ตอนที่ 28 เลือกเจ้านายด้วยตนเอง (2)
อวี่เสียงร้องอุทานทีหนึ่ง ก่อนจะขมวดคิ้วมุ่น “เจ้า...เป็นเจ้า...อ้านชิง!” เขาเรียกชื่อหนึ่ง ด้านหลังพลันมีคนชุดดำปรากฏตัวแล้วคุกเข่าข้างเดียวบนพื้น พลางเอ่ยตอบรับฝ่าบาท
“ลุกขึ้น มาช่วยเราดูหน่อยว่าใช่คนผู้นั้นเมื่อห้าปีก่อน...” ฮ่องเต้กล่าว อ้านชิงรับคำว่าพ่ะย่ะค่ะแล้วก้าวออกมาตรงหน้าอ้านจิ่ว
“เรียนฝ่าบาท เป็นกระหม่อมเองพ่ะย่ะค่ะ” อ้านจิ่วไม่รอให้อ้านชิงมองเห็นชัดก็ตอบออกไปเช่นนั้น
เวลานี้อ้านชิงเห็นคนตรงหน้าชัดเจนแล้ว พลันหมุนตัวไปประสานมือให้ฮ่องเต้แล้วกล่าว “ทูลฝ่าบาท ไม่ผิด คือคนผู้นี้พ่ะย่ะค่ะ”
อวี่เสียงได้ยินแล้วหัวเราะเสียงดัง หันกายเดินกลับไปยังที่นั่งตนเอง ทว่าเสียงสรวลกลับไม่หยุดลง “เป็นเจ้าจริงๆ! มิน่าเราถึงมักมีความรู้สึกคุ้นเคยบางอย่าง”
คิ้วของจิ้งเยี่ยที่ขมวดคลายออกทีละน้อย แม้จะตกใจมาก แต่มองออกว่าฮ่องเต้ไม่ได้คิดจะทำร้ายอ้านจิ่ว จึงวางใจลงบ้างแล้ว
หย่งหยวนตกใจอยู่ไม่น้อย คิดไม่ถึงว่าเสด็จพ่อจะมีความประทับใจเช่นนั้นต่ออ้านจิ่ว
“หย่งหยวนเอ๋ย...” อวี่เสียงที่กลับไปนั่งบนบัลลังก์มังกรเอ่ยเรียกรัชทายาท อีกฝ่ายส่งเสียงโอ้ทีหนึ่งด้วยความตื่นตะลึง จากนั้นก็มีปฏิกิริยาตอบสนองทันที “ลูกอยู่นี่พ่ะย่ะค่ะ”
“หย่งหยวน เรื่องที่เจ้าพูดเมื่อครู่ เดิมทีเราอยากรับปากตามคำขอเจ้า ประทานองครักษ์ลับผู้นั้นให้ แต่เวลานี้เห็นทีจะไม่ได้ เจ้ามาช้าไปก้าวหนึ่งแล้ว” อวี่เสียงพูดอย่างเสียดายไม่น้อย ทว่าบนใบหน้ากลับไร้ซึ่งความเสียดายแม้แต่นิด เพียงเผยยิ้มออกมา
รัชทายาทลุกขึ้นยืนอย่างไม่ยินยอม มือเท้าสั่นไปหมด “เพราะเหตุใด ไยถึงช้าไปพ่ะย่ะค่ะ ตอนที่ลูกพูดเมื่อครู่ ไม่ใช่ว่าเสด็จพ่อตอบรับแล้วหรือ ทำไมเวลานี้ถึงสายไปเสียแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
จิ้งเยี่ยแม้ไม่พูดอะไร ทว่าในใจบังเกิดความยินดีแกมประหลาดใจ ถึงจะงุนงงอยู่บ้าง อีกทั้งเสด็จพ่อก็มิได้พูดให้ชัดเจน แต่เวลานี้คงไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไป ดูท่าบิดาจะทิ้งอ้านจิ่วไว้ให้ตนแล้ว
“เรื่องนี้ควรให้อ้านชิงผู้บัญชาการองครักษ์ลับที่แท้จริงมาพูดสักหน่อย เรื่องในตอนนั้นเรายังจำได้ชัดเจนจนบัดนี้ ราวกับเพิ่งเกิดขึ้น!” อวี่เสียงถอนหายใจ
“ตอนนั้นหรือ” จิ้งเยี่ยยิ้มขึ้นมา “เสด็จพ่อ ตอนนั้นที่ว่านานเพียงใดพ่ะย่ะค่ะ”
“ห้าปีที่แล้ว อ้านชิง ออกมาเล่าให้เจ้าเก้าฟังหน่อยสิ” อวี่เสียงพูดด้วยรอยยิ้ม พลางหยิบจอกสุราขึ้นจิบเนิ่นนาน
“ตอบท่านอ๋องเก้า เมื่อห้าปีก่อนอ้านจิ่วเคยเป็นหนึ่งในองครักษ์ลับกลุ่มหนึ่งที่เข้ารับการฝึกฝนใหม่จากที่นี่ของกระหม่อม องครักษ์ลับที่กระหม่อมฝึกฝนออกมาทุกปีล้วนต้องผ่านการทดสอบประลองฝีมือขั้นสุดท้าย เวลานั้นอ้านจิ่วคือผู้โดดเด่นที่สุดและได้รับความชื่นชมอย่างมากจากฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”
อ้านชิงพูด พลางมองไปทางอวี่เสียง
“ไม่ผิด ตอนแรกเราอยากเก็บเขาไว้ข้างกาย เวลานั้นคนผู้นี้แสดงผลงานได้ค่อนข้างดี เราจึงรับปากตกรางวัลให้แล้วถามเขาว่ามีสิ่งใดที่อยากได้ คิดไม่ถึงว่าเขา...เฮ้อ...” อวี่เสียงเอ่ยถึงตรงนี้ก็ไม่พูดต่ออีก เหลือไว้เพียงความเสียดาย
“อืม สุดท้ายรางวัลที่อ้านจิ่วขอจากฝ่าบาทคือให้ตนนั้นสามารถเลือกเจ้านายได้ จากนั้นเมื่อเขาเลือกนายแล้ว ฝ่าบาทก็ทรงเห็นด้วย” อ้านชิงพูดจบจึงมองไปทางจิ้งเยี่ย
ซู่ชิงอ๋องมือสั่นไม่หยุด เอนกายไปข้างหน้าแล้วเอ่ย “ความหมายของเจ้าคือ ตั้งแต่ตอนนั้นอ้านจิ่วก็ได้เลือกเจ้านายตนเองแล้ว ซึ่งเจ้านายของเขาคือข้า นายที่เขาเลือกด้วยตนเองเป็นข้างั้นหรือ”
เสียงเขาสั่นด้วยความตื่นเต้น หากเป็นเช่นนี้จริง ถ้าอย่างนั้นนี่ก็คือเหตุผลแท้จริงที่อีกฝ่ายไม่ตอบรับตนตอนต้องการให้มอบป้ายคำสั่งออกมาก่อนหน้านี้หรือ เพราะเขาเป็นคนของตนอยู่ก่อนแล้ว
อ้านชิงพยักหน้า ก่อนจะเดินไปด้านหลังอ้านจิ่ว จากนั้นตบไหล่ชายหนุ่มทีหนึ่ง ตามด้วยดึงชุดตรงแขนซ้ายของเขาลง “ท่านอ๋องลองดูตรงนี้ เกรงว่าท่านคงยังไม่รู้กระมัง”
ยามนี้ไม่ใช่แค่จิ้งเยี่ย สายตาคนทั้งหมดล้วนจับจ้องไปที่ไหล่ของอ้านจิ่วซึ่งเผยออกมาเกินครึ่ง บนไหล่ด้านหลังของแขนซ้ายเขาสักอักษร ‘เยี่ย’ ตัวหนึ่งไว้ชัดเจน
จิ้งเยี่ยตกใจจนดวงตาแทบถลน ท่าทียามนี้มิได้สงบนิ่งใจเย็นเช่นที่เคยเป็นมา ลุกขึ้นเดินด้วยฝีเท้าซวนเซไปทางด้านหลังอ้านจิ่ว ไม่สนใจว่ากำลังอยู่ภายใต้สายตาทุกคน จิ้มนิ้วสั่นเทาไปบนอักษรที่ชัดเจนนั้น
เดิมทีอ้านจิ่วยังผ่อนคลายสันหลัง แต่ยามที่นิ้วของจิ้งเยี่ยสัมผัสโดนบริเวณนั้น กล้ามเนื้อทั่วร่างเกร็งแน่น รู้สึกได้ว่าตนพยายามจะผ่อนคลาย ทว่าสิ่งที่เกิดไม่เหมือนความเจ็บปวด สัมผัสนั้นจักจี้เล็กน้อย ความจริงทำให้คนยากจะทนไหว แม้แต่อ้านจิ่วที่รู้วิธีอดกลั้นยังลำบากมาก
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว