Senior รุ่นพี่สีเทา 2-ผู้ชายคนนั้น

โดย  ซีเทียร์ CTear

Senior รุ่นพี่สีเทา 2

ผู้ชายคนนั้น


“ทำไมเขาขับแบบนั้น”

เสียงทุ้มนั้นทำให้เด็กน้อยหันมองตรงไปข้างหน้า


“นั่นน่ะสิคะ ส่ายไปส่ายมา

มันอันตราย ฉันว่าเรา...

จอดข้างทางก่อนดีกว่านะคะ”

คุณแม่เสนอความคิดเห็น


“ผมก็คิดแบบนั้น”

พ่อชะลอรถเพื่อที่จะจอด


“อะไรทำไมมันพุ่งมาทางนี้ละ!!”


“ที่รักคะ?”


“แอลเคลูก”


ในเสี้ยววินาที พวกเขาก็หันมากอด

ปกป้องสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต

ซึ่งสำคัญกว่าชีวิตของตัวเอง


“............”

เด็กชายที่อยู่ในอ้อมกอดของทั้งสองคน

มองเห็นรถที่ส่ายไปมา

และพุ่งตรงเข้ามาหาเขา


โครม!!


แรงกระแทกทำให้เขาหมดสติไปชั่วขณะ


เมื่อฟื้นขึ้นมาเขาก็รู้สึกได้

ถึงร่างที่เริ่มเย็นเฉียบของทั้งสอง

ที่ยังคงกอดปกป้องเขาไว้


“พ่อครับ แม่ครับ”

เขาพยายามเรียกทั้งสองด้วยความหวัง

ว่าทั้งสองจะตอบกลับมาเช่นเคย


“พ่อ แม่”

เสียงเด็กน้อยแหบพร่า


“............”

สักพักเขาก็เห็นเงาของคนเดินโซเซเข้ามาหา


“บ้าเอ้ย!!”

เสียงทุ้มแหบสบ

ก่อนจะชะโงกหน้ามองดูภายในรถ


“เป็นอะไรกันหรือเปล่าครับ?”

เขาถามเบา ๆ


“.............”

แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ


แอลเคที่มีสติเลือนราง

ก็ไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้อีกแล้ว


เขาไม่มีแรงพอที่จะขยับด้วยซ้ำ

เขาจึงได้แค่มองชายคนนั้น

ด้วยแววตาที่มีความหวัง


เขาต้องมาช่วยพวกเราแน่ ๆ

แอลเคคิด


ได้โปรดเถอะ!! ช่วยพวกเราด้วย

อย่างน้อยก็ช่วยเรียกรถพยาบาลให้ที

ในใจของเขาก็เฝ้าภาวนา


“ให้ตาย”

เขามองร่างของหญิงชายที่กอดเด็กน้อยเอาไว้

สภาพพวกเขาโชกไปด้วยเลือด


ดูเหมือนถุงลมกันชน

จะไม่ช่วยอะไรพวกเขา

เมื่อพวกเขาเอนตัวออกไปแบบนั้น


“คุณครับ”

เขาเรียกและโบกมือไปที่หน้าของทั้งสอง

และเลี่ยงที่จะไม่แตะต้องตัวของพวกเขา


“ดูเหมือนจะไม่รอด”

เขาพึมพำก่อนจะเอื้อมมือไปที่กล้องหน้ารถ

และแกะมันออกมา


ในขณะเดียวกัน

เขาก็ได้ยินเสียงคำรามเบา ๆ มาจากหลังรถ


“..........”

เขาจึงหันไปดู


และในเสี้ยวนาทีนั้น

ก็มีสัตว์ขนฟูกระโดดเข้ามางับมือของเขา


เขารีบสะบัดมือออก

แต่ก็ไม่เป็นผล เขาจึงดึงมือกลับ

เพื่อนให้สัตว์ตัวนั้นกระแทกกับเบาะรถ


มันปล่อยมือของเขาที่โชกเลือดให้เป็นอิสระ

แล้วลงไปนอนกองอยู่ที่พื้นรถ


“ไอ้หมาบ้านี่

ใกล้จะตายแล้วแท้ ๆ ยังจะมีแรงสู้อีก”

เขาสบถอย่างหัวเสียและกุมมือที่โดนกัดนั้นเอาไว้

และมองให้แน่ใจว่าเลือดของเขาไม่หยดลงไปบนรถ


แต่ถึงยังไงเขาก็ได้กล้องหน้ารถ

มาอยู่ในมือเรียบร้อยแล้ว


เขาจึงรีบเดินขึ้นรถและขับจากไป

โดยไม่สนใจว่าคนบนรถจะเป็นหรือตาย


“.............”

แอลเคที่มองเห็นการเคลื่อนไหวทั้งหมดแบบราง ๆ

ก็หมดสติลงอีกครั้ง


เมื่อรถฉุกเฉินมาถึง

มันก็ได้สายไปเสียแล้ว

หญิงชายที่อยู่บนรถได้จากไปนานพอสมควร

สัตว์เลี้ยงที่อยู่เบาะหลังก็ได้จากไปแล้วเช่นกัน


ส่วนเด็กน้อยที่อยู่ในอ้อมกอด

ของผู้เป็นพ่อแม่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส


แรงกระแทกและผลกระทบทางจิตใจ

ทำให้สมองของเขาได้รับความกระทบกระเทือน


ทำให้เขาสูญเสียความทรงจำระยะสั้น

รวมถึงในช่วงเวลาเกิดอุบัติเหตุ

และเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นบางเหตุการณ์


.......................


ณ ปัจจุบัน


ตอนนั้นคุณหมอบอกว่า

ความทรงจำพวกนั้นจะกลับมาเอง


แต่แค่ไม่รู้ว่าวันไหนหรือเมื่อไหร่

ฉันภาวนาไม่ให้เขาจำอะไรได้มาโดยตลอด


แต่ตอนนี้เขาจำมันได้แล้ว

และก็คงจะเจ็บปวดมาก


“ทุกอย่างมันผ่านไปแล้ว

ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วนะ”

ไอยูพูดปลอบ


“พี่ครับ ผมขอโทษ”

แอลเคกอดไอยูตอบ

แล้วซุกหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้น


“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไร”

ไอยูตบหลังแอลเคเบา ๆ

และพยายามทำตัวให้เข้มแข็ง


หลังจากที่แอลเคเริ่มสงบลง

ไอยูก็พาแอลเคไปนั่งที่โซฟาเช็ดน้ำตาให้เขา


“ไหนบอกพี่ว่าโตแล้วไง”

ไอยูพูดแล้วยิ้มบาง ๆ


“แล้วทำไมถึงได้ร้องงอแงเหมือนเด็กแบบนี้ละ?”

ไอยูพูดแหย่เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ

ให้แอลเคอารมณ์ดีขึ้น


“ถึงผมจะโตแล้ว

แต่หัวใจผมยังเด็กอยู่นะ”

แอลเคพูดก่อนจะเอนตัวนอนบนตัก

ของพี่สาวคนเดียวของเขา


“จ้า ๆ”

ไอยูยิ้มและลูบหัวแอลเค

ที่นอนบนตักของเธอเบา ๆ


เธอไม่รู้ว่าวันนั้นมันเกิดอะไรขึ้น

เธอแค่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ


เพราะทุกวันหลังเลิกเรียน

เธอจะเห็นรถคนเดิมมาจอดรอเธออยู่ที่เดิมเสมอ ๆ

แต่วันนี้มันกลับไม่มี


จนอาจารย์เดินมาหา

และแจ้งข่าวร้ายกับเธอ


เธอรู้สึกเหมือนมันไม่ใช่ความจริง

และกว่าที่เธอจะยอมรับความจริงได้

ว่าพ่อแม่ของเธอได้จากเธอไปแล้ว

เวลาก็ล่วงเลยไปเป็นเดือน ๆ


เธอสามารถก้าวต่อได้

เมื่อน้องชายของเธอลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

หลังจากเกิดอุบัติเหตุ 2 เดือน


เมื่อเธอรู้ว่าแอลเค

น้องชายคนเดียวของเธอที่เหลืออยู่

จำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้


ไอยูก็เลือกที่จะไม่พูดถึงมัน

และพยายามทำตัวให้เป็นปกติ


เธอเริ่มทำงาน

ถึงแม้ว่าเธอจะอายุยังน้อย

แต่ด้วยความช่วยเหลือของคุณป้าเซร่า

เธอก็สามารถช่วยงานเล็ก ๆ ได้


เนื่องจากเงินประกันที่พ่อแม่เธอทำไว้

มันมากพอที่จะเลี้ยงดูเธอและน้องได้จนถึงวัยทำงาน


จึงไม่มีปัญหาอะไรในการเรียนมากนัก

แค่เธอและน้องต้องเรียนตามคนอื่นให้ทัน

ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา


เธอหยุดเรียนยาวจนคุณป้าเซร่าเป็นห่วง

เธอหมกตัวอยู่แต่ที่โรงพยาบาล

เพื่อเฝ้าแอลเคตลอดเวลา

เธอแทบไม่มีสติเลยในช่วงนั้น


แต่หลังจากนั้นเธอและแอลเค

ก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ


คุณป้าเซร่าจึงโล่งใจขึ้นมาหน่อย

แต่ต้องเป็นห่วงอีกครั้ง

เมื่อหลานสาวของเธอเริ่มทำงานเยอะขึ้นเรื่อย ๆ


เธอทำตัวเหมือนเป็นผู้ใหญ่

ทั้ง ๆ ที่เธออายุแค่ 8 ขวบ


เธอทำให้คุณป้าเซร่าเป็นห่วงอยู่ไม่น้อย

เธอรู้ตัวดี


แต่ถ้าไม่ทำแบบนั้น

เธอก็จะคิดมาก


“พี่ไม่โทษผมเหรอ?”

แอลเคถามเบา ๆ ขณะหลับตา


“ไม่หรอก พี่จะโทษแอลเคทำไม

พี่ขอบคุณด้วยซ้ำ

ที่แอลเคยังอยู่กับพี่

ไม่ปล่อยให้พี่เหลือตัวคนเดียว”

ไอยูบอก


“ผมโชคดีจัง ที่ได้เกิดมาในครอบครัวนี้

และได้เกิดมามีพี่สาวที่แสนดีขนาดนี้”

แอลเคพึมพำเบา ๆ ก่อนจะผล็อยหลับไป


“พี่ก็รู้สึกว่าโชคดีเหมือนกัน”

ไอยูมองเด็กหนุ่มในตัก

ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน


หลังจากนั้นไอยูปล่อยให้แอลเคนอนต่อไป

ส่วนเธอก็มาทำอาหารต่อ

เมื่อทำเสร็จเธอก็ไม่ลืมที่จะแบ่งอาหาร

ไปให้คุณป้าเซร่าและเบลล์


เมื่อแอลเคตื่นขึ้นมาอีกครั้งเขาก็รู้สึกดีขึ้น

เหมือนความทุกข์และความเจ็บปวดของเขา

ถูกปัดเป่าออกไปด้วยอ้อมกอด

และคำปลอบโยนของพี่สาว


พี่สาวของเขายังคงสดใส

และทำให้ทุกคนที่อยู่รอบ ๆ ยิ้มตามได้


มันจึงทำให้เขาคิดว่า

เรื่องมันเกิดขึ้นตั้ง 10 ปี

แล้วตอนนี้เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าขาดอะไรไป

พี่สาวของเขาทำหน้าที่ได้ดีเกินกว่าที่เขาจะรู้สึกขาด

และเขาจะไม่ทำตัวเป็นภาระให้พี่สาวของเขาแน่นอน


เขาเคยคิดว่าถ้าเขาตายไปพร้อมกับพ่อกับแม่

ตั้งแต่ตอนนั้นก็คงจะดี


แต่เมื่อคิดอีกที ถ้าเป็นแบบนั้น

เขาก็ต้องทิ้งให้หญิงสาวตรงหน้า

ให้ต้องอยู่คนเดียวบนโลกอันแสนโดดเดี่ยวนี้


ซึ่งมันเป็นเรื่องที่เขานึกภาพไม่ออกเลย

ว่าพี่สาวของเขาจะมีชีวิตต่อยังไง


“แบบนี้ดีแล้ว”

แอลเคยิ้มออกมา


และรู้สึกขอบคุณพ่อกับแม่ที่ทำให้เขามีชีวิตต่อ

พวกเขาคงหวังให้พวกเราดูแลกันและกันและมีชีวิตที่ดี


..........................


หลังจากนั้น สัปดาห์ที่ 10


แอลเคก็โทรคุยกับไอยูอยู่ตลอด ๆ

คอยถามคอยห่วงใย


มันจึงทำให้ไอยูรู้สึกดีขึ้น

แม้ว่าเธอจะเพิ่งเลิกกับไบร์ท


และตอนนี้เธอก็ไม่ได้หลบหน้า

หรือโกรธไบร์ทอีกต่อไปแล้ว


เธอกลับมายิ้มแย้ม

และตั้งใจเรียนเหมือนเดิม


“อารมณ์ดีอะไรขนาดนั้น?”


รีวิวจากผู้อ่าน

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว