ในที่สุดโหมวซือฉิงก็หลุดหัวเราะ ‘พรืด’ “ถือว่านายเป็นเด็กซื่อสัตย์ ถ้าต้องการขึ้นมาจริงๆ ละก็ คอยดูสิ มีหรือฉันจะไม่โผล่มาจับนาย!”
สวี่ตงตกใจจนขนที่หลังลุกเกรียว ที่แท้คนที่โทรมาก็คือโหมวซือฉิง มิน่าเล่าตนถึงรู้สึกว่าเสียงผู้หญิงฟังดูแปลกๆ โชคดีที่เขายังเด็ก ประสบการณ์น้อยจึงไม่ได้ชื่นชอบเรื่องพรรค์นั้น มิเช่นนั้นคงเผลอคล้อยตามเรียกมาจริง แม่เสือตัวนี้กำลังใช้ ‘แผนล่อเหยื่อ’ หากถูกเธอจับได้คาหนังคาเขา จะไม่แย่กันไปใหญ่เหรอ
และไม่รู้ทำไมตำรวจหญิงคนนี้ถึงสนใจเขานัก เขาไม่เคยทำอะไรให้เธอ แถมยังเพิ่งรู้จักกันแค่ครึ่งวันด้วยซ้ำ อีกอย่างตัวเขาก็นับว่ามีบุญคุณกับตระกูลโหมวไม่ใช่เหรอ ในงานเลี้ยงเมื่อตอนกลางวันยังช่วยพวกเธอตามหาเสื้อหยกไหมทองกลับมาได้ ทำไมเธอถึงยังตามราวีเขาไม่เลิก
ดีที่เขาไม่เข้าใจคำว่า ‘หญิงบริการ’ จริงๆ มิเช่นนั้น เรื่องล้อเล่นคงนำหายนะมาสู่ตัวเขาเป็นแน่ เพราะโหมวซือฉิงจงใจ ‘วางกับดัก’ หากเขาเข้าใจความหมาย ต่อให้ไม่ได้ตั้งใจจะทำจริง เขาก็ไม่กล้ารับประกันว่าจะแสร้งทำเป็นล้อเล่นได้หรือเปล่า!
โหมวซือฉิงเห็นสีหน้าระแวงของสวี่ตงก็พูดเสียงเรียบ “ยังจะขวางประตูอยู่ทำไม กลัวฉันจะเข้าไปกินหรือไงกัน หรือนายซ่อนอะไรไว้ในห้อง”
“งั้น…งั้นคุณเข้ามา!”
สวี่ตงรีบเชิญโหมวซือฉิงอย่างประดักประเดิด ก่อนจะรีบเปิดทางให้โหมวซือฉิงเข้าไป เขารู้ว่าในห้องไม่มีอะไร แต่หากไม่ให้ ‘ความร่วมมือ’ สักหน่อย เธออาจจะสาดโคลนใส่เขาอีกก็ได้!
หลังจากโหมวซือฉิงเข้าไปแล้วย่อมไม่เข้าไปค้นตามห้องน้ำหรือตู้เสื้อผ้า เธอเดินตรงไปทิ้งตัวนั่งที่ขอบเตียง สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นทันใด ก่อนจะบอกสวี่ตงด้วยน้ำเสียงจริงจัง “รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วตามฉันมา!”
สวี่ตงตกตะลึง เขาอาบน้ำเตรียมจะเข้านอนแล้ว เดิมทีก็ไม่คิดจะเสวนาพาทีใดๆ กับโหมวซือฉิงอีก แต่เธอกลับมาหาถึงหน้าประตู แล้วยังจะให้ตนออกไปข้างนอกกับเธอดึกดื่นเช่นนี้อีกเพื่ออะไร
เงียบไปเพียงอึดใจ สวี่ตงก็ส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่ได้ครับ ผู้เฒ่าหลงกับอาหนิวเมากันหมด ผมต้องอยู่ที่โรงแรมเพื่อดูแลพวกเขา ดึกขนาดนี้คุณยังคิดจะทำอะไรอีก”
จากมุมมองของสวี่ตง เขาเดาไม่ออกเลยว่าโหมวซือฉิงคิดจะทำอะไร แต่ไม่ว่าอย่างไรเขาก็กล้ายืนยันว่าโหมวซือฉิงไม่ได้ชอบเขานัก อยู่ดีๆ มาบังคับเขาออกไปกินข้าวสังสรรค์ หรือโหมวซือฉิงจะตกหลุมรักเขาเลยมาชวนออกไปกินข้าวดูหนังเดินเล่น คิดวนไปพักหนึ่งก็ยังเดาไม่ออกว่าแม่เสือนี่มีแผนอะไรกันแน่
โหมวซือฉิงหน้าดำทะมึนขึ้นเล็กน้อย “เหอะๆ ฉันจะให้โอกาสนายอีกสักครั้ง จะไปหรือไม่ไป”
สวี่ตงตอบเสียงหนักแน่น “ไม่ไป!”
เขาไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่จำเป็นต้องกลัวเธอ!
ทว่าพอสวี่ตงเห็นสีหน้าโหมวซือฉิงถมึงทึงก็เกิดใจสั่นวูบวาบ เธอจะสร้างเรื่องหาว่าเขา ‘ทำตัวหยาบคาย’ ใส่เธออีกหรือเปล่า
การคาดเดาครั้งนี้ผิดไป โหมวซือฉิงไม่เล่นละครฉากเดิมอีก มือหยิบกุญแจมือเงาวับออกมาจากด้านหลังเอว ก่อนจะ ‘คลิก’ ล็อกสองมือเขาไว้!
ตั้งแต่เด็กจนโต แม้ว่าสวี่ตงจะต้องเผชิญความยากลำบากมากมายหลังจากพ่อแม่เสียชีวิตก็ยังไม่เคยถูกตำรวจจับใส่กุญแจมือเลยสักครั้ง ความยากลำบากทั้งหมดมาจากครอบครัวของป้าเท่านั้น การถูกจับใส่กุญแจมือราวกับเป็นนักโทษแบบนี้เพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก!
“คุณ…คุณ…คุณรังแกผมอีกทำไม” สวี่ตงเริ่มกังวลจริงๆ แล้ว ก่อนหน้านี้โหมวซือฉิงเคยขู่ว่าเขา ‘ทำตัวหยาบคาย’ แต่นั่นยังเป็นแค่คำพูด หลังจากเขายอม ‘อ่อน’ ให้โหมวซือฉิงก็ไม่ต่อความยาวสาวความยืด ไม่เหมือนตอนนี้ที่พูดไม่ดีแค่คำเดียวก็ใช้กำลัง ทำเอาเขาทำอะไรไม่ถูกเลย!
เวลานี้โหมวซือฉิงล็อกตัวเขาด้วยสีหน้าถมึงทึง หรือว่าต้องการหลักฐาน ‘ภาพถ่าย’ อะไรทำนองนั้นเลยจะลากตัวเขาไปทุบตีให้ยอมจำนน
ว่ากันตามหลักการแล้วโหมวซือฉิงจะได้อะไรจากการลงโทษเด็กอย่างเขา เรื่องทุกอย่างล้วนต้องมี ‘ส่วนได้ส่วนเสีย’ แต่คิดไปคิดมาตัวเขาก็ยังไม่น่าถึงระดับที่มีอิทธิพลกับโหมวซือฉิงหรอกมั้ง
โหมวซือฉิงคว้าเสื้อคลุมที่สวี่ตงถอดโยนไว้บนโซฟาเดี่ยวมาคลุมข้อมือสวี่ตงที่ถูกใส่กุญแจมือ ก่อนจะพูดว่า “ตามฉันลงไปดีๆ ก็จะไม่เสียหน้า ถ้าคิดตุกติก ฉันไม่รับประกันว่านายจะยังเหลือหน้าให้รักษา!”
แม้สวี่ตงจะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ทำได้เพียงตามเธอออกไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ด้วยไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับตำรวจหญิงที่ไม่ทำอะไรตามกฏเกณฑ์คนนี้ดี สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าเธอจะพาเขาไปทำอะไร
ตั้งแต่ลิฟต์เคลื่อนตัวถึงชั้นล่างจนกระทั่งพวกเขาออกนอกโรงแรม สวี่ตงก็ยังไม่กล้าคิดหลบหนี เขาถูกใส่กุญแจมือไว้อย่างแน่นหนา แล้วเขาก็ไม่ใช่ช่างสะเดาะกุญแจมืออาชีพจึงไขออกไม่ได้ ต่อให้หนีพ้นเงื้อมมือโหมวซือฉิง คนที่พบเห็นก็อาจแจ้งความ ถึงเวลานั้นเขาคงตกลงส้วมเข้าจริงๆ แม้ไม่ใช่อึก็ต้องกลายเป็นอึจริงๆ แล้ว!
หลังออกจากโรงแรม โหมวซือฉิงก็ตรงไปยังเชฟโรเลตแคปติวาสีดำที่จอดอยู่ริมถนน ตอนที่สวี่ตงเข้าไปใกล้ๆ เขาเห็นใบสั่งเสียบอยู่ใต้ที่ปัดน้ำฝนด้วย แต่โหมวซือฉิงเห็นแล้วก็ไม่สนใจ ดึงประตูเปิดพร้อมหันมาสั่ง “ขึ้นรถ!”
