Senior รุ่นพี่สีเทา 2-นั่นมัน!! พี่จูเลีย!!

โดย  ซีเทียร์ CTear

Senior รุ่นพี่สีเทา 2

นั่นมัน!! พี่จูเลีย!!

“ไม่รู้ไปมีเรื่องอะไรกับใครมา เราจะเดือดร้อนหรือเปล่าล่ะนี่” นางเกด หญิงหม้ายที่เลี้ยงลูกสาวมาโดยลำพังเอ่ยขึ้น สีหน้าไม่ค่อยสู้ดีนัก ตั้งแต่ช่วยเหลือพงศ์ขึ้นมาจากตลิ่งริมคลอง นางก็ไม่สบายใจอยู่เรื่อย เพราะกลัวตัวเองและบุตรสาวจะเดือดร้อน

“คุณพงศ์เป็นคนดีนะแม่ เคยช่วยชีวิตฉันเอาไว้ แม่น่ะคิดมากเกินไป เราช่วยเขาไว้เป็นการตอบแทนบุญคุณที่ตอนเด็กๆ เขาเคยช่วยฉันไว้นะแม่” แก้วพูดไปตามคิด

“นี่หลายวันแล้วยังไม่ฟื้นเลย ถ้าเขามาตายในบ้านเราล่ะจะทำยังไง แม่ได้ยินข่าวลือแปลกๆ ด้วยนะ เลยไม่กล้าบอกใครว่าเจอคุณพงศ์ และช่วยรักษาคุณเขาอยู่” นางเกดยังวิตกกังวล เธอไม่ปริปากพูดอะไรตามที่ลูกสาวขอร้อง เพราะเห็นว่าครั้งหนึ่งเคยมีบุญคุณต่อกัน ชาวบ้านธรรมดาเช่นเธอนั้น หาเช้ากินค่ำ ปลูกผักปลูกหญ้ากินเพื่อยังชีพ คงไม่มีปัญญาไปสู้รบปรบมือกับใครได้

“คุณพงศ์ไม่ตายง่ายๆ หรอกแม่ ดูสินี่ยังหายใจอยู่เลย”

“บ้านเราก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรนะ ฉันจะไปบอกคุณหญิงท่าน เอ็งก็ห้ามไว้ จริงๆ ให้เขามารับก็สิ้นๆ เรื่องกันไป”

“สมุนไพรที่แม่หามา เอามาพอกแผลไว้ก็ดีขึ้นนะแม่ ส่วนเรื่องไปบอกคุณหญิงจันทร์ ฉันจะหาทางไปเอง เห็นว่าเดี๋ยวนี้ใครเข้าออกบ้านคุณหญิงจันทร์จะเดือดร้อนกันไปหมด คุณชัยขู่เอาไว้”

“หัวคุณพงศ์ไปฟาดกับอะไรก็ไม่รู้ ไม่รู้จะฟื้นตอนไหน”

“เขาฟื้นเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นล่ะแม่” สองแม่ลูกพูดยังไม่ทันจบ ก็มีคนมาตะโกนโหวกเหวกอยู่หน้าบ้าน เกดกับแก้วมองหน้ากันเลิกลัก แก้วยกมือขึ้นจุ๊ปาก รีบปรามให้แม่สงบ อย่าทำท่าลุกลี้ลุกลนให้ใครจับได้ ถ้าทำตัวมีพิรุธ เดี๋ยวจะมีคนสงสัยเอา ดีหน่อยที่บ้านของเธออยู่ห่างไกลจากบ้านของคนอื่นๆ จึงไม่มีใครมายุ่มย่ามให้ต้องหวาดระแวงเอาได้

“มีใครอยู่บ้าง มีใครอยู่ไหม”

“ใครก็ไม่รู้มาเรียกอยู่หน้าบ้าน จะเอายังไงดีล่ะนังแก้ว” เกดถามลูกสาว

“เดี๋ยวฉันไปดูเองแม่ แม่ไม่ต้องกลัว ไม่มีใครทำอะไรเราหรอก ใครถามอะไรก็ไม่รู้ไม่เห็นไม่ทราบ แค่นี้ก็สิ้นเรื่อง” แก้วออกไปหน้าบ้าน เจอกับผู้ชายหลายคนท่าทีเหมือนหาคน

“พี่มาหาใครเหรอจ๊ะ” แก้วเอ่ยถาม เธอมองอย่างหวาดระแวง

“เห็นผู้ชายหน้าตาดี ขาวๆ สูงๆ ตัวสูงประมาณเท่านี้...” แล้วลูกน้องของชัยก็บรรยายลักษณะของพงศ์โดยละเอียด แก้วฟังก็เม้มปากเข้าหากัน เธอไม่ไว้วางใจคนพวกนี้ ดีหน่อยที่คนพวกนี้ไม่ได้รู้จักเด็กสาวชาวบ้านแบบเธอ และไม่รู้ด้วยว่าเธอรู้จักกับพงศ์มาก่อน

“ไม่เห็นจ้ะ”

“งั้นก็ไม่เป็นไร ถ้าเจอหรือเห็นให้รีบไปบอกพวกฉันเลยนะ” ลูกน้องของชัยเอ่ยบอก มองสำรวจบ้านของเด็กสาว ก็ไม่เห็นใคร

“อยู่กี่คนน่ะ”

“กับแม่จ้ะ”

“ไหนแม่เธอล่ะ”

“แม่ แม่จ้ะ” แก้วร้องเรียกมารดา เกดเดินออกมาจากบ้านก่อนจะทำท่าไอเหมือนไม่สบาย

“นี่ไงจ๊ะแม่ฉัน”

“อยู่กันสองคนเหรอ...” เมฆเอ่ยถาม เขาไม่ได้บอกชัยว่าตอนที่ลอบฆ่าพงศ์ อีกฝ่ายตกน้ำไปในความมืด และมีคนเข้ามาพอดี คงเป็นชาวบ้าน เขาเลยรีบหลบมาก่อน เขาจึงได้พาลูกน้องมาแอบตามหาพงศ์ในระหว่างนี้ ถ้าเจอจะได้ฆ่าเสียให้ตาย ไม่เป็นหนามยอกอกของเจ้านายอีก

“อยู่กันสองคนจ้ะ บ้านเรายากจน ฉันก็เจ็บออดๆ แอดๆ แค่กๆๆๆ” เกดเป็นคนตอบ ท่าทีไร้พิรุธ

“ขอเข้าไปดูข้างในหน่อยสิ”

“ข้างในไม่มีอะไรหรอกจ้ะ จะเข้าไปดูทำไม” แก้วรีบห้ามปราม

“ไม่มีอะไรแล้วจะห้ามทำไม” เมฆตาลุกวาว รู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล

“เอ่อ... ไม่มีอะไรจริงๆ นะจ๊ะ คนที่พวกพี่หาก็ไม่มีหรอก”

“หลีกไป!!!” เมฆผลักร่างเล็กของแก้วจนกระเด็น

“แก้ว” เกดเข้าไปประคองลูกเอาไว้ ทั้งสองตัวสั่นด้วยความกลัว หลบไปอีกมุมหนึ่งของบ้านทันทีเมื่อเห็นดาบคมวาวที่ดึงออกมาจ่ออยู่ที่ลำคอ

“มีปัญหาอีกไหม”

“ไม่มีจ้ะ” เกดรีบบอก แก้วมองสบตามารดา เกดเม้มปากเล็กน้อย แก้วผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความรู้สึกเคร่งเครียด

“เข้าไปค้นให้ทั่ว” เมฆสั่งลูกน้อง ทุกคนเข้าไปหาภายใน หาจนทั่วแต่ไม่พบอะไร แก้วทำหน้าฉงน ลอบมองสบตามารดา ท่านมองสบด้วยบอกให้เงียบปากเอาไว้ก่อน แก้วมีท่าทีโล่งอก ก่อนจะสะดุ้งเมื่อเมฆหันมาตาวาว

“นั่นอะไร” เมฆชี้ไปที่ยาสมุนไพรมากมายที่วางทิ้งเอาไว้

“ยาสมุนไพรจ้ะ ฉันพอมีความรู้อยู่บ้าง เลยเก็บมาไว้ที่บ้าน เผื่อฉันกับลูกไม่สบายก็จะได้เอามารักษาตัว”

“ทำไมมากมายนักล่ะ”

“ถ้าเจอสมุนไพรดีๆ ก็ต้องเก็บเอาไว้ เพราะจะหาก็ยาก ฉันเลยเอามาเก็บไว้เยอะๆ เผื่อเพื่อนบ้านคนไหนมาขอ จะได้แบ่งให้เขาไป ถือว่าได้บุญ”

“ก็แล้วไป”

“ไม่มีใครเลยครับพี่เมฆ” ลูกน้องของเมฆรายงาน สองแม่ลูกลอบผ่อนลมหายใจพร้อมกัน

“ถ้าเจอให้รีบบอก ถ้ารู้ว่าใครให้ที่ซ่อนไอ้พงศ์ มันผู้นั้นต้องตาย!!!” ดาบคมกริบที่จ่อมาที่คอ ทำให้สองแม่ลูกสะดุ้งสุดตัว มองอย่างหวาดระแวง

“เข้าใจไหม ห้ะ!”

“เข้าใจแล้วจ้ะ พวกเราอยู่กันแค่สองคนจริงๆ ไม่เคยพบเห็นหรือเจอคนที่ท่านตามหาเลย” เกดรีบบอกปากคอสั่น

“ก็ดี อย่าให้รู้ว่าซ่อนใครเอาไว้ ไม่งั้นตาย!!!”

“จ้ะๆๆ” เมฆข่มขู่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะออกไปจากบ้านหลังน้อยของสองแม่ลูก เกดผ่อนลมหายใจออกจากปาก หวาดกลัวและกังวลไปต่างๆ นาๆ

“แม่... คุณพงศ์ไปไหนซะล่ะ”

“อย่าเสียงดังไปสิ รอให้พวกนั้นไปให้หมดก่อน” เกดปิดปากลูกสาวเอาไว้แทบไม่ทัน แก้วรีบพยักหน้า หันไปมองคนของเมฆที่เดินออกไปเห็นหลังไวๆ ก็ยังอกสั่นขวัญแขวนไม่หาย

“ตามแม่มา” เกดเห็นว่าทุกคนไปหมดแล้วจริงๆ จึงพากันออกไปทางหลังบ้าน แก้วเห็นพงศ์นั่งพิงต้นไม้หอบหายใจเหงื่อแตกพลั่กอยู่ตรงนั้น ใบหน้าของเขายังซีดเซียวเหมือนคนป่วยทั่วไป

“คุณพงศ์” แก้วเรียกผู้มีพระคุณเมื่อวัยเด็กของเธอเอาไว้ พงศ์ปรือตามอง ยิ้มให้เด็กสาวที่เขาเคยช่วยชีวิตเอาไว้

“เข้าบ้านกันก่อน พวกมันไปหมดแล้ว” เกดกับแก้วรีบประคองพงศ์เข้าไปในบ้านอย่างทะลักทุเลเต็มกำลัง

“ฉันต้องกลับบ้าน” พงศ์พูดน้ำเสียงแหบแห้งเพราะรู้สึกอ่อนเพลีย

“คุณพงศ์คะ ตอนนี้คุณพงศ์ออกไปมีหวังโดนฆ่าตายแน่ๆ ดีนะที่พวกมันไม่รู้ว่าแก้วกับแม่รู้จักคุณพงศ์น่ะ” แล้วแก้วก็เล่าว่าตลอดระยะไม่กี่วันที่พงศ์สลบไป เกิดอะไรขึ้นบ้าง พงศ์ฟังแล้วให้นึกโกรธคนที่ใส่ร้ายเขาถึงขนาดนี้

“แก้วจะจัดการส่งข่าวให้คุณพดรู้เอง แต่ที่ยังไม่ส่งข่าวแต่แรกเพราะคุณยังไม่ฟื้น ตอนนี้คุณได้สติแล้ว แก้วเลยคิดว่าคงถึงเวลาแล้ว”

แก้วพูดแบบนั้นเพราะเธอไม่ไว้ใจใครทั้งนั้นนั่นเอง แม้แต่คนที่บ้านของพงศ์เพราะมีข่าวไม่ดีมาเรื่อยๆ ไม่รู้อันไหนจริง อันไหนเท็จ เกิดผลีผลามไปจะเสียการ

“ขอบใจมากนะ แม่เกดด้วย ถ้าไม่ได้ทั้งสอง ฉันคงต้องตายอย่างแน่แท้ มันตามมาทำร้ายฉันตอนไหนก็ไม่รู้ และวันนั้นแม่บัวไปหาฉัน ก็คงไม่เจอ”

“คุณนอนเถอะค่ะ ยังอ่อนเพลียอยู่ กินข้าวต้มกินยา รักษาเนื้อรักษาตัวให้หาย เดี๋ยวแก้วจะไปตามคุณพดให้มารับคุณ”

“คนของฉันล่ะ เชน พบเขาหรือเปล่า เขาโดนทำร้ายตกน้ำตกท่ามาพร้อมกับฉันเหมือนกัน”

“พวกเราไม่เห็นนะคะ เจอแต่ร่างคุณพงศ์เกยอยู่ที่ริมคลอง คืนนั้นฝนตกหนักมากค่ะ ร่างของพี่เชนอาจจะลอยไปติดที่ไหนสักแห่งก็ได้”

“โธ่... เชน” พงศ์ครางอย่างเศร้าใจ

“บางคนอาจจะมีคนช่วยพี่เชนเอาไว้เหมือนอย่างที่พวกเราช่วยคุณพงศ์ก็ได้นะคะ อย่าคิดมากเลยค่ะ แก้วจะออกไปข้างนอกเสียหน่อย จะได้ส่งข่าวให้คุณพดรู้”

รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว