ชั้นกับซานจึงได้แต่สงสัยว่าท่านไจเกียจ้างพวกเรามาทำอะไรกันแน่
ผ่านไปอีกหลายชั่วโมง หัวหน้าทีมรองก็เดินนำหน่วย 1 กับ หน่วย 2 ออกมาจากดันเจี้ยน
หน่วย 3 4 และ 5 ต่างส่งเสียงเฮลั่นออกมาพร้อมกัน
จากที่ได้ยินเขาพูดชมกัน สิ่งที่หัวหน้ากับลูกทีมช่วยกันแบกออกมาคือบอสดันเจี้ยน
แปลว่าดันเจี้ยนนี้ถูกพิชิตได้แล้วน่ะสิ
ชายที่เป็นหัวหน้าหน่วยชำแหละวางอุปกรณ์ในมือและถอดเสื้อกันเปื้อนออก จากนั้นก็หันมาเรียกพวกเรา
“ไปเริ่มงานของพวกเรากัน”
ชั้นกับซานรีบลุกขึ้นแล้วเดินตามเขาไปทันที
ระหว่างเฝ้าดูการทำงานของหน่วย 5 ชั้นได้ยินคนเรียกชื่อเค้าบ่อยๆ จึงจำได้
คุณโรจา
เขาเป็นชายที่ดูท่าทางสุภาพ หน้าตาใจดี พูดกับทุกคนอย่างเป็นกันเองแม้แต่พวกชั้น ส่วนฝีมือการชำแหละนั้นรวดเร็วและแม่นยำ
ซากทุกชิ้นที่ผ่านการแยกส่วนจากมือเขาไม่มีส่วนใดเสียหายเลย
คุณโรจากับทีมงานสี่คน นำพวกเราเข้าไปในดันเจี้ยน
เป็นครั้งแรกที่ชั้นได้เปิดหูเปิดตา
ในชั้นแรกเป็นห้องขนาดใหญ่ที่จุคนได้ประมาณ 50 คน สภาพแวดล้อมคล้ายพื้นที่รกร้างที่มีแต่ก้อนหินน้อยใหญ่วางไม่เป็นระเบียบ
แต่ตอนนี้มีหลุมบ่อและความเสียหายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดจากการปะทะกันเต็มไปหมด
คุณโรจาเห็นว่าชั้นมองไปทั่วและทำสีหน้าสงสัยไปซะทุกอย่าง จึงยิ้มและอธิบายให้ฟัง
ดันเจี้ยนเกิดใหม่จะมีจำนวนชั้นระหว่าง 1 – 10 ชั้น ยิ่งลงลึกเท่าไหร่ตัวชั้นก็จะยิ่งกว้างใหญ่ มอนสเตอร์ก็ยิ่งดุร้ายและเยอะขึ้น
ดันเจี้ยนจะมีสภาพแวดล้อมแตกต่างกันไป ทั้งป่าดงดิบ ลาวา น้ำท่วม ทุ่งหญ้า ทะเลทราย พื้นที่รกร้าง สุสาน เป็นต้น
ซึ่งแต่ละดันเจี้ยนจะมีสภาพแวดล้อมเหมือนกันทุกชั้น หากชั้น 1 เป็นพื้นที่รกร้างอย่างที่พวกเราเจอ ทุกชั้นต่อจากนี้จนถึงห้องบอสชั้นสุดท้ายก็จะมีสภาพแวดล้อมแบบเดียวกัน แถมยิ่งลงลึกสภาพแวดล้อมก็จะยิ่งเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ
หากมีชั้นน้อยระดับความอันตรายก็น้อย ดันเจี้ยนที่เกิดมามีแค่ 1 – 3 ชั้น ทางสำนักงานจะเก็บเอาไว้เปิดให้นักผจญภัยเข้าไปฝึกฝีมือหรือฟาร์มได้อย่างอิสระ
เพราะดันเจี้ยนพวกนี้มอนสเตอร์อันตรายน้อย กับดักก็แทบไม่มี ถึงมีก็ไม่อันตรายถึงชีวิต เหมาะให้พวกมือใหม่ลงไปซ้อมมือ แต่ของที่ฟาร์มได้ในนั้นต้องถูกหักภาษี 50%
ส่วนดันเจี้ยนที่เกิดมามี 4 – 7 ชั้น สำนักงานจะเปิดให้กิลประมูลไปเป็นของตัวเอง เพื่อเอาไว้ฟาร์มทรัพยากรหรือฝึกฝีมือ
กิลจะถูกเรียกเก็บภาษีตามจำนวนดันที่ครอบครองแทน ถูกและคุ้มกว่ามาก
ซึ่งวิธีฟาร์มของกิลมี 2 วิธี
1.ล้างบางมอนสเตอร์จนเกลี้ยงแล้วเอาศพออกมาทั้งหมด วิธีนี้ดันเจี้ยนจะไม่มีวันโต มอนสเตอร์ก็จะอยู่แค่ระดับเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง
2.ฆ่ามอนสเตอร์แล้วทิ้งศพไว้หรือหาศพของสิ่งมีชีวิตมาทิ้งให้แกนดันเจี้ยนดูดซับ วิธีนี้ทำให้ดันเจี้ยนเพิ่มชั้นและสร้างมอนสเตอร์ที่เก่งกว่าเดิมขึ้นมา พัฒนาได้จนกว่าจะพอใจ
แต่ถ้ากิลที่พัฒนาดันเจี้ยนมากเกินไปจนรับมือไม่ไหว สำนักงานจะยึดมาประมูลขายให้กิลอื่นมาซื้อไป หากไม่มีก็จะส่งทีมไปกำจัดทิ้งแทน
และยังโดนลงโทษให้จ่ายค่าปรับตามมูลค่าทั้งหมดที่ทำได้ในดันเจี้ยนนั้นอีกด้วย
ส่วนดันเจี้ยนที่เกิดมามี 8 – 10 ชั้น ต้องถูกทำลายทิ้งในทันที
เคยมีอาณาจักรปล่อยให้โตเพื่อเก็บเกี่ยวทีหลัง เพราะยิ่งมอนสเตอร์เก่งเท่าไหร่ ชิ้นส่วนมันก็ยิ่งมีค่ามากขึ้นเท่านั้น
และความโลภนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้อาณาจักรล่มสลาย คล้ายๆ กับที่บ้านเกิดชั้นเคยเจอ
ส่วนราชาอื่นๆ ที่เห็นบทเรียน จึงรีบออกกฎให้ทำลายทันที
ซึ่งวิธีทำลายดันเจี้ยนนั้นเข้าใจง่าย เพียงแค่คุณฆ่าบอสที่อยู่ชั้นล่างสุด แกนดันเจี้ยนก็จะปรากฏออกมา
เมื่อทำลายแกนดันเจี้ยนแล้ว มอนสเตอร์จะไม่เกิดออกมาอีก หลังจากนั้นประมาณอาทิตย์นึงดันเจี้ยนก็จะหายไปเอง
คุณโรจาบอกว่าสมัยนี้เขาไม่รีบทำลายแกนดันเจี้ยนกันแล้ว แต่จะใช้วิธีแกล้งดันเจี้ยนแทน
โดยการสร้างความเสียหายเล็กน้อยไปเรื่อยๆ เพื่อกระตุ้นให้ดันเจี้ยนเอาชีวิตรอด มันจะรีบสร้างมอนสเตอร์ออกมาปกป้องตัวเอง
ทำให้ล่าทรัพยากรไปได้อีกหลายตัวจนกว่าแกนดันเจี้ยนจะหมดพลังและแตกสลายไปเอง
ส่วนดันเจี้ยนที่พวกเราเดินอยู่นี้มีทั้งหมด 10 ชั้น เรียกว่าอันตรายตั้งแต่เกิด จำเป็นต้องกำจัดโดยทันที
และกิลที่ชนะประมูลมาได้ก็คือกิล [เขี้ยวประกายแสง] และคุณโรจาก็กำลังพาพวกเราไปยังชั้นสุดท้าย
ถึงจะสงสัยแต่ชั้นก็ไม่ได้ถามว่าทำไมต้องไปชั้นสุดท้ายกัน อาจจะสั่งให้ไปช่วยลากบอสออกมาก็ได้มั้ง
ระหว่างทางเราก็เจอ [แรงค์ F] อีก 2 คน ที่ได้เข้ามาก่อนพวกเรา
ผู้หญิงที่บอกว่าเป็นโล่มนุษย์นั้นตอนนี้เธอนอนเป็นศพ ทั่วตัวมีบาดแผลจากมอนสเตอร์เต็มไปหมด อวัยวะบางส่วนฉีกขาดและแหว่งหาย เรียกว่าเลวร้ายเกินกว่าจะทนดูได้
เธอถูกซัมมอนลิงของนักอัญเชิญลากเชือกที่ผูกติดกับข้อเท้าไปตามพื้นทิ้งคราบเลือดไว้เป็นทางยาว
เคยได้ยินมาบ้าง แต่ไม่นึกว่าจะเป็นความจริง ว่า [แรงค์ F] ไม่มีค่าพอให้ใช้เวทย์รักษาหรือบัพใส่
ชั้นได้แต่ภาวนาให้เธอไปสู่สุคติในใจ
ส่วน [แรงค์ F] อีกคน ตอนนี้กำลังคลานสี่ขา ส่งเสียงร้องเหมือนหมู โดยมีกลุ่มคนใช้แส้เฆี่ยนไม่ก็ใช้เท้าถีบให้เธอคลานไปเรื่อยๆ
พวกเขาหัวเราะกับท่าทางของเธอไม่หยุด
ชั้นรีบปิดหูและไม่หันกลับไปมอง เมื่อเธอโดนทำอะไรสักอย่างจนถึงกับต้องกรีดร้องเหมือนเสียงหมูใกล้ตาย
ขณะที่คุณโรจาพาพวกเราเดินลงไปเรื่อยๆ ชั้นก็เริ่มหวาดกลัวจนอยากกลับบ้าน
ส่วนซานดูเฉยชากับสิ่งที่เห็น ราวกับเป็นเรื่องปกติที่ต้องพบเจอ
แต่ละก้าวของชั้นเริ่มหนักอึ้ง หัวใจเต้นถี่รัว เหงื่อผุดไปทั่วร่างกาย และอึดอัดจนหายใจไม่สะดวก
ชั้นเดินช้าจนโดนพวกเขาผลักให้เดินต่อ
กลับได้ไหม ถ้าขอร้องตอนนี้จะกลับได้ไหมนะ
ชั้นรวบรวมความกล้าและหันหลังกลับไปเพื่อจะบอกพวกเขาว่าชั้นขอไม่ทำต่อและยินดีชดใช้ค่าปรับ
แต่ทันทีที่หันไปพวกเขาก็ชักอาวุธชี้มาทางชั้น สายตาแต่ละคนเหมือนเตรียมฆ่าหากชั้นเอ่ยปากออกมา
ชั้นจึงได้แต่กลั้นน้ำตา กลืนคำพูดและหันกลับไปเดินต่อ
จนถึงชั้นสุดท้าย ที่นั่นมีสมาชิกบางส่วนกำลังแกล้งดันเจี้ยนกันอยู่ พวกเขาใช้ดาบทุบเบาๆ เพื่อบังคับให้มันสร้างมอนสเตอร์ออกมาเรื่อยๆ
คุณโรจาเข้าไปคุยกับนักเวทย์ ก่อนจะหันมามองพวกเราด้วยรอยยิ้มเป็นมิตรและพูดว่า
“เริ่มงานกันเถอะ”
หลังคุณโรจาพูดจบ นักเวทย์ก็ใช้เวทย์เถาวัลย์พันรอบตัวชั้นกับซานไว้แน่นจนขยับตัวไม่ได้
ชั้นถูกเถาวัลย์อุดปากไม่ให้ส่งเสียงร้อง มันเข้ามาลึกถึงลำคอ
แต่ซานนั้นต่างกัน เขาถูกเถาวัลย์ง้างปากออกกว้าง
แล้วคุณโรจากับทีมงานก็ลงมือ พวกเขาวางอุปกรณ์ชำแหละขนาดเล็กบนโต๊ะหินที่นักเวทย์อีกคนสร้างขึ้นให้
คุณโรจาเดินหยิบผ้าขึ้นมาพันปิดปากและจมูก ก่อนสั่งให้ทีมงานหยิบอุปกรณ์ที่เขาต้องการมาให้
“เขี้ยวใหญ่ดี มิน่าท่านไจเกียถึงชอบ”
เขาใช้มีดที่ผู้ช่วยส่งให้ผ่าเปิดเหงือกออก ตามด้วยกรรไกรตัดเนื้อชิ้นใหญ่และใช้คีมดึงชิ้นเนื้อเล็กๆออกมา
แม้จะเป็นผู้ชาย แต่การถูกแซะชิ้นเนื้อออกมาจนเห็นรากฟัน ก็ทำให้เขากรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง
เลือกไหลทะลักออกมาผสมกับน้ำตาของเขาไม่หยุด แม้จะหมดสติก็ถูกปลุกขึ้นมาเพราะความเจ็บปวดอยู่เรื่อยๆ
พอชั้นจะหลับตาก็ถูกเถาวัลย์เกี่ยวหนังตาขึ้นไปเพื่อบังคับให้ดูจนจบ
นักเวทย์ที่บังคับเถาวัลย์หัวเราะคิกคักใส่ชั้นไม่หยุด
จนฟันเขี้ยวทั้งสองซี่ถูกถอนออกมาล้างและเก็บใส่กล่องหรูอย่างดี เวทย์เถาวัลย์จึงคลายออกจากตัวซาน
ซานเอามือกุมปากพร้อมกับนอนดิ้นไปมาบนพื้น
โรจายื่นกระดาษใบนึงให้ซานและอธิบายว่า
“นี่คือใบแจ้งหนี้ ทั้งหมด 3 เหรียญเงิน กับอีก 738 เหรียญทองแดง มาจากค่ายาที่นายใช้ตอนวิ่งตามพวกเราไม่ไหว หักลบกับค่าฟันเขี้ยว 2 เหรียญทองแดงแล้ว”
ซี่นึงได้แค่ 1 เหรียญทองแดง นั่นค่าเงินต่ำสุดเลยนะ แถมยังไม่รักษาให้ด้วย แล้วชั้นที่ใช้ยาไปมากกว่าซานล่ะ
ซานหยิบใบแจ้งหนี้มาเก็บไว้ในเสื้อ แล้วรีบออกจากดันเจี้ยนไปด้วยสีหน้าเจ็บปวด
ไม่น่าเลย ชั้นไม่น่ามาสมัครเลย
อยากกลับบ้าน แต่ไม่มีใครสงสารหรือเห็นใจ
โรจาและทีมงานย้ายอุปกรณ์มาไว้ข้างตัวชั้นที่เริ่มสั่นเทา
พวกเขาเริ่มแกะผ้าออกจนหมด
“โห รูปทรงเขี้ยวสวยมาก ท่านไจเกียคงโปรดปรานของเธอมากแน่ๆ”
หากนี่เป็นคำพูดที่ทำให้กลัวแล้ว คำพูดต่อไปน่ากลัวยิ่งกว่า
“เธอมีพี่น้องไหม? พี่น้องเธออาจมีเขี้ยวสวยเหมือนเธอนะ”
ชั้นเบิกตาออกกว้างเมื่อเจอกับคำถามแสนน่ากลัว
“ทำหน้าแบบนี้ แปลว่ามีสินะ”
ชั้นออกแรงดิ้นสุดแรง ไม่ได้ จะให้พี่กับเอลด้าโดนแบบนี้ด้วยไม่ได้ แค่นี้พี่เทียร่าก็บอบช้ำพออยู่แล้ว ส่วนเอลด้าเธอทนการทารุณนี้ไม่ไหวแน่ๆ
แต่เถาวัลย์มันแทบไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิด
งั้นชั้นก็จะอดทนจนกว่าจะจบ แล้วรีบพาพวกเธอหนี หนีไปให้ไกล
แต่ความหวังนั้นก็พังทลายในทันที
“เธอคงไม่มีโอกาสไปเตือนหรอก เพราะคุณมาจอก้าสั่งให้ชั้นทรมานแล้วค่อยฆ่าเธอทิ้ง”
ใครกัน? คุณมาจอก้าที่ว่า ชั้นไม่เคยรู้จักกับคนชื่อนี้มาก่อนเลยนะ แล้วทำไมเค้าถึงอยากฆ่าชั้น
พอเห็นสีหน้าไม่เข้าใจของชั้น คุณโรจาจึงอธิบายเพิ่ม
“คุณมาจอก้าเป็นหัวหน้าดูแลความเรียบร้อยภายในของสาขาย่อย กิล [เขี้ยวประกายแสง] เธอระมัดระวังและดูแลห้องที่ท่านไจเกียใช้เป็นพิเศษ ใครก็ตามที่ทำสกปรกหรือเสียหาย ซึ่งเธอดันไปฉี่ราดเข้าเนี่ยสิ หากเป็นลูกกิลก็แค่ตักเตือนและตัดเงินเดือน แต่ถ้าไม่ใช่”
โรจาถอนหายใจให้กับความโชคร้ายของชั้น ก่อนจะพูดต่อ
“ถ้าเธอเป็นประชาชน ขุนนางหรือแรงค์สูงกว่านี้ เธอก็คงได้รับบทเรียนแค่เจ็บตัวล่ะนะ ถ้าจะโทษก็โทษที่เธอเป็น [แรงค์ F] เถอะ”
โรจาคว้ามีดแล้วปาดกระพุ้งแก้มอีกข้างของชั้นจนฉีกไปถึงใบหู
“อื๊ออออออออออออออออ!”
จากนั้นก็เริ่มตัดเนื้อตรงแก้มกับริมฝีปากออกด้วยกรรไกร จนเห็นฟันครบทุกซี่
“ปกติก็แค่ง้างเหมือนซานแหละ แต่ได้รับเงินค่าจ้างมาสูง เลยขอทรมานแบบพิเศษให้นะ แบบนี้ทำงานง่ายกว่าด้วย”
เถาวัลย์ขยับอีกครั้ง มันรั้งแขนให้ชั้นกางออก
แล้วนรกบนดินก็เริ่มขึ้น
ชั้นถูกโรจาเลาะเหงือกทั้งแผงออกมา ตัดลิ้น ฟันทุกซี่ก็ถูกถอนออกมาหมด
ทั้งสองมือถูกลูกทีมเลาะหนังและเนื้อจนเห็นกระดูก พอกระดูกมือร่วงลงพื้น มันก็เลาะแขนชั้นต่อ
โรจาที่เสร็จงานกับส่วนปาก ก็มาเริ่มขูดเนื้อตั้งแต่ช่วงคอจนถึงหน้าท้อง
ชั้นร้องไห้จนเลือดไหลออกมาแทนน้ำตา กลืนก้อนเลือดที่ไหลลักลงคอไม่หยุด
หยุดที! หยุดสักที! ใครก็ได้! ช่วยด้วย!
ชั้นขอโทษ! ชั้นผิดเองที่ไปประเมิน! ผิดที่คิดจะเป็นนักผจญภัย! ผิดที่ชั้นไม่เจียมตัว! เพราะงั้นขอร้อง! หยุดทีเถอะค่ะ!
พี่เทียร่าหนูขอโทษที่ไม่ยอมเชื่อฟังพี่!
เอลด้า ช่วยพาพี่เทียร่าหนีไปที! ขอร้อง! รีบหนีไปให้ไกล!
ชั่วโมงต่อมา ผิวหนังและกล้ามเนื้อถูกลอกออกมาจนเห็นถึงซี่โครงกับอวัยวะภายในเต้นตุบๆ ที่มันไม่หลุดออกมาเพราะถูกเถาวัลย์เส้นเล็กแทงทะลุและร้อยยึดเอาไว้
ชั้นภาวนาเป็นอย่างสุดท้าย ซ้ำๆ
ได้โปรด!
ใครก็ได้!
ช่วยฆ่าชั้นที!
กรุณาล๊อคอินเพื่อรีวิว