แม้จะเป็นเวลาเกือบเที่ยงคืน บนถนนก็ยังมีคนเดินสัญจรไม่น้อย เมืองถงเฉิงเป็นเมืองขนาดกลาง มีประชากรมากกว่าหนึ่งล้านคน ผู้คนทั้งร่ำรวยยากจนออกมาท่องราตรี แสงสีละลานตาสุดคึกคัก
สวี่ตงเห็นผู้คนขวักไขว่ก็ตัดสินใจเทหมดหน้าตัก ขัดขืนอยู่ข้างประตู “ไม่ขึ้น คุณอยากรังแกผมยังไงก็เรื่องของคุณ หรือไม่ก็เอาปืนมายิงผมเลย!”
โหมวซือฉิงเห็นสวี่ตงจู่ๆ ก็ทำตัวเป็นหมูตายไม่กลัวน้ำร้อนจึงตกใจ แล้วก็รู้สึกทั้งโมโหทั้งขำจึงยื่นเท้าเตะข้อพับเข่าสวี่ตงไปทีหนึ่ง
สวี่ตงร้อง ‘โอ๊ย’ เข่าทรุดฮวบลง โหมวซือฉิงผลักหลังเขาทีเดียวตัวเขาก็เข้ารถไป
โหมวซือฉิงปิดประตูรถดัง ‘ปัง’ ก่อนจะเดิมอ้อมหน้ารถไปขึ้นอีกฝั่ง บิดกุญแจสตาร์ทรถแล้วหันมาแค่นเสียงพูด “ฉันว่านายนี่มันวอนเท้านะ ไม่ใช้กำลังก็ไม่เชื่อฟังงั้นสิ”
สวี่ตงไม่เถียงสักคำ โหมวซือฉิงเวลานี้ดูดุร้ายและแข็งแกร่งมาก เขายังแอบโล่งใจนิดหนึ่ง หากเล่นละคร ‘ทำตัวหยาบคาย’ แบบก่อนหน้านี้คงอับอายน่าดู แต่เขายังคงไม่วางใจ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าเธอฉุดเขาออกมากลางดึกเพื่ออะไรกันแน่!
โหมวซือฉิงตอนขับรถกลับดูคล่องแคล่วมาก อย่าเห็นว่าภายนอกบอบบางอ้อนแอ้น แต่เวลาขับแคปติวาคันค่อนข้างใหญ่นี้กลับไม่งุ่มง่ามเลยสักนิด ขณะรถพุ่งตัวฝ่าการจราจร สวี่ตงยังต้องคว้าที่จับเหนือหัวด้วยมือสองข้างอย่างห้ามไม่ได้ พยายามขยับซ้ายขวาเพื่อทำให้ร่างกายมั่นคง
โหมวซือฉิงไม่สนใจว่าสวี่ตงจะนั่งได้มั่นคงหรือไม่ เธอขับรถพุ่งทะยานอย่างดุเดือด ประมาณสิบกว่านาทีก็มาถึงจุดหมาย รถจอดสนิทแล้วก็ดึงกุญแจ เปิดประตู กระโดดลง ก่อนจะหันมาสั่ง “ถึงแล้ว ลงมา!”
สวี่ตงหอบหายใจพลางเปิดประตูรถลงไป แต่กลับต้องเวียนหัวตาลายจนเกือบล้มลง
“อย่าทำตัวเหมือนผู้หญิงได้ไหม หรือว่านายเมารถ” โหมวซือฉิงเหน็บสวี่ตงอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะเร่งเขาให้รีบเดิน
สวี่ตงยังเวียนหัวอยู่จึงนิ่งไปชั่วครู่ เมื่อสติเริ่มกลับมาก็เงยหน้ามองสถานที่ตรงหน้า ลานจอดรูปรูปสี่เหลี่ยมมีรถยนต์จอดอยู่นับไม่ถ้วน ส่วนใหญ่เป็นรถตำรวจ บนประตูอาคารขนาดใหญ่ห่างออกไปยี่สิบเมตรมีตัวอักษรสีทองแวววาว ‘สถานีตำรวจเมืองถงเฉิง’!
สวี่ตงตกใจวาบ “สถานีตำรวจ?”
แต่อีกใจก็ยินดี มาถึงสถานีตำรวจแล้ว โหมวซือฉิงคงไม่กล้าใช้อำนาจมั่วซั่วอีกแล้วมั้ง พอดีเลยจะได้หาโอกาสร้องเรียนกับหัวหน้าเธอด้วย
แต่โหมวซือฉิงเป็นผู้หญิงหัวรุนแรง หากยังไม่มั่นใจก็อย่ายั่วโมโหเธอดีกว่า มิเช่นนั้นก็มีแต่จะทำให้ตัวเองยิ่งตกที่นั่งลำบาก!
มาถึง ‘ฐานทัพ’ ของโหมวซือฉิงแล้ว โหมวซือฉิงจึงไม่คิดจะซ่อนกุญแจมือบนข้อมือสวี่ตงเลยสักนิด เอาแต่เร่งให้สวี่ตงเดินเข้าไป
ตำรวจในเครื่องแบบหลายนายออกมาทักทายโหมวซือฉิงโดยไม่มีใครสนใจสวี่ตง ที่นี่มีคนถูกใส่กุญแจมือเข้าออกเป็นเรื่องปกติ ที่เข้ามาทักทายโหมวซือฉิงเหตุผลหลักเพราะโหมวซือฉิงสวยเกินไป ผู้หญิงสวยมักถูกรายล้อมด้วยหมู่ดาว
ที่ทางเข้าลิฟต์ของอาคาร โหมวซือฉิงกดปุ่มขึ้นลิฟต์ ทว่าจอแสดงหมายเลขยังคงค้างอยู่ที่ชั้นสิบสอง หลังจากกดซ้ำหลายครั้งโหมวซือฉิงก็พึมพำอย่างหัวเสีย ก่อนจะหันมาทางสวี่ตงแล้วยกมือบอก “ขึ้นบันได!”
สวี่ตงก็ไม่ขัด ตอนนี้ให้ทำอะไรก็ยอมไปก่อนเพื่อให้โหมวซือฉิงตายใจ รอจนถึงตอนได้พบหัวหน้าเธอเมื่อไรจะฉวยโอกาสร้องทุกข์ให้เข็ด เธอบอกให้ขึ้นบันได้ก็ขึ้น แต่ไม่รู้ว่าต้องขึ้นไปถึงชั้นไหนนี่สิ
ตั้งแต่เริ่มขึ้นบันได โหมวซือฉิงก็ก้าวเร็วฉิวถึงชั้นห้าโดยไม่เหนื่อยหอบ สวี่ตงเริ่มหอบนิดๆ ยกสองมือปาดเหงื่อก่อนจะเอ่ยถาม “ต้องขึ้นไปถึงชั้นไหน”
“ชั้นเก้า” โหมวซือฉิงเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างจึงไม่ปฏิเสธคำถามของสวี่ตง ยอมตอบง่ายๆ น้ำเสียงก็ปกติดี
“ผู้หญิงคนนี้นี่ชอบทรมานตัวเองจริงๆ !” สวี่ตงกัดฟันกรอด เริ่มมีน้ำโห ‘ชั้นเก้าเลยนะ ไม่ใช่แค่ชั้นหนึ่งหรือชั้นสอง ไปถึงชั้นเก้าก็ไม่คิดจะใช้ลิฟต์ ลิฟต์ไม่ลงมารอนิดรอหน่อยก็ไม่ได้!’
หากเป็นการเดินไปเรื่อยๆ ก็ยังไม่เท่าไร แต่โหมวซือฉิงไม่คิดจะชะลอหรือหยุดพักเลยสักนิด เอาแต่เร่งให้เขารีบเดิน
สวี่ตงอดกลั้นเพลิงโทสะ พอถึงชั้นเก้าก็เตรียมจะพัก โหมวซือฉิงเข้ามาดันหลังของเขาพร้อมพูดอย่างกระตือรือร้น “รีบไปๆ !”
สวี่ตงเหลือบมองป้ายหน้าห้องที่เห็นอยู่เรียงรายสองข้างทาง ‘สำนักงานหัวหน้าแผนก xx’ ‘สำนักงานหัวหน้าส่วน xx’ เดินต่อไปก็เห็นป้าย ‘สำนักงานรองผู้อำนวยการ’ ก็แอบดีใจ โหมวซือฉิงไม่มีท่าทีจะหยุด ยิ่งเดินต่อไป ตำแหน่งงานบนป้ายก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ เขากำลังคิดจะร้องเรียนกับหัวหน้าสูงสุดของโหมวซือฉิง ยิ่งตำแหน่งสูง บทลงโทษก็จะยิ่งหนัก!
สวี่ตงเดาถูกจริงๆ ด้วย โหมวซือฉิงเดินตรงมาถึงประตูที่ป้ายเขียนว่า ‘สำนักงานผู้อำนวยการ’ จึงหยุดฝีเท้าแล้วเคาะประตูโดยไม่ต้องคิด ผลักประตูเข้าไปพร้อมพูดว่า “ผู้กำกับหู ฉันพาผู้เชี่ยวชาญมาแล้ว!”
สวี่ตงยังอยู่หน้าประตูก็ได้ยินเสียงทุ้มลึกของผู้ชายดังมาจากข้างใน “ยัยหนู ฉันบอกให้เธอเข้ามาหรือยัง ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าในสายตาเธอฉันไม่เหมือนผู้กำกับเลย ฉันเป็นผู้ติดตามเธอสินะ”
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว