The Oger Power สาวน้อยพลังยักษ์-ตอนที่ 41 ร่วมมือ

โดย  KwangLover

The Oger Power สาวน้อยพลังยักษ์

ตอนที่ 41 ร่วมมือ

ลาสวินฝืนเค้นพลังใช้สกิลลมสีดำกระแทกฮีลเลอร์ กับ เอลด้าขึ้นไปบนฟ้า


ส่วนตัวเธอก็ระเบิดลมสีดำดีดตัวออกไปด้านข้างได้ทันแบบเฉียดฉิว


แต่ตอนที่กุ้งแดงเดือดผ่านตัวเธอไป มันกลับตวัดฟางฟาดใส่ลาสวินปลิวไปกระแทกกับกลุ่มนักผจญภัยจนบาดเจ็บกันระนาว


ลาสวินส่ายหน้าเรียกสติแล้วสร้างลมดำขึ้นไปรับฮีลเลอร์ไว้ เพื่อให้ตกช้าลง แต่พอถึงตาของเอลด้าลมดำกับไม่ออกมา


เพราะพลังเวทย์เธอหมดแล้ว


ลาสวินจึงต้องรีบวิ่งทั้งที่ยังบาดเจ็บไปยังจุดที่เอลด้าตกลงมา


ในไม่กี่วินาทีก่อนหัวจะกระแทกพื้น ลาสวินก็เข้าโผกอดเอลด้าไว้แน่นแล้วพลิกตัวใช้หลังตัวเองลงกระแทกกับพื้นแทน


“อั่ก! แฮ่ก ๆ ๆ ทัน... พอดี...”


ลาสวินทั้งเจ็บและเหนื่อยจนแทบอยากจะหลับมันซะตรงนี้ แต่ก็ต้องแข็งใจลุกขึ้น เพราะมอนสเตอร์ลูกน้องของบอสกุ้งแดงเดือด กำลังแห่ตามนายของมันออกมาจากดันเจี้ยน


*****


เมื่อไม่มีใครขวางมันก็พุ่งซิกแซกหลบพวกตัวอันตรายที่สามารถฆ่าหรือหยุดมันได้ จนไปถึงแนวหลังสุดของนักผจญภัยได้สำเร็จ


โดยเส้นทางที่มันผ่านมีแต่ซากศพกับเลือดเป็นทางยาว มีนักผจญภัยเสียชีวิตเกือบหลักพัน


ทุกคนยังไม่ทันได้ตั้งสติดี กุ้งแดงเดือดก็เปิดเกราะหลังของมันออกแล้วยิงกุ้งหนามขึ้นไปบนฟ้ากว่า 50 ตัวแล้วปิดเกราะทันที


พวกกุ้งหนามที่ถูกยิงขึ้นไปทันทีที่ลืมตา มันก็ยิงหนามไปทั่วสนามรบ แนวหลังที่มีแต่คนงาน คนบาดเจ็บ หมอ ฮีลเลอร์และซัพพอทที่ไม่ถนัดการต่อสู้ ติดอัมพาตกันคนแล้วคนเล่า


หลังยิงหนามเสร็จพวกกุ้งหนามที่ตกลงมาถึงพื้นก็เริ่มดีดตัวกระจายออกไปทุกทิศทาง


คนติดพิษอัมพาตจึงเริ่มมีจำนวนมากเกินกว่าที่ฮีลเลอร์หรือยาถอนพิษจะรับมือได้ทัน


การซัพพอตจากแนวหลังไม่ว่าจะเป็น เสบียง ยารักษา อาวุธ ข้อมูล กำลังคน จึงหยุดชะงักทันที เดือดร้อนฮีลเลอร์กับนักผจญภัยสายซัพจากกลางทัพต้องถอยร่นมาช่วยอย่างเร่งด่วน


*****


เพราะพื้นที่ไม่มีน้ำ กุ้งแดงเดือดจึงไม่สามารถพุ่งตัวได้อีก มันไม่เลือกที่จะกลับเข้าเขตน้ำขัง แต่เลือกที่จะเดินเข้าเขตเมืองชั้นนอก


ระหว่างทางมันใช้สองมือที่แหลมเหมือนหอกเล่มยักษ์ทิ่มแทงฆ่าทุกสิ่งและทำลายทุกอย่างที่ขวางเส้นทางมัน พลางปล่อยกุ้งหนามออกมาเป็นระยะ


โชคดีที่ชาวบ้านอพยพไปหมดแล้ว จึงมีแต่บ้านเรือนที่เสียหาย


อัศวินที่คุมกำแพงเมืองชั้นใน จึงรีบสั่งเปิดประตูเมืองแล้วส่งทหารจากเมืองชั้นในไปกำจัดมัน


*****


นักผจญภัยบางส่วนได้รับคำสั่งให้ถอยกลับไปจัดการกุ้งแดงเดือดก็ต้องหยุดชะงักเพราะพื้นดินสั่นสะเทือนไม่หยุด


เมื่อมองไปข้างหน้าก็เห็นฝูงปูตัวเท่าบ้านจำนวนมหาศาลวิ่งเข้ากรูกันเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง


พวกมันคือลูกน้องของกุ้งแดงเดือดในชั้น 10


เส้นทางที่พวกฝูงปูวิ่งผ่านต่างราบเป็นหน้ากลอง


นักผจญภัยต่างมองหัวหน้ากิลตัวเองว่าจะเอายังไงดี


แนวหลังก็ต้องไปช่วย แนวหน้าก็ต้องสู้


“ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น!!!”


เสียงคำรามดังลั่นจนทุกคนได้สติ


“ตั้งกำแพงโล่ซะ!!! ฆ่าพวกมันให้หมด!!! แนวหลังข้าจัดการเอง!!!”


ทุกคนจึงตะโกนขานรับคำสั่งของไจเกียทันที


ส่วนไจเกียอุ้มเรเชลแล้ววิ่งไปถึงแนวหลังด้วยความเร็วเดียวกับกุ้งแดงเดือด


เมื่อถึงแนวหลัง ไจเกียใช้มือปิดหูให้เรเชลแล้วใช้สกิลคำรามออกมา ทั้งกุ้งหนามและนักผจญภัยที่โดนสกิลคำรามเข้าไปต่างหวาดกลัวจนช็อกหมดสติล้มลงไปตามๆ กัน


ส่วนพวกที่ทนไหวบางคนยังกลัวจนฉี่ราด


มีโรจาคนนึงที่แกล้งหมดสติ


ไจเกียอุ้มเรเชลอีกครั้งแล้วกระโดดไปขวางทัพทหารที่อัศวินเมืองชั้นนอกส่งมาปราบกุ้งแดงเดือด พร้อมกับชี้ไปที่แนวหลังของนักผจญภัย


“ไปช่วยแนวหลังซะ!!! บอสตัวนี้ข้าจัดการเอง!!!”


สั่งเสร็จเธอก็ให้เรเชลเกาะหลังแล้วทำการเปลี่ยนร่างแขนกับขาของตัวเองเป็นของเสือโคร่งขนาดใหญ่แล้วไล่ตามกุ้งแดงเดือดไป


*****


แนวหน้าสลัม ฝั่งทหาร


กว่าจะจัดการพวกมอนสเตอร์หมดและควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ทหารก็เสียชีวิตไปแล้วเกินครึ่งหมื่น ไม่มีปลาดาวเหลือรอดแล้วบนกำแพง


มีคำสั่งให้ถอยทัพให้พ้นเขตน้ำขังและทำการเคลียร์ขยะปล่อยให้น้ำไหลไปที่คลอง แต่ก็เกิดปัญหาน้ำระบายช้าเพราะคลองตันจากขยะสะสม จนปล่อยปัญหานี้ทิ้งไปก่อน


มีคำสั่งให้นักเวทย์ทั้งหมดที่มีขึ้นไปบนกำแพงเพื่อยิงถล่มใส่มอนสเตอร์ปู ก่อนขอกำลังเสริมมาเติมแนวหน้าเพิ่ม


อัศวินในเต็นท์บัญชาการเกิดความเครียดหนักจากคำสั่งที่ผิดพลาด


เขาตัดสินใจส่งต่ออำนาจบัญชาการให้อัศวินคนอื่น แล้วหยิบดาบเดินเข้าแนวหน้าให้มอนสเตอร์ฆ่าตายในสนามรบ เพื่อไม่ให้ครอบครัวถูกสั่งประหาร


*****


บนกำแพงเมืองทั้งสองฝั่ง


ลูกธนูไม่สามารถทำอะไรพวกปูได้แม้แต่น้อย


เดิมทีกระดองของมันก็หนามากอยู่แล้ว ยิ่งตอนนี้มีเพรียงเกาะอยู่เต็มไปหมด ทำให้การป้องกันมันแข็งแกร่งจนลูกธนูกระเด้งออกทุกครั้งที่ยิงลงไป


แม้จะเปลี่ยนรูปแบบเป็นราดน้ำมันแล้วยิงธนูไฟ แต่เพรียงบนพลังก็ปล่อยน้ำออกมาดับจนแผนพังในพริบตา


ธนูหัวระเบิดอยู่ระหว่างการขนส่ง แต่จากการคาดการณ์น่าจะสิ้นเปลืองมากกว่าจะทำลายเพรียงและเจาะเปลือกเข้าไป จึงไม่ให้ใช้


พวกเขาจึงต้องให้นักเวทย์ทั้งหมดระดมยิงเวทย์ลงพื้นเพื่อสร้างแรงระเบิดใส่ใต้ท้องมันและก็ได้ผล


แต่ด้วยจำนวนที่มากมายมหาศาล ทำให้ดูเหมือนพวกมันไม่ลดลงเลยสักตัว


นักเวทย์จึงเริ่มหมดพลังไปทีละคน


*****


รองหัวหน้ากิล [เวทย์กังวาน] ใช้พลังเวทย์ทั้งหมดสร้างเสาเถาวัลย์ขึ้นมาจากกำแพงฝั่งนึงไปถึงอีกฝั่งนึง โดยสร้างทั้งหมด 30 แถว แต่ละแถววางตำแหน่งแบบสลับฟันปลา


เสาเถาวัลย์แต่ละต้นมีความสูงครึ่งนึงของกำแพงเมือง


“ชั้นต้อง... พักแล้ว...”


รองหัวหน้ากิลเอนหลังให้ลูกน้องช่วยประคองด้วยความอ่อนเพลียจนรู้สึกง่วง


*****


เมื่อเข้าระยะโจมตี เสาเถาวัลย์แถวหน้าสุดก็ทิ้งตัวลงฟาดอย่างรุนแรง พวกปูถึงกับเละเป็นซากติดพื้นในการฟาดเพียงครั้งเดียว


เมื่อเสาแถวแรกที่ฟาดลงไปกำลังยกตัวขึ้น แถวสองก็จะฟาดลงมา


เสียงทุบพื้นหนักๆ พร้อมกับเหล่าปูที่โดนบี้เละดังขึ้นเป็นจังหวะ เรียกเสียงโห่ร้องดีใจจากทหารบนกำแพงกับนักผจญภัย


ถึงจะโจมตีได้หนักและสลับกันโจมตี แต่พวกปูที่วิ่งใส่ไม่หยุดก็เข้าถึงแถวเสาเถาวัลย์ต้นแรกได้ พวกมันใช้ส่วนแหลมของก้ามฟันเฉือนไม่ก็ทิ่มแทงใส่เสาเถาวัลย์ตัวละครั้งสองครั้งแล้ววิ่งต่อไปข้างหน้าไม่หยุด


ถึงจะโดนเสาเถาวัลย์แถวหลังฟาดตายจนไม่มีตัวไหนหลุดไปได้


แต่ไม่นานเสาเถาวัลย์แถวแรกก็พังครืนหลังจากโดนตอดฐานไม่หยุดจนขาด


แต่ฝั่งมนุษย์ก็ยังยิ้มออกเพราะเสาเถาวัลย์ยังเหลือตั้ง 20 กว่าแถว พวกปูฝ่ามาไม่ได้แน่ๆ


หลังปูตัวสุดท้ายออกจากดันเจี้ยนพวกเขาก็เตรียมเฮ แต่แล้วมอนสเตอร์ชั้น 11 ก็ออกตามมาติดๆ


พวกมันเป็นเต่าที่ตัวใหญ่กว่าปูหลายเท่า แถมยังวิ่งเร็วเหมือนกับแรด


พวกมันวิ่งจนได้ระยะที่เร็วที่สุดแล้วกระโดดขึ้นไปบนอากาศพร้อมกับหุบแขนขาและหัวเข้ากระดอง


และก่อนที่ร่างมันจะตกถึงพื้น มันก็ถีบแขนขาใส่พื้นอย่างรุนแรงแล้วเก็บแขนขากลับเข้ากระดองอีกครั้ง


แรงกระแทกมหาศาลส่งพวกมันลอยข้ามเสาเถาวัลย์ได้อย่างง่ายดาย จนทุกคนอ้าปากค้างและตะโกนคล้ายๆ กันว่า


“บ้าไปแล้วววววววววว!”


นักผจญภัย [แรงค์ A] ที่เหลือ นอกจากเลร่าที่เสียชีวิต ไจเกียไปแนวหลัง ลาสวินหมดพลังสู้ต่อ รองหัวหน้ากิล [เวทย์กังวาน] พักฟื้นพลัง รวม 3 คนต่างขึ้นหน้าไปโจมตี


โวแคน จูเจอร์ นักผจญภัย [แรงค์ A] อาชีพ จอมเวทย์ เจ้าของฉายา ทำลายล้าง หัวหน้ากิล [ดวงดาว]


เป็นคนเปิดฉากโจมตีด้วยสกิลฝนดาวตก เป็นท่าวงกว้างที่สร้างก้อนหินติดไฟขนาดเท่ารถยนต์ยิงถล่มพวกเต่าจนเละไม่เหลือซาก


ในความจริงเขาสามารถยิงถล่มสร้างความเสียหายแบบสุ่มไปทั้งสนามรบหรือสร้างลูกใหญ่กวาดทิ้งทั้งสลัมก็ยังได้


แต่เพราะพวกมอนสเตอร์ยังออกมาไม่หมด เขาจึงอยากเก็บเสาเถาวัลย์เอาไว้ชะลอพวกมอนสเตอร์หลังจากนี้ จะได้มีเวลาพักฟื้นพลังไปในตัว


ฝนดาวตกทำให้พื้นเป็นหลุมขนาดใหญ่นับไม่ถ้วนและสูบน้ำขังลงไปในหลุม ทำให้พื้นที่ได้เปรียบของพวกมันลดลง


ฝั่งทหารที่ตอนนี้ถอยร่นจนอยู่แนวเดียวกับนักผจญภัยและ เลือกที่จะเดินทัพไปพร้อมกันกับฝั่งนักผจญภัย


ทุกคนต่างฮึกเหิมและดีใจที่โวแคนอยู่ฝั่งเดียวกัน หากเป็นศัตรูคงน่ากลัวมาก


ไม่นานฝนดาวตกที่ถล่มใส่อย่างต่อเนื่องจนฆ่าพวกเต่าได้เกินครึ่งก็หยุดไป เพราะโวแคนพลังใกล้หมด ลูกกิลจึงพากลับกิลตัวเองไปพักฟื้นพลัง


พวกเต่าที่เหลือจึงลอยตัวข้ามมาได้ เมื่อตกกระแทกพื้นแทนที่มันจะหยุด พวกมันกลับกลิ้งไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง


[แรงค์ A] สองคนที่เหลือจึงตกลงคุ้มกัน กันคนละฝั่ง


ฝั่งทหารมี ทีนอย นักผจญภัย [แรงค์ A] เจ้าของฉายา ไร้ระยะ หัวหน้ากิล [บวก]


ทีนอยกำมีดเล่มเล็กจิ๋วเท่าเล็บออกมาจากกระเป๋าเต็มกำมือแล้วปาออกไป โดยให้นักเวทย์ธาตุลมลูกกิลของตัวเองใช้เวทย์ลมพัดมันกระจายออกไปปักดักหน้าพวกมัน


เมื่อเขาเปิดใช้สกิล มีดเล่มเล็กก็ปกคลุมด้วยออร่าพลังเวทย์สีเหลืองอร่าม ก่อนจะขยายขนาดใหญ่ขึ้นเท่าตัวเต่าในพริบตา


เต่าที่กลิ้งชนล้วนตัวขาดเป็นสองซีก


ส่วนเต่าที่หลบหลีกรอดมาได้ ทีนอยก็ใช้พลังกับดาบของตัวเองยืดความยาวของตัวดาบออกไปหลายกิโลเมตร


เมื่อฟันออกไป มันก็ตัดทุกสิ่งที่ระยะดาบไปถึงขาดในพริบตา แม้แต่กระดองแข็งที่นักเวทย์ระดับกลางบางคนยังทำความเสียหายไม่ได้ก็ขาดราวกับหั่นเนย


ส่วนฝั่งนักผจญภัยมี มิวมิน นักผจญภัย [แรงค์ A] เจ้าของฉายา อสูรก้มกราบ หัวหน้ากิล [ผู้พิชิต]


เธอเปิดใช้สกิลแล้วยกมือขึ้นทำท่าหยุด เต่าทุกตัวที่กลิ้งเข้ามาอย่างน่ากลัวจนฝุ่นตลบ ต่างชนเข้ากับกำแพงล่องหนอย่างรุนแรงจนกระดองถึงกับแตกร้าว


พวกมันยังไม่ทันตั้งตัว เพื่อนที่กลิ้งตามมาทีหลังก็ชนอัดพวกมันเข้ากับกำแพง


หลังโดนชนทับกันเป็นทอดๆ ตัวหน้าสุดก็ถูกอัดเละเป็นซาก


เธอยืนหาวปล่อยพวกมันฆ่ากันเองสักพักถึงหยุดสกิลเพราะซากศพที่ทับถมกันเยอะจะกลายเป็นเบาะให้พวกตัวหลัง


เธอจึงรอให้พวกมันชนซากเพื่อนออกมา แล้วเปิดใช้งานใหม่อีกครั้ง


ส่วนสาเหตุที่มิวมินไม่ได้ใช้สกิลหยุดกุ้งแดงเดือด เธออ้างกับทุกคนว่าตอบสนองไม่ทัน


ส่วนความเป็นจริงเพราะกิลเธอเป็นพันธมิตรกับกิลไจเกีย ไจเกียได้ฝากคนส่งข้อความมาแล้วว่าไม่ต้องจัดการบอสตัวนั้น


มิวมินเลยปล่อยผ่านแลกกับค่าตอบแทนเป็นดันเจี้ยนฟาร์ม 10 แห่งของไจเกีย


*****


ใช้เวลาไม่นานไจเกียก็กระโดดขึ้นเหยียบหลังกุ้งแดงเดือด


มันพยายามจะสะบัดเธอออก แต่ไจเกียใช้กรงเล็บเจาะเข้าไปในเปลือกแล้วงัดเปิดมันออกมาได้อย่างง่ายดาย


กุ้งแดงเดือดกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด มันเร่งการผลิตกุ้งหนามเพื่อยิงใส่ไจเกีย


ส่วนไจเกียแค่ง้างหมัดต่อยลงไปกลางหลัง แค่หมัดเดียวอวัยวะภายในทั้งหมดก็เละเป็นของเหลวแล้วไหลทะลักออกมาตามช่องว่างของร่างกาย


กุ้งแดงเดือดจึงตายในการโจมตีเดียว


หลังให้เรเชลใช้เวทย์ทำความสะอาดด้านใน ไจเกียก็ให้เรเชลเข้าไปซ่อนแล้วปิดเปลือกอีกครั้ง ก่อนกระโดดกลับไปแนวหน้า


ระหว่างทางไจเกียแจ้งกับทหารว่าเธอบาดเจ็บสาหัสอาจจะไม่รอดชีวิต เลยทิ้งเธอไว้ในตัวกุ้งแดงเดือดเพื่อไม่ให้เป็นภาระ


เพื่อไม่ให้เรเชลโดนโทษขัดกฎอัยการศึก


เรเชลรู้ว่าไจเกียทำแบบนี้เพื่อปกป้องเธอ


ไจเกียน่าจะคาดการณ์แล้วว่าในสนามรบอันตรายเกินไป ประจวบกับบอสมอนสเตอร์โผล่ออกมา


เธอจึงเลือกปล่อยให้มันผ่านไป ทั้งที่สามารถเข้าไปฆ่ามันทิ้งก่อนถึงแนวหน้านักผจญภัยได้ด้วยซ้ำ


ส่วน [แรงค์ A] คนอื่นการโจมตีกว้างเกินไปจึงได้แต่ปล่อยผ่าน


มี [แรงค์ A] คนนึงที่หยุดได้แน่ๆ แต่ไจเกียก็ให้คนส่งข้อความไปบอกไม่ให้ทำพร้อมกับยกบางอย่างที่ทำให้มิวมินยอมตกลง


ส่วนทำไมถึงพาเรเชลมาอยู่ในตัวมอนสเตอร์ เพราะมอนสเตอร์จะไม่ยุ่งกับซากพวกเดียวกันเอง


หากหยุดยั้งมอนสเตอร์ไว้ไม่ได้ เรเชลที่อยู่ในซากบอสมอนสเตอร์ก็จะปลอดภัยที่สุด


และมีอีกเรื่องที่ทำให้เรเชลโกรธแค้นไจเกียมาก


ไจเกียรู้นานแล้วว่าน้องสาวคาลิก้าโดนคนของกิล [หมีคลั่ง] จับไปทรมานจากคนที่มาส่งข่าวคนนึง


แต่ไจเกียก็ไม่คิดเข้าไปช่วยแม้แต่น้อยเพราะจงใจปล่อยให้เด็กคนนั้นตาย


เรเชลรู้ดีว่า มันเป็นแผนซื้อใจคาลิก้า


หากถูกคนฆ่า ไจเกียจะทำเป็นอาสาไปลากตัวคนทำมาให้คาลิก้าตัดสินลงโทษ


หากถูกมอนสเตอร์ฆ่าไจเกียก็จะไปล่าพวกมันมากองตรงหน้าเธอหรือพาเธอไปฆ่าพวกมันเองกับมือ


จนคาลิก้าพอใจและจมอยู่ความเศร้า ไจเกียก็จะเข้าไปปลอบ ก่อนชักชวนให้เข้ามาอยู่ในกิล


โดยใช้จุดอ่อนเรื่องพี่สาว บอกคาลิก้าไปว่าพอมีทางหาอีลิกเซอร์มาให้ได้


แค่นี้คาลิก้าก็กลายเป็นของเล่นรอวันพังโดยไม่มีโอกาสเห็นพี่สาวฟื้นขึ้นมาได้อีกเลย


พอเรเชลจะทำท่าขอร้องให้ไปช่วย ไจเกียก็ส่งสายข่มขู่ทันที


การข่มขู่ที่บอกเป็นนัยว่าหากยังขอร้องอีก ไจเกียจะลงมือฆ่าเด็กคนนั้นอย่างโหดเหี้ยมแล้วค่อยหาแพะมารับแทน


เรเชลจึงได้แต่ร้องไห้สมเพชในความอ่อนแอของตัวเองที่ไม่มีความกล้าต่อต้านหรือหนีไปจากไจเกีย

รีวิวจากผู้อ่าน
ยังไม่มีรีวิวสำหรับเรื่องนี้

กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว