Love Over Size : รักเธอเกินพิกัด-ตอนที่ 26 ฉันชอบแก

โดย  chocmilk

Love Over Size : รักเธอเกินพิกัด

ตอนที่ 26 ฉันชอบแก

เถาเอ๋อร์ที่มองพ่อบ้านใหญ่เดินจากไปจนลับตา นางกำลังจะหันหลังกลับ พบว่าตัวนางยังถูกลู่เทากอดไว้อยู่

“พี่ลู่เทาพวกเขาไปแล้วปล่อยข้าก่อนเจ้าค่ะ”

เถาเอ๋อร์ที่ได้ดูหนังสดเมื่อสักครู่ นางรู้สึกวาบหวิวเช่นกันจึงอยากกลับไปปลดปล่อยที่ห้องตัวเองแล้ว

“เถาเอ๋อร์ ข้าปล่อยเจ้ามิได้......”

ไม่ว่าเปล่าเขาก้มลงซุกไซ้สูดดมที่ซอกคอของนางทันที มือไม้ก็ไม่หยุดไว้แค่การจับเอว แต่กำลังลูบคลำไปทั่ว มือข้างหนึ่งของเขาลูบลงมาถึงสะโพกนางและล้วงลงลึกจนถึงจุดอ่อนไหว ผ่านกระโปรงที่นางสวมอยู่ เขายังคงขยับมากขึ้นกดลงไปแรงขึ้นทั้งยังถูไถอีกด้วย

“อื้ออออ… พี่ลู่เทาปล่อยเถาเอ๋อร์ไปเถอะเจ้าค่ะ”

แม้ปากจะพูดเช่นนี้แต่ร่างกายนางกลับยกสะโพกขึ้นให้เขาเข้าถึงได้มากขึ้น

เมื่อลู่เทาเห็นนางตอบสนองเช่นนี้เขาก็ยิ่งได้ใจ เข้าใช้มืออีกข้างดึงสายรัดเอวของนางออกอย่างช่ำชอง เมื่อสายรัดเอวถูกปลดออกไปสาบเสื้อที่ทับกันไว้ก็รถลุยออกมาเผยให้เห็น อกเปลือยเปล่าไร้เอี้ยมบดบังชูเด่นออกมารับอากาศด้านนอก

เขาจับนางพลิกตัวเข้าหาและจูบลงบนปากนางทันที มือเข้าประกบและเริ่มบีบเคล้นอกของนาง


“อ่าห์ พี่ลู่เทา ....”

เถาเอ๋อร์ที่ถูกเขาปลุกเร้าอารมณ์จนส่งเสียงออกมา

ลู่เทากลัวคนจะได้ยินเสียงของพวกเขาและมาพบเห็นเหมือนที่เมื่อครู่พวกเขาแอบมองพ่อบ้านใหญ่ เขาจึงยัดชายเสื้อเข้าปากเถาเอ๋อร์ให้นางกัดเพื่อกลั้นเสียงเอาไว้

“มาเถิดเถาเอ๋อร์ เจ้ามันร่านนักเพียงยืนมองเจ้าก็เปียกแฉะแล้ว ข้าจะช่วยปลดปล่อยให้เอง”

ไม่ว่าเปล่ามือที่ว่างอยู่เขาก็ถอดกางเกงตัวเองลง อุ้มตัวเถาเอ๋อร์ขึ้นมาพิงต้นไม้ที่อยู่ด้านหลัง และจับเอาสอดใส่แก่นกายสีดำ เข้าไปในร่องของเถาเอ๋อร์ทันที

เพียงเข้าไปเขาก็รู้แล้วว่านางเคยผ่านมือชายมาก่อน เขาจึงไม่ทะนุถนอมนางอีกต่อไป เขาแทงเข้าทีเดียวจนสุดลำและรุนแรง เขาเป็นชายหนุ่มวัยฉกรรจ์ทั้งยังเป็นคนเลี้ยงม้าร่างกายเขาจึงแข็งแรงเป็นอย่างมาก


“เถาเอ๋อร์เห็นเจ้าเงียบ ๆ ร่านไม่เบาเลยเชียว มาเถอะให้ข้าเป็นผัวเจ้าอีกสักคน”

แล้วเขาก็ไม่ออมมือเลยจริง ๆ

เถาเอ๋อร์ถูกกระทำเช่นนี้นางกลับยิ่งมีอารมณ์ ไม่ว่าจะถูกพลิกกี่ตลบนางก็ยังสู้ไหว ลู่เทาคนเลี้ยงม้าจับนางพลิกหน้าพลิกหลัง จนพึงพอใจจึงได้แยกย้ายกันไป

กว่าที่เถาเอ๋อร์จะกลับเข้าห้องนอนอีกครั้งก็ใกล้รุ่งสางแล้ว นางรีบกลับมาชำระร่างกายที่มีแต่คราบคาวและเหงื่อไคลนำเสื้อผ้ายัดเก็บไว้

หมิงหมิงที่นอนห้องติดกันนางหลับสนิทยิ่งนัก จึงไม่รู้เลยว่าสาวใช้ของนางไปเริงสวาทกับคนเลี้ยงม้าอยู่ท้ายจวน


วันรุ่งขึ้นหมิงหมิงให้เถาเอ๋อร์เล่าเรื่องของหยางอ๋องให้ฟังนางต้องรู้ข้อมูลของว่าที่สามีไว้บ้าง จึงได้ข้อมูลมาว่า

หยางอ๋องหรือก็คือ หยางตงจือ อดีตแม่ทัพที่ร่วมก่อตั้งราชวงศ์ปัจจุบันขึ้นมาเขาอยู่มาแล้วสองรัชสมัยด้วยกัน ปัจจุบันคาดว่าอายุน่าจะห้าสิบกว่าปีแล้ว

แต่ด้วยเป็นนักรบมาก่อนจึงยังคงแข็งแรงดี เมื่อครั้งยังหนุ่มเขาช่วยกอบกู้ราชบัลลังก์จึงได้รับตำแหน่งอ๋องต่างแซ่มาครอบครอง ข่าวเล่าลือว่าเขามีเมียมากยิ่งนัก ทั้งเมียที่ได้ตกแต่งมาเป็นอนุภรรยาอย่างถูกต้องหรือแม้กระทั่งเมียเก็บเมียบ่าว

และเมื่อเริ่มแก่ตัวลงเขาก็เริ่มวิปริตเสียสติในบางครา โดยเฉพาะเรื่องในมุ้งหมอน ยังมีข่าวลืออีกว่าที่หลังจวนอ๋องมีหญิงสาวมากมาย และหายไปอย่างไร้ร่องรอยมากมายเช่นกัน แต่ยังไม่เคยมีใครที่จะออกมาร้องเรียนหรือแจ้งเรื่องนี้แก่ทางการเลยสักคน

เมื่อได้ฟังกิตติศักดิ์เรื่องของความวิปริตของเขาเท่านี้ก็ขนลุกแล้ว หมิงหมิงได้ฟังแล้วนางต้องเตรียมตัวเสียแล้ว นางยังไม่อยากทะลุมิติมาไม่กี่เดือนก็ตายอีกรอบหรอกนะ

คิด ๆ คิด ๆ ว่าจะเอาตัวรอดอย่างไร นางไม่มีพรรคพวกไม่มีคนให้ใช้งาน มีเพียงตัวเองและเถาเอ๋อร์เท่านั้น เมื่อนึกถึงวิชาป้องกันตัวแบบที่คนยุคสมัยโบราณนางก็ไม่มี

ยาพิษ ! จู่ ๆคำนี้ก็ผุดขึ้นมาในหัวของนาง

ใช่นางต้องมีของป้องกันตัว แล้วนางจะเอามาจากไหนได้นะ


“เถาเอ๋อร์ท่านแม่ข้าทิ้งอะไรไว้ให้หรือไม่”

นางหันไปถามเถาเอ๋อร์อย่างมีความหวัง

“มีกล่องเครื่องประดับกับหีบเสื้อผ้าข้าวของเก่า ๆอยู่เจ้าค่ะ”

เถาเอ๋อร์ตอบ

“ไป ๆพาข้าไปดู”

หมิงหมิงตื่นเต้นเดินตามเถาเอ๋อร์ไปอย่าลิงโลด เพราะคิดว่าต้องมีอะไรที่ขายได้บ้าง

เมื่อเข้าไปในห้องนอนนาง เถาเอ๋อร์ลากหีบที่ถูกทิ้งไว้ข้าง ๆออกมาเปิดให้หมิงหมิงดู

หมิงหมิงรีบรื้อค้นหาของมีค่าทันที

“คุณหนูท่านลืมแล้วหรือเรารื้อกันเป็นร้อยรอบแล้ว ไม่มีของมีค่าอะไรเลยเจ้าค่ะ”

เถาเอ๋อร์บอกทำให้โลกที่กำลังสดใสกลายเป็นเป็นสีเทาทันที

ฮื้ออออ นางจะร้องแล้วจริง ๆ

เถาเอ๋อร์คงทนดูไม่ได้จึงบอกนาง

“วันนี้ตอนไปยกอาหารในครัวเห็นพวกบ่าวบอกว่าคุณหนูใหญ่กับองค์ชายสามมาด้วยเจ้าค่ะ คุณหนูไปแอบดูองค์ชายสามกันไหมเจ้าค่ะ”

“องค์ชายสามหรือ”

“ใช่เจ้าค่ะ คุณหนูเคยเจอองค์ชายสาม ท่านเคยให้เงินคุณหนูด้วยนะเจ้าคะ หากไปเจอไม่แน่อาจจะได้เงินอีก”

เถาเอ๋อร์ยังคงพล่ามต่อไป

“ไปสิ ไปดูกัน”

หมิงหมิงตอบรับนางแต่ในใจนางไม่ได้คิดเช่นนั้น

‘มีที่ไหนกันให้เงินกับลูกสาวคนอื่น เฮ้อ...สองนายบ่าวไม่มีคนอบรมสั่งสอน ทำให้เข้าใจว่าการที่เขาโยนเงินให้เช่นนี้ เพราะเห็นพวกนางเป็นขอทาน มิได้น้ำใจดีงามแต่อย่างใด

องค์ชายสาม ‘หึ! ดูสิวันนี้ข้าจะรีดไถ่เจ้ามาให้ได้’


สองนายบ่าวค่อยๆออกจากเรือนตนเองหันซ้ายหันขวาไปด้วยเพราะกลัวว่าจะมีใครมาเห็นว่าพวกนางออกมาจากเรือนเผื่อแอบมององค์ชาย สาม

เถาเอ๋อร์รับอาสาเดินไปดูลาดเลาให้กับนาง ไม่นานนักก็เดินกลับมาบอกว่าองค์ชายสาม กำลังเดินมาที่ศาลาใกล้เรือนของพวกนาง เขายังมาพร้อมกับบิดาของหมิงหมิงไม่มีคนอื่นอีก

ได้ยินเช่นนั้นหมิงหมิงจึงตัดสินใจไปแอบดูใกล้ ๆ มองอยู่ไกลๆนางก็เห็นว่าทั้งสองกำลังพูดคุยกันโดยสีหน้าที่ดูพออกพอใจ หากนางคิดไม่ผิดพวกเขาทั้งสองคงวางแผนร้ายอะไรบางอย่าง

ทั้งสองพูดคุยกันอยู่ไม่นานบิดาของนางก็ออกไปจากศาลา แต่องค์ชายสามยังคงยืนหันหลังมองไปยังสระน้ำด้านนอก ราวกับว่าเขากำลังรอใครอีกคนอยู่

หมิงหมิงจึงคิดจะใช้แผนสาวงามหกล้มออกมาทันที ตอนนี้นางเริ่มมีน้ำมีนวล แต่งกายงดงามสมฐานะคุณหนูของจวน ใบหน้าที่เคยแห้งเหี่ยวตอนนี้เรียกได้ว่าอีกนิดเดียวจะงามล่มเมือง หากให้นางโตอีกสักหน่อยตำแหน่งหญิงงามต้องเป็นของหมิงหมิงแน่นอน

หมิงหมิงจึงกวักมือให้เถาเอ๋อร์เข้ามาใกล้ ๆจากนั้นก็กระซิบกระซาบแผนการของนาง ให้กับสาวใช้ฟังเพื่อให้นางร่วมมือ



“อร้ายย คุณหนูเจ้าคะระวังเจ้าค่ะ เจ็บตรงไหนหรือไม่”

เถาเอ๋อร์ที่ร่วมแสดงละครร้องออกมา และรีบวิ่งเข้ามาประคองหมิงหมิงทันที

ทางด้านองค์ชายสามที่ได้ยินเสียงกรีดร้องของสาวใช้ เขาจึงหันมามองต้นเสียงทันที เขาเห็นเพียงด้านหลังของหญิงสาวที่หกล้มนางนั้น แต่เห็นคนเจ็บจะไม่ไปดูเลยก็ดูไม่มีนัก เขาจึงเดินออกจากศาลาตรงไปหาทั้งสอง

เมื่อถึงตัวคนเขาก็ถามขึ้น

“แม่นางท่านต้องการความช่วยเหลือหรือไม่”

เขาถามไปอย่างนั้น

แต่เมื่อหมิงหมิงเงยหน้าขึ้นมา มองเขาด้วยน้ำตาที่คลออยู่ในดวงตาและใกล้จะร่วงหล่นเต็มที จมูกที่ขึ้นสีแดงเล็กน้อยรวมกับใบหน้างดงาม ยิ่งทำให้นางขายเป็นหญิงที่ดูอ่อนแอและบอบบางต้องการการปกป้องและช่วยเหลือจากชายชาตรีเช่นเขา

ลมหายใจขององค์ชายสามสะดุดไปหนึ่งจังหวะ เขายื่นมือเข้าไปประคองนางขึ้นมาทันที

“ขอบคุณเจ้าค่ะ อุ้ย! ขออภัยเจ้าค่ะ”

หมิงหมิงที่ถูกผมชายสามประคองขึ้นมาจู่ ๆแข้งขาของนางก็อ่อนแรงปล่อยตัวให้โถมมาใกล้เขามากขึ้น แต่นางก็ตั้งตัวขึ้นพร้อมตั้งใจผละออกไป แต่กลับถูกมือใหญ่รั้งหัวไหล่ไว้ ไม่ปล่อยนางไป

เมื่อกระทำเช่นนั้นจากองค์ชายสาม หมิงหมิงจึงแสร้งทำเป็นเขินอายและก้มหน้าลง แก้มของนางขึ้นสีแดงยิ่งทำให้ดูแนบเนียนมากขึ้น

“แม่นางมานั่งพักที่ศาลาก่อนเถิด ข้าช่วยเจ้าเอง....เจ้าไปเอายามาให้เจ้านายเสีย”

เข้ารั้งตัวนางให้เดินตามไปยังศาลา เมื่อเข้าไปในศาลาแล้ว เขาก็หันไปสั่งสาวใช้ของหมิงหมิงให้ออกไป


“เจ้าค่ะ แล้วข้าจะรีบกลับมานะเจ้าคะคุณหนู”

เมื่อเห็นแผนสำเร็จแล้วเถาเอ๋อร์วิ่งออกไปดูต้นทางทันที แทนที่จะไปหายาเพื่อมานวดขาให้คุณหนุ่มของนาง

ตามจริงแล้วเถาเอ๋อร์นางตกใจ พี่ได้เห็นการแสดงของคุณหนูเล็กมากไม่รู้ว่าคุณหนูทำแบบนี้ได้ตั้งแต่ตอนไหน

หมิงหมิงที่ถูกพามาที่ศาลาแล้ว นางก็ดีดดิ้นเล็กน้อยเพื่อออกจากอ้อมแขนของเขา นางกล่าวอย่างเขินอายว่า

“องค์ชายสามท่านปล่อยหมิงหมิงก่อนเพคะ หากท่านพี่หญิงมาเห็นเข้า..ขะ ข้า..”

หมิงหมิงก้มหน้าลงเล็กน้อยแก้มแดงระเรื่อ รวมกับกลิ่นกายของนางที่หอมหวาน ช่างถูกอกถูกใจองค์ชายผู้นี้ยิ่งนัก เขาจะไม่ยอมปล่อยลูกแกะตัวนี้ไปแน่นอน

“เจ้าคือคุณหนูเล็กหรือข้าไม่เห็นเจ้ามานานมากแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะโตขนาดนี้แล้ว มานั่งลงก่อนข้าจะดูขาให้เจ้า”

เขายังคงนั่งชิดนางไม่ยอมถอยห่างไป และกำลังจะเอื้อมมือมาจับข้อเท้านาง ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ผิดธรรมเนียมปฏิบัติระหว่างหญิงชายในยุคนี้เป็นอย่างยิ่ง

หมิงหมิงจึงดึงขากลับมา

“อย่าเจ้าค่ะ ชายหญิงมิควรใกล้ชิดอีกย่าง ..เอ่อ หมิงหมิง...”

“น้องหมิงหมิง นี่เป็นเหตุสุดวิสัย แต่หากน้องกลัวเสียเกียรติองค์ชายผู้นี้จะรับเจ้าเข้าตำหนักเองดีหรือไม่”

เขาเปลี่ยนจากจะจับขานาง เป็นการใชนิ้วเชยคางนางให้เงยหน้าขึ้นมามองเขาแทน

“องค์ชายสามท่าน...พูดจริงหรือเจ้าคะ”

หมิงหมิงทำหน้าตกใจ ดวกตาเบิกโต และและยังทำหน้าหลงใหลดีใจจนออกนอกหน้า อีกด้วย

เมื่อองค์ชายสามเห็นดังนั้นเขาจึงมั่นใจว่านางมีใจให้เขาแน่นอน

“จริงสิหมิงเอ๋อร์ หากเจ้าไม่มั่นใจวันนี้ข้าจะไปคุยกับเจ้ากรมโยธาเอง”

“อย่าเจ้าค่ะ ข้าเชื่อท่าน…ท่านเพียงมอบของแทนใจเป็นสัญญาระหว่างเราได้หรือไม่เจ้าค่ะ”

หมิงหมิงรีบคว้าจับแขนเขาไว้อย่างลืมตัว เพื่อไม่ให้เขานำเรื่องนี้ไปบอกกับบิดา

“ได้สิไว้ตอนค่ำข้าจะให้คนนำมามอบให้เจ้า…ตอนนี้ข้าขอมัดจำมาจากเจ้าไว้ได้หรือไม่”

เขาก้มหน้าลงเพื่อจะหอมแก้มนางเป็นการมัดจำ แต่ต้องหยุดลงเมื่อเถาเอ๋อร์เดินมาอย่างเร่งรีบ

“คุณหนูเจ้าคะคุณหนูใหญ่มาทางนี้เจ้าค่ะ”

เถาเอ๋อร์หน้าตาลนลาน

“องค์ชายหมิงหมิงขอตัวก่อนนะเพคะ หมิงหมิงกลัวเอ่อ....”

หมิงหมิงพูดไม่ทันจบก็ลุกพรวดขึ้นและจับมือเถาเอ๋อร์ เดินกะเผลกออกไปทันที

เมื่อพวกนางเดินผ่านพุ่มไม้จนลับตา คุณหนูใหญ่หรือพระชายาองค์ชายสามก็เข้ามาที่ศาลาพอดี

“เกือบไปแล้วนะเจ้าคะคุณหนู”

เถาเอ๋อร์ที่เร่งพากันกลับมาถึงเรือนตนเองก็ปาดเหงื่อออกทันที

“สนุกดีออกเถาเอ๋อร์ คิก คิก”

หมิงหมิงกำลังอารมณ์ดีอย่างยิ่งเพราะนางกำลังตั้งตารอ


‘ของแทนใจจากองค์ชายสาม’



─────•❀•─────


รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว