ความอดทนของเขาหมดลงเมื่อหล่อนขยับตัวเปลี่ยนท่า นอนหงายแบะขาจนกลีบกายแยกเผยอ เผยทับทิมเม็ดงามกลางกายที่ชุ่มชื้นแวววาม ยั่วปากยั่วลิ้น จนเขาลืมความรังเกียจเมื่อตอนกลางวันไปสิ้น ใช้หมอนรองใต้สะโพกงามงอน หนุนให้กลางกายสาวลอยเด่น ส่วนตัวเองทรุดกายลงนอนคว่ำยันศอกกับฟูก ซบหน้าแนบชิด สูดกลิ่นหอมหวานแล้วส่งลิ้นออกมาซุกซอนฟอนหามณีล้ำค่า เมื่อพบแล้วก็โลมไล้ตวัดเลียและฉกดูดปากลิ้นเป็นระวิง

ตอนนี้เองที่ความเสียวซ่านปลุกรินนาให้รู้สึกตัวเต็มที่ ผงกตัวขึ้นมองหัวดำๆ ที่ผลุบโผล่อยู่ตรงหว่างขาที่ถ่างกว้าง ความรักนวลสงวนตัวสั่งให้ยกมือขึ้นผลักไส แต่แล้วก็นึกได้ว่าตัวนั้นมาที่นี่เพื่ออะไร มือที่จะผลักหัวของเขาออกไป จึงเพียงจิกผมสั้นๆ ไว้เพื่อบรรเทาความสยิว แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย แถมร่างกายของหล่อนยังเหมือนกับมีชีวิตจิตใจของมันเอง อกอวบแอ่นรับมือที่ยื่นขึ้นมานวดเฟ้นสลับบี้ปั่น สะโพกแอ่นหยัดไม่ติดฟูก ขมีขมันดันส่งร่องรักให้เขาได้ลิ้มชิมรสได้อย่างเต็มปากเต็มคำ

“สดฉ่ำหวานหอมเหลือเกินรินนา เสียดาย...ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอ...เธอ...” เขาคร่ำครวญเมื่อทนรอต่อไปไมได้ ยกตัวขึ้นสอดแขนใต้เข่าของหล่อน แล้วเข้าจดจ่อก่อนจะแทงพรวดเข้าไปในร่องสวาทที่เยิ้มด้วยน้ำรักเต็มแรงกระสัน เพื่อจะค้นพบว่าหล่อนคับแน่นหนีบหนึบดุจสาวพรหมจารี ทั้งยังได้ยินเสียงหล่อนหวีดเบาๆ ผวาเฮือกขึ้นทั้งตัว มือเล็กๆ ที่เกาะไหล่เขาไว้จิกแน่น ร่างสั่นระริก

สัญชาตญาณกรีดกริ่งถึงความไม่ชอบมาพากล ทว่าถึงตอนนี้เขาก็หยุดตัวเองไม่ได้เสียแล้ว ทำได้เพียงชะลอจังหวะให้เนิบช้าและนุ่มนวลขึ้นให้หล่อนได้ปรับตัวความใหญ่โตโอฬารของตน ก่อนจะพาบุกตะลุยไปถึงจุดหมายปลายทาง

ไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอ...เป็นสาวบริสุทธิ์