ตอนที่ 3 (13)
เหยาซุ่นอวี่ฟังบทสนทนาของเหล่าพี่สาว ในใจพลันหนักอึ้งขึ้นมา
พอนึกถึงหลัวเมิ่งเมิ่งที่โมโหตะบึงตะบอนจากไป แถมก่อนไปยังเหยียดว่าน่ารังเกียจอีก เขารู้สึกละอายเหลือเกิน
แย่แล้ว คงไม่ใช่ว่าท่านประธานได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้น ครั้งนี้เลยตั้งใจจะระบายโทสะใส่ผู้จัดการทั่วไปหรอกนะ...แต่เขาที่เป็นคนเริ่มทำเรื่องไม่ดีกลับไม่โดนเบื้องบนเรียกไปด่า หรือว่าผู้จัดการทั่วไปเป็นคนแบกรับเอาไว้ทั้งหมด...
เหยาซุ่นอวี่เริ่มตำหนิตัวเอง ก้มหน้างุดต่ำกว่าเดิม ท่าทางน่าสงสารนั่นทำให้ลิซ่าอดทนต่อไปไม่ไหวแล้วเช่นกัน
เด็กคนนี้ไม่ใช่แค่ใจดีทั่วๆ ไปนะ เธอถอนใจเบาๆ ตบบ่าเหยาซุ่นอวี่อย่างอ่อนโยน “ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญของผู้จัดการทั่วไป พวกเราต้องทำหน้าที่เป็นกำลังเสริมที่ดีที่สุดของบอส” ขณะพูดระดับเสียงของหัวหน้าเลขานุการก็ดังขึ้นกะทันหัน ราวกับกำลังปลุกใจ “ซุ่นอวี่ นายเป็นเลขาฯ ส่วนตัวของผู้จัดการทั่วไป ต้องช่วยเขาแบ่งเบาภาระ เข้าใจไหม”
มองรอยยิ้มอ่อนโยนบนใบหน้าหัวหน้าเลขานุการ เหยาซุ่นอวี่เหมือนถูกกระตุ้นจนฮึกเหิม พยักหน้าแรงๆ “ไม่มีปัญหาครับ!”
&
ซย่าซังโจวจมอยู่กลางกองงาน กระทั่งจัดการเอกสารข้างมือเรียบร้อยแล้วเขาถึงผ่อนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ราวกับได้ปลดภาระหนักอึ้งออกจากบ่าและพบว่าม่านราตรีโรยตัวลงมาแล้ว
เขาคลายเนกไทออกอย่างเหนื่อยล้า ทันใดนั้นกาแฟร้อนแก้วหนึ่งก็มาเสิร์ฟถึงโต๊ะ ครั้นเงยหน้าขึ้นก็พบว่าเป็นเหยาซุ่นอวี่ อดแปลกใจไม่ได้
“นายยังอยู่อีกเหรอ”
เหยาซุ่นอวี่ยิ้มบาง รอยยิ้มนั้นดูแล้วฝืดเฝื่อนอยู่บ้าง “ผู้จัดการทั่วไป ผมช่วยสั่งมื้อเย็นให้คุณแล้ว จะรับประทานตอนนี้เลยไหมครับ”
“ยังไม่หิว ดึกกว่านี้อีกนิดค่อยว่ากัน” ซย่าซังโจวยกกาแฟขึ้นจิบ
เหยาซุ่นอวี่เม้มปาก พูดเสียงแผ่ว “...ผมอยู่ที่โต๊ะ ต้องการอะไรก็เรียกผมได้ทุกเมื่อนะครับ” ว่าแล้วก็เดินกลับไปที่โต๊ะทำงานชั่วคราวของเขาแล้วเริ่มทำงานต่อ
พอได้ยินเสียงพิมพ์งานสม่ำเสมอ ซย่าซังโจวถึงกล้าแอบมองเลขานุการน้อยที่กำลังก้มหน้าก้มตาทำงาน เหยาซุ่นอวี่เพ่งสมาธิจ้องหน้าจอโน้ตบุ๊ก ไม่รู้ว่ากำลังเจอปัญหาอะไรอยู่ถึงได้เกาหูเกาแก้มอย่างร้อนใจ เดี๋ยวก็เอียงคอขบคิดอย่างยากลำบาก แถมยังเอื้อมมือไปหยิบคุกกี้มาแทะกรุบกรับ ดวงตากลมโตกับแก้มป่องๆ บวกกับนิ้วมือที่ยุ่งเป็นระวิง เหมือนแฮมสเตอร์กำลังสร้างรังไม่มีผิด
ซย่าซังโจวยกแก้วกาแฟขึ้น ใช้สายตาเปี่ยมความสนใจจับจ้องทุกอิริยาบถของเหยาซุ่นอวี่ ความกดดันในใจค่อยๆ เบาลง
มิน่าล่ะอัตราการคลิกเข้าชมคลิปสัตว์น่ารักถึงได้สูงลิ่วไม่เคยลด...เขาคิดอย่างเลอะเลือน กาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลที่จรดอยู่ตรงริมฝีปากเหมือนจะหวานขึ้นนิดหน่อย
&
เหยาซุ่นอวี่ที่ยังทำงานไม่เสร็จแต่กลัวพลาดรถประจำทางเที่ยวสุดท้ายหอบเอกสารกองพะเนินกลับไปทำต่อที่บ้าน เขาเรียบเรียงข้อมูลรายการโรงงานมือเป็นระวิงจนฟ้ามืด หนังตาใกล้จะลืมไม่ขึ้นแล้ว
ทำไมตอนนั้นต้องพูดจาอวดดีใหญ่โตขนาดนั้นด้วย ฮือๆ...
เหยาซุ่นอวี่หมอบอยู่บนโต๊ะพลางร้องคร่ำครวญ แต่พอนึกถึงกองเอกสารที่เหมือนจะไม่ลดลงเลยบนโต๊ะก็ยังรีบลุกมาทำงานอย่างรู้หน้าที่
ตอนเหยาซุ่นอวี่อดนอน ซย่าซังโจวก็ไม่ได้อยู่ว่างๆ ขณะที่เขากำลังเปรียบเทียบข้อมูลก็ได้รับแจ้งเตือนข้อความใหม่ เขาถอดแว่นออก นวดหางตาที่ปวดแปล๊บจากนั้นถึงเปิดอีเมล
ครั้นเห็นว่ารายงานนี้ทำออกมาได้เรียบร้อยควรค่าแก่การชมเชยมาก สมบูรณ์แบบไม่แพ้ที่ลิซ่าทำเลย ซย่าซังโจวคลี่ยิ้มบางๆ
เจ้าแฮมสเตอร์น้อยแค่ดูซื่อบื้อ แต่ก็ทำงานได้ดีมากไม่ใช่เหรอ...เขาคิดอย่างปลื้มปีติ
เหยาซุ่นอวี่เพิ่งออกจากห้องน้ำก็เห็นว่าผู้จัดการทั่วไปตอบเมลกลับมาแล้ว
ผู้จัดการทั่วไปยังไม่นอนอีกเหรอ!?
เขามองเวลาตีสองครึ่งที่แสดงอยู่บนหน้าจอโน้ตบุ๊ก ประหลาดใจไม่ถึงหนึ่งวินาทีก็รีบกระตุ้นตัวเองให้กลับมากระฉับกระเฉง
แม้แต่บอสก็ยังทำงานอย่างดุเดือด ฉันจะพักผ่อนได้อย่างไร! พูดดิบดีแล้วว่าจะกลายเป็นกองหนุนที่แข็งแกร่งของผู้จัดการทั่วไป ต้องพยายามให้มากๆ!
เหยาซุ่นอวี่ปลุกใจตัวเอง เช็ดผมลวกๆ แล้วรีบกลับไปหมกตัวกลางกองเอกสารต่อ
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว