ไม่ได้หรอก ตากับยายทำงานจนชิน อยู่เฉยๆไม่ได้หรอก”
“ถ้าวันไหนเบื่อ ก็เข้าไปช่วยงานที่ร้านฉิงเล่อพร้อมพี่รองได้เจ้าค่ะ พี่รองจะได้มีคนช่วยเก็บเงินด้วยเจ้าค่ะ ที่ร้านขายดีมาก รับรองท่านตาและท่านยายไม่เบื่อแน่นอนเจ้าคะ”
“ส่วนท่านป้าสะใภ้และพี่เฟยเจิน ข้าจะให้ไปทำงานควบคุมโรงงานซอสถั่วเหลืองและเต้าเจี้ยวเจ้าค่ะ โดยมีคนงานชายสองคนคอยช่วยงานเจ้าค่ะ ก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้ชวนให้ไปทำงานด้วย เพราะเห็นว่าพวกท่านต้องทำนาและทำงานบ้านหนักมาก ตอนนี้แยกบ้านแล้วคงทำอะไรได้สะดวกขึ้น พวกท่านสนใจรึไม่เจ้าคะ”
“สนใจ ข้ากับเฟยเจินจะไปทำงานกับเจ้า”
“ช่วงแรกข้าให้ค่าแรงวันละสามสิบอีแปะก่อนนะเจ้าคะ ถ้าโรงงานอยู่ตัวแล้วค่อยขึ้นค่าแรงให้เจ้าค่ะ”
“แค่ยี่สิบอีแปะก็พอแล้วเยว่เอ๋อร์”
“ตอนท่านลุงใหญ่และพี่เฟยหมิงก็ได้เท่านี้เจ้าค่ะ”
“ขอบใจเจ้ามากเยว่เอ๋อร์”
“ตอนนี้ในเมื่อแยกบ้านแล้ว พรุ่งนี้พวกท่านก็ย้ายออกเถอะเจ้าค่ะ จะได้แยกค่าใช้จ่าย ค่าอาหารอย่างชัดเจน”
“แล้วจะให้พวกลุงไปอยู่ที่ไหนรึ” ท่านลุงใหญ่ถาม
“ที่บ้านของพวกเรายังมีห้องรับแขกว่างอยู่หนึ่งห้อง ให้ท่านตาและท่านยายไปอยู่ที่นั้นก่อนเจ้าค่ะ ส่วนท่านลุงใหญ่และครอบครัวไปอยู่บ้านเดิมของพวกเรา ที่นั่นมีสามห้องพอดีเจ้าค่ะ”
“ขอบใจพวกเจ้ามากจริงๆ”
“ต่อไปถ้าครอบครัวท่านลุงรองมาขอเงิน ข้าขอสั่งห้ามทุกคน ไม่ให้ช่วยเหลือเจ้าค่ะ”
“จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร ยังไงเราก็เป็นพี่น้องกัน” ท่านลุงใหญ่รีบปฏิเสธ
“ท่านลุงใหญ่เจ้าคะ ก่อนที่จะรักคนอื่น ต้องรักตนเองก่อนเจ้าค่ะ ท่านลองมองดูพี่เฟยเจินนะเจ้าคะ จนถึงตอนนี้พี่เฟยเจินยังไม่มีสินเดิมเลยเจ้าค่ะ ทั้งท่านป้าสะใภ้ใหญ่ที่ทำงานหนักไม่เคยปริปากบ่น ท่านลุงใหญ่เคยซื้อเครื่องประดับให้แก่ท่านป้าสะใภ้รึไม่เจ้าคะ”
“อีกทั้งครอบครัวของท่านลุงรองต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ได้ด้วยตนเองและยอมรับความจริงเจ้าค่ะ พูดกันตามความจริงนะเจ้าคะ ระดับผลการเรียนของพี่เฟยฉีไม่มีทางสอบเป็นขุนนางได้หรอกเจ้าค่ะ สู้ให้ออกมาทำงานหาเงินดีกว่า”
“ท่านป้าสะใภ้รองของเจ้าไม่มีทางยินยอมหรอก”
“นั่นไงเจ้าค่ะ เพราะท่านป้าสะใภ้รองไม่ยอมรับความจริงเจ้าค่ะ ยังอยู่ในความฝันที่ตนเองได้วาดไว้ ซึ่งมันไม่ใช่ความจริงเจ้าค่ะ”
“สงสารก็แต่เจ้ารอง”
“ท่านลุงรองก็ต้องเรียนรู้เช่นกันเจ้าค่ะ เรียนรู้ที่จะยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่ยอมท่านป้าสะใภ้รองทุกเรื่องเจ้าค่ะ พวกเราคงทำได้แต่วิงวอนให้มีวันนั้นเจ้าค่ะ”
วันรุ่งขึ้น ท่านตาท่านยายและครอบครัว ย้ายออกจากบ้านเดิมไปยังที่พักชั่วคราวตามความต้องการของหมิงเยว่ ท่านพ่อให้นายช่างหลวนตีราคาบ้านใหม่ของท่านตาท่านยาย โดยหมิงเยว่ให้สร้างทั้งหมดห้าห้องนอน เพื่อรับรองการเพิ่มลูกหลานในอนาคตด้วย สองห้องน้ำ หนึ่งโถงนั่งเล่น และหนึ่งห้องครัว นายช่างหลวนเห็นว่าเป็นลูกค้าประจำและบ้านหลังไม่ใหญ่มาก คิดราคาที่สามร้อยห้าสิบตำลึง โดยนายช่างหลวนจะสร้างต่อทันทีที่ทำโรงงานเสร็จ เมื่อครอบครัวท่านลุงใหญ่รู้ราคาการสร้างบ้านจึงกล่าวกับหมิงเยว่ว่า
“ลุงใหญ่คิดว่า มันเป็นการเอาเปรียบพวกเจ้ามากเกินไป เงินตั้งสามร้อยห้าสิบตำลึงเป็นจำนวนไม่น้อย จะให้พวกเจ้าจ่ายให้ได้เช่นไร”
“ใช่เยว่เอ๋อร์ ข้าเห็นด้วยกับท่านพ่อ” พี่เฟยหมิงกล่าว
“เอาเช่นนี้ เจ้าหักเงินค่าแรงของข้าและเฟยหมิงคนละห้าตำลึงต่อเดือน” ท่านลุงใหญ่กล่าว
“หักของป้าและเฟยเจินคนละสิบห้าอีแปะต่อวันด้วย” เป็นเสียงของท่านป้าสะใภ้ใหญ่
หมิงเยว่คิดว่า ครอบครัวท่านลุงใหญ่ต้องปฏิเสธไม่ยอมรับเงินแน่ จึงกล่าวว่า
“เอาเช่นนี้ละกันนะเจ้าคะ พวกข้าจะจ่ายให้ครึ่งหนึ่งคือหนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าตำลึง ถือว่าพวกข้าช่วยสร้างบ้านให้ท่านตาท่านยาย ส่วนที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งก็หักจากค่าแรงของพวกท่านเจ้าค่ะ แต่ว่าข้าจะหักค่าแรงของพวกท่านหลังจากที่พี่เฟยหมิงแต่งงานแล้วนะเจ้าคะ เพราะพวกท่านต้องใช้เงินในช่วงนี้เจ้าค่ะ”
ครอบครัวท่านลุงใหญ่ปรึกษากันสักพัก จึงได้ตอบตกลงและกล่าวขอบคุณหมิงเยว่
ถึงวันที่โรงงานซอสถั่วเหลืองสร้างเสร็จแล้ว วันนี้ทุกคนจึงมาช่วยกันทำซอสถั่วเหลืองห้าสิบไหใหญ่ หมิงเยว่วางแผนการผลิตซอสถั่วเหลืองเหมือนกับเต้าเจี้ยวนั้นคือ ทุกห้าวันให้ผลิตเพิ่มวันละยี่สิบไหใหญ่ โดยให้เขียนกำกับวันผลิตไว้ ดังนั้นในหนึ่งเดือนจะผลิตได้หนึ่งร้อยยี่สิบไหใหญ่ บรรจุได้หนึ่งพันสองร้อยไหเล็กต่อเดือน โดยให้สลับวันผลิตกับเต้าเจี้ยว หมิงเยว่จึงให้ท่านป้าสะใภ้ใหญ่และพี่เฟยเจินเป็นผู้ควบคุมการผลิตซอสถั่วเหลืองและเต้าเจี้ยวทั้งหมด โดยมีคนงานสองคนเป็นผู้ช่วย
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว