จูเลียตหวีดร้องรับ หล่อนชุ่มฉ่ำพร้อมพรักรออยู่แล้ว แม้เขาจะกระแทกใส่ไม่ปรานีจนหน้าไถลไถกับเสื่อ หล่อนก็ยังเสียวจนลืมเจ็บ เกร็งกระตุกไปถึงสวรรค์ในการกระสวกแค่ครั้งเดียว
เขาบดคลึงหน้าขากับกอยก้นรอจนหล่อนหยุดตอดรัดจึงคว้าเอวคอดไว้เป็นหลัก ดึงตัวหล่อนเข้าหาขณะที่กระแทกหน้าขาสวนใส่ไม่บันยะบันยั้ง ด้านอีกฝ่ายก็ทั้งแอ่นทั้งดูดรูดตอดสู้
สองร่างควบขับขยับเขยื้อนไปด้วยกันแรงเร็วจนเกิดเสียงดังเจาะแจะๆ คลอเคล้าเสียงปับๆ ของเนื้อกระทบเนื้อ แรงสะเทือนส่งให้เรือนแพขยับเคลื่อนไปมาเหนือผิวน้ำด้วยแรงกำหนัดร้อนแรงของทั้งคู่ พักใหญ่กว่าทั้งสองจะไปถึงจุดหมายปลายทางพร้อมกัน พวกเขาชวนกันลงน้ำล้างตัวอีกครั้งก่อนจะจูงมือกันเข้าห้อง แล้วไม่นานเรือนแพก็โยกไกวไปมาอีกครั้งราวกับถูกกระแสน้ำเชี่ยวกรากกระแทกกระทั้น
ลำเพายืนฟังเสียงคำรามครางครวญของคู่สังวาสอยู่นาน กว่าจะค่อยๆ แฝงความมืดกลับห้อง กลางกายของหล่อนเหนียวเหนอะด้วยน้ำรักที่เอ่อท้นเพราะเกิดอารมณ์พิศวาสตามไปกับสองคนนั้นด้วย หล่อนยังจำความเสียวซ่านหวานแหลมที่เกิดจากการสมสู่กับหลวงสรยุทธ์ได้ กับผู้ชายที่หล่อนไม่ได้รักใคร่ใยดีมากมาย ซ้ำสรีระร่างกายก็กำยำใหญ่ยาวได้ไม่ถึงสองในสามของท่านชาย หล่อนยังสุขเสียวปานนั้น แล้วถ้าได้ร่วมอภิรมย์กับท่านชายเล่า จะสุขกระสันปานไหน หล่อนมั่นใจว่าจะต้องมากล้นพ้น ก็ดูแต่หญิงมากประสบการณ์อย่างจูเลียตยังครางไม่เป็นส่ำ ทั้งที่โก้งโค้งหน้าแนบพื้นยังแอ่นส่ายบั้นท้ายรับส่งเป็นระวิง
ในช่วงสุดท้ายก่อนที่เขาจะควบขับจูเลียตไปสู่เส้นชัย หล่อนรู้สึกว่าเขาจดจ้องมองฝ่าความมืดมาทางตน และเหมือนจะสบตรึงก่อนเกร็งกระตุกจนหน้าหงาย คำรามก้องขณะปลดปล่อยเป็นสาย สายตาเข้มแรงเร่าร้อนนั้นยังตราตรึงในความทรงจำเมื่อหญิงสาวปลุกปั่นปุ่มกระสันกึ่งกลางกาย พาตัวเองไปสู่การปลดปล่อยหวานล้ำโดยมีเขาในจินตนาการ
แต่หล่อนคงตาฝาดไป เขาคงไม่เห็นหล่อน แม้แสงจันทร์จะสุกสว่างแต่ก็ไม่มากพอจะส่องให้เห็นคนที่ยืนซุ่มอยู่ใต้เงาไม้เป็นแน่ ถ้าเห็นเขาก็คงไล่ตะเพิด ไม่สังวาสกับจูเลียตไปจ้องตากับหล่อนไปจนสำเร็จเสร็จกิจหรอก