‘ลูกเอ๋ย นอนเถิดนอนเสียเจ้า ยังอ่อนยังเยาว์ ขวัญเจ้าดวงจิตแม่เอย
ห่วงจริงแม่ไม่ทิ้งไปเลย นอนเสียเอย ตื่นได้เชยชมกัน’
บนเตียงใหญ่สลักลายวิจิตรกลางห้องนอนกว้างตกแต่งอย่างหรูหราบอกถึงความมั่งคั่งของผู้เป็นเจ้าของ ร่างอวบอ้วนของเด็กชายวัยห้าขวบนอนซุกอกแม่ ฟังเสียงเห่กล่อมอย่างเคลิบเคลิ้มมีความสุข
ที่จริงเขาโตเกินกว่าจะต้องให้แม่กล่อมนอน แต่บางครั้งก็โหยหาเรียกร้อง โดยเฉพาะคืนนี้ หัวใจน้อยๆ รู้สึกว่างโหวงแปลกๆ สัญชาตญาณและความผูกพันระหว่างแม่กับลูกกระตุ้นเตือนให้สำเหนียกว่ากำลังจะมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น ถึงกระนั้นเสียงก้องกังวานหวานบ่งบอกถึงความรักลูกที่ร้องจากใจแม่ มือนุ่มที่ลูบหลังเบาๆ ก็ปลอบประโลมให้ธนินทร์น้อยหลับใหล วางใจ...แม่ไม่ทิ้งไปไหน
เขาหลับไปก่อนจะเห็นหรือรู้สึกถึงน้ำตาที่ตกต้องใบหน้ายามแม่กอดเขาร้องไห้
**********
กลางดึกเด็กน้อยผวาตื่นในความมืด ลุกขึ้นนั่งกลางที่นอน ควานหาแม่ หากพบแต่ความว่างเปล่า... แม่ไปไหน
ร่างเล็กไถลลงจากเตียงสูง เดินเปะปะฝ่าความมืดไปยังทิศทางของประตู พอแง้มออกความสว่างจากโถงทางเดินก็สาดส่องเข้ามาให้ใจชื้น ได้ยินเสียงพูดดังแว่วๆจากชั้นล่าง คุ้นๆ เหมือนเสียงหนึ่งเป็นเสียงแม่ และอีกสองเสียงเป็นเสียงผู้ชาย น่าจะเป็นพ่อ ส่วนอีกคนไม่รู้ใคร
เท้าป้อมวิ่งตื้อไปยืนเกาะราวบันได เห็นแม่ยืนอยู่ข้างพ่อ มีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่วางอยู่ใกล้ๆ ท่าทางเหมือนจะไปไหนด้วยกัน แต่พอรถมาจอดเทียบ แม่กลับยกมือไหว้ลาพ่อ
“เธอต้องไปด้วยหรือ ไม่สงสารลูกเลยหรือธัญวดี” พ่อกล่าวเสียงสั่นพร่าตัดพ้อและขอร้องไปในตัว
คราวนี้แม่น้ำตาไหลพราก สะอื้นฮักๆ “ธัญต้องไป เพราะอะไรคุณก็รู้อยู่แก่ใจ ฝากลูกด้วย บอกเขาด้วยว่าแม่รักเขาที่สุด วันหนึ่งแม่จะกลับมาหาเขา”
“แม่” ธนินทร์กรีดร้องเรียกแม่จากหัวบันได
แม่ผวามองขึ้นมาแล้วร้องเรียกเหมือนใจจะขาด “นิน”
เด็กน้อยละมือจากราวบันไดจะวิ่งไปหาแม่ แต่ทันใดนั้นมืออันแข็งแกร่งและมั่นคงก็คว้าตัวไปกอดรัดไว้แน่น เจ้าของมือตวาดเสียงกัมปนาทใส่แม่ที่ยืนละล้าละลังเบื้องล่าง ท่าทางเหมือนอยากจะวิ่งมาหาเขาแต่ก็หวาดกลัว “อยากไปก็ไปซะสิ นังผู้หญิงหลายใจ จะชักช้าร่ำไรอยู่ทำไม หรือต้องรอให้คนของฉันลากคอเธอออกไป”
คนขับรถซึ่งเอากระเป๋าเดินทางไปใส่รถเรียบร้อยแล้ว รีบเปิดประตูหลังรอธัญวดีอย่างรู้หน้าที่ แล้วชายอีกคนหนึ่งที่ธนินทร์เคยเห็นมาหาพ่อกับแม่เป็นประจำก็ก้าวออกมาจากเงามืด กึ่งลากกึ่งประคองแม่ไปขึ้นรถ ไม่มีใครสนใจแม่ลูกที่ร้องหากันปิ่มว่าจะขาดใจและมองกันจนรถเคลื่อนไปจากหน้ามุข ลับหายไปจากสายตา
จากนั้นย่าอุ้มเขาที่ดิ้นปั้ดๆ กลับไปนอน ธนินทร์กรีดร้อง ทำฤทธิ์ทำเดชจนหมดแรงนอนตาปรอย น้ำตานองหน้า “จะหาแม่ หาแม่ คุณย่าไปตามแม่มาหานินหน่อยนะครับ นะครับ นินรักแม่ คิดถึงแม่”
“ไปรักมันทำไม ผู้หญิงเลวๆพรรค์นั้น มันไม่สมควรเป็นแม่ใคร โดยเฉพาะนิน มันทำร้ายจิตใจพ่อ นอกใจพ่อ ทอดทิ้งนินไปกับผู้ชายอื่น ไม่ต้องไปรักมัน ไม่ต้องไปเรียกมันว่าแม่” ย่าที่เคยรักและตามใจเขาเสมอตวาดดุดัน ไร้ความปรานี แต่พอเขานอนแน่นิ่งตาลอยคว้างเหมือนช็อกกับคำพูดที่ฟาดฟันทำร้ายหัวใจดวงน้อยก็รีบคว้าร่างปวกเปียกขึ้นมากอดปลอบ “อยู่กับย่านะนิน ย่ารักนินที่สุดนินก็รู้ แม้แต่แม่ก็ยังรักนินไม่เท่าย่า ต่อไปนินต้องจำไว้ ย่าคนเดียวที่รักนิน ใครอื่นมาบอกว่ารัก นินอย่าไปเชื่อ ยิ่งความรักระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงยิ่งไม่มีจริงในโลกนี้ มีแต่ความใคร่ ความหลอกลวง จำไว้นะลูก”
ในเวลาต่อมาย่าบอกย้ำกับเขาทำนองนี้อีกนับเป็นพันเป็นหมื่นครั้งตั้งแต่เล็กจนโตเป็นหนุ่มใหญ่ ฝังลึกเข้าไปในจิตใจ แต่ในคืนนั้นธนินทร์น้อยอ่อนเพลียทั้งกายใจ ผล็อยหลับไปด้วยดวงใจที่ปวดร้าวแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ยากที่จะมีสิ่งใดมาเชื่อมประสานเป็นหัวใจดวงเดิมได้อีกครั้ง
***********
เฮือก...ธนินทร์ผวาตื่นขึ้นมาในความมืด
แสงไฟระยิบระยับของกรุงเทพฯยามราตรีที่มองเห็นผ่านกระจกใสรอบทิศเตือนว่าเขาอยู่ในห้องนอนของเพนต์เฮาส์ เติบโตเป็นชายฉกรรจ์ไม่ใช่เด็กชายวัยห้าขวบเช่นในความฝัน ทว่าน่าแปลกที่จู่ๆ ภาพเหตุการณ์ในคืนวันนั้นและความรู้สึกปวดร้าวโหยหารุนแรงกลับมารุมเร้าแม้ตื่นเต็มตา ราวกับเป็นลางสังหรณ์บอกเตือน
ชายหนุ่มสะบัดหน้าไล่ความรู้สึกไม่พึงปรารถนา วางมือเหนือหัวใจที่ยังบีบรัด บอกเหมือนปลอบตัวเองว่า แม่กลับมาหาเขาแล้วเมื่อห้าปีก่อน แม้เขาโตเกินกว่าจะติดแม่ วางใจฝากชีวิตไว้กับแม่เช่นตอนเล็กๆ แต่ก็รักและผูกพันฉันแม่ลูก เขาไม่ได้เป็นคนมีปมปัญหาเพราะขาดแม่แต่เยาว์วัย ไม่เคยขาดแคลนสิ่งใด มีทุกอย่างและมีมากเกินไปด้วยซ้ำ พ่อแม่ปู่ย่าตายายรักเขา และเขาก็รักพวกท่าน ความรักมีอยู่จริงในโลกนี้ แต่ความรักระหว่างหญิงชายเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยแน่ใจ ไม่เคยได้สัมผัส เพราะที่เคยคิดว่าถูกใจและต้องการจนถึงขั้นขอหมั้นหมายอย่างยิหวาก็ไม่ได้พัฒนาไปไกลถึงขั้นแต่งงาน แถมพอหล่อนอยู่กินเป็นผัวเมียกับเพื่อน เขาก็แค่เสียดายและทำใจเป็นเพื่อนคนหนึ่งกับหล่อนได้อย่างสนิทใจ
ความรักระหว่างหญิงชายคงมีจริง ไม่งั้นใครต่อใครในโลกคงไม่เอ่ยอ้างพร่ำเพ้อละเมอถึง เพียงแต่เขาไม่เคยสนใจจะไขว่คว้า เพราะความว่างเปล่าเคว้งคว้างคล้ายมีช่องโหว่ในใจนั้น เขาอุดได้ด้วยสิ่งที่มีอยู่เกลื่อนกลาดดาษดื่น ต้องการเมื่อใดก็ได้เมื่อนั้น แค่หว่านเสน่ห์หรือหว่านเงิน
ธนินทร์ควานหาร่างอวบอัดที่เมื่อครู่ก่อนยังนอนกรนอยู่ข้างๆ เพื่อหาสิ่งที่ว่ามาปิดรอยรั่วในหัวใจที่เกิดจากความฝันถึงอดีต แต่ที่นอนกลับว่างเปล่า หล่อนหายไปไหน
แค่คิดถึง ประตูห้องน้ำก็เปิดออก ร่างอวบอัดเต็มไปด้วยส่วนเว้าส่วนโค้งก้าวออกมา ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเพียงจับปิ้งปักเลื่อมเงินปิดสามเหลี่ยมอวบอูมที่ถูกโกนขนจนเกลี้ยงเกลา ส่วนอกอวบใหญ่ล้นมือทั้งสองข้างมีจุกปิดเฉพาะหัวนม ปลายจุกห้อยพู่กรุยกราย ขยับส่ายกรุ๋งกริ๋งทุกครั้งที่ก้าวเดิน
“ตื่นแล้วหรือคะคุณนิน พอดีเลยวันนี้ชามีโชว์พิเศษ” หล่อนบอกเสียงกระเส่า แอ่นอกยกมือดันเต้าเบียดล้นส่ายแรงๆ ให้พู่ที่ยอดอกระริกระรัว แล้วหันหลังโก่งบั้นท้ายที่มีแต่สายจีสตริงของจับปิ้งปิดง่ามก้น สะบัดแกว่งความกลมกลึงอวบใหญ่เหมือนผลแตงโมยั่วเย้า “เริ่มเลยนะคะ”
ธนินทร์หัวเราะชอบใจกับลีลาและลูกเล่นของนางบำเรอคนโปรด นอนหนุนแขนตัวเองมองหล่อนวาดลวดลายระบำจ้ำบ๊ะอย่างสำราญใจ
ไฟถูกหรี่จนสลัว เสียงเพลงเร่าร้อนจากลำโพงรอบทิศดังเข้าจังหวะกับร่างกายอวบอัดที่สะบัดพลิ้ว เสียงส่ายของพู่และจับปิ้งที่เปิดพะเยิบส่งรับกับอกที่สั่นระรัวปลุกเร้าอารมณ์จนผ่านไปได้ไม่ถึงครึ่งเพลงธนินทร์ก็ต้องกระดิกนิ้วส่งสัญญาณว่ารอต่อไปไม่ไหว หล่อนสนองรับด้วยการก้าวขึ้นมายืนค้ำเหนือร่างกำยำเพื่อโอ้อวดวิวตระการตา ก่อนค่อยๆ ลดตัวลงจดจ่อแล้วถอยหนี หลอกล่อล้อเลียนอยู่หลายครั้งจนธนินทร์แทบคลั่ง
“เดี๋ยวนี้” เขากัดฟันคำรามหื่น กดไหล่หญิงสาวจนอุโมงค์สวาทกระแทกลงครอบลำลึงค์ที่แข็งโลดโดดเด่นรอคอย
หล่อนหัวเราะเสียงพร่าสาใจ ขยับปรับท่าจนเข้าที่แล้วขย่มขี่ถี่รัว รับการแอ่นเสียบอย่างดุเดือดเร่าร้อนจากความพ่วงพีเบื้องล่าง เสียงพู่ส่ายตามจังหวะโยนตัวของเต้าใหญ่ ดังสนั่นแข่งกับเสียงครางและคำรามครืนครั่น พอมือกำยำเอื้อมไปบีบขยำอย่างมันมือจนทั้งพู่ทั้งจุกเลื่อมขาดกระจุย ก็โน้มตัวลงป้อนยอดอกแข็งขึงให้ถึงปาก ในขณะที่เขายกสะโพกขึ้นเป็นจังหวะกระชั้น ป้อนความแข็งแกร่งให้อย่างถึงใจ ไม่นานหล่อนก็หวีดร้องเมื่อไปถึงจุดหมายไกลสุดขอบฟ้า
ร่างกายของหล่อนยังสั่นระริกด้วยความกระสันสุดขีดตอนที่ถูกเขาพลิกตัวนอนคว่ำ ดันบั้นท้ายดินระเบิดขึ้นโด่งรับก่อนพลิกตัวขึ้นทาบทับ สอดเสียบแล้วเสือกส่งรุนแรงหลายครั้งจนเสียงเตียงลั่นคลอเคล้าเสียงฉาดฉานยามเนื้อกระทบเนื้อ ในที่สุดทั้งหล่อนและเขาก็เกร็งกระตุกไปสู่ฝั่งฝัน
เขาทิ้งตัวนอนหายใจระรัว อ่อนเปลี้ยแต่สุขสม
จะต้องการความรักไปทำไมในเมื่อเซ็กส์ให้ความสุขล้นเหลือ ทดแทนกันได้อย่างสมบูรณ์ เขาบอกตัวเองก่อนจะหันไปหาร่างอวบอีกครั้ง หลังจากเริ่มฟื้นกำลัง ทำเป็นไม่สนใจความว่างโหวงที่แอบซ่อนไว้ในมุมหนึ่งของหัวใจ