ทูเก้ หัวหน้าหน่วยทีมปิดฉากดันเจี้ยน สังกัดทีมรอง
หลังข้าตอบคำถามจบ คุณมาจอก้าก็ตาเหลือก น้ำลายฟูมปากแล้วหมดสติไปเลย
ข้าคว้าตัวไว้ได้ทันก่อนที่คุณมาจอก้าจะล้มหัวกระแทกพื้น
มาจอก้านั้นไม่รู้ว่าข้าไม่ได้เล่าทุกอย่างให้ฟัง
ในความเป็นจริง ข้าเบื่อหน่ายกับตำแหน่งที่ทำอยู่ เพราะไม่มีโอกาสได้แสดงฝีมือให้ท่านไจเกียเห็น โอกาสก้าวหน้าในกิลจึงน้อย
ทั้งที่ไม่ควรเสียเวลามานั่งทำหน้าที่เก็บกวาดในทีมรองแถมยังเป็นสาขาย่อยของเมืองชั้นนอกแบบนี้แท้ๆ
ผ่านไปหลายชั่วโมงศพของนังนั่นก็ดูดไปหมดแล้ว แต่มีดเนี่ยสิไม่รู้ทำไมมันดูดได้ช้านัก
ข้ากับทีมรออยู่อีกหลายชั่วโมง แต่มันก็ยังดูดได้แค่ครึ่งเดียว
ข้าเลยอดทนไม่ไหว กำหมัดทุบลงไปเพื่อเร่งให้ดันเจี้ยนกลัวตายจะได้รีบดูดให้เร็วขึ้น
ใครจะไปคาดคิดว่า มันจะทนไม่ไหวแตกสลายไปซะดื้อๆ
ในเมื่อแกนพัง มอนสเตอร์ก็ไม่มีทางสร้างออกมาได้อีก ข้ากับทีมจึงตัดสินใจเดินทางกลับ
ค่อยไปแก้ตัวว่าทุบแรงเกินไป เลยไม่มีซากมอนสเตอร์ตัวสุดท้ายมาส่ง
ส่วนมีดนั่นคงไม่มีค่าอะไรเพราะใช้แทงเด็กไร้ค่าแบบนั้น เลยไม่เก็บกลับมาด้วย
ทุกคนเลยรีบกลับกิลอย่างที่มาจอก้าเห็น
*****
เหตุการณ์ที่ไม่มีใครล่วงรู้ ของแกนดันเจี้ยนเกิดใหม่
ในเวลานั้นตัวมันรับรู้ได้ว่ากำลังจะตาย มันจึงเร่งกระบวนการดูดซึมทุกสิ่งที่ไร้ชีวิตในอาณาเขตทั้ง 10 ชั้นของมัน
เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังสำหรับใช้สร้างมอนสเตอร์ออกมาปกป้อง
และมันก็ดีใจที่ในเวลานั้นมีคนโยนศพเละๆ ลงมาให้มันดูดกลืน ศพแบบนี้ดูดง่ายกว่าตัวเป็นๆ ที่ต้องใช้เวลาค่อยๆ ย่อยสลาย
มันใช้เวลาไม่นานก็เปลี่ยนศพเป็นพลังงานได้ในทันที ขณะที่มันจะสร้างมอนสเตอร์ตัวใหม่ออกมา
มันก็พบกับขุมพลังอันแสนยิ่งใหญ่เกินกว่าที่มันจะจินตนาการได้
นี่ไม่ใช่มอนสเตอร์ที่แม้แต่ดันเจี้ยนระดับสูงก็สร้างได้ง่ายๆ
มันคือมอนสเตอร์ที่หลุดจากการควบคุมของดันเจี้ยน
มันกลายพันธุ์และวิวัฒนาการไปจนถึงปลายทาง
สิ่งนั้นคือเขี้ยวของอสูรที่ถูกเรียกว่า [ราชาโอเกอร์]
ผู้ถูกเรียกขานในหลายชื่อ อย่าง อสูรแห่งความพินาศ ภัยพิบัติเดินดิน ราชาแห่งการทำลายล้าง เป็นต้น
แกนดันเจี้ยนปลื้มปิติยิ่งกว่าอะไรดี ถึงแม้ [ราชาโอเกอร์] ตนนี้จะพึ่งเป็นราชาก็ถูกกำจัดทิ้งในทันทีก็ตาม เมื่อวัดจากพลัง
แต่แค่นี้ก็เพียงพอให้มันสร้างบอสสุดแกร่งหรือมอนสเตอร์จำนวนหลายพันออกมาได้แล้ว
และมันก็เลือกแล้ว เลือกที่จะสร้างบอสสุดแกร่งออกมาปกป้องมัน
ศพของพวกที่กำลังจะฆ่ามันจะกลายเป็นพลังใช้สร้างมอนสเตอร์ลูกน้องของบอสตัวนี้อีกที
มันจะไม่ตาย มันจะขยายชั้นและกลืนกินทุกสิ่งให้จงได้
ตอนนี้เหลือแค่ตัวมีดอีกครึ่งเล่มเท่านั้น ทุกสิ่งก็จะเป็นไปตามที่มันต้องการ
นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่มันคิด ก่อนจะสลายกลายเป็นฝุ่นหายไป
*****
ดันเจี้ยนที่ตายแล้ว ชั้นที่ 10
เมื่อไร้แกนดันเจี้ยนคอยเติมพลัง ทุกชั้นจึงมืดมิดไร้ซึ่งแสงสว่างใดๆ
ดันเจี้ยนนี้จึงนับถอยหลังรอวันดับสูญ
แต่เพราะมีความปรารถนาอันแรงกล้าของสองสิ่ง
ความปรารถนาที่จะสร้างบอสของแกนดันเจี้ยน
และความปรารถนาที่อยากรอดชีวิตของคาลิก้า
ความปรารถนานี้ไม่ควรเกิดขึ้นได้จริง แต่เพราะพลังมหาศาลที่อยู่ในเขี้ยวของ [ราชาโอเกอร์] ดึงดูดเข้าหากัน
มีดครึ่งเล่มที่เหลืออยู่ในดันเจี้ยน เรียกหาพลังอีกครึ่งที่อยู่ในความว่างเปล่ากลับมาผสานกัน
มันจึงลากเอาความปรารถนากลับมาด้วย
ใบมีดครึ่งเล่มแตกกระจายเป็นฝุ่นผง มันส่องแสงระยิบระยับสวยงาม ก่อนจะถูกดูดเข้าหากันตรงกลาง
พลังของสองฝั่งบรรจบกันและทำให้ความปรารถนาเป็นจริง
ท่ามกลางความว่างเปล่าเกิดจุดแสงจ้าจนสว่างไปทั้งชั้น
ตรงกลางจุดแสงมีร่างใหม่กำลังถูกสร้างขึ้นอย่างประณีตบรรจง
จนเมื่อแสงจางหาย คงเหลือเพียงร่างเปลือยเปล่าของหญิงสาวคนหนึ่งนอนหลับไม่ได้สติอยู่บนพื้นดิน
*****
ไจเกีย หัวหน้ากิล [เขี้ยวประกายแสง]
เรเชลมาแจ้งว่าบอกมาจอก้าแล้ว แต่นี่มันผ่านมาเกือบชั่วโมงแล้ว ทำไมยังไม่มาอีก
ระหว่างที่รอเพราะไม่มีอะไรทำ ข้าก็นึกถึงความหลังเมื่อสิบปีก่อน ตอนที่ได้เขี้ยวนั่นมา
เขี้ยวนั่นข้าเป็นคนหักเองกับมือ ตอนร่วมมือกับกิล [แรงค์ S] และ [แรงค์ A] จากหลายอาณาจักรกำจัด [ราชาโอเกอร์]
เป็นการต่อสู้ที่สาหัสมาก มีกิลถูกทำลายไปนับไม่ถ้วน ส่วนนักผจญภัย [แรงค์ A] และต่ำกว่า ตายกันเป็นใบไม้ร่วง ซึ่งข้าเกือบเป็นหนึ่งในนั้น
แม้แต่ [แรงค์ S] บางคนยังโดนมันเล่นจนปางตาย ถึงกับต้องถอนตัวจากการเป็นนักผจญภัย รวมถึงหัวหน้ากิลเก่าของข้าด้วย
หลังจากเค้ายุบกิล ข้าจึงออกมาตั้งกิลเองในภายหลัง
พวกข้าใช้เวลากันเป็นอาทิตย์ผลัดกันรุมไม่ให้มันพักหยุด มันถึงเริ่มอ่อนแรงลง
คงเป็นโชคของพวกข้าที่มันพึ่งจะวิวัฒนาการเป็นราชาสดๆ ร้อน ไม่งั้นคงเป็นมันที่หักเขี้ยวของข้าแทน
หลังจากใช้เวลาอีกอาทิตย์กว่า พวกข้าก็โค่นมันลงได้ แต่แลกกับการสูญเสียมหาศาล ตัวข้าสาหัสจนต้องรักษาตัวเป็นปี
ไม่มีงานเลี้ยงฉลอง เพราะเป็นการสูญเสียบุคลากรสำคัญครั้งยิ่งใหญ่ ถึงกับทำให้สถานการณ์อำนาจของแต่ละอาณาจักรเปลี่ยนไปหมดกันเลยทีเดียว
เขี้ยวนั่นถือเป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุดที่ข้าทำได้ในชีวิต
ตอนที่ข้าชูขึ้นเหนือหัว มันต้องแสงอาทิตย์เป็นประกายสวยงาม และนั่นคือที่มาของชื่อกิลข้า
ข้าไม่เสียดายที่จะรีบเปลี่ยนมันเป็นอาวุธคู่ใจในทันที เพราะข้าสัมผัสถึงพลังมหาศาลได้จากมัน
ใจจริงข้าอยากผ่าตัดเอามันมาใส่แทนเขี้ยวของข้า แต่ดูมันจะไม่ยอมรับข้า เลยต้องทำเป็นอาวุธแทน
ข้าส่งคำขอไปถึง กิวโด อาชีพนักสร้างอาวุธ [แรงค์ S] ที่อยู่อีกอาณาจักร ขอให้เขาช่วยเปลี่ยนมันเป็นมีด
เป็นเพราะวัตถุดิบหายากเขาถึงรับงาน แต่ค่าใช้จ่ายก็สูงถึงหลายสิบล้านเหรียญทอง
ซึ่งมันก็คุ้มค่าเมื่อเห็นมันอีกครั้งในรูปแบบมีด
มันมีความทนทานอย่างไม่น่าเชื่อ ข้าทดสอบในร่างจริง บิดใบมีดสุดกำลัง แต่มันกลับไม่โค้งงอแม้แต่น้อย
ด้านความคมค่อนข้างธรรมดา ถึงจะสร้างรอยขีดข่วนได้ แต่มันตัดโล่หนามากๆ ไม่ขาด กลับกัน หากใช้มันแทง มันแทบจะทะลุทะลวงได้ทุกสิ่ง
สมกับเป็นหน้าที่ของฟันเขี้ยว
หลังได้มาข้าก็มักส่งให้แผนกอาวุธของกิลตัวเองเอาไปศึกษาวิเคราะห์อยู่หลายครั้ง เพื่อหาวิธีการทำมีดเล่มนี้ออกมา คราวหลังจะได้ไม่ต้องเสียเงินเยอะเวลาเจอวัตถุดิบดีๆ
แต่ตอนมาจอก้าเอามาส่งคืน มันกลับเป็นมีดที่ทำจากเขี้ยวกระต่ายดุหลายสิบตัวรวมกัน
มีดนั่นมีอีกชื่อเรียกว่า มีดแห่งความอัปยศ
การใช้มันสู้กับอีกฝ่าย ถือเป็นการดูถูกอีกฝ่ายว่า ชั้นกำลังสู้กับกระต่ายดุ จึงใช้อาวุธระดับเดียวกัน
กระต่ายดุเป็นมอนสเตอร์สุดอ่อนแอที่แม้แต่ [แรงค์ F] ยังพอสู้ได้ ถ้ามีอาวุธครบมือและเข้ารุมกันสามคนขึ้นไป
ส่วน [แรงค์ E] ถือเป็นมอนง่ายๆ ที่ล่าได้แบบไม่ต้องใส่ใจเลยด้วยซ้ำ
แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ประสาทสัมผัสของข้าบอกได้ว่าคนที่มาเคาะไม่ใช่มาจอก้า แต่เป็น
“โรจาเองครับ”
“เข้ามา!!!”
โรจาเดินเข้ามาคำนับข้าก่อนจะส่งมอบกล่องใส่เขี้ยวสองกล่องให้
ข้ารับมันมาเปิดดูทั้งสองกล่อง
อืม คงรูปสวยเหมือนครั้งแรกที่เห็น ทำความสะอาดได้หมดจด ไม่มีส่วนใดเสียหาย
“งานดีเหมือนเดิม!!!”
“ขอบคุณที่ชื่นชอบครับ ท่านไจเกีย”
ชั้นมองโรจาที่ยังมีเรื่องอยากพูด จึงพยักหน้าอนุญาต
“เขี้ยวของ [แรงค์ F] กล่องนั้น มีพี่น้องครับ”
ข้ายิ้มที่มุมปาก ถ้าสวยก็คู่ควรแก่การวางคู่กัน
“ไปตรวจสอบให้แน่ใจ! แล้วเอาตัวมันมา!”
“รับทราบขอรับ”
หลังโรจาออกไป ข้าก็รู้ว่ามีคนสามคนมายืนรอนานแล้ว ที่พวกนั้นยังไม่กล้าเข้าห้องมาเพราะพวกมันกำลังกลัวตาย
ตั้งแต่เกิด ข้ามีประสาทสัมผัสเฉียบแหลมต่อความหวาดกลัวของเหยื่อที่อ่อนแอกว่า
ถึงพวกมันจะกลัวตาย แต่พวกมันก็กลัวที่จะไม่เข้ามาพบข้ามากกว่า เพราะมันรู้ว่าถ้าหนีไปจะเกิดอะไรขึ้น
ไม่นานมาจอก้าก็ทำใจได้และลากลาโบ้และทูเก้เข้ามาพร้อมกัน
“เกิดอะไรขึ้นกับมีดของข้า!!!”
ข้ายิงคำถามทันที เพราะเชื่อมโยงได้จากทั้งสามตัว
มาจอก้ารีบก้มลงกราบ อีกสองตัวเลยรีบทำตาม
มาจอก้าเปิดปากเล่าทุกอย่างที่มันทำลงไป
ส่วนลาโบ้กับทูเก้ที่ได้ฟังเรื่องราวเต็มๆ ก็ช็อกจนกัดฟันไม่หยุด
ก่อนที่พวกมันจะทนแรงกดดันข้าไม่ไหวแล้วสารภาพความจริงของแต่ละคนออกมา
แสดงว่ามีดเหลือแค่ครึ่งเล่ม
“เรเชล!!! เอาพวกมันไปสังเวยทิ้งในดันฟาร์ม!!!”
อยากจะฉีกทึ้งพวกมันทั้งเป็นออกทีละชิ้นอย่างช้าๆ แต่ตอนนี้ต้องรีบไปเอามีดก่อนใครมาขโมยไป
ข้าพุ่งออกจากกิลไปยังดันเจี้ยนเกิดใหม่ที่ส่งทีมรองไปทำลายด้วยความเร็วสูงสุด โดยไม่สนใจเสียงร้องอ้อนวอนของพวกมัน
เพื่อทำให้ประสบการณ์การใช้เว็บของคุณดียิ่งขึ้น และเลือกเนื้อหาที่เหมาะสมกับคุณอย่างได้อย่างส่วนตัว ท่านสามารถอ่านนโยบายคุกกี้เพิ่มเติมได้ที่นี่
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว